Gutjang
อ. สุดารัตน์ [กั๊ต] เสาวโค

วิทยากรรับเชิญร่วมรังสรรค์ชุมชน : นักพัฒนา Size SS ตอน 1


ผู้เข้ารับการฝีกอบรมต่างสุนุกและมีความสุขในการเรียนรู้...ทำให้ผู้เรียนได้รู้จัก (มีความรู้และเข้าใจ) รู้จริง (สามารถปฏิบัติได้) และรู้แจ้ง (สามารถนำไปประยุกต์/ปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้)

....
....วิถีเกษตรอินทรีย์ในโรงเรียนบ้านจันรม/หรือเกษตรอินทรีย์ที่เกษตรกรนำไปปฏิบัติเป็นส่วนหนึ่งที่ยิบย่อยของ "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" ซึ่งหากจะตรวจนับเพื่อประเมินกันให้จริงจังแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะมีการรับไปปฏิบัติหรือประยุกต์ใช้ได้ซักเท่าไหร่

เช่นเดียวกับการเข้าวัดฟังธรรม/ทำบุญทุกวันพระหรือในโอกาสสำคัญเราจะเริ่มต้นด้วยการได้รับศีลรับพรจากพระคุณเจ้าและตบท้ายด้วยการกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลผลบุญให้แก่สรรพสัตว์ เรารับศีลมา 5 ข้อ (เป็นพื้นฐาน) แต่ไม่แน่ใจว่ารับมาแล้วปฏิบัติได้กี่ข้อกัน (และรับศีลมาบ่อยๆ แต่ไม่ยักกะได้ชื่อว่าเป็นผู้ทรงศีลนะคะ)

แต่อย่างไรก็ตาม....การซึมซับความคิดดังกล่าวให้มาแทรกอยู่ในวิถีชีวิตอย่างกลมกลืนโดยไม่รู้สึกว่าแปลกแยกกลับมีความสำคัญ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมแรงร่วมใจอย่างเต็มกำลังในการช่วยกันขับเคลื่อนแนวความคิด..ให้เป็นแนวการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมให้จงได้...ดังเรื่องที่นำมาเล่าต่อไปนี้ค่ะ

...........

หลังจากทีมวิทยากรโรงเรียนบ้านจันรมได้รับเชิญให้ไปบรรยายในโรงเรียนบ้านหนองกง ตำบลนอกเมือง ซึ่งได้เล่าให้ฟังเมื่อครั้งที่แล้ว ครั้งนี้ขออนุญาตเล่าต่อเนื่องเรื่องการออกไปเป็นวิทยากรในชุมชน....ตามมาเลยค่ะ

..........

องค์การบริหารส่วนตำบลตาอ็อง ได้จัดสรรงบประมาณฝึกอบรมเกษตรกรโครงการเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ตำบลตาอ็อง โดยมีเกษตรกรเป้าหมายประมาณ 350 คนเข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมในครั้งนี้
สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสุรินทร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมการเกษตรและถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรแก่เกษตรกรในพื้นที่ ได้ส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์วิทยากรมาที่โรงเรียนบ้านจันรมให้ไปร่วมบรรยายสาธิตในการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้วย

........

ในวันฝึกอบรม....โรงเรียนได้จัดให้มีกิจกรรมทัศนศึกษาที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งจัดในวันเดียวกันพอดี...ครูกั๊ตได้ชวนนักเรียนในโครงการจำนวน 3 คน ไปร่วมเป็นวิทยากรอบรมเกษตรกร...นักเรียนต้องตัดสินใจเลือกด้วยความยากลำบากค่ะ...อยากไปเที่ยวก็อยาก...อยากไปเป็นวิทยากรก็ไม่น้อย..

"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน"....ครูกั๊ตเริ่มตัดบทเมื่อเห็นว่านักเรียนเริ่มลังเลค่ะ...

"ครูจะพาเธอเที่ยวเอง...ไปเป็นวิทยากรด้วยกันก่อน...เสร็จแล้วครูจะพาไปเที่ยวถึงมุกดาหารเลย"

ได้ผลค่ะ...เด็กมีตัวเลือกเพียงตัวเดียวแล้ว..ต้องไปเป็นวิทยากรเท่านั้น...และได้ไปเที่ยวไกลกว่าเพื่อนๆ ด้วย...ฮิฮิ...

"ตกลงค่ะ...หนูไปเป็นวิทยากรก็ได้"

....

วันฝึกอบรมมาถึงแล้ว....
เราเตรียมวัสดุที่จำเป็นขึ้นรถกระบะซึ่งมาพร้อมกับคนขับคนเดิม โดยไม่ต้องรีบร้อนมากนักเนื่องจากสถานที่ที่เราจะต้องเดินทางไปอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนบ้านจันรมเท่าไหร่นัก........สถานที่ที่เราจะพากันไปในวันนี้..คือ โรงเรียนบ้านตาอ็องค่ะ..อยู่ห่างจากโรงเรียนบ้านจันรมแค่สามธนูหล่น..อิอิ...ห่างประมาณ 5 นาทีค่ะ...

เราเดินทางมาถึงห้องประชุมโรงเรียนบ้านตาอ็อง..สถานที่จัดฝึกอบรมเกษตรกรโครงการเกษตรอินทรีย์...ทุกอย่างพร้อมแล้วค่ะ...พิธีกรเริ่มดำเนินการไปได้พักใหญ่ๆ แล้ว...คนเยอะมาก...เต็มห้องประชุมเลย

เกษตรกรที่เข้ารับการอบรมครั้งนี้มาจากทุกหมู่บ้านของตำบลตาอ็อง จำนวน 350 คน รวมทั้งผู้บริหารโรงเรียนบ้านตาอ็องก็มานั่งฝึกอบรมอยู่ด้วย (นั่งยิ้มอยู่แถวหน้าเลยค่ะ)

ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตาอ็อง...เจ้าภาพสถานที่ฝึกอบรม...นั่งยิ้มภูมิใจในตัววิทยากรตัวเล็ก

เราจัดเตรียมสถานที่อยู่ด้านนอกห้องประชุมเสร็จแล้วนั่งคอยอยู่พักหนึ่ง..พิธีกรก็ประกาศเชิญทีมวิทยากรขึ้นสู่เวทีทันที....

...เราเริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงพื้นฐานเกษตรอินทรีย์เช่นเคย..ตามด้วยการสาธิตวิธีการทำปุ๋ยหมักชีวภาพโดยใช้วัสดุที่มีในท้องถิ่น (ไม่ต้องซื้อ)...การทำน้ำหมักชีวภาพ...จนกระทั่งถึงการสาธิตการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากน้ำหมักชีวภาพ (การทำน้ำยาล้างจาน)  และเรากระตุ้นความสนใจโดยการเชิญผู้เข้ารับการอบรมเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมการสาธิตด้วย...ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตาอ็อง (นั่งอยู่แถวหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ) ลุกมาเป็นท่านแรกเลยค่ะ...ชาวบ้านซึ่งเป็นคุณลุงคุณป้าของนักเรียนทั้งนั้น...ลุกตามมาทันที

วิทยากรไซด์เล็ก...บรรยายอยู่ค่ะ  ผู้เข้าร่วมฝึกอบรม...ลุกมามีส่วนร่วมและฝึกปฏิบัติ..ลองทำดู..คุณทำได้

....
กลยุทธนี้ใช้ได้ผลไม่แตกต่างกันเลยระหว่างในโรงเรียนหรือเมื่อนำไปใช้ในชุมชน...ผู้เข้ารับการฝีกอบรมต่างสนุกและมีความสุขในการเรียนรู้...ทำให้ผู้เรียนได้รู้จัก (มีความรู้และเข้าใจ) รู้จริง (สามารถปฏิบัติได้) และรู้แจ้ง (สามารถนำไปประยุกต์/ปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้)

ถ่ายภาพร่วมกับผู้นำตำบลตาอ็องค่ะ..พัฒนากร กำนัน ผู้อำนวยการ นายก อบต. ครูกั๊ต เกษตรตำบล

นักพัฒนาไซด์เล็ก (Size SS) ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบ...เย้...หนูทำได้แล้ว

...@@@@@@...
สุดท้าย...การทวงถามสัญญาเริ่มต้นขึ้นเมื่อการบรรยายสิ้นสุดลง...
"ครูคะ...ไปเที่ยววันไหนคะ"
กลัวครูแกล้งลืมค่ะรีบถามทันที
.."งั้นวันนี้เราไปเที่ยวใกล้บ้านก่อนก็แล้วกัน...ปราสาทศีขรภูมิดีมั้ย"...เราเดินทางต่อทันทีที่เสร็จภารกิจการเป็นวิทยากร เพราะว่าปราสาทศีขรภูมิอยู่ไม่ไกล (นั่งรถ 20 นาทีก็ถึง)

ปราสาทศีขรภูมิ  กวนข้าวทิพย์...ครั้งแรกในชีวิต
ขากลับเห็นป้ายเชิญชวนกวนข้าวทิพย์วันออกพรรษา...ไม่รอช้าเลี้ยวรถแวะเข้าวัดทันทีค่ะ...เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ครูกั๊ตจังได้ร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์...กวนข้าวทิพย์...

........

วันถัดมา...เราก็นัดหมายวันเที่ยวทันทีเพื่อไม่ให้เสียกำลังใจ (และเสียผู้ใหญ่)...การท่องเที่ยวก็สมอารมณ์หมายของทุกคนอย่างที่ใจหวัง...

ผาเทิบ...จังหวัดมุกดาหาร

...HappyEnding ค่ะ....

หมายเลขบันทึก: 145807เขียนเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2007 11:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (34)

เป็นการเรียนรู้ที่เยี่ยมมากครับ

นอกจากได้ฝึกเด็กให้ทำหน้าที่บทบาทวิทยากรแล้ว เด็กยังได้แลกเปลี่ยนกับผู้ใหญ่ น่าจะเป็นบรรยากาศที่ดี

คุณครูเป็นผู้สร้าง และฝากผู้สร้างหน่อยว่า เหนื่อยหน่อยนะ แต่ขอให้ภูมิใจในสิ่งที่คุณครูทำ

น่าชื่นชม...

และให้กำลังตลอดเวลาครับครูรัตน์

ครูรัตน์ส่งที่อยู่ให้ผมหน่อยครับ...ทางอีเมลนะครับ ผมจะจัดส่งหนังสือพร้อมกับบรรจุกำลังใจจากหนุ่มเหนือไปให้ครับ

P  จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

  • สวัสดีค่ะ
  • กำลังรบกับการแทรกภาพในบันทึกค่ะ...
  • กิจกรรมนี้ส่งเสริมให้เด็กได้ฝึกกระบวนการเรียนรู้อย่างบูรณาการทุกด้านค่ะ
  • ใช่ค่ะ..เหนื่อยหน่อย...
  • แต่ว่าผลสะท้อนกลับมา..ทำให้เราหายเนื่อยและมีแรงสร้างงานดีๆ ต่อไป
  • การทำงานร่วมกับชุมชนเป็นอย่างนี้แหล่ะค่ะ
  • ขอบคุณมากๆ ค่ะ ในกำลังใจที่ดี
  • ...
  • แวะมาให้กำลังใจพี่กั๊ตคะ
  • อิอิ...รออ่านเค้าโครงอยู่นะคะ
  • รายงานโครงการก็ดีนะคะ
  • เลือกโครงการที่ทำสำเร็จและได้รับรางวัลมาเขียนรายงานนะคะ
  • ตามพี่สาวคนข้างบนมา
  • อยาบอกว่าไปที่
  • องค์การบริหารส่วนตำบลตาอ็อง
  • ตั้งหลายครั้ง
  • มาให้กำลังใจ
  • อยากให้เขียนเรื่องแบบนี้มีประโยชน์มากๆๆ

P naree suwan

  • สวัสดีค่ะน้องอ๊อด
  • วันนี้ส่งใบลาป่วยค่ะ...เมื่อวานตื่นแต่เช้าไปรับละอองฝนฤดูหนาว...จาม...ฮัดชิ้ว........
  • จดจ่อหน้าคอมค่ะ...เร่งปั่นงาน..ควันโขมง..อิอิ..
  • ขอบคุณค่ะ

P  ขจิต ฝอยทอง

  • สวัสดีค่ะ อาจารย์ขจิต
  • เอ..ไปทำไมหรือคะ ที่ อบต.ตาอ็อง
  • ผ่านหน้าโรงเรียนบ้านจันรม แล้วไม่แวะทักทาย...ระวังจะถูกเจาะใจ..เอ้ย..เจาะยางนะคะ
  • ...... 
  • บ้าน..วัด..โรงเรียน..ต้องร่วมมือกันค่ะ ถึงจะไปรอด (บ้าน..สอนให้เรียนรู้..วัด..สอนให้คิดได้...โรงเรียน..สอนให้รู้เรียน...เริ่มงงเองแล้วค่ะ..อิอิติดตามบันทึกตอนต่อไปค่ะ)
  • ขอบคุณมากค่ะ

สังคมการเรียนรู้ที่หลากวัย  แต่ไม่มีพรมแดนระหว่างวัย  ถือเป็นการเรียนรู้ที่มีเสน่ห์  แต่นั่นก็ต้องหมายถึงการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมจริง ๆ ...

ซึ่งผมก็เชื่อว่า  ... เรื่องราวในบันทึกนี้ก็เป็นเช่นนั้นจริงเหมือนกัน

กรณีเด็ก ๆ นั้น... ผมมีความเชื่อมั่นเสมอว่า  การลงทุนกับเด็ก  ไม่เคยสูญเปล่า  เพียงแต่ต้องใช้เวลายาวนานและเหนื่อยอย่างมหันต์  รวมถึงการดูแลอย่างเข้าถึงก็ล้วนเป็นกลไกอันสำคัญที่เราต้องไม่มองข้าม

....

เป็นกำลังใจในพันธกิจอันยิ่งใหญ่นี้ นะครับ

น่าชื่นใจจังนะคะ อย่างนี้หายเหนื่อยกันทุกคน

ทำดีเทวดาเลยให้ได้ไปร่วมกวนข้าวทิพย์ ขออนุโมทนาบุญค่ะ

หน่วยวัดระยะ ...แค่สามธนูหล่น นี่จะขอยืมไปใช้บ้างนะคะ เท่มาก

สวัสดีค่ะอาจารย์ P  แผ่นดิน

  • เป็นอย่างที่อาจารย์ว่าไว้จริงๆ ค่ะ...การลงทุนกับเด็ก  ไม่เคยสูญเปล่า....
  • เด็กทีมนี้ได้แนวคิด (ช่องทางทำเงิน) หลังจากการเป็นวิทยากรในชุมชนของตัวเองว่า "เราจะไปแปรรูปผลิตภัณฑ์ขายในชุมชนของเรา" อย่างน้อยๆ ขายให้ญาติพี่น้องให้ทดลองใช้ก่อน...เพราะว่าตอนนี้ลุงๆ ป้าๆ รู้จักน้ำยาที่เราทำแล้ว การขายคงไม่ยาก".....
  • เห็นวิสัยทัศน์เด็กแล้วชื่นใจนะคะ..กิจกรรมนี้ช่วยดึงดูดเด็กส่วนหนึ่ง ให้อยู่ทำมาหากินในชุมชน ไม่ต้องดิ้นรนไปต่างถิ่น....ครูก็หายเหนื่อยแล้ว....
  • ขอบคุณต่ะ

สวัสดีค่ะ P คุณนายดอกเตอร์

  • นักเรียนทำหน้าที่โดยลืมการไปเที่ยวของเพื่อนๆ อีกคณะหนึ่งเลยค่ะ..เพราะว่าลุงๆ ป้าๆ ของพวกเขาให้ความสนใจเกินคาด (กับวิทยากรมือใหม่)
  • ..ดูแววตาและรอยยิ้ม ส่งให้กำลังใจของผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตาอ็องสิคะ (ใส่เสื้อสีเม็ดมะขาม) ....เห็นอย่างนี้แล้ววิทยากรสู้ตายค่ะ....
  • หน่วยวัดระยะสามธนูหล่น...ขำๆ ค่ะ
  • เคยได้ยินเรื่องศรีธนญชัย...เรื่องขอที่เท่าแมวดิ้นตาย....
  • และอีกเรื่อง...พี่ชายที่อยู่ จ.พัทลุงเล่าให้ฟัง (ไม่แน่ใจว่าเรื่องจริงหรือเล่าเล่นๆ) ว่า...แต่ก่อนที่ดินแถวบ้านมีเยอะมาก...ใครอยากได้ที่ตรงไหนก็ปีนขึ้นยอดยาง
  • หยิบหนังยางยิงลูกยางไปได้ไกลถึงไหน..แนวรั้วตามไปถึงที่นั่นแหล่ะค่ะ.....
  • คงเป็นที่มาของ "สามธนูหล่นค่ะ"...ฮิฮิ...
  • ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีครับ ครูกัตส์

  • เยี่ยมมากครับ
  • เรียนรู้ด้วยการปฏิบัติ
  • เรียนรู้จากประสบการณ์จริง
  • ทำได้เลย
  • ขอบคุณมากครับ

P  เกษตรยะลา

  • สวัสดีค่ะ
  • ดีใจค่ะที่ได้ประสานพลังกับหน่วยงานของพี่ยาว
  • นักเรียนมีโอกาสได้เป็นวิทยากร...ได้ขัดเกลา/เหลาความคิดให้แหลมคมมากขึ้น
  • กลับจากการเป็นวิทยากรแล้วเรายังได้ประเด็นมาขบคิดต่ออีกมากมายค่ะ
  • ซึ่งเป็นการกระตุ้นการเรียนรู้ของน้องๆ เป็นอย่างดี
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ

แจ๋วมากค่ะ กับวิธีการสอนและการเร้าพลังเด็กๆค่ะ

แถมค่ะ.. ผู้ทรงศีลในพุทธศาสนา......

พระภิกษุถือศีล 227 ข้อ,สามเณรถือศีล 10 ข้อ ส่วนอุบาสกและอุบาสิกาโดยทั่วไปถือศีล 8 ข้อ  ถ้าครูกั๊ตถือ 8 ข้อก็เป็นผู้ทรงศีลค่ะ

พี่ถือ 5 ข้อค่ะ 

เคยไปร่วมในพิธีกวนข้าวทิพย์นานแล้ว เพื่อบูชาแม่โพสพ ในเดือน ๑๒ใช่ไหมคะ ลืมๆเสียแล้วค่ะ

แล้วเขาใช้หญิงสาวพรหมจารี นุ่งขาวห่มขาวมากวนหรือเปล่าคะ

เห็นมีสิ่งของเครื่องปรุง ๙ สิ่ง (มงคล ๙ )คือ ถั่ว งา มะพร้าว นม น้ำตาล น้ำผึ้ง น้ำอ้อย เนย และน้ำนมจากรวงข้าว ข้าวทิพย์ จะใช้ใส่บาตรทำบุญในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นด้วยค่ะ

P  sasinanda

  • สวัสดีค่ะ
  • เมื่อก่อน..เวลาไปจ่ายตลาดจะเลือกปลาแล้วให้แม่ค้าชำแหละให้ตรงนั้นค่ะ
  • เสร็จแล้วจะรู้สึกว่าไม่ค่อยจะสบายตัว...และไม่สบายใจ
  • เดี๋ยวนี้จะใช้วิธีการเดินเลือกซื้อปลาที่แม่ค้าชำแหละเรียบร้อยแล้วค่ะ....รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ
  • เราไม่รู้เห็นเป็นใจกับการฆ่าโดยตรง...ถือได้ว่ารักษาศีลข้อ "ปาณาฯ" ได้นะคะ (ตีความเข้าข้างตัวอีกแล้ว...ฮิฮิ)
  • ...
  • การกวนข้าวทิพย์
  • ตามประวัติเล่าว่า “ข้าวทิพย์” หรือ “ข้าวมธุปายาส” หุงด้วยน้ำนมโคสด ที่นางสุชาดาได้นำมาถวายพระสมณโคดม(พระพุทธเจ้า) หลังทรงเลิกบำเพ็ญทุกข์กิริยา ซึ่งได้รับไว้และทรงฉันท์ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 และวันนั้นก็ได้สำเร็จโพธิญานเป็นพระอรหันต์ สำหรับข้าวทิพย์จะประกอบด้วยข้าว ถั่ว งา น้ำตาล นม เนย มะพร้าว และเมล็ดพืชต่างๆ รวมแล้ว 29 ชนิดซึ่งล้วนแล้วแต่มีความหมายอันเป็นศิริมงคลทั้งสิ้น ตลอดขั้นตอนพิธีการกวนจะต้องใช้สาวพรหมจรรย์ 3 คน ที่เป็นลูกคนหัวปี คนกลาง และคนสุดท้อง ภายในมณฑลพิธีมีข้อห้ามหลายอย่าง เช่น ห้ามดื่มสุรา ห้ามรับประทานอาหาร ห้ามสวมรองเท้า ห้ามผู้มีโรคสังคมรังเกียจและห้ามหญิงมีประจำเดือนหรือมีครรภ์เข้าไปอย่างเด็ดขาด ตลอดพิธีครูข้าวทิพย์จะต้องมีการบวงสรวงลงเลขยันต์ทุกขั้นตอนจึงทำให้พิธีนี้เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์จึงเชื่อกันว่าหากได้นำข้าวทิพย์ไปรับประทานหรือบูชา ย่อมเกิดมงคลต่อชีวิตเป็นอย่างยิ่ง

  • เรื่องรามเกียรติ...มีการกล่าวถึงข้าวทพย์ด้วยค่ะ

  • เนื้อเรื่องรามเกียรติ์เล่าเรื่องมูลเหตุที่พระนารายณ์จะอวตาร
    ลงมาปราบยักษ์ ที่เรียกว่า รามาวตาร มีดังนี้
         ครั้งหนึ่งฤาษีกไลโกฏบำเพ็ญตบะอยู่ชายแดนเมืองโรมพัด
    ตบะแก่กล้าทำให้ฝนแล้งนานติดต่อกันสามปี ท้าวโรมพัดบวง
    สรวงเทวดาเท่าใดก็ไม่ได้ผล เมื่อรู้ข่าวฤาษีจากพรานป่าจึงส่ง
    นางอรุณวดี พระธิดาออกไปทำลายตบะ ฤาษีกไลโกฏไม่เคยเห็น
    สตรีมาก่อน ไม่ทราบว่าสัตว์ที่มีเขาที่อกคืออะไรถูกนางยั่วยวน
    ให้เสียพรตพรหมจรรย์ นำเข้าไปอยู่ในวังด้วยกันฝนก็กลับตก
    ต้องตามฤดูกาลดังเดิม
         ต่อมาท้าวทศรถแห่งเมืองอยุธยา ทรงพระวิตกว่าพระมเหสี
    ทั้งสามองค์ยังไม่มีพระโอรส พระธิดา จึงทรงปรึกษากับมหาฤาษี
    ได้รับคำแนะนำให้ไปนิมนต์ฤาษีกไลโกฏมาเป็นเจ้าพิธี ฤาษีกไลโกฏ
    นำคณะฤาษีไปเฝ้าพระอิศวร ทรงมอบหมายให้พระอินทร์ไปทูล
    เชิญพระนารายณ์ จากเกษียรสมุทร ขอให้อวตารลงไปปราบยักษ์
    ให้ฤาษีกไลโกฏลงไปกวนข้าวทิพย์ ณ กรุงอยุธยา กลิ่นข้าวทิพย์หอม
    ไปถึงนางมณโฑที่กรุงลงกาจึงอยากเสวยบ้าง ทศกัณฐ์ให้กากนาสูร
    บินไปฉกมาได้
        นางมณโฑจึงได้เสวยข้าวทิพย์พร้อมมเหสีทั้ง 3 องค์ และ
    ทรงครรภ์พร้อมกัน

  • ในวันที่โชคดีวันนั้น..ด้วยอาศัยความสนิทสนมกับชาวบ้านแถบนั้นค่ะ..ก็เลยได้โอกาสพิเศษในการร่วมวงไพบูลย์ (กับหลวงพี่ด้วย) กวนข้าวทิพย์ครั้งแรกในชีวิต

  • ขอบคุณค่ะ

  • สวสดีค่ะ...ครูกั๊ก
  • เยี่ยมมากค่ะ ครูกั๊ก
  • เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
  • แหม...อยากไปเที่ยว "ผาเติบ...จังหวัดมุกดาหาร" จัง อิอิ
  • ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

 

สวัสดีสาวจากแดนใต้ P  อ้อยควั้น

  • จากสุรินทร์-มุกดาหาร ไม่ไกลค่ะ เดินทางเช้าไปเย็นกลับได้ (อย่างไม่เหนื่อย)
  • นอกจากภูผาเทิบแล้วยังมีตลาดอินโดจีน ชมฝั่งลาว สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า อยู่ลิบลิบ และก็หอชมทัศนียภาพเมืองมุกดาหาร (เหมือนที่สุพรรณบุรีค่ะ)
  • ..
  • ไม่ป่วย..ไม่ได้แสดงว่ามีสุขภาพดี...ดูแลสุขภาพค่ะ

ครูรัตน์ครับ

ผมได้ส่งหนังสือไปให้แล้วครับ จำนวนสองเล่มด้วยกัน รับแล้วแจ้งหน่อยนะครับผม

Pครูกั๊ตค่ะ ดีใจจังที่เห็นนักเรียนของภาคอีสานเก่งมาก ๆ สมัยก่อนเด็ก ๆ จะไม่ค่อยกล้าแสดงออกขนาดนี้เลยคะ

ยิ่งภาพนี้ . . .

กวนข้าวทิพย์...ครั้งแรกในชีวิต

ครูกั๊ตพานักเรียนร่วมเรียนรู้กับกิจกรรมจริง

ขอชื่นชมอย่างที่สุดคะ

  • ตามมาขอข้าวทิพย์คะ
  • อิอิ...เน็ตล่มหลายวัน
  • กว่าจะเขียนบันทึกใหม่ได้
  • การบ้านเลยยังไม่ได้ทำนะคะ
  • รอก่อนนะคะ..อิอิ

สวัสดีค่ะ ครูกั้ก

*แวะมาขอ ข้าวทิพย์ กินสักจานน๊ะค๊ะ ไม่มากไม่มายแค่3 ทัพพี เติบ ๆ เท่านั้น

*นึกถึงทางใต้โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เขาเรียก กวนอสูรอ หรือเปล่า น้อ

*ที่ยะลา เขานำทุกอย่าง "ที่กินได้" มารวมกันแล้วกวน ท่าเดียวกันนี่แหละ แต่ที่โน่นไม่มี "ลูกเณร " เพราะเป็นพิธีของพี่น้อง ไทย มุสลิม ถ้าจะแวะไปชิม ก็ ยินดีค่ะ

P  จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

  • ถือว่าเป็น "กัลยาณมิตร" ค่ะ
  • ให้หนังสือคือให้ดวงตา
  • ดวงตาเห็นธรรม...
  • ขอให้คุณเอก มีกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญา ต่อสู้กับอุปสรรค และจงสำเร็จในภารกิจที่กำลังทำอยู่นะคะ
  • ขอบคุณมากค่ะ

P  MOO

  • สวัสดีค่ะป้าหมู...(ชักจะติดปากตามคุณหลานฯแล้วค่ะ)..ฮิฮิ..
  • นักเรียนทีมนี้...หลายๆ คนให้ฉายาว่าศิษย์เอกของครูกั๊ตค่ะ
  • เพราะคลุกคลีตีโมงกันมานาน....จนแม่ของเด็กจะยกให้เป็นลูกครูแล้วค่ะ..อิอิ..
  • ....

สวัสดีค่ะน้องอ๊อด P  naree suwan

  • อย่าเพิ่งไปนะคะ
  • อยู่ช่วยกวนข้าวทิพย์ก่อนค่ะ
  • น้องอ๊อดคน...ลูกศิษย์อีกสองสาว
  • ครบสามพอดีเลยค่ะ
  • คนหัวปี คนกลาง และคนสุดท้อง
  • ช่วยกันกวนข้าวทิพย์
  • อืมมม์..เข้มขลังนะคะ
  • ฮิฮิ

สวัสดีค่ะ P  pepra

  • ยินดีต้อนรับสาวจากแดนใต้ยะลาค่ะ
  • พี่น้องชาวมุสลิม มีการกวนข้าวทิพย์ด้วยหรือคะ
  • เพิ่งทราบค่ะ
  • เหนือ..กลาง..อีสาน..ใต้>>>คนไทยพี่น้องกันจริงๆ ค่ะ
  • ขอบคุณนะคะ
  • สวัสดีเจ้า ..

มาส่งกำลังใจให้ค่ะ  ^_^ 

 

อิอิ มาช้าดีกว่าไม่มาเลยเนอะ  ครูขา

สวัสดีค่ะ P  เนปาลี

  • เย้....(ดีใจค่ะ)...กลับมาเขียนบันทึกให้เราได้อ่านกันแล้ว
  • รักษาสุขภาพนะคะ
  • ขอบคุณค่ะ

บางครั้งก็น่าห่วง  เพราะการสอนในระดับมหาวิทยาลัย  ส่วนหนึ่งก็มุ่งป้อนคนเข้าเมืองใหญ่  เพราะนั่นคือตลาดงาน ตลาดชีวิต ...ตลาดเงิน   ผู้คนจึงไม่นิยมและปรารถนาที่จะใช้ชีวิตอยู่ในท้องถิ่นตนเอง...

บางทีการเรียนในระบบมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้เตรียมความพร้อมให้นิสิตได้เรียนรู้ที่จะเลร้ยงตนเองได้อย่างสมถะ  

หลาย ๆ สาขาวิชาเปิดหักสูตรป้อน "ตลาด"  มากกว่าจะคำนึงถึงหลักแห่งการบูรณาการให้อยู่ได้ในท้องถิ่น   แต่ก็อย่างว่า  บางคนก็แย้งว่า  ถ้าจะทำแค่นี้จะเสียเวลาไปเรียนสูง ๆ  มาทำไม ?

เป็นกำลังใจให้นะครับ

สวัสดีครับ

  • มุ่งมั่น มาดมั่น แต่ห้ามหมดแรง
  • เห็นภาพคงไม่บรรยาย
  • อย่าลืมถวายอาหารเพลพระเด้อ

 

สวัสดีค่ะอาจารย์ P  แผ่นดิน

  • หลาย ๆ สาขาวิชาเปิดหลักสูตรป้อน "ตลาด" 
  • ตลาดต้องการคนจบปริญญา...สถานศึกษาก็ผลิตคนให้ทันที..ทันใจ
  • บ้านนอก....แต่ก่อนมีความเชื่ออย่างอาจารย์พูดค่ะ....กลับมาอยู่บ้านไม่ต้องเรียนจบปริญญาก็ได้....
  • มุมมองที่แตกต่าง...เกิดจากจุดยืนที่ต่าง..ใช่มั้ยคะ
  • ....
  • ขอบคุณมากๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะพี่โอ๋ P  อาจารย์ โกศล

  • สบายดีนะคะ
  • ...
  • ถวายเพลพระไม่ได้แล้วค่ะ
  • เดี๋ยวศีลขาด
  • เพราะเข้าไปกวน...(กวนข้าวทิพย์ค่ะ..ไม่ได้กวนพระ) ตอนบ่ายมากแล้ว
  • ไปสอนกับคนที่อยากเรียนรู้..ทำแล้วไม่เหนื่อยค่ะ

สวัสดีคะ

คุณครูยังจำกันได้ไหมคะ

อิอิ

คิดถึงวันเก่าๆๆๆจังเลย

หวาน ลัก เสก เเละทุกๆๆๆๆคนจะเป็นยังไงบ้าง

สวัสดีจ้ะหนูเม (เรวดี)

เป็นอย่างไรบ้าง เรียนหนักไหม

สบายดีไหม

หวาน ลัก เสก และเพื่อนๆ สบายดี...

ว่างๆ แวะไปทักทายครู ที่โรงเรียนนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท