ซามูไรหัวใจศิลปิน—เมื่อฉันใช้ภาพวาดพู่กันจีนตอบข้อสอบสายดำดั้ง ๑


คนเราควรจะใช้เวลาฝึกฝนนานเท่าใดกันกว่าจะจัดได้ว่าดี? ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน บางที อาจจะต้องใช้เวลาชั่วชีวิต

 world tsuki


  • ก่อนที่ฉันจะเดินหน้านำเรื่องซามูไร ซี่รีี่ส์    อันว่าด้วยการเดินสายดวลดาบซามูไรในญี่ปุ่น ในการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์ต่าง ๆ ของฉันมาเล่าสู่กันฟัง  พร้อมด้วยเกร็ดเล็ก ๆน้อย ๆ จากการที่ได้มาฝึก ประจำสังกัดสำนักดาบที่นี่ควบคู่ไปกับการรับทุนวิจัยป.เอกของฉันนั้น  ฉันคิดว่าถ้าได้เล่าที่มาที่ไปเสียก่อนก็คงจะทำให้ท่านอ่านได้อรรถรสมากขึ้นไม่น้อย 

 

  • เพราะนอกจากศิลปป้องกันตัวที่ฉันเล่นนั้นเป็นกีฬาที่ค่อนข้างใหม่สำหรับประเทศไทยแล้ว  ท่านผู้อ่านหลายท่านอาจจะยังงง ๆ สงสัยว่ามัีนไปเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมได้อย่างไรอีกด้วย 

 

 

  • ฉันเลยถือโอกาสไปงัดเอาเรื่องราวเก่า ๆ ที่ฉันเคยเขียนเก็บ ๆ เอาไว้มาเล่าให้ท่านฟังบ้างเป็นกระสายเท่าที่จะหาเจอและนึกออก  เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ฉันเขียนตั้งแต่อยู่เมืองไทย เมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว

 


ฉันผัดผ่อนการส่งคำตอบสำหรับข้อสอบอัตนัยในการสอบเลื่อนชั้นขึ้นสายดำดั้ง ๑ สำหรับศิลปป้องกันตัวที่ชื่อ sports chanabara ของฉันมานานมากแล้ว  และเท่าที่ผ่านมา  เซนเซก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรฉัน  ท่านก็ยอมรับเหมือนกันว่ามันไม่ง่ายนัก 

 

แต่ในที่สุดอาทิตย์ที่แล้ว เซนเซก็ยื่นกระดาษให้ฉันแผ่นหนึ่ง   ในนั้นเซนเซเขียนคำถามอยู่สองข้อ  ซึ่งมากกว่าในอีเมล์ที่ท่านเคยส่งมาให้ฉันเขียนก่อนหน้าข้อหนึ่ง 

 

คนญี่ปุ่นที่ดั้งเดิมและออกแนวอนุรักษ์นั้นไม่นิยมพูดอะไรตรง ๆ  แต่ชอบการสื่อสารด้วยสัญลักษณ์  ดังนั้น จากการยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้ฉัน  มันก็หมายความชัดเจนแล้วว่า  ท่านคิดว่าฉันควรจะพร้อมที่จะให้คำตอบท่านแล้ว

 

ฉันกลับบ้านด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง  วิทยานิพนธ์ปริญญาเอกฉันว่ายากแล้ว  แต่สิ่งที่เซนเซเรียกว่า thesis สำหรับวิชาดาบซามูไรนี่สิ ยากยิ่งกว่า 

 

ไม่ใช่แต่เพียงฉันไม่สามารถไปค้นตัวอย่างของรุ่นพี่เอาตามห้องสมุด  หรือกู๊กเกิ้ลได้เลยเท่านั้น  สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันยากที่สุดก็คือ  ฉันรู้สึกว่า  การที่จะได้คำตอบออกมานั้น  ฉันต้องเข้าไป ค้น ในใจตัวเอง

 

และนั่นคือสิ่งที่ฉันกลัว

 

  • กลัวอะไร?

  • กลัวทำได้ไม่ดี

  • กลัวทำได้ไม่ดีที่สุด

  • กลัวทำไม่ได้

  • กลัว

นี่ไง ฉันรู้แล้วว่าทำไมเซนเซถึงให้ฉันทำข้อสอบ  เพราะการเรียนดาบซามูไรนี้เป็นการฝึกแบบเซนในทุก ๆ ขั้น  ท่านต้องการให้ฉันหมั่นตรวจสอบสภาพจิตใจของตัวฉันเองอยู่เสมอ  และเมื่อพบแล้ว รู้แล้ว จะทำอย่างไรกับมันต่อ? 

 

เหมือนในสมัยโบราณ  ที่พระเซนนิกาย รินไซ จะให้ โคอัน หรือ ปริศนาธรรม กับลูกศิษย์ไปขบคิด  ด้วยการนั่งสมาธิและเจริญสติในทุก ๆ อิริยาบถ

 

เพียงแต่ในสมัยนี้  โคอัน ของฉัน มาในรูปแบบของอีเมล์เท่านั้นเอง

 

หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้วว่าจะตอบว่าอะไร  ฉันก็พิมพ์คำตอบข้อหนึ่งไป  แต่จะไม่ขอเอ่ยในที่นี้  เพราะเข้าใจว่าน่าจะเป็นความลับของสำนัก

 

แต่ข้อสองนั้นเชื่อว่าบอกได้  เพราะเป็นปรัชญาโดยรวมของเซน และเป็นอะไรที่ตรงกับวิปัสสนาของไทยเราด้วย

 

ข้างล่างนี้คือคำตอบที่ฉันส่งเซนเซไปวันนี้  คำถามที่สองนี้ยากกว่ามาก  เพราะเซนเซให้ฉันอธิบายถึง สภาวะจิตในปั้จจุบันขณะของคนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่สายดำดั้ง ๑ ว่า เป็นอย่างไร

 

คนญี่ปุ่นชอบการสื่อสารด้วยสัญลักษณ์ และบางทีไม่ต้องใช้คำพูดมาก  ฉันคิด  และคนญี่ปุ่นเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับ Aesthetics หรือความงดงามลงตัวประณีตอย่างเป็นธรรมชาติของทุกสิ่งในชีวิตประจำวันเป็นอันมาก    นั่นคือเสน่ห์ที่ฉันยอมรับว่าฉันประทับใจ

 

ดังนั้น ฉันคิดว่า ฉันรู้แล้วว่าฉันต้องการจะสื่อสารความรู้สึกของฉันในการตอบข้อสอบนี้กับเซนเซของฉันอย่างไร  ซามูไรก็มีหัวใจเหมือนกันนี่นา  ฉันคิด

 

ว่าแล้วฉันก็ไปค้นเนทเพื่อหาภาพเขียนพู่กันจีนที่ฉันต้องการ  นั่นคือ  ภาพเขียนตัวอักษร Calligraphy คำว่า ความฝัน หรือ Yume ภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง  คือตัวนี้

 

สาเหตุที่เลือกคำนี้  นอกจากมันจะสื่อสิ่งที่ฉันต้องการแล้ว มันยังมีความหมายนัยยะซ่อนเร้นอีกด้วยว่า  ฉันมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับทฤษฎีดาบซามูไรสมัยโตกุกาว่าอย่างดี  เนื่องจากตัวอักษรนี้เป็นตัวอักษรตัวสุดท้าย ที่พระเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดของยุคองค์หนึ่ง ชื่อ ทัคคุอัน โซโฮ ได้เขียนเอาไว้ก่อนจะวางพู่กันลงแล้วก็ล้มตัวลงนอนเสียชีวิตลงอย่างสงบ  พระเซนองค์นั้นท่านแต่งตำราฝึกกายใจในเชิงเจริญสติไว้หลายเล่ม ที่มีคนไปตีความเป็นคัมภีร์ดาบ รวมทั้งท่านได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์ของมูซาชิ และ ยากิว มูเนโนริ คู่ปรับคนสำคัญอีกคนของมูซาชิ ที่ไม่เคยได้ดวลกันอีกด้วย

 

หลังจากนำตัวอักษรพู่กันจีนดังกล่าวมาจัดวางไว้ตรงกลางหน้ากระดาษแล้ว  ฉันก็เขียนคำอธิบายสั้น ๆ ง่าย ๆ ด้านล่าง ดังนี้  ฉันรู้ว่ามันอาจจะสั้นกว่าที่เซนเซคาดเอาไว้  แต่ฉันก็เขียนไปตามที่ฉันรู้สึกจริง ๆ

นี่คือคำตอบของฉัน

 

 Dream calligraphy

 

นี่คือสภาพจิตใจของฉันในปัจจุบันขณะ

 

ฉันรู้สึกราวกับว่าฉันกำลังฝันไป

 

ตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ แล้ว ที่ฉันเคยฝันว่าฉันอยากได้สายดำในศิลปป้องกันตัวต่าง ๆ  แต่คุณแม่ให้ฉันเลิกเล่นกลางคันเพราะว่ากลัวฉันจะบาดเจ็บ  ฉันก็ได้แต่ยอมรับว่านั่นเป็นวิบากกรรมของฉัน

 

แต่ในขณะนี้ เมื่อสิ่งที่ฉันเคยฝันหามาตลอดชีวิตกำลังจะลอยเข้ามาตรงหน้า  แทนที่ฉันจะเอื้อมมือออกไปไขว่คว้าหามัน  ฉันกลับเริ่มมีความลังเลสงสัย

 

เมื่อมาพิจารณาตัวเอง ฉันรู้สึกว่าฉันยังไม่คู่ควรที่จะได้รับมันเลย

 

คนเราควรจะใช้เวลาฝึกฝนนานเท่าใดกันกว่าจะจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดี?  ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน       บางที  อาจจะต้องใช้เวลาชั่วชีวิต

 

ชีวิตมนุษย์นั้นก็เหมือนกับความฝันนั่นเอง  ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน  ไม่มีแม้แต่สิ่งเดียว

 

เราคงจะทำได้แค่เพียงเรียนรู้จากทุก ๆ สิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา  ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดี หรือ ไม่ดี   รวมทั้งข้อผิดพลาดของเราเองด้วย

 

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่ให้โอกาส


เซนเซไม่ได้บอกว่าฉันผ่าน หรือไม่ผ่าน  และฉันก็ไม่ได้ถาม แต่ฉันรู้ว่าคำตอบฉันถูกส่งมาที่ญี่ปุ่นด้วย

 

เวลาผ่านไปนานอีกพอสมควร  ฉันก็ยังเรียนศิลปป้องกันตัวโบราณนานาชนิดกับเซนเซต่อไป  จนฉันกำลังจะไปผ่าเลสิกก่อนเดินทางมาที่ญี่ปุ่นครั้งนี้  เซนเซจึงมาบอกให้เลือกวันสอบภาคสายดำภาคปฏิบัติ เพราะท่านต้อง อิมพอร์ต คู่สอบแข่งให้ฉันเข้ามา  เนื่องจากที่เมืองไทยยังไม่มีกีฬาชนิดนี้อย่างเป็นทางการ  โอ้โห...

 

ฉันเคยคุยโทรศัพท์กับคนไทยอีกคนที่เคยสอบ  เขาสอนอยู่ที่เชียงรายหรือไงนี่   สองปีที่แล้วเขาไปได้แชมป์ที่สิงคโปร์มาด้วย  เขาบอกฉันว่า  ให้ไปฟิตซ้อมร่างกายไว้ดี ๆ ได้เลย  เพราะปีที่เขาสอบเจอผู้ชายญี่ปุ่น ๓ คน รุม ๑  และขู่อีกต่าง ๆ มากมาย

 

รายละเอียดการสอบภาคปฏิบัติจะสนุกสนาน โหด ให้ข้อคิดสอนใจอย่างไร....เชิญติดตามได้บล๊อกหน้า หรือว่าบล๊อกต่อ ๆ ไป.....

 

 



ความเห็น (9)
  • ดาบซามูไรกับใจรวมเป็นหนึ่ง ซึ่งเป็นสมาธิ  ......ขอนับถือด้วยใจครับ  สอดคล้องกับคำกล่าวที่ว่า อันวิทยายุทธ์นั้น ท่าเดียวกันต่างคนใช้ก็ได้ผลต่างกัน
  • ขอบคุณครับ

ขอแสดงความนับถือ

คำตอบสวยมาก นิ่งแต่มีความเคลื่อนไหว

static dynamic แบบอาจารย์เคยเล่า

ความฝันรึ? อาจารย์ว่าเหมือน มายา

รู้ว่าฝันไป...ตื่นมามีเพียงเงา

ตัวอักษรเหมือนลีลาซามูไร

หมุนตัว ฟัน ไม้ตายลงในเพลงดาบเดียว

พิชัย

คุณณัชร

เรามาสังเกตตัวอักษรซ้ำอีกที อยากทราบว่าเป็นลายมือของใคร เพราะดูมีพลัง เข้มข้นดุดันจัง สงสัยว่าทำไมฝันดุเดือดขนาดนี้

ขอบพระคุณค่ะ คุณดิศกุล อาจารย์ และ คุณเอ๋ ที่กรุณาแวะเข้ามาคอมเม้นท์

ได้โอกาสตอบอาจารย์ และ คุณเอ๋ในโอกาสเดียวกันเลยว่า  คำตอบสวย ๆ นั้นไม่ใช่ฝีมือพู่กันของซามูไรอ้วนคนนี้หรอกนะคะ  (พยายามแล้วค่ะแต่ไม่ได้ผล ความฝันหนูออกมาหน้าตาเป็นฝันร้าย)

 หนูไปค้นจาก flickr น่ะค่ะ อาจารย์  ไว้ใจได้เสมอ มีภาพสวย ๆ ให้ยืมเยอะ

เอ๊ะ หรือว่าจาก กู๊กเกิ้ล ไม่แน่ใจ  แต่ว่ามีหลายคนที่เขียนไว้ค่ะ

 อันนี้คนถ่ายภาพไม่ได้บอกว่าใครเขียน  แต่หนูดูแล้วค่อนข้างใหม่  ไม่น่าจะใช่ของพระเซนท่านนั้น  ซึ่งท่านสิ้นไปราว ๔๐๐ ปีแล้ว

หนูชอบที่อาจารย์บอกว่าความฝันเหมือนมายาจังค่ะ ตื่นมาเหมือนแต่เงา  คลับคล้ายว่าเคยอ่านเจอที่พระพุทธเจ้าเปรียบ กาม ว่าเหมือน ความฝัน แล้วก็เหมือนอะไรอีกอย่างสองอย่างนะคะอาจารย์  อาวุธ?  ของร้อน?  ใ่ช่ไหมคะ?

 

แต่ที่ชอบที่สุดแบบ "ตายไปเลย"  คือที่อาจารย์เปรียบเทียบเรืื่องตัวอักษรตัวนี้กับเพลงดาบซามูไรน่ะค่ะ

 

หนูอ่านแล้วอย่างอึ้งเลยค่ะ  อาจารย์ทำให้หนูต้องค่อยๆ มาพินิจพิจารณา สโตรกจองตัวอักษรนี้ใหม่อีกทีช้่า ๆ แล้วหนูก็ยิ่งทึ่งว่าอาจารย์นั้นระดับเซียนขนาดไหน  โห....หนูว่าถ้าอาจารย์ประลองฝีมือกระบวนดาบกับเซนเซหนูนี้อาจจะสูสี ฮิ ๆ  (เอ...ถือข้างใครดีนี่เรา...)

เพราะสโตรกของตัวอักษรตัวนี้เหมือนท่าออกดาบตั้งแต่ต้นจนจบในดาบเดียว

อันเป็นท่าหลักและท่าคลาสสิคที่สุดของเพลงดาบชั้นสูงด้วยล่ะค่ะอาจารย์  โห.....  ทึ่ง ๆ  ๆ ๆ  (คุกเข่าเอาหัวโขกพื้น)

อืมม....คนเราถ้า "เข้าถึง" อะไรแล้ว มันเข้าถึงไปหมดทุกอย่างจริง ๆ เสียด้วยนะนี่

 ว่าแล้วก็ขยับสายคาดพุงให้แน่นเข้า  แล้วคาดดาบออกไปฝึกใต้ต้นสนญี่ปุ่นริมบ่อน้ำต่อไป  อ้อ, อาจารย์คะ  แถว ๆ ที่หนูอยู่มีสวนโบราณสมัยโชกุนที่ท่านเจ้าของบ้านยกให้รัฐทำเป็นสวนสาธารณะด้วยค่ะ ชื่อ สวน ชิน เอโดกาว่า บางทีหนูก็ไปวิ่งออกกำลังแล้วนั่งสมาธิบนภูเขาในนั้น    คือมันใหญ่มากน่ะค่ะ มีบ่อน้ำ น้ำตก ฯลฯ  วันก่อนนู้นหนูเห็นนกกระสาสีขาวตัวใหญ่ยืนขาเดียวกินอะไรอยู่ริมฝั่งอีกฝั่งหนึ่ง  มองไปแล้วไม่อยากเชื่่อเลยว่าอยู่ศตวรรษที่ ๒๑  ในใจกลางกรุงโตเกียว   เพราะป่าทึับและต้นไม้สูงมาก ที่ประเทศนี้ยังมีฉากโบราณอย่างนี้ให้ดูอยู่เสมอในที่ ๆ เราคาดไม่ถึงอย่างนี้น

  สวัสดีค่ะ

ณัชร 

มิกล้า มิกล้า

มิกล้ารับในคำชมของหนู

หากเจอเซนเซซังของหนู อาจารย์คงซังเซปลิวไปจนศิลปินมิกล้าเขียนออกเป็นตัวอักษรใดได้แน่ๆ

ว่าแต่อาจารย์ขอถามวิธีโพสภาพลงในที่พื้นที่ตรงนี้หน่อย ว่าทำอย่างไรนะ

อาจารย์ไม่เห็นมีเครื่องมือใดใดช่วยเลยครับ

พิชัย

 

ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัดหัวเราะแบบเซนเซค่ะ แถวนี้ดูเหมือนพวกเซนทั้งหลายจะหัวเราะเสียงนี้หมดเลย ทั้งหลวงพ่อเซน และเซนเซหนู)

 

ง่ายมากเลยค่ะอาจารย์  อาจารย์เห็นปุ่ม html ข้างบนกรอบเขียนข้อความไหมคะ นั่นล่ะค่ะ  ไปกดตรงนั้น  แต่ก่อนอื่นอาจารย์ต้องมี แอดเดรสที่อาจารย์ใส่รูปเก็บไว้ก่อนนะคะ  ว่าเก็บไว้ที่ไหน  ของหนูส่วนใหญ่มาจาก flickr น่ะค่ะ  แต่ก็สามารถไปเอามาจากที่ไหนก็ได้ในเวบ  ที่ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์เขาน่ะนะคะ

 

หลังจากนั้น ก็ใส่คำสั่งใส่ภาพแบบ html ธรรมดา ๆ นี่ล่ะค่ะ  คือ

<img src="http://www.ที่อยู่ภาพสมมติ.com/12.jpg"></img>  แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ  อ้อ พอเสร็จแล้วหน้าต่างที่เขาให้ edit html ก็อาจจะมีปุ่มให้คลิก โอเค หรือ อัพเดท อะไรทำนองนี้น่ะนะคะ ก็คลิกไปธรรมดา มันก็จะพากลับมาหน้าต่างเขียนข้อความเหมือนเดิมนี่ล่ะค่ะ

 หน้าต่างเดียวกันนี้ใช้คำสั่งของโปรแกรม  html ได้หมดน่ะค่ะ  คิดว่าน่ะนะคะ  ยังไม่เคยลองทุกอัน

ขอให้สนุกกับการแปะรูปนะคะ,

 

ณัชร

ป.ล. ไม่แน่หรอกค่ะอาจารย์  เซนเซหนูอาจจะปลิวก็ได้  อาจารย์อาจจะเป็นจอมยุทธพู่กันทอง หรือว่าคิวทองก็ได้ใช่ไหมคะ  ที่กบดานอยู่ไม่ออกไปท่องยุทธจักรอะไรทำนองนี้ ฮิ ๆ 

สวัสดีค่ะคุณณัชร

ต้อนรับกลับบ้านนะคะ   เพิ่งเข้ามาตามเวบของอาจารย์มาค่ะเห็นบล๊อคของคุณณัชรเลยเดินเข้ามาตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น

เลยได้ความรู้เห็นอะไรดีอีกตามเคยจะขออนุญาติแนะนำต่อให้เพื่อนๆที่เค้าสนใจด้วยได้มั้ยคะ

เผื่อจะเป็นความรู้กับคนอื่นๆต่อไปน่ะค่ะ

เพราส่วนตัวรู้สึกชอบว่ามีสิ่งที่น่าสนใจและความรู้สอดแทรกอยู่ในความสนุกสนานด้วย

เสียดายคุณณัชรไม่สนใจวิชาชงชากับวิชาจัดดอกไม้ไม่งั้นจะได้ถือโอกาศถามและเปรียบเทียบกันดูแห่ะๆ

ในความรู้สึกน่าจะใช้หลักเดียวกันในบางส่วนนะคะ

แต่ก็ชอบจังค่ะ   คิดเล่นๆนะคะเอวิชาดาบของไทยจะมีหลักการที่ลึกซึ้งแบบซามูไรของญี่ปุ่นมั้ยนะ  แต่คงไม่มีโอกาศรู้แน่เลยค่ะเพราะคงไม่มีทางได้ฝึกดาบกับใครแน่ๆอิๆ

ตามมาอ่านน่ะคะ  ชอบอีกแล้ว

"    ชีวิตมนุษย์นั้นก็เหมือนกับความฝันนั่นเอง  ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน  ไม่มีแม้แต่สิ่งเดียว  "

 

คุณสุกฤตา สวัสดีค่ะ,

ตามมาเจอจนได้  อย่าเพิ่งค่ะ อย่าเพิ่งไปบอกใครต่อ  เพราะที่แวะมาเขียนคนเดียวเงียบ ๆ จุดประสงค์หลักเป็นการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับอาจารย์พิชัย และ คนในวงการศึกษาที่มีกำลังวิจยสิ่งเดียวกัน   

จริง ๆ ก็คือหวังเข้ามาพึ่งพา และเรียนรู้จากผู้อื่นเสียล่ะมากกว่า  เพราะอยากรีบเรียนจบค่ะ

นอกจากนั้น ก็ยังเป็นการทยอยรวบรวมลิ้งค์ต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์มาเป็นหมวดหมู่ไว้ที่เดียวกันอีกด้วย เผื่อจะได้ใช้

ตอนนี้ความคิดยังไม่ตกผลึกค่ะ ยังกระจัดกระจายนู่นนี่  จึงยังไม่ค่อยอยากให้ใครต่อใครมาอ่านมากนัก เพราะเกิดมีการอ้างอิงนำไปใช้นอกบริบทแล้วจะยุ่ง  เรื่อง ซามูไรๆ นี้มีปัญหาง่ายค่ะ

แล้วก็ไม่แน่ว่าจะเขียนตลอดไปด้วยน่ะค่ะ  เพราะแต่ก่อนเขียนบล๊อกภาษาอังกฤษส่วนตัวจะเอาไว้ช่วยเรื่องวิทยานิพนธ์แล้วก็ไม่ได้เขียนต่อ

ยังหาอะไรที่ลงตัวไปเรื่อย ๆ อยู่น่ะค่ะ

 

คุณ  ดอกแก้ว สวัสดีค่ะ,

ขอบพระคุณที่ชอบค่ะ  มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นะคะ  คุณดอกแก้วว่าไหมคะ?

ณัชร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท