เรียงความส่งประกวดของนิสิตพิการ : พ่อหลวงทรงนำทาง


หลายคนเกิดมาพร้อมกับเทียนไขวิเศษคนละสองเล่มที่คอยส่องแสงสว่างช่วยให้มองเห็นทุกสิ่งบนโลกใบนี้ หลายคนก็เกิดมาโดยที่ไม่ได้ถือเทียนไขวิเศษมาสักเล่ม และข้าพเจ้าก็ได้ถือเทียนไขวิเศษมาสองเล่ม แต่ทว่าข้าพเจ้าเองก็ได้ทำลายเทียนไขวิเศษเล่มหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ และเทียนไขวิเศษอีกเล่มก็กลายเป็นเทียนไขธรรมดาที่เหลืออยู่

          ขออนุญาตเผยแพร่  เรียงความของนิสิตพิการ  ที่ได้ส่งเข้าประกวด กับทางสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  เนื่องในวันคนพิการ  ปี 2549 และเป็นเรื่องที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1   เข้ารับประทานรางวัลจาก  พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ   เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2549  ณ สวนอัมพร 



ชื่อ  นายบัณฑิตย์  สิทธิคุณ

สถานศึกษา  มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ที่อยู่  หอพักเชียงยืน(ห้อง 136)  ต.ขามเรียง  อ. กันทรวิชัย  จ.มหาสารคาม 44150 

โทรศัพท์  0857619757

ประเภทการประกวด  บกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ ( สายตา )

หัวข้อ  ใต้ร่มพระบารมีชีวิตนี้ยังมีหวัง

ชื่อเรื่อง  พ่อหลวงทรงนำทาง

----------------------------------------------------------------------------------------

 พ่อหลวงทรงนำทาง     

                              ใต้ พระบาทเหยียบย่างก้าว              แดนใด

                              ร่ม พระองค์ดั่งร่มไทร                     ปกเกล้า

                              พระ เกียรติก้องเกริกไกร                 ทั่วถิ่น

                              บารมี ภูมินทร์เจ้า                            คู่ฟ้าแดนสยาม

          ข้าพเจ้านับว่าโชคดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย  ภายใต้ร่มพระบารมี  และยิ่งไปกว่านั้นข้าพเจ้าโชคดีที่เกิดมามีพ่อพร้อมกันถึงสองคน  พ่อคนที่หนึ่งคือผู้ที่ให้กำเนิด     ถักทอสายใยแห่งความรักคอยเลี้ยงดูฟูมฟักเอาใจใส่ต่อข้าพเจ้าอย่างดี  เป็นผู้ที่ข้าพเจ้ารักและเคารพอย่างยิ่ง  ส่วนพ่ออีกคนหนึ่งท่านไม่ได้รักข้าพเจ้า ท่านไม่ได้เลี้ยงดูฟูมฟักข้าพเจ้า ท่านไม่ได้ห่วงใยข้าพเจ้า  แต่ท่านรักและห่วงใยคนไทยทุกคนเท่า ๆ กัน  ไม่แบ่งชั้นวรรณะ เชื้อชาติ ศาสนา ไม่ว่าจะมีฐานะร่ำรวย ยากจน เป็นคนปกติหรือคนพิการ  เพราะท่านคือ “พ่อหลวงของชาวไทย”       
          ตลอดระยะเวลา ๖๐ ปีที่พ่อหลวงทรงครองราชย์  ท่านทรงงานหนักกว่าเรามากยิ่งนัก เราเหนื่อยท่านก็เหนื่อยกว่าเราถึงสิบเท่า  เราสุขท่านก็สุขด้วย  เราลำบากท่านไม่เคยปล่อยให้บรรดา ลูก ๆ ของท่านต้องเผชิญกับปัญหาเพียงลำพัง  ท่านไม่เคยทอดทิ้งชาวไทยโดยเฉพาะคนพิการ               
          ข้าพเจ้าไม่โทษสวรรค์  ไม่โทษวาสนาและไม่โทษโชคชะตาที่มีอาการไม่ครบสามสิบสองเหมือนคนทั่ว ๆ ไป  ข้าพเจ้าต้องสูญเสียดวงตาข้างหนึ่งจากอุบัติเหตุเมื่อตอนวัยเยาว์  และขณะนี้ ผลจากอุบัติเหตุในครั้งนั้นกำลังส่งผลกระทบต่อดวงตาอีกข้างหนึ่งของข้าพเจ้า      
          หลายคนเกิดมาพร้อมกับเทียนไขวิเศษคนละสองเล่มที่คอยส่องแสงสว่างช่วยให้มองเห็นทุกสิ่งบนโลกใบนี้ยากนักที่จะมีวันดับมอดลง  หลายคนก็เกิดมาโดยที่ไม่ได้ถือเทียนไขวิเศษมาสักเล่ม  และข้าพเจ้าก็ได้ถือเทียนไขวิเศษมาสองเล่ม  แต่ทว่าข้าพเจ้าเองก็ได้ทำลายเทียนไขวิเศษเล่มหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ และเทียนไขวิเศษอีกเล่มก็กลายเป็นเทียนไขธรรมดาที่เหลืออยู่คอยส่องแสงสว่าง  โดยที่ข้าพเจ้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเทียนไขเล่มสุดท้ายของชีวิตจะมอดดับลงยามใด  ถึงแม้ข้าพเจ้าจะไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าความมืดจะย่างกรายเข้ามาในชีวิตของข้าพเจ้าในเวลาใด  แต่ข้าพเจ้ารู้ได้ว่าควรทำตัวอย่างไรในยามที่ความมืดเดินตรงเข้ามาหา  ข้าพเจ้าจะไม่ยืนอยู่เฉย ๆ ให้คนที่มีเทียนไขนำทางหัวเราะเยาะ  ข้าพเจ้าจะไม่นั่งอยู่เฉย ๆ คอยให้พวกเขาเหล่านั้นเวทนาและฉุดกระชากรากดึงข้าพเจ้าร่วมทางไปด้วย   ภายใต้ร่มพระบารมีของพ่อหลวง ข้าพเจ้าเชื่อว่าในความมืดย่อมมีแสงสว่างรอข้าพเจ้าอยู่เบื้องหน้าเสมอ       
          ข้าพเจ้าจะเดินอยู่ในความมืดอย่างไม่หวาดกลัว  เพราะพ่อหลวงคือผู้ที่จะนำทางข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันกับข้าพเจ้าทั้งหลายให้พบกับแสงสว่าง  และแสงสว่างนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่สัมผัสได้ด้วยดวงตา  แต่เป็นแสงสว่างที่สัมผัสได้ด้วยจิตใจ  ท่านไม่เคยทอดทิ้งข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันกับข้าพเจ้าให้อยู่อย่างเคว้งคว้างไร้ซึ่งจุดหมาย  ตรงกันข้ามท่านเปรียบ เสมือนหลักชัยของแผ่นดิน  ในยามที่มรสุมแห่งชีวิตพัดโหมกระหน่ำ  ท่านคือเสาหลักให้ข้าพเจ้าได้ยึดเหนี่ยวอย่างมั่นคง  ท่านไม่เคยมองว่าคนพิการเป็นผู้ที่ไร้ค่า  ท่านทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ผู้พิการทั้งในด้านการศึกษา อาชีพ ตลอดไปจนถึงความเป็นอยู่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีทัดเทียมกับคนปกติทั่วไป           
          ภายใต้ร่มพระบารมีของพ่อหลวง ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า หนทางที่ข้าพเจ้ากำลังจะเดินไปสู่ ณ เบื้องหน้านี้ เป็นหนทางที่นำข้าพเจ้าไปพบกับเช้าวันใหม่ เช้าวันที่อากาศสดใส โอบกอดด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ ห่อหุ้มด้วยแสงอุ่น ๆ จากดวงอาทิตย์ เพราะชีวิตนี้ยังมีความหวัง 

                            

หมายเลขบันทึก: 69405เขียนเมื่อ 26 ธันวาคม 2006 09:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)
  • เมื่อวาน กะจะขออนุญาตพอดีว่าถ้าไม่นำมาเผยแพร่ จะเผยแพร่ซะเอง
  • เพราะไหน ๆ ในชุมชนคนตลาดน้อยของผมก็นำไปบอกกล่าวเล่าความบ้างแล้ว
  • อย่าลืมของน้องนิสิตหญิงอีกคนนะครับ พี่หนิง..
  • น่าจะเน้น ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1  นิสิต พิการ มมส. ใน ป้าย (คำหลัก) ด้วยก็จะดีครับ

 

 

ขอบคุณครับพี่หนิงที่นำมาเผยแพร่
นึกว่า อู้งาน(เขียนบันทึก) ซะแล้ว
ชื่นชมอีกครั้งครับพี่หนิง
ขอบพระคุณค่ะ / แถบเครื่องมือหายอีกแล้ววันนี้ ( ทำหน้างงๆ )
  • เห็นด้วยกับการนำไปเผยแพร่ครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับพี่หนิงที่ช่วยเหลือและให้โอกาสน้องๆ
  • บทความนี้คงเปิดใจให้หลายๆ คนได้รับทราบเป็นอย่างดี
  • ขอบอกว่าชอบมากครับ บทความของน้องดีมากๆ ครับ
  • ขอให้น้องๆ ทุกคนมีความสุขตลอดไปครับ

เห็นด้วยคับ ( ทอมเว้ย )

ขอให้พระองทรงพระเจริญ

ชั๊นมันมะมีคนลั๊ค

อยากมีคนลั๊ค อย่างเท๊อ

(เรียงความซึ้งมาก)

555+

เก่งมากเลยค่ะ ขอให้ร่วมกันทำความดีถวายในหลวงกันนะค่ะ

พี่เก่งมากเลยครับ ผมเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนคนดีๆอย่างพี่นะครับ ยังไงพี่ก็อย่าท้อแท้นะครับ สู้ต่อไป

เขียนได้ไพเราะมากเลยนะคะ

เป็นเรียงคาวมที่พิเศษที่สุด อ่านแล้วทำให้เป็นแรงพลังใจไม่ท้อแท้กับชีวิต

ซึ้งมากๆๆๆๆๆๆๆๆ

เก่งมากเลยนะคะขอเปงกำลังใจให้นะคะ

ดีจร๊

ดีมาดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เลยนร๊จร๊ขอบคุณนร๊

เม๊นจร๊

นี่  ไม่เลย  จะเอา 

ขอบคุณมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

บทความของคุณดีมาก...........

ขอเปงกำลังใจให้คร๊าบบบ

ขอกด Like ให้เลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท