เมื่อได้รับมอบหมายงานให้ไปบรรยาย KM ให้นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยคริสเตียน ขั้นตอนต่อไป คือ การต้องเตรียมงานและประสานงานในรายละเอียดกับผู้ที่รับผิดชอบ เรา (คือ ผู้เขียน และ อาจารย์ที่รับผิดชอบวิชานี้) ติดต่อกัน เพื่อพูดคุยในรายละเอียดของหัวข้อที่จะต้องไปบรรยายนี้ ให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และได้ผลตามที่ต้องการทั้ง 2 ฝ่าย
โดยหัวข้อที่ผู้เขียนต้องไปบรรยายในครั้งนี้ คือ “บทบาทของผู้นำในการจัดการความรู้” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา “การพัฒนาภาวะผู้นำทางการจัดการ” โดยมีนักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ทั้ง 4 สาขา คือ สาขาการบริหารโรงพยาบาล สาขาการบริหารการพยาบาล สาขาการบริหารการศึกษา และสาขาการจัดการภาครัฐและเอกชน จำนวน 23 คน
แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน แต่ผู้เขียนคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว คือ วันที่จะต้องไปบรรยายนั้น อ.วิจารณ์ ติดประชุมอีกแห่งหนึ่ง ไม่สามารถไปบรรยายด้วยได้ ผู้เขียนประสานงานเรื่องของการเลื่อนวัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ จนในที่สุด ผู้เขียนจึงไปคนเดียว
!!!
………………………………………………………..
สองสัปดาห์ ก่อนวันที่ต้องไปบรรยาย KM ให้นักศึกษาปริญญาเอก ของมหาวิทยาลัยคริสเตียน อ.วิจารณ์ ได้แนะนำให้ นักศึกษาได้ทำการบ้านมาก่อน โดยให้นักศึกษาได้ดู VCD โรงพยาบาลบ้านตาก และ VCD โครงการ Patho OTOP ของภาควิชาพยา-ธิ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มาก่อนล่วงหน้า และในชั้นเรียนให้ร่วมกันอภิปรายว่าภาวะผู้นำในการจัดการความรู้มีอะไรบ้าง รวมไปถึงแนวคิด KM ที่ได้จาก VCD ทั้งสองเรื่อง
ดีคะ เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะ VCD ทั้งสองเรื่องน่าสนใจ และบอกถึง “ภาวะผู้นำในการจัดการความรู้” ได้อย่างยอดเยี่ยมและแยบยล
ผู้เขียนจึงได้ประสานงานไปยังอาจารย์ผู้ดูแล ตอนแรกได้รับคำตอบแบบลังเลนิดๆ และสารพัดเหตุผลที่ตามมา แต่ถึงอย่างไร ผู้เขียนก็ยังยืนยันไปตามนั้นว่า ต้องการให้นักศึกษาได้ดู VCD 2 เรื่องนี้มาก่อน ในที่สุดอาจารย์ผู้ดูแลจึงตอบตกลง
ผู้เขียนเริ่มเบาใจไปเปราะหนึ่ง เพราะอย่างน้อยๆ บรรยายทั้งหมด 3 ชั่วโมง การอภิปรายสิ่งที่ได้จาก VCD ก็น่าจะกินเวลาไป 50% ของเวลาที่ต้องบรรยายทั้งหมดแล้ว เหลืออีกเพียง 50% ที่ผู้เขียนจะต้องเตรียม PowerPoint เพื่อไปสรุปเรื่องของการจัดการความรู้ และบทบาทของผู้นำในการจัดการความรู้ อีกนิดหน่อย ก็ได้พี่ธวัช (คนนั่งโต๊ะข้างเคียงกันนี่แหละคะ) เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำในฐานะผู้มีประสบการณ์ทั้งความสำเร็จและบทเรียนในการไปบรรยายให้นักศึกษาระดับปริญญาโทมาแล้ว
หลังจากนั้น ผู้เขียนจึงได้เริ่มลงมือเตรียม PowerPoint อย่างตั้งอกตั้งใจ พร้อมทั้งให้กำลังใจตัวเองว่า “การไปบรรยายให้นักศึกษาระดับปริญญาเอกในครั้งนี้ คือ โอกาสอันดี ที่ อ.วิจารณ์ ได้มอบให้ และหากไม่ได้ทำงานกับ สคส. ผู้เขียนคงจะไม่ได้รับโอกาสและประสบการณ์ที่ดียิ่งเช่นนี้อย่างแน่นอน”
(ติดตามตอนต่อไป)
เรียน คุณ yayaying
ขอบคุณครับ
อุทัย
แน่นอนคะ...โอกาสมีให้เราเสมอ..เพียงแต่ว่าเรามองเห็นโอกาสนั้นหรือไม่...หากเป็นกะปุ๋มมักจะไม่รีรอโอกาส...เพราะโอกาสนั้นให้เราได้เรียนรู้อะไรอีกมากมาย
.....
เชียร์ๆๆๆ....
(^____^)
กะปุ๋ม
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ เชื่อแน่ว่า นักศึกษา จะได้รับสาระที่มากกว่า เนื้อหาเชิงทฤษฎี เพราะจะได้รับประสบการณ์ตรงในการทำ KM จากคนหน้างานจริง ๆ