ดงหลวงมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ต่อเนื่องกับเทือกเขาภูพานซึ่งเป็นรอยต่อของจังหวัดมุกดาหาร กาฬสินธุ์ สกลนครและนครพนม ชาวบ้านรอบๆเทือกเขานี้ได้ใช้ประโยชน์จากป่ามากมาย โดยเฉพาะ ชนเผ่าไทโซ่ที่ผู้บันทึกทำงานอยู่ในขณะนี้
เมื่อวันที่ 15 ที่ผ่านมาผู้บันทึกชวนชาวบ้านเดินขึ้นดอยเพื่อดูฝายแม้วที่ชาวบ้านไปสร้างกั้นน้ำไว้ข้างบนถูเขาที่มีชื่อว่า ภูสีเสียด อันเป็นกิจกรรมที่โครงการผู้บันทึกรับผิดชอบอยู่
กรรมการป่าชุมชน ผู้นำชาวบ้าน ผู้บันทึกและเลขาฯผู้บันทึกเดินขึ้นเขาไปด้วยกัน เราขับ 4WD ไปบนภูเขาที่นัก OFF Road ต้องกรี๊ดแน่ๆเลยหากได้มาร่วมเดินทางด้วย เพราะต้องกระดึ๊บๆไป มีแต่หินและป่า รายละเอียดจะเล่าเป็นตอนๆไป
ครั้งนี้จะมุ่งไปที่ ฝายแม้ว ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการเดินทาง เรากระดึ๊บรถมาได้ 3.7 กิโลเมตรแล้วจอดไว้ที่สำนักสงฆ์ที่มีพระหนุ่มจำพรรษาอยู่องค์เดียว สำนักสงฆ์แห่งนี้ตั้งอยู่ตรงหน้าผาสูงชัน วิวสวยมาก ผู้บันทึกตั้งใจว่าหาเวลากลับมาปฏิบัติธรรมกับท่านบ้าง
จากสำนักสงฆ์แห่งนี้เราต้องเดินเท้าเข้าป่าลึกต่อไปอีก ประมาณ 2 กิโลเมตรกว่า ซึ่งจะลาดชันขึ้นไปเรื่อยๆ และป่าก็ทึบมากขึ้นเรื่อยๆ วันนั้นเมฆฝนครึ้มเต็มท้องฟ้าไปหมด ระหว่างทางเราพบ อะไรมากมาย เช่น ต้นไม้ใหญ่ ควายชาวบ้านที่ปล่อยเข้าป่า ถ้ำประวัติศาสตร์ สมุนไพร ต้นพ่อต้นแม่ผักหวานป่า หน้าผาและผึ้ง ผลไม้ป่า ลานหินประวัติศาสตร์ กล้วยไม้ป่า สวนป่านาข้าวสมัยก่อน ฯลฯ น่าสนใจชีวิตชาวไทโซ่บนภูเขาจริงๆ
เราใช้เวลาเดินป่าแบบสบายๆ คุยกันไปด้วยไม่ได้รีบเร่ง ตั้งแต่ 8 โมงครึ่ง เราไปถึงที่หมายเวลาเที่ยวพอดี เราสำรวจฝายที่ชาวบ้านก่อสร้างไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ถ่ายรูปเก็บไว้ทุกมุมเพื่อเป็นหลักฐาน เดินสำรวจรอบๆบริเวณพื้นที่สร้างฝาย พร้อมกับสอบถามเหตุผลว่าทำไมถึงมาสร้างฝายตรงนี้
ชาวบ้านให้เหตุผลว่า ตรงนี้คือต้นน้ำ ซึ่งมีน้ำออกรูอยู่ใกล้ๆนั่นเอง ชาวบ้านพยายามรักษาไว้เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์ต่อไป การกักน้ำด้วยฝายแม้วยังจะช่วยให้เกิดผลดีต่อต้นไม้ป่ารอบๆนี้ ซึ่งล้วนเป็นไม้มีคุณค่าทั้งนั้น สัตว์ป่าก็ได้อาศัยน้ำแห่งนี้ และสัตว์น้ำก็จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะชาวบ้านที่เข้ามาป่ามาหาอยู่หากินก็จะมีน้ำกินตลอดปี เช่นช่วงฤดูแล้งที่ขึ้นมาสำรวจไฟป่า หรือดับไฟป่าก็จะได้อาศัยแหล่งน้ำนี้
ด้วยงบประมาณเพียงไม่กี่พันบาทก็ได้ประโยชน์มากมายเช่นที่ชาวบ้านกล่าว เราก็ยินดีเพราะเขาเลือกเอง ตัดสินใจเองและช่วยกันทำเองทั้งหมด เพียงโครงการสนับสนุนงบประมาณ ซึ่งก็ใช้ไม่หมด เขาก็เก็บเอาไว้เป็นทุนสำหรับยามจำเป็นในการใช้จ่ายเพื่อการรักษาป่าไม้ในกิจกรรมอื่นๆต่อไป
ระหว่างที่เราแลกเปลี่ยนกับผู้นำอยู่นั้นชาวบ้านบางส่วนก็ปลีกตัวไปประกอบไฟและเตรียมอาหารกลางวัน โดยเขาซื้อเนื้อหมูและเอาเครื่องพร่าเนื้อขึ้นมา ความจริงผู้บันทึกก็เตรียมอาหารกลางวันมาเผื่อเขาอยู่แล้ว
ผู้บันทึกได้มีโอกาสดูวิธีการทำครัวกลางป่าอีกครั้งหนึ่ง ดูมันช่างง่ายแสนง่ายจริงๆ ใช้ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวให้เกิดประโยชน์ ฟืนก็หาเอาใกล้ๆนั้นซึ่งมีมากมาย เขียงหั่นเนื้อก็เอาเศษไม้ที่ทำความสะอาดแล้วก็เป็นใช้ได้ ย่างเนื้อก็เอาไม้มาคีบเข้าแล้วอิงกองไฟ เครื่องพร่าที่เตรียมมาก็มีพริกป่น เลือดสดๆ ใบต้นหอม หอมแดง ตะไคร้ น้ำปลา (แอบเห็นผงชูรสที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ติดงอมแงม) ซึ่งเขาเตรียมมาหมดแล้ว ส่วนข้าวเหนียวนั้นทุกคนก็เอาใส่กระติ๊บมากันทุกคนอยู่แล้ว
ตอนคลุกเนื้อที่หั่นซิ ผู้บันทึกทึ่งจริงๆ เนื่องจากจำนวนเนื้อย่างมากเกินสำหรับภาชนะใดๆที่ติดตัวมาจะใส่แล้วเอาเครื่องคลุกได้ ชาวบ้านเขาใช้ถุงพลาสติดที่เอามาด้วยนั้นผ่าแผ่ออกกว้างๆก็กลายเป็นภาชนะที่ใหญ่พอจะคลุกเนื้อย่างได้เป็นอย่างดี แต่ต้องอาศัยเพื่อนมาช่วยถือคนละมุมด้วย
ชาวบ้านส่วนที่เหลือก็เดินออกไปรอบๆเดี๋ยวเดียวก็กลับมาพร้อมกับใบไม้ที่กินได้มาแกล้มพร่าเนื้อ มีใบผักกูดแดง และอีกหลายชนิด ซึ่งป่าที่สมบูรณ์แบบนี้เป็นที่คุยกันว่า แค่นั่งลงแล้วเอื้อมมือไปรอบๆ จับใบอะไรได้ก็หักกิ่งมาก็กินได้ทั้งนั้น เป็นคำเปรียบเทียบว่าป่าอุดมสมบูรณ์นั้นมีใบไม้ที่เป็นอาหารมากมายนัก
ใกล้จะประกอบอาหารเสร็จพอดีได้ยินเสียงฝนตกมาแต่ไกล ชาวบ้านบอกว่าเรานั่งกินข้าวที่นี่ไม่ได้ต้องไปในถ้ำซึ่งอยู่ใกล้ๆนี้ ทุกคนก็ช่วยกันย้ายสิ่งของไปที่ถ้ำ แห่งนั้น ซึ่งผู้บันทึกเรียกว่าเพิงหินมากกว่าถ้ำ
เราถึงถ้ำฝนก็ตกพอดี ชาวบ้านตัดใบไม้ใกล้นั้นมาหอบใหญ่ ปูพื้นแล้วก็วางกับข้าว ตั้งวงกินข้าวมื้อกลางวันกัน ข้าวป่าในถ้ำท่ามกลางฝนตกเนี่ยะ อร่อยเป็นที่สุดเลย
จินตนาการตามเนื้อเรื้องถึงผืนป่าและสำนักสงฆ์ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าได้ดูรูปก็จะดีหลายเด้อ... : )
จะรออ่านตอนปรับปรุงแล้วนะคะ
จะรออ่านตอนปรับใหม่
เพราะอ่านตอนนี้ ตาลายมากๆ เลยค่ะ คุณพี่
ปรับระบบคอมได้แล้วจ้า
เป็นชีวิตที่น่าอิฉฉาจริงๆครับ...อาหารสด อร่อย...อากาศดี ไม่มีมลพิษ...ได้ออกกำลัง(เดินป่า)...อยู่กับธรรมชาติ...จิตแจ่มใส....
เคยไปแบบนี้ตอนเด็กๆ.....จำได้อย่างเดียวว่าเห็ดป่าที่แม่ออกเอามาทำอาหารให้ทานนั้นสุดยอดมากๆครับ..รสชาดดีมากเพราะเก็บสดๆแถวนั้นเลย...หาอีกก็ไม่มีแล้วครับ...
แต่วันนี้เปิดเทอม..รถติด ฝนตก ไปส่งลูกที่โรงเรียน...สนุกสนานไปอีกแบบครับ...
โอชกร
สวัสดีครับ น้อง โอชกร - ภาคสุวรรณ
มันเป็นความชื่นชอบส่วนตัวของพี่ด้วยเรื่องการเดินป่า เหมือนกับเราดำน้ำลงไปใต้ทะเล เพราะมีสิ่งที่เราไม่รู้จักมากมาย เราพบเห็นในสิ่งที่ไม่เคยพบ เราเรียนรู้สิ่งที่เป็นธรรมชาติ อย่างไม่น่าเชื่อหลายอย่าง และวิถีชาวบ้านที่อยู่กับป่า ทำให้เราเข้าใจเขา มองเขาอย่างเข้าใจมากขึ้น ครับ แน่นอนเราได้อากาศบริสุทธิ์ด้วยครับ
สวัสดีน้องยอดดอย
พี่เห็นกิจกรรมของน้องยอดดอยทำแล้วยังชอบมาก นึกถึงการเติบโตของเด็กๆ หากเรามีกิจกรรมต่อเนื่องไปนะ จนถึงเขาเป็นเยาวชน ผู้ใหญ่ เขาจะเป็นคนที่มีคุณภาพของชุมชน ประเทศชาติมากทีเดียว กิจกรรมที่น้องทำจะเป็นการสร้างเครื่องกรองขยะสังคมติดตัวเขาไปด้วย ดีจริงๆ
พี่เสนอให้น้องยอดดอยพิจารณา รายการนี้ครับhttp://gotoknow.org/blog/tafs/94413 พี่ตั้งใจจะเข้าร่วมด้วยแบบยกครอบครัวมาเลย ทั้งที่ยังไม่ได้คุยกับครอบครัวนะ แต่จองไว้ก่อน
สวัสดีครับท่าน SASINNDA
ใช่ครับ ธรรมชาติ สดๆ ที่เราคนเมืองไม่ค่อยมีโอกาสซักเท่าไหร่นัก
ขอบคุณครับ
แวะกลับมาดูอีกรอบแล้วค่ะ
ได้บรรยากาศจริงๆ แต่ยังอยากเห็นรูปสำนักสงฆ์ กับวิวจากหน้าผา : ) ขอมากไปไหมเนี่ย... ได้ฟังคำบรรยายก็อยากจะไปสนทนาธรรมกับพระรูปนั้นด้วยเหมือนกัน...
ดีจังเลยค่ะ ที่คุณบางทรายเล่ามา ดิฉันเห็นความรู้ของชาวบ้านสอดแทรกอยู่เต็มไปหมด เป็นความรู้ที่หาค่ามิได้เสียด้วย ตั้งแต่..
Tacit knowledge ทั้งนั้นเลย ได้อ่านแค่นี้ยังรู้สึกชื่นใจเลยค่ะ..
ขอบคุณที่นำมาฝากกันนะคะ
สวัสดีครับอาจารย์กมลวัลย์
กำลังจะมาครับรูปสำนักสงฆ์ ไม่ได้ขอมากไปหรอกครับ ผมตั้งใจอยู่ว่าจะเอามาเล่าอยู่แล้วครับ
อาจารย์ช่วยสรุปให้ผมเสียแจ่มชัดไปเลย ขอบคุณมากครับ
สวัสดีค่ะพี่บางทราย
อยากไป ! อยากเห็นฝายแม้ว ที่เป็นแหล่งเก็บกักน้ำตามธรรมชาติที่เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิม..เห็นความรู้ในการทำอาหารของเขาแล้วยอมแพ้เลยค่ะ..ถ้าไปกับเบิร์ดอดแน่ๆค่ะพี่บางทราย ( ถ้าไม่ห่อข้าวไป ^ ^ )
น้ำซับใสเหลือเกินค่ะ ดูใสเย็นดีจัง..ทุกคนก็ดูมีความสุขล้นเชียวค่ะ..ทรายที่บรรจุกระสอบเอามาจากไหนเหรอคะ ?
สวัสดีครับน้องเบิร์ด
ทรายที่บรรจุก็อยู่ใกล้ๆนั่นเองครับ
น้ำออกรูเป็นแหล่งน้ำที่ชาวบ้านหวงแหนมาก และดูแลรักษาเป็นอย่างดี พอเราสนับสนุนทำฝายแม้วเขาก็รีบทำทันทีจนเราไม่ได้ไปร่วมในช่วงที่เขากำลังทำ ต้องไปดูหลังทำเสร็จแล้ว
ชาวบ้านมีเทคนิคมากมายในการทำฝายแม้ว บางแห่งใช้ทรายผสมปูนใส่ถุง เมื่อโดนน้ำก็จะแข็งตัวเป็นหินเลย ช่วยให้ตัวฝายแข็งแรงมากขึ้น อายุยาวนานมากขึ้น
อยากไปก็ได้นะ มีหลายอย่างน่าดู น่าศึกษา พี่กำลังทะยอย Post ครับ
lสวัสดีครับ
กิจกรรมเหมือนกันแต่คนละจังหวัด นี่คือเครือข่ายของTAFS ที่มีกิจกรรมฝายแม้วด้วยครับ โปรดพิจารณาเพื่อมีข่าวสารส่งถึงกันได้
http://www.givenorth.com/home.php
ขอบคุณครับ สวัสดี
สวัสดีครับ
ตกลงพี่จะตามไปดูครับ
ขอบคุณครับ
ฝ่ายแม้ว คือการกักน้ำไว้ใช้ ของชนเผ่าพื้นที่สูง(ชาวเขาเผ่าแม้ว) เมื่อมีการส่งเสริมกันอย่างกว้างขวางก็เป็นกิจกรรมสำคัญในการบริหารน้ำจากธรรมชาติ ก่อนหน้านั้นฝายเล็กๆนี้มีบทบาทต่องานปฏิวัติของบรรดาสหาย พ.ค.ท.อย่างมาก ตั้งฐานที่มั่นทุครั้ง จำเป็นต้องมีฝายกั้นนำเล็กๆ เพียงแต่ใช้ขอนไม้ใช้ก้อนหินวางขวางไว้ให้กลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุด เป้าหมายคือกันน้ำไว้ใช้บริโภค
น้ำออกรู คือน้ำออกจากใต้ดิน ตามธรรมชาติ เรียกตาน้ำ ขุนน้ำ ปงน้ำ ตามแต่ท้องถิ่นนิยม ชาวภูไทเขาเรียก "น้ำจะบุ้น" ครับ
ส.ตะวันครับ
กรมป่าไม่น่าจะรู้ดีว่า สายน้ำเล็กๆหลายสิบหลายร้อยสาย ในป่านั้น โดยธรรมชาติน้ำจะไหลผ่านเลย ลงสู่ลำน้ำสายใหญ่ ทำให้ป่าขาดน้ำ ต้นไม้แห้งตาย หน้าแล้งไฟก็ไหม้ป่า เพิ่มหมอกควัน หากกรมป่าไม้ร่วมมือกับหน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐและเอกชน สร้างฝายแม้ว กักน้ำไว้ จะช่วยให้ต้นไม้เขียวขจี พื้นดินชุ่มชื้น ลดปัญหาไฟป่าได้ระดับหนึ่ง อยากให้ไปดูตัวอย่างความร่วมมือกันของพี่น้องอำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง กับโครงการฝายแม้วอันโด่งดังเกิดจากภาครัฐ และเอกชน ชาวบ้าน นักเรียน ปตท. กฝผ.แม่เมาะ กรมป่าไม้ จังหวัด อำเภอ ป่าอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย จึงเขียวขจีตลอดปี และฝายแม้บ้านสามขา อำเภอแม่ทะก็โด่งดังตราบทุกวันนี้
งานพัฒนาชนบทนั้น ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ทำด้วยกัน หางบประมาณมาร่วมกันจัดการ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาชนบท
จริงๆกรมป่าไม้สนับสนุนครับ และทำเยอะด้วย แต่บางจุดบางพื้นที่ต้องพิจารณามากกว่าปกติครับ ในเงื่อนไขต่างๆของกรมเอง เราเองก็สนับสนุนในจุดที่ทำได้ครับ
กรมป่าไม้มีคนดีเยอะครับ