การปลูกป่าในปีที่ความแห้งแล้งมาเยือน กล้าไม้น้อยต้นจะรอดพ้นฤดูแล้ง น่าจะลองน้อมนำพระราชดำริ ปลูกกล้วยเป็นแนวกันไฟ ปลูกกล้วยเพื่อดึงน้ำค้าง ดึงละอองหมอกทีละหยดเล็กๆ เกาะติดใบแล้วหยดลงดินสร้างความชุ่มชื้น
ผมมีที่ 6 ไร่ที่น่าน ตอนผมและภรรยาสวมวิญญาณเกษตรกร เราต้องรบกับไมรยาพยักษ์และหญ้าคาด้วยมือเปล่า ไม่ยอมใช้ยาฆ่าวัชพืช ต้องขอบคุณต้นตระกูลพ่อผมท่านทำสวนกล้วยที่บางแค ฝั่งธน เราปลูกกล้วยรวมกว่า 500 กอ แบบเทวดาเลี้ยง ไมยราพยักษ์รบกันสามปีแพ้มือเราที่ถอนต้อ่อนต้นแก่มันปีแล้วปีเล่า หญ้าคาหมดไป สิบปีแล้วที่สวนของเรายังเขียว เพราะใช้ กล้วยนำการพัฒนา ผมกับภรรยาถือว่าวิธีการของเราเนียนมากเลยครับ ไม่เสียเงินมาก ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
เพื่อนที่ไป สปป.ลาว บ่อย เล่าว่าพี่น้องลาวเขามาแปลก เขาขุดเหง้ากล้วย (ส่วนที่กลมมนสุดปล้วยลำต้นก่อนถึงราก) ขึ้นมาแล้วตัดยอดออกเหลือแต่เหง้ากลมกลม แล้วฝังลงดินแบบเอาด้านยอดลง เอาด้านรากขึ้น กลบดินหนาราวคืบเศษ น่าแปลกที่เหง้ากล้วยที่ปลูกแบบพิศดารนี้ทนแล้งสงบอยู่ในดินแห้งได้นับปี พอปีที่สองจะแทงหน่อออกมาสามสี่หน่อ แบบเทวดาเลี้ยงร้อยเปอร์เซ็นต์
พี่น้องลาว เขาก็ทำ KM แบบนี้ จึงเนียน
น่าสนใจการปลูกกล้วยของลาวมาก...เป็น KM ชาวบ้านที่เป็นภูมิปัญญา
ผมเห็นดงกล้วย ที่รายเรียงตามเขา ดูแล้วสบายตา สบายใจดี
อยากให้ปลูกกันมากๆนะครับ เพราะแทบทุกส่วนมีประโยชน์ทั้งนั้น
ว้าว ท่าทางจะสนุกนะครับเพระหมอเล่าเรื่องได้สนุก
ทึ่งครับ....ทึ่ง ผมเคยเห็นเขานำยางกล้วยมาเพ็นท์เสื้อ สีเส้นน้ำตาลอ่อน-แก่ แหมย้อนนึกถึงตอนเด็กเล่นฟันต้นกล้วย โดนพ่อเตือนว่าระวังให้ดี ยางกล้วยติดแล้วซักไม่ออก โคตรเหง้าคุณพ่อเป็นชาวสวนกล้วย ท่านยังบอกบ่อยๆ ว่า ถ้าสีย้อมสมัยใหม่ติดทนเหมือนยางกล้วย คงดีไม่น้อย