มองต่างมุม "รางวัลสุดคะนึง - การให้รางวัลที่เอื้อให้กับกลุ่มผู้ใช้หลักของ gotoknow" และคำถาม "เวลาที่คนเราลงมือลงแรงทำอะไรบางอย่างนี่ ทำไปเพื่ออะไรได้บ้าง"


ในเวลานี้ เราคงต้องถามตัวเองแล้วว่า "เวลาที่คนเราลงมือลงแรงทำอะไรบางอย่างนี่ ทำไปเพื่ออะไรได้บ้าง"


ใน gotoknow มีรางวัลสุดคะนึง ที่ทาง สคส. ได้พิจารณาและมอบให้ ตามเกณฑ์ที่วางไว้ ได้มีผู้ตั้งข้อสังเกตบางอย่าง นายบอนเลยหยิบมาเล่าสู่กันฟัง

"รางวัลนี้ เอื้อกลุ่มผู้ใช้หลักของ gotoknow เท่านั้นเองซึ่งเป็นกลุ่ม นักวิชาการ นักวิจัย ชาวมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่มีเวลาและโอกาสเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากรมากกว่าคนกลุ่มอื่นๆ แล้วผู้ใช้ทั่วๆไป นอกเหนือจากกลุ่มผู้ใช้หลัก  คงต้องใช้ความพยายามมากขึ้น หากจะเขียนบันทึก
เพื่อให้เข้า เกณฑ์ที่ตั้งไว้ เพื่อจะได้รับการพิจารณาในรางวัลสุดคะนึง"

 

"เอาแค่ การเขียนให้ได้อย่างน้อย เดือนละ 15 บันทึก และวัดจำนวนผู้คนที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นประกอบการตัดสินด้วย ถ้าไม่ใช่ผู้ใช้กลุ่มหลักแล้ว คงมีโอกาสน้อยที่จะลุ้นรางวัลนี้แน่ๆ เพราะยังไงก็ไม่เข้าเกณฑ์แน่นอน"

"บางคนนั้น การเขียนบันทึก 1 ชิ้น เขาต้องเรียบเรียง ถ่ายทอดสิ่งที่เขาได้พบเห็นออกมา  ซึ่ง 1 บันทึกของเขานั้น ได้ผ่านหลายสิ่งหลายอย่าง จนหยิบมากลั่นเป็นบันทึก 1 เรื่องออกมาได้ ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้หลัก มีประเด็นมากมาย ทั้งเหตุการณ์รอบตัว ความคิดเห็น นำมาบันทึกได้เรื่อยๆ ยิ่งอยู่ในสายวิชาชีพ อยู่ในสาขาความรู้ด้านเดียวกัน ยิ่งคุยกันสนุกมากขึ้น เป็นเงื่อนไขที่เอื้อให้บันทึกของกลุ่มผู้ใช้หลัก เข้าตามเกณฑ์การพิจารณารางวัลสุดคะนึงมากขึ้น"

นายบอนได้ยินข้อความข้างต้น เกิดมุมมองว่า แบบนี้ คงจะต้องมีการแบ่งรางวัลตามสาขาต่างๆแล้วล่ะครับ อย่างการมอบรางวัลต่างๆ ยังมีการแบ่งออกเป็นหลายสาขา แม้แต่ planet ยังแบ่งได้หลายอย่าง แต่รางวัลสุดคะนึง ยึดหลักเกณฑ์เดียว เพราะทีมงานที่ตัดสินรางวัลมีจำนวนจำกัด คงยากที่จะมาแบ่งรางวัลได้หลายๆสาขา นายบอนก็ชี้แจงไปในทำนองนี้ครับ

" แล้วทำไมเค้าไม่ระบุในเงื่อนไขไปเลยว่า รางวัลสุดคะนึง พิจารณามอบให้กับผู้ที่เขียนบันทึกในเนื้อหาประเด็นใดบ้าง ระบุให้ชัดเจนไปเลย เพราะข้อความที่เขียนมายังกว้างเกินไป ถ้าระบุไปว่า ด้านการบริหารจัดการ, ด้านสังคมศาสตร์และการพัฒนา, ด้านสุขภาพอนามัย ฯลฯ แบบนี้ ชัดเจน  เหมือนกับการประกวดรางวัลต่างๆ เค้ายังระบุมามาเลยว่า จะพิจารณารางวัลตามเกณฑ์แบบไหน ด้านใดบ้าง"

นายบอนได้ยินแล้ว เค้าคงอยากมีลุ้นในรางวัลบ้าง คงอยากได้รับความสนใจ การยอมรับ ฯลฯ

"ทำไม คนที่ทำงานในพื้นที่ มีเวลาเขียนบันทึกน้อย เข้ามาเขียนครั้งหนึ่ง ก็ต้องกลั่นกรองประสบการณ์ออกมา กลับไม่ได้รับรางวัลที่จะเป็นการเสริมกำลังใจในการทำงานที่เสียสละให้เพิ่ม ขึ้นนะ ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้หลัก ที่เขียนออกมาได้แบบลื่นไหล ใช้เวลาไม่นานนัก กลับอยู่ในข่ายที่ได้รับรางวัลมากกว่าล่ะ รางวัลนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มผู้ใช้หลักเข้ามาเขียนบันทึก ใน gotoknow อย่างเหนียวแน่น และต่อเนื่องตลอดไปใช่หรือไม่"

อือม... มุมมองน่าคิดเหมือนกันนะครับ เมื่อมองถึงเสน่ห์ของ gotokonw ในจุดนี้

หลังจากปล่อยให้เขาได้ให้ข้อสังเกตรางวัลสุดคะนึงในมุมมองของเขาแล้ว นายบอนเลยถามกลับไปบ้างว่า

นายบอน - "เวลาที่คนเราลงมือลงแรงทำอะไรบางอย่างนี่ ทำไปเพื่ออะไรได้บ้าง"

คู่สนทนา  -  " เพื่อหน้าที่ , เพื่อความสบายใจ, เพื่อความต้องการของตัวเอง, เพื่อความพอใจ, เพื่อทำตามความฝัน"

นายบอน - "อ้าว ไม่ได้ทำเพื่อรางวัลนี่นา...."

คู่สนทนา - " อือม บางทีรางวัล ก็เป็นเหมือนดาบสองคม นอกจากเป็นการส่งเสริมให้กำลังใจให้สร้างผลงานนั้น ให้ดีๆยิ่งขึ้นไป และอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความคิดเห็นที่แตกต่าง ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมตามเกณฑ์ในการพิจารณาให้รับรางวัลนั้น   "

นายบอน - " แล้วที่วิจารณ์มาเยอะแยะ ในช่วงก่อนหน้านี้  อยากได้รางวัลมากล่ะสิ "

คู่สนทนา - " ก็มีบ้าง ในเมื่อเข้ามาเขียนบันทึกใน gotoknow แล้ว ก็อยู่ในข่ายที่จะได้รับการพิจารณาเช่นกันนี่นา "

ในเวลานี้ เราคงต้องถามตัวเองแล้วว่า  "เวลาที่คนเราลงมือลงแรงทำอะไรบางอย่างนี่ ทำไปเพื่ออะไรได้บ้าง"




หมายเลขบันทึก: 39476เขียนเมื่อ 18 กรกฎาคม 2006 14:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
ขอบคุณมากมากค่ะ ดิฉันได้แจ้งคณะกรรมการ สคส. ให้ทบทวนเกณฑ์และรางวัลแล้วค่ะ http://gotoknow.org/ask/babykm/473

ดิฉันเขียนไป เขียนไป พร้อมกันกับมองตัวเองในการพัฒนา ภาษา อารมณ์ การปะทะสัมพันธ์กับผู้อื่น ในเชิงวิชาการ หยอกเอินกันบ้าง(หากคุ้นชิน)  เหลือบดูสถิติข้างขวามือบ้าง เพื่อกระตุ้นเตือนต่อมจินตนาการ ต่อมใฝ่รู้ ใฝ่รับ(เริ่มทำงานเมื่อยามอ่าน)  ต่อมพร้อมให้(เริ่มทำงานเมื่ออ่านมากเข้า มากเข้า)   เกณฑ์ที่สร้างขึ้นดิฉันมองว่าสอดรับกับ วัตถุประสงค์ของการก่อเกิด gotoknow  "สิ่งที่ดิฉันได้จากการลงมือลงแรงทำอะไรบางอย่างนี่ ใน gotoknow เพื่อได้พัฒนาตนเองโดยไม่ต้องไปเสียเงินซื้อหนังสือ ไม่ต้องไปเข้าหลักสูตรฝึกอบรมแพงๆ " ขอบคุณค่ะบันทึกนี้ ชอบมากค่ะ

ขอไม่ตอบคำถามนะครับ แต่เห็น "บางทีรางวัลก็เป็นเหมือนดาบ 2 คม" แล้วนึกถึงเรื่องความดีความชอบครับ คมแรก คนที่น่าจะได้แต่กลับไม่ได้ (ตัวเขา ภรรยา เพื่อนฝูง ไม่พอใจ ด่าผู้บริหารอยู่ประมาณ 6 เดือน) คมที่ 2 คนที่ไม่น่าจะได้แต่กลับได้ (ครูทั้งโรงเรียนด่าผู้บริหาร สังคม ชุมชน กล่าวขานไปตลอดชาติ) ผมเลือกคมแรกนะครับเพราะแผลเล็กกว่า
  • สำหรับ GotoKnow แล้ว...เรามาเขียนเพราะใจอยากจะเขียน เรามาอ่านเพราะใจเราอยากจะอ่าน เรามา ลปรร.เพราะใจเราอยาก ลปรร. .... แล้วเราก็จะได้คำตอบว่า เราได้ลงมือลงแรงทำอะไรบางอย่างนี่ "ทำไปเพื่อตามใจตัวเราเองค่ะ"
  • ส่วนเรื่องรางวัล ไม่ว่าจะให้ด้วยเกณฑ์อะไรก็ตาม ก็ย่อมต้องมีวัตถุประสงค์ในตัวของรางวัลเองอยู่แล้ว.....เป็นธรรมชาติค่ะ
  • พี่เม่ยขอชักชวนคู่สนทนาของนายบอนให้มาทำตามใจตัวเองกันดีกว่าค่ะ
  • ขอมองจากมุมของตนเองว่า ทีมงานสคส.ซึ่งเป็นผู้ตัดสินรางวัลว่าคงไม่ได้เอื้อให้กับผู้ใช้หลักของ gotoknow แน่นอน
  • การที่จะบันทึกได้มากหรือน้อยไม่เกี่ยวกัน แต่วัตถุประสงค์หรือหัวใจของ KM คือ ต้องการกระตุ้นให้ผู้คนบันทึกให้มากกว่าที่เคยเป็น
  • G2K มีความเข้าใจในอุปนิสัยคนไทย ที่ชอบพูด ชอบทำ แต่ไม่ชอบบันทึก ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ต้องพัฒนา
  • ตัวดิฉันเองก็เคยมีจุดอ่อนดังกล่าว แต่นับตั้งแต่รู้จัก G2K ดิฉันก็รู้ว่ามีเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่ผ่านมาที่เราไม่ได้จดบันทึกไว้ และ G2K ได้กระตุ้น ปลูกฝัง อุปนิสัยให้ดิฉันเป็นคนช่างคิด ช่างเขียนได้มากขึ้น
  • เห็นด้วยกับคุณพี่เม่ยในประโยคที่ว่า " เรามาเขียนเพราะใจอยากจะเขียน เรามาอ่านเพราะใจเราอยากจะอ่าน เรามา ลปรร.เพราะใจเราอยาก ลปรร. .... แล้วเราก็จะได้คำตอบว่า เราได้ลงมือลงแรงทำอะไรบางอย่างนี่ ทำไปเพื่อตามใจตัวเราเองค่ะ"
สำหรับผม มันเป็นการสรุปการทำงาน ซึ่ง เขียนเมื่อพร้อม อาจจะมาก หรือน้อย เข้าเกณฑ์ หรือไม่ ก็ว่ากันไป แต่ที่แน่ ๆ ผมเชื่อว่า มุมมองของผม งานของผม เป็นมุมมองและงานที่ คนอื่นเข้าไม่ถึงแน่นอน

สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนรู้จากการอ่าน   คือ  การได้พบการเขียนที่เป็นตัวของตัวเอง    เขียนด้วยใจ + ความเชื่อ + อิสระ (จากเกณฑ์ต่างๆนานา รวมทั้ง รางวัลสุดคะนึงด้วย) + ความสม่ำเสมอ + เรื่องราวที่เคยลงมือทำมาแล้ว   + อื่นๆ

เวลาเราทำอะไรแล้วใจเป็นอิสระ  ชีวิตนี้มันช่างน่าค้นหายิ่งนัก   

เขียนด้วยความอิสระ    ไร้กังวล  ไร้กรอบ  แต่ไม่เคยไร้ร่องรอยของการเรียนรู้

บางคนก็ถนัดเล่าเรื่องด้วยการพูด บางคนก็ถนัดเล่าเรื่องด้วยตัวหนังสือ หรือบางคนอย่างผมก็ถนัดเล่าเรื่องด้วยรูปภาพครับ เราแต่ละคนมีความถนัดและความชอบในสิ่งที่แตกต่างกัน

ผมเห็นด้วยกับคุณ Thawat KMI อย่างยิ่งเลยครับที่ท่านบอกว่า

"เวลาเราทำอะไรแล้วใจเป็นอิสระ  ชีวิตนี้มันช่างน่าค้นหายิ่งนัก   

เขียนด้วยความอิสระ    ไร้กังวล  ไร้กรอบ  แต่ไม่เคยไร้ร่องรอยของการเรียนรู้"

ผมว่าสิ่งนี้เป็นเป้าหมายหลักของ KM ครับ

เพราะทุกสิ่งที่ทุก ๆ ทำในบล็อคนี้ก็คือ "การเรียนรู้"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท