การจัดการความรู้ภาคนิสิต อนาคตที่ต้องร่วมกันหาคำตอบ


ดังนั้นผมจึงขอถามผู้อ่านทุกคนว่า ทำอย่างไร ที่การจัดการความรู้ในภาคนิสิต จะดำรงอยู่ และดำเนินต่อไป ด้วยเหตุและผล ของบริบทขั้นต้น ฝากคำถามให้คิดครับ เป็นเรื่องที่น่าห่วงนะครับ ฝากความวิตกของผมไว้ในจิตใจของทุกท่านนะครับ คิดคำตอบให้ผมด้วย ในส่วนของผมเองก็จะคิดเหมือนกัน มา ลปรร กันครับ
เสร็จไปอีกโครงการสำหรับโครงการ KM Workshop สำหรับผู้นำนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ครั้งที่ ๒ ณ ม.นเรศวร พะเยา
     ในการดำเนินงานการจัดการความรู้ในภาคของนิสิต ม.นเรศวรนั้น โครงการนี้เป็นโครงการที่อยู่ในแผนฯโครงการสุดท้ายครับ เพราะเราจัดมาแล้ว รวมโครงการนี้ด้วยก็ ๓ ครั้ง นั้นคือ
     KM Workshop สำหรับผู้นำนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ครั้งที่ ๑  ณ ม.แม่โจ้ เชียงใหม่
     KM Workshop สำหรับผู้นำนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ   ณ  ม.นเรศวร พิษณุโลก
     KM Workshop สำหรับผู้นำนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ครั้งที่ ๒ ณ ม.นเรศวร พะเยา
หลังจากนี้ไปหรือระหว่างช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางผมก็จะพยายามจัดการจัดการความรู้เข้าไปในเนื้อของโครงการ เช่น การปฏิบัติงาน การประชุม การสรุปผลโครงการ และวาระต่างๆ ทั้งนี้เพื่อ สร้างสภานิสิตให้เป็น หน่วยงานที่มีการจัดการเรียนรู้ แต่ทั้งนี้ต้องใช้เวลา
โครงการ KM Workshop สำหรับผู้นำนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ครั้งที่ ๒ ณ ม.นเรศวร พะเยา นั้นเสร็จสิ้นไปแล้วครับ โดยในโครงการนั้น เราระบุผู้เข้าร่วมเป็นตัวแทนชมรมด้านกีฬาจาก มน.พิษณุโลก คณะกรรมการการเลือกตั้งนายกองค์การนิสิต และ ตัวแทนจาก สภานิสิต องค์การนิสิต มน.พะเยา เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มาเข้าร่วม
อากาศที่พะเยาหนาวมากครับ แต่ทีมงานของเราอบอุ่นเหลือเกิน จากน้ำใจในการต้อนรับ และความช่วยเหลือต่างๆนาๆ จากสภานิสิต องค์การนิสิต กองกิจการนิสิต มน.พะเยา ที่ไม่ทอดทิ้งกัน และ ช่วยเหลือกันโดยตลอด

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทีมงานทุกท่านครับ ที่เดินร่วมทางกันมา และพร้อมจะเดินกับผมต่อไป

สำหรับสภานิสิตนั้น มีวาระแค่ปีเดียวครับ จากนั้นปีหน้าก็ต้องเลือกตั้งใหม่ ส่วนใครจะได้มาทำหน้าที่ นโยบายปีหน้าจะเป็นอย่างไร แล้วถ้าหากการจัดการความรู้ ไม่ได้เป็นนโยบายของสภานิสิตในวาระหน้า การจัดการความรู้ในภาคของนิสิตจะเป็นอย่างไร สิ่งที่เริ่มต้นมาในปีนี้ เงินลงทุนในโครงการหลายแสน ในวันนี้ผลตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของการจัดการความรู้ในภาคนิสิต ผมคิดว่าคุ้มค่ากับเงินลงทุนครับ แต่ถ้าหากปีหน้า นโยบายสภานิสิตไม่มีเรื่องเกี่ยวกับการจัดการความรู้ สิ่งที่ทำมาจะหายไปไหน หรือเงินที่ลงทุนจะตั้งสูญเปล่าเพราะไม่มีใครทำต่อ
สำหรับในวาระของผมนั้นจะดำเนินงานต่อไปจนถึงสิ้นสุดปีการศึกษานี้ ผมตั้งใจจะพัฒนากิจการนิสิต ให้พัฒนาในระดับที่มี ชุมชนนักปฏิบัติ (cop) ทั้งในส่วนของ มน.พิษณุโลก และ มน.พะเยา รวมถึง เครือข่ายสภานิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยอื่นๆ โดยเฉพาะเครือข่าย สภาเทางาม ที่เป็น มศว เก่า คาดว่าก่อนหมดวาระ น่าจะมีผลออกมาได้ในระดับหนึ่งครับ
ต้องเรียนให้ผู้อ่านทราบก่อนว่าหน้าที่หลักของสภานิสิตนั้น คือ การตรวจสอบ ประเมินผล พิทักษ์สิทธิ พิจารณางบประมาณ และอื่นๆ ในส่วนการจัดการความรู้นั้น เป็นวิสัยทัศน์ของสภานิสิตในรุ่นนั้นๆที่จะเพิ่มเข้ามา ดังนั้นด้วยความที่ การจัดการความรู้ไม่ใช่หน้าที่หลักของสภานิสิต ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากที่การจัดการความรู้ในภาคกิจการนิสิตในปีการศึกษาหน้าจะไม่อยู่ในนโยบายของสภานิสิตสมัยหน้า
ดังนั้นผมจึงขอถามผู้อ่านทุกคนว่า ทำอย่างไร ที่การจัดการความรู้ในภาคนิสิต จะดำรงอยู่ และดำเนินต่อไป ด้วยเหตุและผล ของบริบทขั้นต้น ฝากคำถามให้คิดครับ เป็นเรื่องที่น่าห่วงนะครับ ฝากความวิตกของผมไว้ในจิตใจของทุกท่านนะครับ คิดคำตอบให้ผมด้วย ในส่วนของผมเองก็จะคิดเหมือนกัน มา ลปรร กันครับ

เราสร้างมากับมือ เราจะไม่ทิ้งมัน เราจะมอง เราจะสู้ และเดินไปด้วยกัน

 

link to My Spaces
หมายเลขบันทึก: 65643เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2006 23:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม 2012 22:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
เรา....ว่านะ  เราควรมีการนำนิสิตที่จะดำรงตำแหน่งในปีต่อไปเข้าร่วมสัมมนาด้วยอ่ะค่ะ   อย่างน้อย น้อง ๆ ก็จะได้มีพื้นฐานในการคิดวางแผนบ้าง  ใช่ว่าเราจะถ่ายทอดความรู้แบบวิชาการอย่างเดียว  คนเรา...ประสบการณ์ดีมากกว่าคำสอน อ่ะค่ะ    คิดงั้นน่ะ....    ไม่งั้นพี่ปืนก็ดำรงตำแหน่งอีกปีซิค่ะ  ความรู้จะได้ไม่หายไป  แล้วรีบถ่ายทอดความรู้น่ะ

ปืน ลองหาโอกาสนัด คุณต้นไม้ อ.อรรถวุฒิ เพื่อน ๆ นิสิตที่สนใจในเรื่องนี้มาทานข้าวกลางวันด้วยกันที่ QAU สักครั้ง สองครั้ง อาจจะได้ idea ดี ๆ จากการช่วยกันคิดก็ได้นะ

หมูน้อยมีความคิดเหมือน ท่าน ผศ.ดร.วิบูลย์ นะปืน ว่าควรหาโอกาสนัดคนที่เค้าสนใจในเรื่องของการจัดการความรู้ เพื่อพูดคุยกัน จะได้มีคนช่วยคิด หลายคนหลายความคิดเมื่อนำมารวมกันแล้ว อาจมีทางออกที่ดีก็ได้นะ

เห็นด้วยกับท่านอาจารย์ วิบูลย์ค่ะ มน.เราเป็นมหาวิทยาลัย ที่ทำ KM แทบจะทุกอณูอยู่แล้ว ก็ควรใช้ KM ดู   

แล้วที่ น้อง มน.พะเยา เสนอก็ดีนะค่ะ คือสร้างทายาทมาคอยเรียนรู้งานในกองกิจการนิสิต และสภานิสิตตั้งแต่ ปี 1 แล้วน้องๆ เหล่านี้ก็จะซึบซับความสำคัญของการจัดการความรู้เอง แล้วเค้าก็จะพัฒนางานนิสิตจากกระบวนการจัดการความรู้เอง

  • เห็นด้วยกับอาจารย์วิบูลย์ค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท