ดอกไม้


ธีรเดช
เขียนเมื่อ

สัปดาห์ที่ 5 วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2556

  สัปดาห์ที่ 5 นี้ ในด้านการปฏิบัติการสอน ได้สอนวันจันทร์กับวันอังคาร ส่วนวันพุธถึงวันศุกร์ นักเรียนและคุณครูจัดโครงการค่ายพุทธบุตร-ธรรมจารินี ณ วัดเก็ตโฮ่ (วัดอนุภาษกฤษฎาราม) เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน                                                

        สำหรับรายวิชาเคมีพื้นฐาน ของนักเรียนชั้น ม.4/2 หลังจากได้เรียนจบในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องธาตุและสารประกอบ ก็ได้ทำแบบทดสอบวัดผลนักเรียนในหน่วยการเรียนรู้นี้ในช่วง 30 นาทีของชั่วโมงแรก และต่อด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้เรื่อง ความหมายของปฏิกิริยาเคมี การเกิดปฏิกิริยาเคมี  สมการเคมี  และพลังงานกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี จากการจัดการเรียนรู้สำหรับนักเรียนสายศิลป์ต้องค่อยเป็นค่อยไป นักเรียนเข้าใจบทเรียนได้ช้า ต้องพยายามสอนให้ช้าลง และยกตัวอย่างมากขึ้น เพื่อให้นักเรียนเข้าใจได้ง่ายขึ้น หมดเสียงเลยเหมือนกันเพราะคาบนั้นไมค์เสีย

        สำหรับรายวิชาโลกดาราศาสตร์พื้นฐาน นักเรียนชั้น ม.5/1 และ ม.5/2 สัปดาห์นี้ก็เข้าสู่เนื้อหาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ดาวฤกษ์ แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง ระยะห่างของดาวฤกษ์  ในเนื้อหาสาระเรื่องนี้นักเรียนค่อนข้างเข้าใจยากพอสมควร เพราะต้องใช้คณิตศาสตร์มาอธิบาย โดยต้องคิดจินตนาการด้วย โดยมีการทดลองเพื่อให้นักเรียนสามารถเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เกี่ยวกับปรากฎการณ์แพรัลแลกซ์  โดยใช้มือถือปากกา ยื่นไปข้างหน้าให้สุดแขน แล้วสังเกตวัตถุ เปรียบเทียบกับวัตถุอื่น หรือตำแหน่งอ้างอิง โดยใช้นัยน์ตาทีละข้าง ก็สามารถที่จะอภิปรายและตอบคำถามและสรุปได้

4
0
ธีรเดช
เขียนเมื่อ

สัปดาห์ที่ 6 วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2556

  สัปดาห์ที่ 6 สัปดาห์นี้ไม่ได้สอนเลย เนื่องด้วยทางเทศบาลนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการจัดการแข่งขันทักษะทางวิชาการ ระดับภาคใต้ขึ้น ระหว่างวันที่ 17 – 20 มิถุนายน 2556 ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งทางโรงเรียนได้เป็นตัวแทนเข้าร่วมแข่งขันทักษะทางวิชาการในครั้งนี้ และคณะครูต้องนำนักเรียนระดับมัธยมศึกษาไปเข้าร่วมแข่งขันทักษะจึงไม่สามารถทำการเรียนการสอนได้ ดังนั้นทางโรงเรียนจึงจำเป็นต้องปิดการเรียนการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ในระหว่างวันที่ 17 – 20 มิถุนายน 2556

  สำหรับทักษะทางวิชาการด้านโครงงานที่ไปแข่งขัน  ก็ได้เหรียญทองมา ถือเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งของคนเป้นครูที่นักเรียนได้เหรียญทองมา เพราะนักเรียนทำงานหนัก ทุ่มเท ฝึกฝน ฝึกซ้อมจนหมดเสียงกันไปเลยทีเดียว สุดท้ายก็ได้ไปต่อที่อิมแพค เมืองทองธานี

  ส่วนวันศุกร์ ที่ 21 มิถุนายน 2556 ก็เปิดเรียนตามปกติ แต่ก็ไม่ได้สอนอีก เพราะวันศุกร์ไม่มีคาบสอน สรุปสัปดาห์นี้ผมไม่ได้สอนเลย แต่ก็มีงานโดยการปรับปรุงและพัฒนาห้องวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นโครงการของผมและเพื่อนๆนักศึกษาปฏิบัติการสอน


2
1
สุนิสา ทองชุม
เขียนเมื่อ

สัปดาห์ที่ 5 วันที่ 10-14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

        สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่เช้าวันจันทร์ก็ต้องปฏิบัติหน้าในการยืนเวรหน้าประตูโรงเรียนเหมือนกับสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไปยืนเวรหน้าประตูได้ไม่นานฝนก็ตกเพราะในช่วงนี้จ.ภูเก็ต เข้าสู่ฤดูฝนตั้งแต่ เดือน พฤษภาคม ถึง เดือนตุลาคม การเดินทางไปโรงเรียนในแต่ละวันก็ต้องฝ่าสายฝนไปเพราะมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ คือการสอนนักเรียน ทุกวัน ถึงแม้ฝนจะตกหนักทุกวันแต่มันก็ไม่ใช่อุปสรรคในการทำงาน สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่มีความรู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นครูมากเพราะเป็นสัปดาห์ของการไหว้ครู สัปดาห์นี้วันพฤหัสบดีเป็นวันที่น่าภูมิใจและแอบดีใจ ภาคภูมิใจในการที่เลือกเรียนครู มีความรู้สึกตื่นตันใจมากเมื่อทางโรงเรียนได้ให้เกียรตินักศึกษาฝึกสอนขึ้นไปนั่งทำพิธีการไหว้ครูเหมือนกับคุณครูในโรงเรียน เมื่อตัวแทนนักเรียนสายชั้น ป.6 นำพานดอกไม้มอบให้และก้มลงกราบคุณครูความรู้สึกตอนนั้นไม่สามารถที่จะบรรยายออกมาได้ ครั้งหนึ่งเราเคยทำแบบนี้ให้กับคุณครูที่ท่านสอนเราแต่วันนี้เรากลับมีลูกศิษย์นำพานดอกไม้มาไหว้เมื่อนักเรียนก้มลงกราบคุณครูมีแอบน้ำตาคลอนิดๆ ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงน้ำตาไหล เมื่อเสร็จพิธีการไหว้ครู ก็ปฏิบัติหน้าที่ในการสอนตามปกติวันนี้เป็นวันที่นักเรียนมาตามไปสอนอีกตามเคยแต่ตอนนั้นยังไม่ถึงเวลาสอน นักเรียนมาหาที่ห้องวิทย์ซึ่งเป็นห้องที่ทางโรงเรียนจัดให้นักศึกษาฝึกสอนนั่ง คำพูดที่นักเรียนพูดคือ ครูหนูมาตามครูไปสอนแล้วดิฉันได้ตอบไปว่ามีอีกตั้ง 20 นาที ยังไม่ถึงเวลาสอนเลย นักเรียนเลยตอบไปว่าหนูคิดถึงครูเลยมาหาครูก่อน เมื่อสอนนักเรียนห้อง ป.6/4 เสร็จมีนักเรียนผู้หญิงคนนึงชื่อเล่นว่า จิ๊บ ตะโดนเรียนว่า ครูสุหยุดก่อนแล้วจิ๊บก็มองหน้าแล้วยิ้มแบบเขินๆ แล้วบอกว่าครูหนูมีอะไรจะให้แล้วยื่นดอกกุหลาบมาให้ดิฉัน แล้วบอกกับดิฉันว่าหนูตั้งใจซื้อมาให้ครูสุนะ ดิฉันพูดไรไม่ออกอึ้งอยู่พักนึงแล้วก็ได้อวยพรกับจิ๊บไป ก่อนดิฉันไปกินข้าวในตอนเที่ยงมีเด็กผู้หญิงสองคนห้องป.6/3 ชื่อ มะเหนี่ยวและบีบี เดินเอาการบ้านมาส่ง พร้อมกับถือดอกกุหลาบมาคนละดอกและมอบให้กับดิฉัน พอเข้าสอนในคาบห้าขณะเดินไปสอนนักเรียนป.6/5 สองคนเรียกแล้วนำดอกไม้และมาลัยมาไหว้ ดิฉันก็ให้คำอวยพรกับเด็กๆ ในชีวิตของการเริ่มต้นการเป็นครูเมื่อมีลูกศิษย์นำดอกไม้มามอบให้ก็ดีใจมาก แต่จะดีใจและภาคภูมิใจที่ความเป็นครูที่สุดเมื่อลูกศิษย์สอบเข้าในโรงเรียนที่ดีๆและได้ดี



3
0
ธีรเดช
เขียนเมื่อ

สัปดาห์ที่ 2 วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2556

  นอกจากภาระงานที่กล่าวไปในสัปดาห์ที่ 1 แล้ว สำหรับสัปดาห์ที่ 2 นี้ มีภาระงานเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง คือ การติวนักเรียนที่แข่งขันตอบปัญหาวิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมปลาย จำนวน 2 คน โดยรับผิดชอบในเนื้อหา สาระ ดาราศาสตร์ โดยจะติวในช่วงเวลาเช้าก่อนเข้าเรียน

  สำหรับงานในหน้าที่ครูผู้สอน สัปดาห์ที่สองนี้ สอน 3 แผนด้วยกัน

  1.แผนการเรียนรู้ เรื่อง กำเนิดอนุภาคในเอกภพวิชาโลกดาราศาสตร์ (พฐ) ใช้สอนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 และ 5/2 สิ่งที่ประทับใจสำหรับนักเรียนทั้ง 2 ห้องนี้ ในส่วนของกระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นสร้างความสนใจ มีกิจกรรมการวาดภาพเอกภพตามจินตนาการของตนเอง โดยแบ่งเป็นกลุ่ม แล้วออกนำเสนอ ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้นักเรียนคิดและสร้างจินตนาการ ซึ่งนักเรียนก็มีความสุข สนุกสนาน นักเรียนจะตั้งใจฟังเวลาสอน นักเรียนจะมีคำถามที่เกี่ยวกับเนื้อหาในบทเรียนถามครูเสมอ

  2.แผนการเรียนรู้ เรื่อง สัญลักษณ์นิวเคลียร์  และการจัดเรียงอิเล็กตรอน วิชาเคมี (พฐ) ใช้สอนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 และ 4/2 สำหรับเนื้อหาสาระ ในเรื่องของสัญลักษณ์นิวเคลียร์ และการจัดเรียงอิเล็กตรอนนี้ นักเรียนจะสนใจและตั้งใจฟัง เพราะครูบอกว่าถ้านักเรียนเข้าใจวันนี้ นักเรียนก็จะไม่เข้าใจเรื่องนี้ไปตลอดชีวิต(ขำๆ) แต่จริงๆแล้ว ครูจะมีกิจกรรมให้นักเรียนออกมาเติมอนุภาคมูลฐาน รวมถึงการจัดเรียงอิเล็กตรอนในกระดาน ที่ครูสร้างแบบฝึกไว้ให้ โดยจะมีการสุ่มเรียกชื่อให้ออกมาทำ นักเรียนจะรู้สึกว่าตัวเองถูกกระตุ้นอยู่เสมอ และจะมีการบ้านเป็นแบบฝึกและแบบทดสอบให้เสมอ เมื่อนักเรียนทำไม่ได้หรือไม่เข้าใจ ก็จะมาถามครูหรือไม่ก็เฉลยร่วมกันในคาบต่อไป

  3.แผนการเรียนรู้ เรื่อง ตารางธาตุ วิชาเคมี (พฐ) สอนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 สิ่งที่ทำให้เรียนรู้ในวันนี้ว่า การที่จะทำให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหามากที่สุด คือ การที่นักเรียนทุกคนได้ออกมาทำกิจกรรมหน้าชั้นเรียน โดยอาจจะเป็นแบบฝึก แบบทดสอบ การสรุปเนื้อหา ใจความสำคัญ โดยจะสุ่มเรียกชื่อนักเรียน เป็นการกระตุ้นนักเรียนอยู่เสมอ ฝึกให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ กล้าแสดงออก เป็นคนช่างคิดช่างสงสัย


4
0
ธีรเดช
เขียนเมื่อ

สัปดาห์ที่ 3 วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2556

  สำหรับสัปดาห์ที่ 3 ของการปฏิบัติการสอนในโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ ทำให้ตัวตัวเองลืมคำว่าเหนื่อยออกไปจากกายเลย ตั้งแต่สัปดาห์แรกและสองที่รู้สึกเหนื่อยและท้อ อาจจะเกิดจากเรายังสบาย สนุกอยู่กับการสอนพิเศษเด็กๆ พักผ่อนช่วงปิดเทอม และเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จากสัปดาห์ที่สองเป็นต้นมา จนถึงวันนี้ ไม่มีวันหยุดสำหรับครู มาโรงเรียนตั้งแต่เช้า กลับ 3-4 ทุ่ม นี่แหละคือเหตุผลที่บอกว่าลืมคำว่าเหนื่อยไปเลย และเริ่มจะชอบ สนุกขึ้น ได้ทำอะไรที่อยู่แบบไม่สบาย รู้สึกว่าตัวตนของตัวเองเริ่มจะกลับมา รู้สึกว่ามาปฏิบัติการสอนต้องทำอะไรอย่างนี้แหละ ใช่เลย ไม่ใช่แค่งานสอนเพียงอย่างเดียว แต่มีงานวิชาการต่างๆอีกเยอะแยะ

  สำหรับสัปดาห์ที่ 3 นี้ในด้านการปฏิบัติการสอนเป็นไปอย่างไม่ค่อยจะเต็มที่และราบรื่น เพราะทั้งครูและนักเรียน อยู่ในช่วงของการทำโครงงาน และเตรียมงานต่างๆ  ยุ่งกันอุตลุด ทุกกลุ่มสาระ ตัวอย่างห้องนักเรียนที่ผมสอน ม.4 และ ม.5 เวลาเข้าสอนมีนักเรียนไปอบรม ไปติว ไปนศท ไปทำโครงงาน สำหรับโครงงานเข้าใจดีเลย เพราะช่วยทำโครงงานวิทยาศาสตร์มอปลาย และยังติวนักเรียนที่จะไปแข่งขันตอบปัญหาวิทยาศาสตร์ งานต่างๆที่ทั้งครูและนักเรียนยุ่งๆกันช่วงนี้ เพื่อเตรียมตัวไปงานมหกรรมแข่งขันทักษะวิชาการ ซึ่งเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จะเป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ 9 ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 18 -20 มิถุนายน 2556 ณ สวนศรีธรรมาโศกราช ในด้านการสอนเลยไม่ค่อยลงลึกเนื้อหาเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะสั่งงานให้นักเรียนสรุป และทำแบบฝึกและคำถามท้ายบท โดยบอกเพื่อนๆให้ทราบด้วย เพราะว่ายังขาดนักเรียนอีกหลายคนที่ไม่ได้เข้าเรียน ผมก็สอนไม่เต็มที่ด้วย เพราะต้องอยู่ช่วยทำโครงงานกับนักเรียน แต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้ราชการเสียหาย สำหรับสัปดาห์นี้ก็นำภาพบรรยากาศนอกเหนือจากห้องเรียนมาบ้า

 


9
0
จันทรา หลานหมีน
เขียนเมื่อ

สวัสดีค่ะ สัปดาห์ ที่ 3 ของครูฝึกสอน 

   สิ้นเดือนพอดีเมื่อเสร็จ 3 สัปดาห์ สัปดาห์นี้ดิฉันได้สอนเต็มรูปแบบ ครบทุกคาบ จากที่ได้สอนเด็ก ม.1 และ ม.2 ดิฉันมีปัญหาอย่างมากกับเรื่องจัดการเวลาการเรียนรู้ให้กับเด็กๆเพราะบางวันมีคาบที่ต้องทดลองเพื่อให้เด็กสนุกและเข้าใจการเรียนมากขึ้นจึงต้องไปที่ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ แต่เนื่องด้วยเวลามีแค่ 50 นาที กว่าเด็กจะเดินมาถึง เพราะคนละอาคารกับคาบแรกที่เด็กเรียนและยังต้องขึ้นมาชั้นสี่ ทำให้เสียเวลามาก เมื่อทดลองบางกลุ่มก็ทำไม่เสร็จ 

แต่ดิฉันรีบตัดบทสรุปให้เด็กๆฟัง ก่อนจะออกจากห้องแต่บางคนก็ยังไม่ทันรู้เรื่อง แต่คาบหน้าดิฉันจะสรุปให้ฟังและทำแบบฝึกหัดกัน 

      ตอนนี้ได้รับมอบหมายให้ติวเด็ก ม.ต้นไปแข่งขันวิชาการ ติวตอนเช้า และหลังเลิกเรียนกลับบ้านก็หกโมงทุกวันแต่ก็สนุกดีค่ะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเด็กๆเพราะคนที่มาติวนั้นเป็นคนเก่งของสายชั้นสามคนซึ่งดิฉันดูข้อสอบแล้วค่อนข้างยากและลึกมากแต่ดิฉันไม่เคยติวให้ใครมาก่อน และได้บอกเด็กๆไปแล้วว่า คุณครูไม่เก่งนะ ไม่รู้ไปหมดทุกอย่างสิ่งไหนพออธิบายได้ก็จะอธิบายให้แต่ถ้าครูพูดผิดก็บอกได้เลยนะ เรามาแลกเปลี่ยนกัน ทำให้เด็กๆและดิฉันสนุกกับการนั่งพูดคุยในด้านวิชาการค่ะ

7
0
จุรีรัตน์ คงมีชัย
เขียนเมื่อ

อนุทินสัปดาห์ที่ 2 วันที่ 20-23 พ.ค.56

ดิฉันนางสาวจุรีรัตน์ คงมีชัย นักศึกษาฝึกสอน โรงเรียนบ้านทุ่งคา บุญยขจรประชาอาสา

                สำหรับสัปดาห์ที่2 ได้สอนมากยิ่งขึ้น ทั้งระดับชั้น ป.1 ป.2 และ ป.3 ซึ่งการสอนจะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามระดับชั้น  โดยเฉพาะนักเรียนระดับ ป.1 หากมีการใช้แรงจูงใจในการสอนมาก นักเรียนจะตั้งใจเรียน เราต้องคอยพูดในเชิงบวกกับนักเรียนเหล่านั้น เพราะเขายังค่อนข้างบอบบาง ไม่ควรพูดในเชิงปฏิเสธ หรือห้าม แต่ก็ต้องบอกเขาในทางที่ถูกอย่างอ่อนโยน 

              ปัญหาสำคัญที่พบในการสอนคือ ปัญหาเรื่องเสียง ดิฉันจะเป็นคนที่ค่อนข้างเสียงเบา พูดไม่ค่อยดัง ยังควบคุมนักเรียนไม่ค่อยได้  ยังใช้เสียงต่ำสูง ได้ไม่ดี เพราะเมื่อตะโกนมากๆจะเจ็บคอ โดยเฉพาะกับนักเรียนชั้น ป.3 ที่ค่อนข้างจะดื้อ พูดกันเสียงดังมาก ดิฉันก็ต้องปรับปรุงในเรื่องนี้ต่อไป นอกจากนี้สัปดาห์ที่ 2 ก้อยังเป็นสัปดาห์ของการเลือกชุมนุมของนักเรียน ซึ่งดิฉันได้อยู่ชุมนุม "รอบรู้อาเซียน" ร่วมกับครูพี่เลี้ยง 

               และเนื่องจากวันศุกร์ที่ 24 เป็นวันวิสาขบูชา ทางโรงเรียนได้มีการพานักเรียนชั้น ม1 ม.2 และ ม.3 ไปเวียนเทียนที่สำนักสงฆ์สามัคคีสามกอง เพื่อเป็นการปลูกฝังให้นักเรียนมีใจรักในพุทธศาสนา


พานักเรียนชั้น ม.ต้น ไปเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชา ณ สำนักสงฆ์สามัคคีสามกอง





6
0
จุรีรัตน์ คงมีชัย
เขียนเมื่อ

อนุทินสัปดาห์ที่ 3 วันที่ 27-31 พ.ค. 2556

ดิฉัน นางสาวจุรีรัตน์ คงมีชัย นักศึกษาฝึกสอน โรงเรียนบ้านทุ่งคา "บุญยขจรประชาอาสา"

                  สำหรับสัปดาห์ที่3 เป็นสัปดาห์สุดท้ายของเดือนแรก ในสัปดาห์นี้ค่อนข้างจะวุ่นวายหน่อย เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตารางเรียนใหม่ เนื่องจากโรงเรียนบ้านทุ่งคามีการจัดการเรียนรู้ร่วมแบบการเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม ของโรงเรียนไกลกังวล ซึ่งตารางเรียนของนักเรีบยนเทอมนี้ไม่ค่อยตรงกับการถ่ายทอดสดของวังไกลกังวล จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงตารางเรียนใหม่เพื่อให้ตรงกับการถ่ายทอดสดมากขึ้น และเริ่มใช้ตารางเรียนใหม่ทันที 

                  สัปดาห์ที่3 หลายอย่างเริ่มลงตัวมากขึ้น ดิฉันได้สอนอย่างเต็มที่ แต่หากรายวิชาตรงกับการถ่ายทอดสดของวังไกลกังวลก็จะเรียนกับทีวี แต่ดิฉันก้อจะคอยดูและพูดซ้ำอยู่ข้างๆ เริ่มคุ้นเคบกับโรงเรียนมากขึ้น แต่ดิฉันก้อยังมีปัญหาเดิมคือ เรื่องการใช้เสียง แต่ก็พยายามแก้ปัญหาอยู่

                 ทุกวันศุกร์ก็มีการสวดมนต์ตอนบ่าย โดยจะแยกนักเรียนที่นับถือศาสนาพุทธกับนักเรียนที่นับถือศาสนาอิสลาม ต่างแยกไปทำพิธีทางศาสนาของตัวเอง เพื่อปลูกฝังการรักในศาสนาของตัวเอง และเพื่อนเป็นการพบปะพูดคุยกันระหว่างครูและนักเรียนทั้เงโรงเรียน

5
0
ศิริมา ยี่สิ้น
เขียนเมื่อ

สัปดาห์ที่ 3 กับการเป็นนักศึกษาฝึกสอนในโรงเรียน ก้อได้สอนเต็มรูปแบบ และในการสอนในสัปดาห์ที่3 

นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ค่อยส่งงาน ห้องหนึ่งมีประมาณ 50 กว่าคน แต่นักเรียนส่งงานแค่ห้องหนึ่งประมาณ

20 เล่ม ซึ่งตอนนี้ก็ยังแก้ปัญหาโดยการ ที่ไปชี่นักเรียนแต่ละห้องให้ส่งงานให้ครบ และมีครูพี่เลี้ยง

มาพูดกับนักเรียนให้ส่งงานให้ครบ แต่ก็ยังไม่ค่อยได้ผล แต่ตอนนี้อย่างอื่นก็เป็นไปด้วยดีและในการสอนแต่คาบ

บางครั้งก็สอนไม่ค่อยทัน เพราะคาบหนึ่งมี 50 นาที แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะสามารถต่อยอดได้ในคาบหน้า


4
0
จุรีรัตน์ คงมีชัย
เขียนเมื่อ

ดิฉัน นางสาวจุรีรัตน์ คงมีชัย นักศึกษาฝึกปฏิบัติการวิชาชีพครู โรงเรียนบ้านทุ่งคา บุญยขจรประชาอาสา

             สำหรับอาทิตย์แรกของการเข้าสู่รั้วโรงเรียนนั้นแน่นอนเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นของนักศึกษาทุกคน โรงเรียนที่ดิฉันเลือกไปคือ โรงเรียนบ้านทุ่งคา บุญยขจรประชาอาสา เหตุผลที่เลือกโรงเรียนนี้เพราะมีความตั้งใจไว้แล้วว่าอยากไปโรงเรียนเล็กๆ ที่ทุกคนอยู่แบบกันเอง ซึ่งดิฉันไม่เคยมาโรงเรียนนี้ แต่ฟังจากเพื่อนที่เคยมาแล้ว บอกว่าน่าอยู่ ครูทุกคนน่ารัก

              เมื่อได้มาอยู่ในโรงเรียนวันแรกก้อได้เจอกับสมาชิกนักศึกษาทั้งกลุ่มสังเกตการสอน และกลุ่มฝึกสึกสอน เข้าห้องประชุมเพื่อพบผู้อำนวยการโรงเรียน แจ้งชื่อครูพี่เลี้ยง แจ้งระดับชั้นที่ต้องสอน ทำความเข้าใจในเรื่องของกฏ ระเบียบ ต่างๆมากมาย ซึ่งระดับชั้นที่ดิฉันได้สอนคือระดับชั้น ป.1, ป.2 และ ป.3 และทำหน้าที่ประจำชั้นระดับ ห้อง ป.3 

             ซึ่งสัปดาห์แรกดิฉันยังไม่ได้สอนเต็มตัว เพราะครูพี่เลี้ยงต้องการให้ศึกษาเนื้อหาวิชาก่อน แล้วค่อยสอนจริงในอาทิตย์หน้า แต่การได้มาอยู่โรงเรียนนี้ดิฉันได้ทำงานหลายอย่าง หลายหน้าที่ ทั้งจัดโต๊ะให้นักเรียนก่อนโรงเรียนเปิด ทำความสะอาดห้องเรียน ช่วยงานห้องสมุดโรงเรียน เป็นต้น  เพราะเป็นโรงเรียนเล็กๆ ครูไม่เยอะ เมื่อมีอะไรหลายๆฝ่ายก็จะช่วยเหลือกัน อยู่กันแบบกันเอง คุณครูหลายท่านเลยมักจะขอความช่วยเหลือจากนักศึกษาฝึกสอนอยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ดิฉัน และเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณครูในโรงเรียน



 1 วันก่อนโรงเรียนเปิด แกะโต๊ะใหม่ พร้อมจัดห้องประจำชั้นให้นักเรียนชั้น ป.3



      ห้องประจำชั้น นักเรียนชั้น ป.3

6
0
สุมลฑา พลรัตน์
เขียนเมื่อ

ดิฉันนางสาวสุมลฑา   พลรัตน์  นักศึกษาฝึกสอนโรงเรียนพุทธมงคลนิมิตร

วันที่14พฤษภาคม พ.ศ.2556 เป็นวันเเรกที่ทำให้ชีวิตของดิฉันเปลี่ยนแปลง คือ จากการเป็นนักศึกษาที่นั่งเรียนในห้องเรียนฟังเเละจดตามที่อาจารย์สอนในห้องเรียน วันไหนนึกอยากจะไปเรียนก็ไปเรียนวันไหนไม่อยากเรียนก็นอนอยู่หอหรือไม่ก็นั่งโม้กับเพื่อนๆ   แต่วันนี่ดิฉันได้กลายมาเป็นครูฝึกสอนต้องตื่นเเต่เช้าเพื่อมาโรงเรียนก่อน07.30จากเมื่อก่อนตื่น08.00ก็ไปเรียนทันบางวันก็นอนตื่นตอนเที่ยงไปเลยในวันนี้เราต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นจากต้องรับผิดชอบเเค่ชีวิตตัวเองเราต้องมารับผิดชอบนักเรียนอีกจำนวนมากมายเราต้องสอนให้นักเรียนเป็นคนเก่เเละเป็นคนดีให้ได้

โรงเรียนพุทธมงคลนิมิตร มีนักศึกษาฝึกสอน 4 คน ซึ่งเป็นสาขาวิทยาศาตร์ทั่วไป 2 คน เเละสาขา คอมพิวเตอร์ศึกษา 2 คน นักศึกษาสังเกตการสอน 12 คน โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่มีนักศึกษาฝึกสอนน้อยมากไม่เหมือนโรงเรียนอื่นๆในจังหวัดภูเก็ต เพราะไม่มีให้เลือกในใบเลือกโรงเรียนฝึกสอนเพราะโรงเรียนไม่ผ่าน สมศ. แต่พวกเราไปขออาจารย์จากฝ่ายฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูไปฝึกสอน แต่ตอนนี้ทางโรงเรียนได้บอกกับพวกเราว่า ตอนนี้โรงเรียนผ่านตัวบ่งชี้ที่ 5เเล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำยืนยันจาก สมศ. 

วันที่14พฤษภาคม พ.ศ.2556เป็นวันเเรกของการเดินเข้าสู่รั้วโรงเรียนพุทธมงคลนิมิตดิฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะไม่รู้จักกับครูในโรงเรียนมาก่อนเเละไม่รู้ว่าอาคารต่างๆห้องวิชาการอยู่ตรงไหน  ดิฉันในฐานะครูวิทยาศาสตร์ก็เดินไปที่ห้องวิทยาศาสตร์เป็นลำดับเเรก เพราะห้องนี้เป็นห้องเดียวที่ดิฉันรู้จักในโรงเรียนนี้ิพราะดิฉันเคยมาจัดกิจกรรมให้กับนักเรียนในห้องนั้น เดินไปถึงก้อเจอครูก้อเลยถามทางไปห้องวิชาการ เมื่อไปถึงห้องวิชาการหัวหน้าวิชาการก็ได้ชี้เเจงรายละเอียดต่างๆให้ทราบเเละเเนะนำให้รู้จักกับครูพี่เลี้ยงดิฉันได้ครูพี่เลี้ยงที่น่ารักใจดีมาก เมื่อได้รู้จักกับครูพี่เลี้ยง ครูพี่เลี้ยงก็มอบหมายให้ดิฉันได้สอน ชั้น ป.4 

วันที่ 16พฤษภาคม พ.ศ.2556วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของปีการศึกษานี้ ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะเราต้องมาเจอกับครูและนักเรียนซึ่งเป็นคนที่ดิฉันไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่เราต้องปรับตัวให้เข้ากับบุคคลเหล่านี้ให้ได้ วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดเรียนสองคาบแรกนักเรียนจะต้องไปพบครูที่ปรึกษาและทำความสะอาดห้องเรียน ครูพี่เลี้ยงของดิฉันก็เป็นครูปรึกษาชั้น ม.3/3 ซึ่งดิฉันจะต้องไปพบนักเรียนชั้น ม.3/3กับครูพี่เลี้ยงด้วย ดิฉันรู้สึกกลัวมากที่ต้องไปพบกับนักเรียนชั้น ม.3 เพราะนักเรียนในระดับนี้เป็นนักเรียนที่โตมากแล้วและคิดว่าเะมีอายุห่างกับเราไม่มากแล้วคิดว่าพวกเขาคงไม่เกรงใจเราแน่เลยจึงทำให้ดิฉันรู้สึกกดดันมาก พอตอนบ่ายไปสังเกตการสอนนักเรียนชั้น ม3/1ของครูพี่เลี้ยงเพื่อมาใช้เป็นแนวทางการสอนและมาปรับใช้เป็นของตัวเองทำให้รู้สึกกดดันเพิ่มขึ้น เพราะต้องเจอกับ ม3 อีกแล้ว  คาบหลังจากไปสังเกตการณ์สอนของครูพี่เลี้ยงแล้วคราวนี้ถึงคาบที่เราต้องไปสอนนักเรียน ชั้น ป.4/3ของฉันเองแล้วแต่ก็ยังตื่นเต้นเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ไปพบกับนักเรียน แต่การสอนครั้งแรกนี้ดิฉันไปกับครูพี่เลี้ยง ครูพี่เลี้ยงให้นักเรียนแนะนำตัวให้ดิฉันรู้จักและให้ดิฉันแนะนำตัวให้นักเรียนรู้จัก และครูพี่เลี้ยงก็ยังเริ่มต้นการสอนให้ในช่วงแรก แต่ช่วงท้ายคาบก็ให้ดิฉันสอนตามลำพัง ดิฉันสอนเรื่องโครงสร้างของพืช และให้นักเรียนวาดรูปต้นไม้ นักเรียนทำผลงานออกมาได้ดีตามที่ดฉันคาดหวังไว้ เชื่อฟังดิฉันดีมาก ทำตามที่ดิฉันบอกทุกอย่าง สรุปแล้ววันนี้วันแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดี

วันที่17พฤษภาคม พ.ศ.2556 วันนี้มีสอนนักเรียนชั้น ป.4/4 วันนี้ก็มีครูพี่เลี้ยงไปสอนในช่วงแรกช่วงหลังดิฉันก็สอนเองวันนี้ได้ตรวจงานนักเรียนเเล้วด้วย ตื่นเต้นๆ แถมยังมีน้องสังเกตการสอนไปช่วยสอนทำให้เราสาสามารถดูแลนักเรียนได้ทั่วถึงขึ้นแ แต่วันนี้นักเรียนห้องนี้พูดมากกว่าห้องเมื่อวานไปนิดนึง



5
0
ธีรเดช
เขียนเมื่อ

สัปดาห์ที่ 1 วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2556

  กระผม นายธีรเดช  หยีราเหม นักศึกษาปฏิบัติการสอนโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ จังหวัดภูเก็ต

  สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์ของก้าวแรก สู่คำว่า “ครู” อย่างเต็มรูปแบบ

  วันอังคาร ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2556 ย่างก้าวสู่ประตูแห่งวิชาความรู้ ร่วมกับนักศึกษาปฏิบัติการสอนทั้งหมด 8 คน เข้ารับการมอบหมายปฏิบัติหน้าที่ครู โดยครูเฉลิมพล ชูชาติ หัวหน้าฝ่ายวิชาการ

ภาระงานและหน้าที่ครู

  สอนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 5 รายวิชาวิทยาศาสตร์ ทั้งหมดจำนวน 10 คาบ

โดยแบ่งเป็นวิชาเคมีพื้นฐาน ม.4/1,4/2 จำนวน 6 คาบ และวิชาโลกดาราศาสตร์พื้นฐาน ม.5/1,5/2 จำนวน 4 คาบ ครูประจำชั้นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ครูเวรประจำวันศุกร์หน้าประตูทางเข้า ครูประจำกีฬาแบตมินตัน และประจำชุมนุม คุณครูพี่เลี่ยงคือ ครูพวงผกา  พริกประสงค์ และปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ประกบครูพี่เลี่ยง

  วันแรกช่วยฝ่ายวิชาการคุมสอบและตรวจข้อสอบนักเรียนเข้าใหม่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 5

  วันที่สองปฏิบัติการสอนวิชาเคมีพื้นฐาน ม.4/1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ธาตุและสารประกอบ แผนการเรียนรู้ เรื่อง วิวัฒนาการเกี่ยวกับอะตอม โดยต้องเขียนแผนให้ครูพี่เลี้ยงดูก่อนสอนทุกครั้ง และครูพี่เลี้ยงเข้าดูการสอนด้วย การจัดการเรียนรู้ถือว่าประสบความสำเร็จ เริ่มต้นกับการแนะนำตัวระหว่างครูกับนักเรียน นำเข้าสู่บทเรียนด้วยคำถามอย่างสิ่งใหญ่ๆอย่างจักรวาล และสิ่งเล็กๆที่นักเรียนต่างก็ตอบกันหลายๆคำตอบ และทำกิจกรรมการทดลอง โดยการแบ่งกลุ่มนักเรียน และให้แต่ละกลุ่มตั้งชื่อกลุ่ม โดยใช้ชื่อนักวิทยาศาสตร์ และให้นักเรียนทำกิจกรรม นักเรียนก็สงสัยว่าครูให้ทำอะไร สิ่งสำคัญคือครูจะต้องไม่บอกความรู้นั้นให้กับนักเรียน แต่ให้นักเรียนหาความรู้นั้นด้วยตนเอง และนักเรียนก็จะจำสิ่งที่ได้ทำกิจกรรมไปจนวันสุดท้ายของชีวิต และให้ใบกิจกรรมการทดลอง ให้นักเรียนบันทึกและสรุป

  วันที่สามปฏิบัติการสอนวิชาเคมีพื้นฐาน ม.4/1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ธาตุและสารประกอบ แผนการเรียนรู้ เรื่อง โครงสร้างอะตอมและอนุภาคมูลฐานโดยใช้กิจกรรมกลุ่ม ศึกษาโครงสร้างอะตอมและอนุภาคมูลฐาน และมีการใช้สื่อ PowerPoint ในการนำเข้าสู่บทเรียน และสรุป อภิปรายผล ให้นักเรียนเข้าใจอย่างแจ่มชัด ถือว่าประสบความสำเร็จและประทับใจลักษณะของนักเรียนห้องนี้ และในคาบหลังก็สอน ม.4/2 เรื่อง วิวัฒนาการเกี่ยวกับอะตอม กิจกรรมเหมือนกับ ม.4/1 ซึ่งเป็นแผนเดียวกัน สำหรับนักเรียนห้องนี้เป็นนักเรียนสายศิลป์ คนเป็นครูก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของผู้เรียน ห้องนี้ เล่น คุยเก่ง ไม่ค่อยฟัง ตอนที่นักเรียนทำกิจกรรมการทดลอง นักเรียนไม่รู้หรอกว่าครูต้องการอะไร แต่เมื่อสุดท้ายนักเรียนได้ผลผลิตของนักเรียนเอง ครูอธิบาย ใส่หลักการและทฤษฎีไปนิดๆ พอกรุ้มกริ่มๆ นักเรียนทั้งหมดก็ฟังอย่างตั้งใจมาก สุดท้ายนักเรียนก็ได้เป็นองค์ความรู้ของตนเอง

  สุดท้ายที่อยากฝากไว้การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาใช่ว่าจะมีหน้าที่การสอนเพียงอย่างเดียว แต่มีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้และมีประโยชน์ต่อตัวเราเองที่แฝงอยู่ภายในโรงเรียน ที่เราจะต้องมองให้เห็น และดึงออกมาใช้ประโยชน์ ผอ. เคยเปรียบเทียบอย่างนี้ให้ผมฟัง 2 ปีแล้ว ลูกกลมๆ ใช่ว่าจะมีเหลี่ยม แต่ทำไมนักสนุกเกอร์ถึงแทงลูกสนุกเกอร์ลง ขนาดลูกกลมๆ เขายังหาเหลี่ยมเจอ ” สำหรับทุกวันนี้ผมก็ยังหาเหลี่ยมไม่เคยเจอในโรงเรียน


6
0
ศิริมา ยี่สิ้น
เขียนเมื่อ

ดิฉัน น.ส.ศิริมา ยี่สิ้น เป็นนักศึกษาฝึกสอน โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา  ได้เข้าไปในโรงเรียนสัปดาห์แรกฝ่ายวิชาการก็ได้แบ่งให้ดิฉันได้สอนนักเรียน ชั้น ป.4 จำนวน 4 ห้อง 12 ชั่วโมง  นักเรียนแต่ละห้องประมาณไม่ต่ำกว่า 50 คน (เยอะมาก) ดิฉันได้เข้าสอนนักเรียนชั้น ป.4 แล้วนักเรียนน่ารักดี แต่นิสัยของเด็กๆก็ซนเป็นธรรมดา แต่ดิฉันก็ว่าสนุกดี 

2
0
จันทรา หลานหมีน
เขียนเมื่อ

สวัสดีค่ะ กับการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 1 

    สัปดาห์แรกของดิฉันก็ผ่านไปได้ด้วยดีมากค่ะ (ขอขยายความ) ดิฉันไปฝึกสอนโรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่ง มีนักเรียนเกือบ 4000 คน กับเพื่อนอีก 3 คน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีพี่เลี้ยงทีทางโรงเรียนจัดให้ ดิฉันได้หน้าที่ สอน ป. 4 สามห้อง และเพื่อนอีกสามคน ก็จะมี ป.5 ป.6 และ มัธยมปลาย แต่ละห้องจะมีนักเรียนไม่ต่ำกว่า 50 คน เยอะใช้ได้เลยค่ะ เมื่อทุกคนต่างได้รับมอบหมายก็ได้ลงมือสอนกันเลยค่ะ และยังมีการแบ่งเวรต้อนรับนักเรียนและช่วยสหกรณ์โรงเรียน ส่วนดิฉันได้รับมอบหมายครูประจำชั้นด้วยค่ะ 

     มีการประชุมโดยผู้อำนวยการโรงเรียน  ท่านสอน ทั้งความรู้ การใช้ชีวิต การปฏิบัติหน้าที่ และให้พวกเราได้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากโรงเรียนนี้ให้มากที่สุด เพราะมีหลายอย่างที่โรงเรียนอื่นไม่มีและให้พวกเราปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ 

    เมื่อดิฉันได้สอน ป 4 สองห้อง เด็กๆก็น่ารักดีค่ะ แต่เสียงดังไปหน่อย สอนเสร็จ มีอาจารย์ฝ่ายวิชาการเรียกพบตัวดิฉัน บอกว่า ครูมัธยมขอให้ไปช่วยสอน ครูอยากให้เธอไปสอนเพราะดูท่าทางน่าจะกำราบเด็กอยู่ คือว่าดิฉันตกใจมากค่ะ และไม่ทันตั้งตัวเลย  อาคารมัธยมก็อยู่ห่างกับประถม ดิฉันต้องแยกกับเพื่อนที่ไปด้วยกัน และอีกอย่างก็ไม่ค่อยอยากสอนเด็กโตเท่าไหร่ค่ะเพราะคิดว่าเขาคงไม่ฟังที่เราสอน และต้องไปเจอคุณครูคนใหม่ๆ สถานที่ใหม่  แต่เราปฏิเสธไม่ได้ก็เลยต้องไปค่ะ คืนนั้นดิฉันตื่นมาสามรอบเลยค่ะไม่รู้ว่าคิดเรื่องอะไรต่างๆนาๆ 

     วันรุ่งขึ้นดิฉันก็ไปหาครูพี่เลี้ยงคนใหม่ ครูจัดการแบ่งตารางสอนให้ 10 คาบ ม.1 และ ม. 2 เมื่อได้หน้าที่ ดิฉันก็ได้ลงมือสอนเลยค่ะ ทั้งสอง ม. ตื่นเต้นมากค่ะแต่ก็พยามยามทำให้เต็มที่ เด็กก็เชื่อฟังดีค่ะ พูดง่าย เข้าใจง่าย มีบางส่วนซึ่งต้องอธิบายรายบุคคล 

    เมื่อได้สอนผ่านไป สองคาบ ความคิดเมื่อคืนเปลี่ยนไป ดิฉันรู้สึกว่าอยากสอนเด็กมัธยมมากค่ะ เพราะเขาจะฟังเรา สอนอะไรเข้าใจง่าย ส่วนคนที่เก่งก็จะสอนคนที่ยังไม่เข้าใจ เด็กๆน่ารักมากเลยค่ะ คนที่สงสัยก็มาถามอย่างน่าเอ็นดูมาก ไม่วิ่งซนเหมือนเด็กเล็กๆ 

     ดิฉันได้คิดถึงคำพูดของ ผอ. ที่สอนตอนประชุมก่อนหน้านี้ 1 วัน ผอ.บอกว่า  " เราจงทำตัวให้เหมือนน้ำ ไม่ว่าใส่ในภาชนะไหนๆก็อยู่ได้ รู้จักปรับตัวกับสิ่งแวดล้อม รู้จักถ่อมตน น้ำ ไม่ว่าจะอยู่บนดินหรือใต้ดิน น้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำเสมอ   (ซึ่งตรงกับดิฉันที่มีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน )

                                                                                                  จะเป็นดั่ง ...น้ำ.......

                                                                                                               

   

   

    

6
0
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท