อนุทินล่าสุด


panchatan
เขียนเมื่อ

หลายปีมาแล้ว ที่สนามกอล์ฟธัญธานี ฉันถามคุณพยุงศักดิ์ เพื่อนร่วมก๊วนว่า ต้นไม้ต้นนี้ ชื่ออะไร เพราะทรงมันสวยดี พร้อมชี้นิ้วไปที่ต้นไม้ประกอบคำถาม  คำตอบคือ ต้นสารภีทะเล หลังจากนั้นไม่นาน ฉันก็ไปเสาะหามาปลูกไว้ที่บ้านระยองต้นหนึ่ง สัปดาห์ที่แล้วนึกอยากให้เพื่อนคนนี้ ได้เห็นผลงาน จึงอีเมล์ส่งภาพดอกสารภีทะเลไปให้ชม

ที่เลือกสารภีมาปลูกไว้ในสวน ไม่มีอะไรอื่นมาจูงใจเลยแม้แต่น้อย นอกจากความสวยงามของรูปทรงที่เป็นพุ่ม มาวันนี้เปิดหาข้อมูลบางอย่างในเว็บของจังหวัดระยอง ดีใจมากที่รู้ว่า ต้นไม้ประจำจังหวัดระยอง คือ สารภีทะเล ไม่เสียทีที่เกิดเป็นคนระยอง แล้วเลือกต้นไม้ประจำเมืองมาปลูกโดยบังเอิญ เทพยดาฟ้าดินคงแอบมาดลใจก็เป็นได้ 



ความเห็น (1)

อยากเห็นรูปบ้างน่ะค่ะ คุณอา

panchatan
เขียนเมื่อ

ฉันชอบเขียนอนุทิน...ไม่ใช่ชอบเขียนอย่างเดียว แต่ชอบอ่านอนุทินของคนอื่นด้วย เพื่อเปิดโลกกว้างให้กับตนเอง เมื่อต้นเดือนนี้ มีเพื่อนข้าราชการคนหนึ่ง ในความรู้สึก..เธอเป็นคนเคร่งครัดวินัยในเรื่องการเงินการคลัง (ส่วนตัว) เป็นเลิศ เธอคิดดังๆ ระบายออกมาเป็นตัวหนังสือไว้ในอนุทินของเธอว่า

"คิดไม่ตก ว่าจะไป USA. ดีหรือไม่ เพราะเสียดายกะตังค์ในกระเป๋า...เงินในสมัยนี้ยิ่งหายาก หามาก็เพื่อลูก ๆ + หลาน ตอนใช้นี่มันใช้ดีจริง ๆ แต่ตอนหานี่สิ ยากเสียเหลือเกิน หรือว่า "เราอายุมากแล้ว จึงคิดแล้วคิดอีก..."

ฉันคิดอีกอย่าง ไม่ถึงกับเป็นการคิดต่าง แต่เป็นทางเลือกอันหนึ่ง ที่น่าจะส่งให้เธอประกอบการตัดสินใจในฐานะที่ฉันเคยเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนกัน จึงเม้นต์กลับไปดังนี้

"หลายคน ทำงานมาตลอดชีวิต ไม่ได้ไช้เงินตายเสียก่อน เงินตราบใดที่ยังไม่ได้ใช้ ยังไม่ใช่ของเรานะครับ ความเป็นเจ้าของเงินดูกันที่ตอนใช้ ไม่ใช่ดูที่ตอนทำ หรือ ตอนเก็บ  แต่ต้องสำรองเพื่อฉุกเฉินและรายการจำเป็นไว้นะ อันนี้สำคัญ"



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

ดอกไม้ป่าชายเลน

ดอกสารภีทะเล พันธุ์ไม้ป่าชายเลน ถ่ายจากสวนในบ้าน สารภีทะเล ชื่อวิทยาศาสตร์ Calophyllum inophyllum L. เป็นไม้ขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ ถิ่นกำเนิดอยู่ในอินเดียและฝั่งตะวันตกของแปซิฟิค ดอกเล็กสีขาวถึงเหลืองนวล กลิ่นหอม ออกดอกช่วงปลายปี คือช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ปลูกเป็นไม้ประดับและให้ร่มเงาได้ คนโบราณปลูกสารภีทะเลไว้ริมโบสถ์เป็นสัญลักษณ์ในการสืบทอดพระศาสนา และเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดระยอง



ความเห็น (1)
panchatan
เขียนเมื่อ

อยากให้บ้านเมืองสวยงาม อยากให้ภูมิทัศน์ทั่วไปตามถนนหนทางดูแล้วน่ามอง ..ฉันฝันอยู่สองอย่าง และอยากให้ความฝันเป็นจริงอย่างยิ่ง ฝันที่หนึ่ง ในใจกลางเมืองหรือที่ฝรั่งเรียกว่าดาวเทาน์นั้น ต้องการให้การไฟฟ้าเอาสายไฟฟ้าลงดินให้หมด ฝันอันที่สองอยากให้ องค์กรท้องถิ่นทั้งหลายห้ามติดตั้งป้ายโฆษณาใหญ่ๆ... ชั่วคราวน่ะพออนุโลมได้ แต่ถ้าติดตั้งไว้นานเป็นปี ควรห้ามเด็ดขาด โดยเฉพาะตามสี่แยกต่างๆ ทั้งในเมืองและนอกเมือง ของสองอย่างนี้เป็นมลภาวะทางสายตาอย่างฉกาจฉกรรจ์ ลองนึกดูซิว่า ถ้าสองสิ่งนี้อันตรธานไปได้บ้านเมืองของเราจะน่าอยู่ขึ้นอีกมากมาย..ได้แต่ฝัน

บัดนี้ ฝันที่หนึ่งเริ่มเป็นจริงขึ้นบ้างแล้ว ฉันไปเที่ยวภาคอีสานเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ระหว่างนั่งรออาหารกลางวันที่มุกดาหาร กวาดสายตาไปทั่วๆ เอ๊ะ ทำไมถนนหนทางที่นี่ดูสะอาดตาจัง ในที่สุดก็ประจักษ์ ว่า เขาเอาสายไฟฟ้าลงดิน อาจทำหมดทั่วเมืองแล้ว แต่อันนี้ไม่ยืนยัน ...ดีใจกับคนเมืองมุกดาหาร ที่เทศบาลและการไฟฟ้าให้ความสนใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อม แม้การดำเนินการดังกล่าวจะเสียเงินเพิ่มค่อนข้างสูง แต่ถ้ามองผลที่ได้ในระยะยาว คุ้มแน่นอน



ความเห็น (3)

ที่หาดใหญ่ก็เอาสายไฟลงใต้ดินไปได้หลายถนนแล้วค่ะ สวยงามและดูน่าจะปลอดภัยมากขึ้นจริงๆค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูล ที่แจ้งมานะครับ

panchatan
เขียนเมื่อ

เช้านี้ได้ฟังธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ ...ท่านสอนดีนะ สอนเป็นขั้นเป็นตอน ให้รู้จักอะไรที่เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน ท่านบอกว่า สำหรับผู้ฝึกปฏิบัติธรรมใหม่ๆ การฝึกไม่ได้ฝึกให้พ้นทุกข์ แต่ฝึกให้รู้ตัวทุกข์ ซึ่งได้แก่กายและใจ กำหนดสติไปที่กายหรือใจ เพราะว่ากายและใจเป็นตัวทุกข์ล้วนๆ เมื่อใดรู้ชัดว่ากายและใจเป็นทุกข์ จิตจะปล่อยวาง เมื่อปล่อยวางจะพ้นทุกข์ได้เอง

สองวันก่อนเขียนเรื่องเกี่ยวกับ ปัญหากับชีวิต เมื่อวานวันพระ กัลยาณมิตรนิรนาม ส่งเอสเอ็มเอส มาว่า "วันพระค่ะ..ปัญหาใดๆบนโลกใบนี้ ล้วนต้องเริ่มต้นแก้ไขที่ใจเรา รู้ใจ...รู้หมด" แหมช่างคิดตรงกัน คิดคล้ายกัน คิดในช่วงเวลาเดียวกัน อัศจรรย์แท้ ... ใจถึงใจ เกิดขึ้นจริงๆ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

อ่านข่าวรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับม็อบตลาดนัดจตุจักร แล้วปวดเฮดเหลือเกิน ยังไม่รู้หน้าที่เลยว่า หน้าที่ตัวเองต้องทำอะไร เมื่อมีม็อบ นั่นแสดงว่า กำลังมีปัญหาที่เขาเรียกร้องให้รัฐบาลเข้าไปแก้ไข จะแก้ให้ได้หรือไม่ พอใจผู้เรียกร้องหรือไม่ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ใครอาสาเข้ามาเป็นรัฐบาล ต้องรู้ว่า หน้าที่คือเป็นผู้แสดง เป็นผู้แก้ปัญหา

นอกจากไม่รีบแก้แล้ว ยังผิดคิว อยากเป็นคนดู อยากเป็นคนวิจารณ์เสียฉิบ บอกว่า เป็นม็อบจัดตั้ง เกณฑ์คนนอกพื้นที่เข้ามาร่วม และเป็นม็อบการเมืองที่สูญเสียผประโยชน์ พูดเองตอบเอง โดยไม่มีใครถาม

โธ่เอ๋ย ... เป็นความซวย ความอับโชคของเมืองไทยเสียจริง ที่มีแต่คนไม่ประสีประสา คนไม่รู้หน้าที่ เข้ามาบริหารบ้านเมือง



ความเห็น (1)
panchatan
เขียนเมื่อ

ทุกคนมีปัญหา และมีอย่างต่อเนื่องตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ วัยเด็กเมื่อเกิดปัญหากับตนเองมักจะหงุดหงิด แก้ได้บ้าง แก้ไม่ได้บ้าง และทุกครั้งที่เกิดปัญหา ไม่ว่าในเรื่องใดๆ จะมีทุกข์ตาม มีความท้อแท้เบื่อหน่ายเข้ามาร่วมผสมผสาน เป็นอย่างนี้ตลอด...นี่เองถึงได้มีคำกล่าวทำนองว่า "ทำไมถึงต้องเป็นเรา"

ต่อมาอายุมากขึ้น ได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็น สิ่งต่างๆรอบตัวมากขึ้น ความคิดเปลี่ยน ปัจจุบันเวลาเกิดปัญหา ความหงุดหงิดลดลง เพราะเข้าใจแล้วว่า ปัญหากับชีวิตจะอยู่ร่วมกันเสมอ

ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ใช่มีไว้เพื่อให้เกิดทุกข์ แต่ถ้าเราไม่คิดแก้หรือแก้ไม่เป็น ทุกข์แน่นอน ใส่ใจไว้เสมอแล้วว่า ทุกปัญหาแก้ได้ ต่างกันแต่เพียงจะแก้ได้ช้าหรือเร็วเท่านั้น อย่างเมื่อคืนโพสต์รูปที่ไปเที่ยวอีสาน ขึ้นเฟสบุ๊ค มีเพื่อนแจ้งกลับมาว่า ไม่เห็นรูป มีแต่ข้อความ หลายคนในกลุ่มเมื่อทราบ เข้ามาช่วยแก้ปัญหา ช่วยกันเบรนสะตอมมิ่ง ปัญหาจึงอันตรธานไปได้อย่างรวดเร็ว...การมีเพื่อนมากมันดีอย่างนี้เองหนอ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

ที่ระยองแดดเปรี้ยง ร้อนอบอ้าวมาตั้งแต่เช้า  ตอนนี้ฝนเริ่มตก ทำท่าว่าจะตกติดต่อยาวนานเสียด้วย ช่างแปรปรวนวิปริตเสียจริง ภูมิอากาศบ้านเรา ระวังเรื่องสุขภาพกันหน่อยน่าจะดี

หายหน้าไปเสียหลายวัน เพราะไปทัวร์อีสานมาเกือบหนึ่งสัปดาห์ ใช้เวลาเดินทางเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับสัญญาณไม่เข้มแข็ง ออนไลน์ไม่ค่อยสะดวก ตอนนี้อยู่บ้านเช่นเดิมแล้ว



ความเห็น (2)

กำลังคิดถึงพอดีเลยค่ะว่าคุณอาหายไปไหน

ขอบคุณมาก คุณโอ๋ คิดถึงเช่นกันครับ

panchatan
เขียนเมื่อ

อีสาน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจ การคมนาคมสะดวกมาก ถนนลาดยางเป็นส่วนใหญ่ เริ่มพัฒนาถนนลาดยางกันอย่างจริงจังในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก่อนหน้านั้นการเดินทางลำบากมาก จำมาเมื่อครั้งฉันเป็นหนุ่มราวปี ๒๕๐๐ มีญาติชวนติดรถไปเที่ยวกาฬสินธุ์ จริงๆไม่ได้ไปเที่ยวกันอะไรหรอก จุดประสงค์ที่แท้จริงคือ ไปหมั้นสาว  เหตุเกิดเพราะมีหนุ่มระยองไปหลงรักสาวกาฬสินธุ์   ยานพาหนะที่ไปใช้รถจิ๊บเล็กทหาร ที่อเมริกาใช้ในสงครามโลกครั้งที่สอง หลังสงครามมีขายเกลื่อน ราคาไม่แพง เป็นที่นิยมในต่างจังหวัด  ระยองก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่รถจิ๊บแบบนี้มีมากมาย

พูดเรื่องถนนต่อกันดีกว่า สมัยนั้นถนนเล็กมาก จากระยองไปกาฬสินธุ์ ถนนลาดยางที่รถแล่นผ่านมีไม่เกินยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ไปถึงกาฬสินธ์ เมื่อถอดแว่นตาออก ส่องกระจกดูหน้าตัวเอง เห็นเบ้าตาชัดเจน เพราะหน้าส่วนที่อยู่หลังแว่นฝุ่นเข้าถึงน้อย ยังจำภาพติดตามาจนทุกวันนี้

เที่ยวอีสานหนนี้ มีเป้าหมายสำคัญที่ สามพันโบก อุบลราชธานี อยากชมความงดงามของแก่งหินใต้น้ำโขง ในหน้าแล้ง  เคยดูมาแล้วทั้งรูปถ่ายและวีดีโอ แต่อยากไปเห็นด้วยตาเนื้อสดสดสักครั้ง..ก็เท่านั้น

 

 

 

 

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

กัลยาณมิตรควรมีไว้ ยิ่งมากยิ่งดี เพราะจะช่วยกันนำพาชีวิตไปสู่ทิศทางแห่งความดี ทิศทางแห่งกุศลกรรม ช่วยชี้แนะ ช่วยให้คำแนะนำที่ดีๆแก่เราได้ทั้งในยามที่เรามีทุกข์ และไม่มีทุกข์ ยกตัวอย่างของจริงสักเรื่องหนึ่ง มีเพื่อนธรรมที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย รู้จักกันครั้งแรกโดยมิได้เห็นตัวเป็นเป็นทางเอสเอมเอส เธอบอกว่า เธอยินดีแจ้งเตือนให้ทราบว่า วันไหนคือวันพระ โดยจะแจ้งสองครั้ง ก่อนวันพระหนึ่งวันครั้งหนึ่ง และในวันพระอีกครั้งหนึ่ง เป็นบริการที่ไม่คิดมูลค่า ซึ่งผู้ให้บริการมีค่าใช้จ่ายแน่นอน แต่ก็ยินดีที่จะให้บริการ เพราะใจรักอยากจะทำ ฉันใช้บริการนี้มาได้เกือบครึ่งปีแล้ว เธอแจ้งเตือนให้ทราบมาโดยตลอด รับแจ้งแล้วก็ส่งใจร่วมอนูโมทนาในกุศลเจตนาของเธอทุกครั้งไป...ในการแจ้งเตือน เธอจะส่ง ธรรมง่ายๆ มาด้วยทุกครั้ง อย่างเช่นวันนี้ซึ่งเป็นวันโกน ข้อความที่เธอส่งมามีว่า

"พรุ่งนี้ >วันพระค่ะ แรม ๑๔ ค่ำเดือน ๓ อะไรๆก็ย่อมเสียได้ แต่อย่าใจเสียนะคะ"

งามอะไรก็ไม่งามเท่า "งามน้ำใจ" จริงไหมครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

"จ้อย โมงครึ่งเตรียมเปิดประตูให้ลุงด้วยนะ จะเอารถออก วันนี้ลุงมีรายการเข้าอบรม"
"แก่แล้วยังจะเรียนอะไรอีกล่ะลุง"
"เออน่ะ มันเรื่องของลุง ทำหน้าที่ตามบอกแล้วกัน ค่ำๆหมดธุระแล้ว ลุงจะซื้อของมากฝาก"
"ขอบคุณครับ อย่าลืมแล้วกัน"


นั่นคือ วิสาสา ระหว่างฉันกับลุงจ้อยในช่วงเช้า ซี่งพึ่งพาอาศัยกันตามประสาคนแก่ที่บ้านระยอง

เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ดีกว่าอยู่เปล่าๆ ฉันยึดแนวคิดนี้มาตลอด วันนี้มีวอร์คช็อป จัดที่โรงแรมมาดินา ระยอง ภายใต้หัวข้อ "ชมรมระยองโฟโต้คลับเปิดคอร์ส การแต่งภาพถ่ายอย่างมืออาชีพ" จัดแบบเต็มวัน มีทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจริง ฉันเองต้องการเรียนรู้ เพียงให้ทำพอเป็นเท่านั้น ไม่ได้ต้องการไปใช้ประกอบอาชีพอะไรหรอก แต่อะไรๆ ต่อท้ายด้วยคำว่า "มืออาชีพ" ดูแล้วมันขลัง เรียกศรัทธา และความเชื่อมั่น ได้ง่ายขึ้น ก็เท่านั้น

เป็นสมาชิกที่อายุมากที่สุด แต่มาถึงงานก่อนใครเพื่อน วันนี้ จิตสดใสแน่นอน เพราะต้องมีอารมณ์ดีๆให้จิตเข้าไปรับรู้ มาใช้ชีวิตหลังเกษียณที่น่าจะสนุกสนานอีกวันหนึ่งแน่แท้เลย



ความเห็น (1)

วิถีเกษียณ เรียนรู้อย่างมีคุณค่า น่านิยมและเป็นตัวอย่าง ขอบคุณค่ะอาจารย์

panchatan
เขียนเมื่อ

ขณะที่นั่งเขียนอนุทินอยู่นี้ ฝนที่ระยองกำลังตกหนัก ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงฤดูหนาวที่ไม่ค่อยหนาวถูกใจเราสักเท่าไหร่เลย ความผิดปรกติ หรือความแปรปรวนของดินฟ้าอากาศเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและน่าเป็นห่วง โดยส่วนตัวนะ คนอื่นไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย ฉันว่า ฝนตก น้ำท่วม พายุ แผ่นดินไหว ปรากฏการณ์ธรรมชาติในทุกวันนี้ ที่มันพิลึกพิลั่นเสียจริง ส่วนใหญ่มาจากการกระทำของมนุษย์ การพัฒนาด้านวัตถุนี่แหละสำคัญนัก มันก่อให้เกิดการสร้างงานมากมาย เมื่องานมากความเปลี่ยนย่อมมีมาก แล้วก็ในวังวนของความเปลี่ยนแปลงนี่เอง สิ่งที่เรียกว่า โลกร้อน จึงเกิดตามมา ที่มนุษย์กำลังช่วยกันหาวิธีลดโรคร้อนอยู่ ..จะว่าไปแล้ว ไม่น่าจะได้ผล เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เหมือนการรักษาโรคตามอาการ แก้ปัญหาแบบขอไปที

ฉันว่าเองนะ...วิธีลดโลกร้อนที่ฉกาจฉกรรจ์ที่สุดและน่าจะได้ผลที่สุด ก็คือ การชะลอพัฒนาชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนอุตสาหกรรม และส่วนผลิตต่อเนื่อง ชะลอนะ ไม่ได้หมายความว่าให้หยุด.....ชะลอการพํฒนา หยุดการแปรปรวนภูมิอากาศได้



ความเห็น (1)

พังงา ฝนตกเมื่อวานเย็นถึงค่ำ เช่นกันค่ะ สุขสันต์วันเสาร์ เดือนแห่งความรักค่ะ

panchatan
เขียนเมื่อ

บนโลกใบนี้ ลูกศิษย์ตถาคตมีมากมาย แม้ส่วนใหญ่จะเป็นคนเอเชีย แต่ปัจจุบันความเชื่อและศรัทธาในพระพุทธศาสนาแพร่กระจายไปในหมู่ชนผิวขาวอย่างรวดเร็ว และเพิ่มจำนวนขึ้นมาก ลองแอบไปดูมุมมองของเขาเหล่านี้กันบ้าง ขันธ์ห้าที่เป็นตัวทุกข์อันยิ่งใหญ่ ฝรั่งช่างเปรียบเทียบเก่งนัก เขาเห็นว่า 

Form is like a lump of foam, feeling is like a water bubble, perception is like a mirage, constructions like a hollow tree, and consciousness like an illusion! Just a coreless appearance! However one may reflect over it, and carefully investigate it.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

ได้เวลาเขียนถึงบ้านเกิดเมืองนอนของฉันบ้างแล้ว...เอาแบบสั้นไปก่อน

ครั้งฉันเป็นเด็กวัยรุ่น จำได้แม่นยำเพราะเลขสวยมาก ระยะทางจากระยองถึงกรุงเทพฯตามถนนสุขุมวิท นับได้ ๒๒๒ กิโลเมตร  ไม่ได้พูดเอง แต่ดูตามหลักฐานที่กรมทางหลวงเขียนไว้บนหลักกิโล  รถส่วนตัวในระยองมีน้อยมากนับคันกันเลย จะไปกรุงเทพฯสักหน ต้องใช้บริการรถโดยสาร หลังสงครามโลกครั้งที่สองใหม่ๆ ใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิง เสียดายที่ไม่มีผู้เก็บไว้ให้คนสมัยนี้ได้ชม รถโดยสารชื่อ “แสงประทีป”  วันหนึ่งมีเที่ยวเดียว ออกจากระยองตีสี่ ถึงกรุงเทพฯที่หัวลำโพงประมาณบ่ายสอง ไม่มีถนนลาดยาง แล่นกันฝุ่นตลบ

มาวันนี้ ถนนจากกรุงเทพฯไประยอง นับรวมกันทุกถนนมีไม่ต่ำกว่าสิบห้าเลน เส้นลัดสุดไม่เกินสองชั่วโมงถึงแล้ว วันนี้ระยองมีเกือบทุกอย่างที่กรุงเทพฯมี....ดูกันสดสดร้อนร้อนเลย วันนี้มีงานมอเตอร์โชว์ที่ห้างแหลมทอง ผู้จัดสรรหารถโคตรแพงหลากหลายยี่ห้อมาให้ได้ชมกัน  น้อยหน้ากรุงเทพฯเสียเมื่อไหร่ล่ะ ไปชมได้ง่ายมาก รถไม่ติดด้วย.. ดีออก๕๕๕

มอเตอร์โชว์ ระยอง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

ระเบิดในกรุงเทพฯ สามจุดเกิดขึ้นใจกลางเมืองในเวลาใกล้เคียงกันในวันวาเลนไทน์ สร้างความตื่นตระหนกให้แก่คนเดินถนนอย่างเราๆได้มาก แขกขาวในตะวันออกกลางกับฝรั่้งชาติตะวันตก วิวาทกันไปทะเลาะกันไป ไทยไม่เกี่ยวเลยแม้แต่น้อย แล้วทำไมจึงเอาเมืองไทยและคนไทยเข้าไปอยู่ในแวดวงทะเลาะกันด้วย แปลกจริงๆพับผ่า

ทำไมจึงใช้เมืองไทยเป็นที่ก่อเหตุยังไม่มีใครรู้จริง คนที่ออกมาพูดก็แค่สันนิษฐาน คาดกันไป เดากันไป ผู้มีหน้าที่ก็พูดปัดๆไปพอเป็นพิธี น่ากลัวมาก เห็นผู้ก่อเหตุซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นชาวอิหร่าน ในภาพข่าวขาขาดกระจุยเหนือหัวเข่าทั้งสองข้าง แต่ที่หวาดเสียวตามมาก็คือ คนร้ายผงกศีรษะขึ้นมาพูด เป็นภาพน่าสะพรึงอย่างยิ่ง

สำนักข่าวต่างประเทศ หลายสำนักแพร่ข่าวนี้ไปทั่วโลก พร้อมทั้งวิพากวิจารณ์ไปต่างๆนานา รายละเอียดประกอบข่าวมีมากกว่าสื่อในไทยเสียอีก



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

หอกลอง

Happy Valentine วันนี้ขอเสนอภาพ unseen Bangkok บางคนเห็นแล้วไม่ทราบว่าเป็นภาพอะไร อยู่ที่ไหน.... กทม. ของเรากว้างใหญ่ไพศาล มีความหลากหลายเป็นเลิศ

หอกลอง อ่านว่า หอ-กลอง อย่าอ่านผิดเด็ดขาด เดิมสร้างขึ้นในสมัยราชกาลที่ ๑ ต่อมาได้ถูกรื้อลงเพื่อใช้ที่ดินสร้างพระราชอุทยาน สวนเจ้าเชตุ รูปที่เห็นนี้สร้างขึ้นใหม่ตามรูปแบบเดิมอีกครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๕ เพื่อฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ ๒๐๐ ปี หอนี้อยู่คนละฝั่งถนนกับวัดโพธิ์....เป็นภาพไม่คุ้นตา อาสาสรรหามาให้ชมกัน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

วิทนีย์ ฮุสตัน เธอเป็นใครฉันไม่รู้จัก แต่อาจแอบฟังเธอร้องเพลงไปบ้างแล้วก็ได้โดยที่ไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนาม ฉันไม่ได้เป็นแฟนเพลงสากล ฟังได้ แต่ไม่ถึงกับคลั่งไคล้  นานนานฟังหนหนึ่ง  เพิ่งมารู้จักหลังจากที่เธอเสียชีวิตแล้วสองสามวัน นี่ถ้าดวงวิญญาณเธอรู้ เธอคงจะพูดว่า ตาแก่คนนี้ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รู้จักฉัน บัดนี้รู้ล่ะว่า เธอเป็นนักร้องเพลงป๊อบเสียงดี ถึงขนาดวงการเพลงยกย่องเธอให้เป็นราชินี

เมื่อเช้าเดินผ่านหน้าปากซอย เหลือบมองเห็น "ข่าวสด" พาดหัวตัวโป้งสุดว่า ช็อคโลก ราชินีเพลงป๊อบสิ้นชีพ เท่ากับช่วยตอกย้ำความดังให้อีกทางหนึ่ง เชื่อว่า คณะทำงานในกองบรรณาธิการ ต้องมีคนอายุน้อย วัยแอ๊บแบ๊วแน่นอน ในความคิดฉันก็ไอ้แค่นักร้องเสียงดีคนหนึ่งตาย มีพลังขนาดทำให้ช็อคโลกได้เลยหรือเนี่ยะ หรือว่า ฉันผิดเอง ไม่ทันยุค หลุดโลกไปแล้ว ๕๕๕



ความเห็น (5)

คุณอาลองหาฟังจริงๆจังๆดูสักทีสิคะ รับรองว่าต้องทึ่งกับพลังในการร้องของเธอแน่นอนค่ะ โอ๋ก็เป็นคนหนึ่งที่คิดว่า เธอเป็นผู้มีพลังพิเศษสุดยอดที่ยังหาคนเทียบไม่ได้เลยค่ะ น่าเสียดายจริงๆที่เธอจากไปในวัยที่ยังสามารถสร้างงานดีๆให้โลกนี้ได้อีกนาน 

ขอบคุณครับ จะทำตามที่กรุณาแนะนำมา

วันนี้ฟัง Jennifer Hudson ร้องเพลงเดียวกับเธอเพื่ออุทิศให้เธอ ด้วยพลังที่มากมาย แต่บอกไม่ถูกค่ะว่า อะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าแตกต่าง Whitney Houston จะมีทั้งความหวานและพลังในน้ำเสียงแบบที่ทำให้เรารู้สึกว่า เสียงแบบนี้ไม่มีทางฝึกได้แน่ค่ะ ต้องเป็น gifted อย่างแท้จริง มัน amazing จริงๆ (ต้องดัดจริตใช้คำนี้ถึงจะถูกใจด้วยค่ะ)

ดีครับ รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกมา ผู้ตายหากรู้ คงดีใจอย่างยิ่ง

ดีครับ รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกมา ผู้ตายหากรู้ คงดีใจอย่างยิ่ง

panchatan
เขียนเมื่อ

หลายเดือนก่อนเคยเขียนชมบริการประทับใจ งานต่อทะเบียนรถยนต์ของกรมการขนส่งทางบก สะดวก รวดเร็ว มาก และพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสามารถต่อทะเบียนรถโดยไม่ต้องลงจากรถ ขับรถเข้าซองไดรอิน ยื่นสมุดทะเบียน พร้อมส่งเงิน รอแค่เพียงไม่เกินสองนาที ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เข้าใจว่าการต่อทะเบียนลักษณะนี้สามารถทำได้ทั่วราชอาณาจักรแล้ว

มาเรื่องที่สอง งานภาษีออนไลน์ของสรรพากร นี่ก็สุดยอดบริการอีกอันหนึ่งของภาครัฐ ใช้บริการมาสามสี่ปีติดต่อกันแล้ว ผู้เสียภาษีเงินได้ไม่ต้องไปปรากฏตัวที่ออฟฟิศราชการ ประหยัดเวลา ค่าน้ำมันรถได้จริง วิธีการคือ เข้าไปที่เว็บไซต์ของสรรพากร เข้าทำรายการตามที่ระบบบอก ปีแรกๆอาจใช้เวลามากหน่อยเพราะยังไม่คุ้นเคย ปีต่อๆมาสบายมาก ไม่เกินสิบนาทีเสร็จ สำหรับฉันมีกรณีคืนภาษี ทำรายการไปเมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ประมาณ ๓ ทุ่ม... วานนี้ ๑๑ กุมภาพันธ์หลังเที่ยงเล็กน้อย รับเอสเอมเอสจากกรมฯ บอกว่า ได้จัดส่งเช็คคืนภาษีให้ท่านแล้ว...สุดยอดบริการ ขอชมเชย



ความเห็น (2)

คุณอาเป็นประชากรคนแรกที่ยื่นแบบภาษีปีนี้ไหมคะนี่ ฝั่งราชการนี่กว่าจะได้ใบรายการรายรับของเราและใบรับรองภาษีหักณ ที่จ่ายก็น่าจะปลายๆเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้าโน่นแน่ะค่ะ คงต้องรอเกษียณก่อนถึงจะทำได้แต่เนิ่นๆนะคะ

บางปีปลายๆมกราคม ก็จะได้รับใบรับรองหักภาษีแล้ว ปีนี้ยื่นช้าไปด้วยซ้ำนะครับ คนแก่อย่างอารายได้น้อยรัฐบาลเลิกเก็บภาษีเงินได้ แต่ที่ยังเสียอยู่อย่างสม่ำเสมอ คือ ภาษีทางอ้อม หนักหน่อย ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งต้องเสียเกือบทุกวันที่ออกจากบ้าน

panchatan
เขียนเมื่อ

ขอเสนอ "หัวงู" ในเทพนิยาย งูชนิดนี้พอใกล้วันออกพรรษา จะย้ายภูมิลำเนาชั่วคราวมาอยู่ในแม่น้ำโขง แถบจังหวัดหนองคาย และบึงกาฬ

บางคนเชื่อว่า บั้งไฟพญานาคในวันออกพรรษา เป็นสิ่งเร้นลับ ในขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งเห็นว่า มันก็แค่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ มีหน่วยงานราชการบางแห่งไปทำวิจัย เพื่อค้นหาความจริง... ฉันว่าเสียเงินเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ นักวิทยาศาสตร์วิจัยแล้ว ก็ต้องบอกว่า เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติวันยังค่ำ เรื่องอย่างนี้ ผูกแน่นอยู่กับความเชื่อของคน ซึ่งมีทั้งสัมมาทิฏฐิและมิจฉาทิฏฐิ 

เฉยไว้ดีกว่า อย่างน้อยมันช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยว เงินสะพัดแถบริมโขง จังหวัดหนองคาย...ดีออกจะตาย งบประชาสัมพันธ์ก็ไม่ต้องมี พูดกันปากต่อปากคนมาเที่ยวตรึม ไปมาแล้ว ฉันและอีกหลายคนเห็นลูกไฟ คนที่ไม่เห็นอะไรเลยก็น่าจะมี ๕๕๕
พญานาค.
 
 


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

ข้อความต่อไปนี้ เป็นอนุทินที่เตรียมไว้สำหรับวันวาน แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่สามารถเปิดเว็บได้...อนิจจัง

นานๆเข้ากรุงที เจอรถติดวินาศสันตะโร อึดอัดเอาการอยู่ บ่ายสี่โมงครึ่งทำธุระเสร็จ แถวบางกระบือ พรรคพวกที่ไปด้วยกันอาสาขับรถไปส่งถึงบ้านแถบบางบำหรุ จรัญสนิทวงศ์ พอเข้าสู่ถนนสามเสนเท่านั้นแหละรถติดกึก นานๆจะขยับเขยื้อนได้ที เปลี่ยนใจบอกให้เขาส่งที่ท่าพายัพลงเรือด่วนน่าจะเร็วกว่า ได้แค่หน้ากรมชลประทาน รถไม่เคลื่อนตัวเลยร่วมยี่สิบนาที ให้เขากลับรถย้อนกลับไปที่ท่าเกียกกาย แล้วก็จริงอย่างคาด ถึงบ้านได้รวดเร็วกว่าเดินทางโดยรถยนต์เยอะทีเดียว

ยอมรับว่า เรือด่วนเจ้าพระยาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ไม่ได้ขับรถเอง สามารถถึงที่หมายได้เร็ว มีลมเย็นพัดปะทะกายคลายเครียดด้วยนะ เตือนตนเองไว้เลยว่า ต่อไปนี้จะไปไหนมาไหนในกทม. ต้องวางแผนหรือคิดล่วงหน้าก่อนเดินทางเสมอ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

diary

Penzu เป็นโปรแกรมออนไลน์ไดอารี่ ฟรี ใช้ง่าย สะดวก มีลูกเล่นมากมาย ฉันเคยใช้เขียนอนุทินส่วนตัว ทำนองเดียวกันกับที่เขียนเป็นประจำใน g2k นี่แหละ แต่ไม่บ่อยเหมือนที่นี่ วันนี้ว่างลองไปเปิดดู ได้ทบทวนความหลัง ถึงเหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่สงบในบ้านเมืองของเรา มีภาพรายการทีวีถ่ายทอดสดประกอบด้วย  เป็นการเจรจาระหว่างนายกอภิสิทธิ์ฯ กับตัวแทนเสื้อแดง บันทึกไว้เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๓ หลังเหตุการณ์จริงหนึ่งวัน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

สังเกตไหมว่า บ้านเมืองของเราทำไมพัฒนาช้ามาก จนอดห่วงไม่ได้ว่า สักวันหนึ่งข้างหน้า ประเทศในแหลมทองรอบบ้านเราซึ่งเคยล้าหลัง จะแซงบ้านเราไปได้ และเมื่อถึงวันนั้นแล้ว คงจะรู้สึก

การพัฒนาล่าช้าส่วนหนึ่งมาจากทุจริตคอรับชั่น อีกอย่างหนึ่งที่เป็นความจริงและไม่อาจมองข้ามได้เลย คือ ว่า คนไทยไม่เคร่งครัดในกฎกติกา ไม่เคารพระเบียบ ซ้ำร้ายผู้บังคับใช้กฏหมายยังละเลย ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา เลือกทำแบบลูบหน้าปะจมูก...นี้แหละชัดเจนนัก ประเทศไทยจึงเดินหน้าไปไหนได้ไม่ไกลอย่างที่ควรจะเป็น

วันนี้มีโอกาสได้ใช้บริการ BRT ของกทม. เป็นครั้งที่สอง ผิดหวังมาก ไม่ใช่การบริหารจัดการในการเดินรถ แต่เป็นเพราะผู้ใช้รถใช้ถนนไม่มีวินัย เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ขับรถเข้ามาเต็มช่องทางเดินรถของ BRT อยู่หลายต่อหลายจุด สำหรับฉัน..โครงการนี้ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่ระบบล้มเหลว แต่เป็นการล้มเหลวอันเกิดจากผู้ใช้ถนนขาดวินัย และความไม่เอาจริงเอาจังของฝ่ายบ้านเมือง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

สินค้าที่คนเรียกจนติดปากได้แก่ fab เป็นผงซักฟอกเจ้าแรกที่เลื่องชื่อลือชา จนมหาชนเรียก fab แทนผงซักฟอก ต่อมาเป็นน้ำดื่ม..เจ้าแรกที่ผลิตออกขาย ใช้ชื่อ Polaris คนรุ่นใหม่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า โรงงานแรกดั้งเดิมของน้ำดื่มยี่ห้อนี้อยู่ที่ไหน บอกให้ก็ได้ อยู่ถนนงามวงศ์วานห่างจุดที่ทางด่วนยกระดับผ่านนิดเดียว นี่ก็เหมือนกัน เวลาจะสั่งน้ำดื่มในร้านอาหารทั่วไป บอกว่า Polaris ด้วยนะ คนเสิร์ฟจะเข้าใจ แต่ถ้าบอกว่า ขอน้ำขวด อาจมีปัญหา อาจได้เครื่องดื่มประเภทโค้กมาแทน

Polaris บรรจุในขวดพลาสติกแบบขุ่น เลิกผลิตมาหลายปีแล้ว ระยะหลังเมื่อเปลี่ยนมาเป็นพลาสติกแบบใส มีมากมายหลายยี่ห้อ ปัจจุบันผู้ผลิตพยายามลดต้นทุน จนน่าเกลียด รีดพลาสติกเสียบางมากมาย จนขวดตั้งแทบไม่ได้ คือ ถ้าไม่ระวัง จะตั้งล้ม ตั้งล้ม ประหยัดกันจนเกินงาม รู้ตัวกันบ้างหรือเปล่าจ๊ะผู้ผลิต... อย.หรือศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคทำอะไรกันอยู่



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

วันเวลาเปลี่ยนไป โลกเปลี่ยน บางอย่างเปลี่ยนมากอย่างคาดไม่ถึง เมื่อก่อนตอนฉันเป็นเด็ก น้ำกินน้ำใช้ ได้มาจากน้ำฝนและน้ำบ่อ น้ำฝนพ่อแม่ก็ให้รองไว้กินโดยวิธีใส่ตุ่ม เมื่อฝนตกฉันมีหน้าที่เดินไปเปิดฝาตุ่มออกเพื่อให้น้ำฝนไหลลงตุ่มได้ ไหลผ่านรางน้ำซี่งติดตั้งไว้ที่แป ภาษาช่างโบราณเรียกว่า "แปตีนน้ำ"

ที่บ้านมีตุ่มจำนวนมากพอสมควร น้ำฝนที่รองเก็บไว้เพียงพอใช้สำหรับดื่มได้ตลอดปี แบบไรักังวล รสชาติของน้ำฝนว่ากันตามความรู้สีก กินอร่อยกว่าน้ำประปา รสออกจะหวานปนขมนิดหน่อยปะแล่มปะแล่ม ใหม่ๆเมื่อมีน้ำประปา ชีวิตเริ่มเปลียน แต่วิถีชีวิตแบบรองน้ำฝนไว้กิน ยังทำต่อมาอีกหลายปี เพราะในช่วงสับเปลี่ยน ชาวบ้านยังไม่วางใจในคุณภาพน้ำประปา ต่อจากนั้นการรองน้ำฝนไว้กินไว้ใช้ หาดูได้ยากในชนบท...มาถึงวันนี้เป็นไปไม่ได้แล้ว ขืนทำต่อไปก็เจอน้ำฝนกรด น้ำฝนที่อุดมไปด้วยสารพิษต่างๆ ใครจะกล้าดื่มกินกันล่ะ

จากน้ำกินซี่งไม่เคยต้องซื้อ บัดนี้มาถึงยุคน้ำดื่มบรรจุขวด ว่าโดยปริมาตร ราคาไม่ห่างจากน้ำมันเติมรถสักกี่มากน้อย ไม่ชอบก็ต้องชอบ..ฮิฮิ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

panchatan
เขียนเมื่อ

เมื่อสักครู่ได้ยินเสียงนกเขาขันคู ขันอยู่นาน เราเป็นมนุษย์ก็มีความรู้สึกว่าเสียงเพราะดี  ช่วยสร้างบรรยากาศให้มีความสุขกับโลกยามเช้าได้ดีอีกวันหนึ่ง ขณะที่เพลินอารมณ์อยู่นั้น ลุงจ้อยผลักประตูเข้ามา  ในมือถือจานข้าว พร้อมแกงหมูกระวาน ซึ่งเพิ่งซื้อมาจากตลาดสดสดร้อนร้อนมาวางให้ พร้อมกับพูดเสียงดังว่า

 “มึงจะร้องไปทำไมนัก  เมียมึงเป็นลมตาย ตกจากรังเมื่อวาน กูเก็บโยนน้ำไปแล้ว” เสียงลุงจ้อยพูดกับนกเขาเพศผู้ตัวเขื่อง

นี่คือหนังตัวอย่าง เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติรอบตัวฉัน ชีวิตหลังเกษียณ สนุกสนาน ครื้นเครงมาก มี เครียดบ้างเป็นบางคราว แล้วก็มาถึงเรื่องเศร้า ปลุกเร้าอารมณ์ ที่เกิดขึ้นช่วงเช้าวันนี้ ย้ำเตือนให้เห็นถึงสัจธรรม ว่าด้วย การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ได้อย่างชัดเจน



ความเห็น (1)

ตอนแรกอ่านนึกว่าจะเป็นเรื่องสุนทรีย์ อ่านจบแล้วเศร้าจังค่ะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท