อนุทินล่าสุด


อักขณิช
เขียนเมื่อ

บ่อยครั้งที่เรามักมองหาและให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ไกลตัว

จนลืมมองดูและไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ ตัวเอง

กว่าที่เราจะคิดถึงและมองเห็นคุณค่าของสิ่งนั้น

มันก็ได้หนีจากเราไปแล้ว......ไกลแสนไกล



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

หากคุณยิ้มและหัวเราะ.....โลกก็จะยิ้มและหัวเราะไปกับคุณด้วย

แต่ถ้าหากคุณร้องไห้.....คุณจะร้องไห้เพียงคนเดียวตามลำพัง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

สิ่งที่ดีๆ สำหรับเรา..... อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับคนอื่นก็ได้



ความเห็น (4)

เรียนท่านมหาอักขฯเจ้าค่ะ

...สิ่งที่ดีๆ สำหรับเรา..... อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับคนอื่นก็ได้

กำลังคิดนึกตรึกตรอง กับความเห็นประมาณนี้อยู่พอดีค่ะ

ตรึกตรองจนหลับไปสองคืนแล้ว

คืนแรกฝันร้าย ฝันว่าอุ้มทารกไม่กี่เดือน เธอป่วย ปากเปื่อยและไม่มีพลังเลย

ตนเองใช้ยาขวดจิ๋ว แต่ฤทธิ์แรง ค่อยๆหยอด กวาดๆๆไปทั่วปากเด็ก

ปรากฏว่าเด็กพับไปเลยค่ะ คนใกล้ๆบอกว่า เด็กหมดลมหายใจไปแล้ว ใจแป้วเลย

แต่เหลือเชื่อค่ะ มีผู้วิเศษนำยาน้ำใสๆ หยอดไปในปากเด็ก เด็กฟื้นคืนชีพ!

ถามว่า น้ำใสๆนั้นคืออะไร ได้คำตอบว่า เป็น "ชารางจืด" ๕๕๕

...เมื่อคืนนี้ หลับไปขณะคิดนึกตรึกตรองตามเคย แต่ฝันดีขึ้นมาหน่อย

ฝันว่าจัดชุดล้างจานอยู่สองชุด กะละมังเรียงเป็นตับ ง่วนอยู่นั่นแล้ว

โต๊ะสูงไปเตี้ยไป น้ำยาพอไหม...

รู้สึกสบายใจ ที่ได้จัดวางอย่างรอบคอบ

... ฉันใดก็ฉันเช้า ๕๕๕

ตอนนี้ เบรคบันทึกตนเอง ไว้ที่บทเรียนราคาแพง

อาการขยาด รุนแรงเป็นระยะๆ

บางครั้ง บอกตนเองว่า...

"ไอ้หนู...กลับไปพิจารณา ผ้าขาวหนอๆ ซะ จะเหมาะกว่า" :)

เพื่อนเค้าเคยถามว่า..."การเรียนรู้ผ่านเน็ต มันเป็นการปฏิบัติธรรมตรงไหน?"

เธอเป็นคนตรงๆใสๆ แต่คำตอบเรา มันออกไปนอกท้องนาโน้นแน่ะ :)

"ช่วงเข้าคอร์สมหัศจรรย์กับอาจารย์หนึ่ง เราติดค้างกับอาการตัวเอง

เล่่าความเป็นไป ถามท่านว่า เบื้องหลังอาการนี้ มันมาจากอุปปาทานส่วนไหน

ท่านบอกสั้นๆว่า...มันบ้ายอ" ร่ายยาว มีเว้นวรรคเล็กน้อย:)

..."เราเคยขุดปูจำศีลหน้าแล้งตอนเด็กๆในท้องนานะ(ชวนอาหมวยออกทุ่งอิอิ)

ขุดทีไร ไปไม่ถึง..รังปู รูตันทุกที ผู้ใหญ่เค้าบอก ต้องขุดเปิดพื้นที่ปากหลุมกว้างๆ

เสียมมันลงแบบแคบลงเรื่อยๆ(เป็นกรวย)เห็นมั้ย...

เรา...ทำโจทย์ที่ติดค้างมานานปีหละ แต่ถอนเหตุไม่ได้ ไม่ถึง

ค่อนข้างเชื่อนะว่า การเปิดพื้นที่คบคุ้นผู้รู้...ที่รอบทั้งโลกและธรรม

จะเป็นคำตอบให้เราเข้าถึงตัวปูได้ในวันหนึ่งแน่นอน ๕๕๕"

เรา...มีความหวัง แต่เพื่อนยังงง เธอคงข้องใจ อะไรมันต้องลงทุน

..แสวงหาวิธีการปานนั้น

เลยขยายต่อว่า...

"เราถอนเหตุไม่ถึง เรียนรู้ทุกข์กว่าจะทะลวงเหตุได้

พระท่านว่ายากยิ่งกว่าจักผมเส้นเดียวเป็นร้อยแฉก แต่ละแฉกต้องเท่ากันด้วย"!

"ยิงลูกศรร้อยดอก ให้เข้ารูกุญแจดอกเดียวได้"!

"มันต้องทุ่มเท เรียนรู้ฝึกฝนต่างกันนะ คนบารมีแก่กล้าก็โอเค

แต่เรามันทุนน้อย..." 

นั่นคือที่มาของการสมัครสมาชิกที่นี่ GtK.

แต่ช่วงที่เข้ามาติดตามจริงจัง เป็นช่วงที่ตนเองเริ่มมีปัญหาเรื่องงาน

ตามด้วยปัญหาทางบ้าน รังสีลีลาภาษาวิธีคิดฯลฯ

...ดีสำหรับเรา แต่คงไม่ดีสำหรับคนอื่น

เงี่ยหูฟัง แบบปรโตโฆษะ-โยนิโสมนสิการอยู่

เรา...ยังคงอภัย ให้โอกาสตนเองอยู่

แต่ผู้อื่นเค้าอาจจะ..ไม่ไหวกะเราแล้วก็ได้

...แม้กราบพระทุกครั้ง ครั้งที่สี่ระลึกถึงพระคุณพ่อแม่

ครั้งที่ห้าระลึกถึงพระคุณครูบาอาจารย์

คั้งที่หก กราบขออโหสิต่อผู้ที่เราได้ล่วงเกินเบียดเบียนใดๆ

ครั้งที่เจ็ดขอขมาต่อดินน้ำลมไฟในโลกนี้ฯลฯ

...แม้กระนั้น ก็มิอาจช่วยให้ความเป็นไป กาย วจี มโน...ราบรื่นลงตัวนัก

จึงคิดว่า...ก่อนจะเดินหน้า... ข้าผู้น้อย คงต้อง..ทำให้ตื้นซึ่งอาบัติ ซะละกระมัง :)

ขอมุมอนุทินของท่านอาจารย์อักฯมุมนี้ เป็นมุม "วิเวก"

เพื่อการสารภาพบาปจะได้ไหมคะเนี่ย

ไม่สะดวกที่จะเข้า Fb หนะค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ (ร่ายยาวมานี้ ยังไม่เข้าเรื่องเลย หุหุ สาธุค่ะ)


สวัสดีครับ คุณ Tawandin

 

* ขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมเยือนในอนุทินนี้ และเขียนความคิดเห็นมาซะยาวเฟื้อยเลย ซึ่งนอกจากจะอ่านไป ขำไปแล้ว ก็ยังได้แง่คิดหลายอย่างเพิ่มเติมขึ้นด้วยต่างหาก

** การทำงานต่างๆ ก็ย่อมจะมีอุปสรรคบ้างเป็นธรรมดานะครับ เพราะในสังคมนี้มีคนที่หลากหลายและนานาจิตตัง ร้อยคนก็ร้อยความคิด ไม่ได้คิดเหมือนกันเลยสักคน ปัญหาหรือความขัดแย้งทางความคิดก็เลยเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ที่ว่าเมื่อมีปัญหาแล้วเราจะมองมันอย่างไร และจะแก้ไขกันอย่างไรดี ผมเองก็เจอปัญหานี้บ่อยๆ เช่นกัน เล็กบ้างใหญ่บ้าง แต่ก็แก้ไขและทำความเข้าได้ทุกเรื่อง....

เรื่องล่าสุดที่เกิดขึ้น ก็คือ กรณีที่ผมพาเด็กๆ ทำโครงการอนุรักษ์อีฮวก(ลูกอ๊อด) ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ให้การสนับสนุน แต่มีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะกลุ่มที่เขาเคยซ้อนอีฮวกไปขาย เขาก็หาว่าผมและเด็กๆ ขัดขวางวิถีชีวิตของเขา ทำให้เขาขาดรายได้จากการขายอีฮวก แล้วก็ไปพูดต่อๆ กันว่าผมเป็นคนจากที่อื่นมาอยู่ที่นี่ แล้วก็มาทำความเดือดร้อนให้เขา และเอากฏหมายอะไรมาใช้บังคับ....ได้ยินแล้วก็อึ้งไปเหมือนกัน ทั้งๆ ที่ได้ประชาสัมพันธ์และรณรงค์มาแล้วอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีคนใจแคบและไม่เข้าใจอยู่ดี ทั้งๆ ที่โครงการนี้ในระยะยาวแล้วเป็นผลดีต่อเขาโดยตรงทั้งสิ้น

จากกรณีของเรื่องอีฮวกนี้เลยทำให้ผมได้ข้อคิดเพิ่มเติมว่า.... "บางทีสิ่งที่ดีๆ ในความคิดของเรา อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับคนอื่นก็ได้"

สวัสดีอีกครั้งค่ะอาจารย์อักขณิช

กรณีของอาจารย์ ได้ปฏิบัติการโดยรอบคอบแล้ว

ผลสะท้อน...ถ้าเราสะเทือน คงยังมีเสี้ยววิบากบางๆกระมังนะ (แม้เจตนาดี)

หากวางใจได้ และเข้าใจ ความใจแคบแบบนั้น

อาจารย์คงมีปฏิบัติการต่อยอด หรือคงจบ ยอมรับผลกระทบ

และปล่อยให้เวลา สายตามนุษย์ปรับสภาพ...

มองเห็นการณ์ใกล้ไกลโดยธรรม...ชาติ

มีโอกาส สั่งสมเป็นบารมี หลากระดับเลยนะคะ

เป็นกำลังใจให้ และชื่นชม ด้วยศรัทธาเสมอค่ะ

ปล. ส่วนเรื่อง สารภาพผิดของข้าน่อย

คงต้องบันทึกเป็นบทเรียนราคาแพงสะสางตนเองอีกบันทึกหนึ่ง

ความผิดก็คงจะตื้นขึ้นมา ไม่มีสิ่งค้างคาใจ ให้รู้สึกผิด

ศรัทธาวิธีการพระพุทธองค์นี้มากค่ะ

ขอบพระคุณมากค่ะ 



สวัสดีครับ คุณ Tawandin

 

* ตอนนี้กรณีของผมเริ่มคลี่คลายลงตามลำดับแล้วนะครับ เพราะคนที่ให้การสนับสนุน(คนส่วนใหญ่)เริ่มออกมาช่วยชี้แจงให้เข้าใจมากขึ้น อีกหน่อยทุกอย่างก็คงเข้าสู่ภาวะปกติ....เวลาจะช่วยแก้ไขและเยียวยาทุกอย่างได้นะครับ

** เขียนบันทึกเรื่องใหม่เสร็จเมื่อไหร่ รับรองว่าผมจะเข้าไปอ่านแน่นอนครับ

อักขณิช
เขียนเมื่อ

โปรดอย่าถามว่า ประเทศชาติของท่านจะทำอะไรให้ท่านได้บ้าง

แต่จงถามว่า ท่านจะทำอะไรให้กับประเทศชาติของท่านได้บ้าง

Ask not what your country can do for you,

Ask what you can do for your country.

JFK Jan 20, 19611



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

ระหว่าง....ชาย-หญิง แม้จะเป็นเพื่อนกัน แต่ก็ควรมีกำแพงสูงกั้นไว้

(สุภาษิตจีน)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

จงฝัน....แต่อย่าคาดหวัง เพราะ "ความฝัน" มีปีกบินได้ ในขณะที่ "ความคาดหวัง" มีรั้วสูงล้อมไว้

(จำที่มาไม่ได้)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

วันนี้(7 มิ.ย.2555) เป็นวันครบรอบ 1 ปีเต็ม ที่ชาวบ้านธรรมดาๆ คนหนึ่งอย่างผมได้มีโอกาสเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน gotoknow.org แห่งนี้

หากหนึ่งปีที่ผ่านมา เป็นหนึ่งปีแห่งความสุขและความงดงาม....ผมขอมอบให้กับครอบครัวของผม และเพื่อนๆ ชาว gotoknow ทุกๆ คนนะครับ



ความเห็น (2)

คุณอักขณิช มีส่วนมากในการทำให้สังคมแห่งนี้คึกคัก ด้วยบันทึกที่อ่านแล้วอารมณ์ดีเสมอ :)

สวัสดีครับ คุณหมอแต้/ ป.

 

คำชมของคุณหมอทำให้ผมตัวลอยเลยนะครับเนี่ย 555

อักขณิช
เขียนเมื่อ

ไม่ใช่เรื่องยากเลย...ที่จะทำให้ใครสักคนรักเรา แต่ยากตรงที่ว่า....ทำอย่างไรถึงจะทำให้ความรักของเรามีความมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

คำพูดดีเพียงคำเดียว สร้างความอบอุ่นได้ 3 ฤดูกาล

(สุภาษิตจีน)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

คำพูดดี....เพียงคำเดียว สามารถดับความร้อนกระหายได้ดีกว่าน้ำแข็งตั้งหนึ่งกระติก



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

หลังจากห่างเหินจากงานสอนหนังสือมานานกว่า 5 ปี วันที่ 2 มิ.ย.2555 ที่จะถึงนี้ เป็นวันแรกที่ผมจะได้ทำหน้าที่เป็น "อาจารย์พิเศษ" สอนหนังสือให้กับนิสิตชั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยสงฆ์อีกครั้งหนึ่ง(มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่) โดยจะสอนวิชา "วัฒนธรรมไทย" และ "การพัฒนาชุมชน"

ดูๆ แล้วก็เป็นวิชาที่น่าจะสอนได้อย่างสนุกสนาน เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับชีวิตประจำวันของผมอยู่แล้ว....และเพื่อให้ลูกศิษย์ได้รับความรู้อย่างเต็มที่ ช่วงนี้ผมก็เลยทำการค้นคว้าอย่างหนักและเตรียมข้อมูลการสอนไว้อย่างเต็มที่เช่นกัน

ผมจะพยายามทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้นะครับ



ความเห็น (2)

สวัสดีครับ คุณหมออดิเรก(ทิมดาบ)

 

ใจผมสู้อยู่แล้วนะครับ เพราะว่างานสอนหนังสือเป็นอีกงานหนึ่งที่ผมชื่นชอบ

แต่เนื่องจากว่าไม่ได้สอนมาเป็นเวลานาน เลยคงจะต้องใช้เวลาจูนคลื่นอยู่พอสมควร

กระบี่ที่เก็บอยู่ในฝักนานเกินไป บางทีอาจจะขึ้นสนิม และไม่คมเหมือนเก่า ก็ได้นะครับ 555

อักขณิช
เขียนเมื่อ

สมัยเด็กๆ ตอนแข่งขันวิ่ง....

หลายคนดีใจ....ที่ได้ที่หนึ่ง

ส่วนผมแม้จะเข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้าย

แต่ก็รู้สึกดีใจ....ที่ได้ไปถึง(เส้นชัย)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

โปรดอย่าทำลาย "ความฝัน" ของใคร ไม่ว่ามันจะยิ่งใหญ่หรือเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม ด้วยว่า...บางที  "ความฝัน"นั้น อาจจะเป็นสมบัติล้ำค่าเพียงชิ้นเดียวและชิ้นสุดที่เขาเหลืออยู่...ก็ได้

(จำที่มาไม่ได้)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

เนื่องด้วย "กลุ่มเยาวชนบ้านแม่ตาด" ต.ห้วยทราย อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ มีโครงการจะจัดทำเสื้อทีมชุดใหม่ขึ้น เพื่อทดแทนเสื้อทีมชุดเดิมที่เก่าและเริ่มผุพัง พร้อมทั้งมีโครงการจะจัดไปทัศนศึกษานอกสถานที่ด้วย โดยทั้ง 2 กิจกรรมนี้จะต้องใช้งบประมาณ 8,000 บาท แต่ขณะนี้ยังขาดแคลนงบประมาณส่วนนี้อยู่

ดังนั้น หากเพื่อนๆ หรือกัลยาณมิตรผู้ใจบุญท่านใด มีจิตศรัทธาจะร่วมบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนและสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มเยาวชนบ้านแม่ตาดในครั้งนี้คนละเล็กคนละน้อย ก็ขอเชิญบริจาคผ่านบัญชีธนาคารของกลุ่มเยาวชนบ้านแม่ตาดได้โดยตรงนะครับ

ชื่อธนาคาร/สาขา : ธนาคารออมสิน สาขาสันกำแพง

ชื่อบัญชี : กลุ่มเยาวชนบ้านแม่ตาด

เลขที่บัญชี : 02 0059374 569

ประเภทบัญชี : เผื่อเรียก

อนึ่ง หากท่านใดมีจิตศรัทธาจะร่วมบริจาค ก็ขอให้แจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-8839470 จะได้ทราบจำนวนเงินที่บริจาคและจะได้ทำการกล่าวขอบคุณด้วยตนเองด้วยครับ

ขอขอบคุณอย่างสูงครับ

นายอักขณิช ศรีดารัตน์



ความเห็น (4)

 

เสื้อทีมของกลุ่มเยาวชนบ้านแม่ตาดแบบแรกเป็น  "สีฟ้า" อย่างที่เห็นในภาพนะครับ

ส่วนแบบที่จะจัดทำขึ้นใหม่จะเป็น "สีดำ" เพื่อให้สามารถใส่ไปช่วยงานขาว-ดำ(งานศพ)ได้ด้วย

ทั้งนี้ จะมีการปรับเปลี่ยนสีของโลโก้ใหม่ เพื่อให้ดูสว่างและสดใสมากขึ้น

รวมทั้งเปลี่ยนจาก "Up to U Think ?" เป็น  "รักทุกคน"   อีกด้วย

ผม approve ข่าวประชาสัมพันธ์ให้แล้วนะครับ อีกสักพักก็จะแสดงในส่วนท้ายของทุกหน้าครับ

ปล. ตอนนี้ข่าวประชาสัมพันธ์เปลี่ยนมาใช้ระบบ approve ก่อนจะแสดงครับ

สวัสดีครับ อาจารย์ ดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์

 

-ขอบคุณอาจารย์มากๆ เลยครับ ที่กรุณาช่วย approve ข่าวประชาสัมพันธ์ให้อีกทางหนึ่ง.... ซึ่งถือว่าเป็นการร่วมกันให้กำลังใจและช่วยสนับสนุนกิจกรรมที่ดีๆ ที่เด็กและเยาวชนบ้านแม่ตาดได้ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นมา

 

-ความจริง....ผมตั้งใจจะแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์นานแล้วนะครับ แต่ผมก็รู้สึกลังเล เพราะไม่แน่ใจว่าจะเป็นการทำผิดมารยาทหรือผิดนโยบายของ GTK หรือเปล่า? เลยไม่กล้าแจ้งข่าวบอกใครเสียที....แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะลองลงข่าวประชาสัมพันธ์ดู เพราะคิดว่าไม่ได้เป็นการทำเพื่อตนเองแต่อย่างใด หากแต่เป็นการทำเพื่อเด็กๆ และส่วนรวม....ในที่สุดก็เลยตัดสินใจแจ้งข่าวบอกบุญลงใน GTK อย่างที่เห็น....และรู้สึกดีใจมากๆ ที่อาจารย์เห็นชอบและร่วมด้วยช่วยกันอีกแรงหนึ่ง

 

-ขอขอบคุณอาจารย์มากๆ เลยนะครับ

อักขณิช
เขียนเมื่อ

ไม่ได้เขียนบันทึกหลายวัน วันนี้เลยเข้ามาเขียน เรื่อง "ขุดไข่แมงมัน" ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน

เลยทำให้สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างของระบบประมวลผลของ GTK ซึ่งคงจะต้องฝากให้ท่านที่เกี่ยวข้องรีบหาทางแก้ไขโดยด่วน

เรื่องของเรื่องก็คือว่า....มีคนให้ดอกไม้ผม 3 คน แสดงความเห็น 4 คน แต่มีคนอ่านเพียง 1 คนเท่านั้น.....ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องผิดปกตินะครับ


สร้าง: 22 กุมภาพันธ์ 2555 16:27 · แก้ไข: 22 กุมภาพันธ์ 2555 16:30 ดอกไม้: 3 · ความเห็น: 4 · อ่าน: 1 · สร้าง: ประมาณ 3 ชั่วโมง ที่แล้ว



ความเห็น (2)

สวัสดีครับ คุณหมอแต้ (ป.)


-ช่วงหลังๆ มานี้ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาใน GTK บ่อยเท่าไหร่เลยนะครับ

เพราะว่าส่วนใหญ่จะไปติดอยู่ที่ Facebook แทน

ซึ่งมีเพื่อนๆ จาก GTK หลายสิบท่านด้วยกันที่เป็นเหมือนกับผม..... 555

 

-ต่อไปจะพยายามแวะเข้ามาให้บ่อยขึ้นกว่าเดิมนะครับ

อักขณิช
เขียนเมื่อ

วันนี้ (๑๖ ม.ค.) เป็น "วันครู"

ตอนกลางวันผมเลยโทรไปขอพรจาก "คุณครู" หลายท่านที่ผมเคารพนับถือ ซึ่งก็ได้รับพรและข้อคิดกลับมาหลายอย่าง

ในชีวิตของผม.....มีครูหลายท่านที่ผมให้ความเคารพนับถือ หลายท่านเคยประสิทธิ์ประสาทความรู้ให้กับผม ในขณะที่บางท่าน...แม้ว่าท่านอาจจะไม่เคยสอนผมโดยตรง แต่ผมก็เลื่อมใสและศรัทธาในจรณะของท่านเสมอมา

ในบรรดาครูทั้งหมดเหล่านั้น มีครูอยู่ ๒ ท่าน ที่ผมให้ความเคารพนับถือท่านอย่างสุดหัวใจ ในฐานะที่ท่านเป็นแรงบันดาลใจและมีความสำคัญต่อชีวิตของผมอย่างอย่างมากมาย

ท่านแรก......คือ อาจารย์วิราช กองแก้ว ครูโรงเรียนบ้านพราน(ประชานุเคราะห์) ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ.....ซึ่งเป็นทั้งคุณครูและพ่อบุญธรรม ที่คอยสนับสนุนเด็กด้อยโอกาสอย่างผมให้มีโอกาสได้กินอาหารอิ่มท้องและศึกษาเล่าเรียนในช่วงที่ผมยังเยาว์วัย จวบจนถึงปัจจุบัน ความรักและความห่วงใยที่ท่านมีต่อผมก็ยังคงอยู่และไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด

ท่านที่สอง.....คือ ท่านอาจารย์ ดร.ประมวล เพ็งจันทร์ ซึ่งเป็นทั้งครู นักเขียน นักบรรยาย และนักปรัชญา ผู้เขียนหนังสือ "เดินสู่อิสระภาพ" อันโด่งดัง

ตลอดระยะเวลา 22 ปี (ตั้งแต่ 2533 ตอนที่ท่านมาเป็นอาจารย์ มช.ใหม่ๆ และยังหนุ่มแน่นอยู่) ที่ผมได้รู้จักกับท่านอาจารย์ประมวลมา ท่านเป็นครูที่มีความเสมอต้นเสมอปลายอยู่เสมอ ความคิด ทัศนะ และจรณะของท่านไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป

นอกจากท่านจะสอนผมในห้องเรียนแล้ว นอกห้องเรียนท่านก็ยังแนะนำและสั่งสอนผมอยู่เสมอ ทั้งในเรื่องการเรียน ความรัก การมองโลก ชีวิตคู่ และการใช้ชีวิตแบบนอกกรอบ

แม้ในยามที่ผมเจ็บป่วยหนัก ท่านก็ยังทำหน้าที่แทน "พ่อแม่ของผม" ด้วยการรับ-ส่งไปโรงพยาบาล ตลอดทั้งคอยดูแลเอาใจใส่ผม ประหนึ่งว่าผมเป็นลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวของท่าน

ยามเมื่อผมจะแต่งงาน ท่านก็เป็นที่ปรึกษาเรื่องชีวิตคู่ให้กับผม และรับเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวในการไปสู่ของเจ้าสาวให้กับผมด้วยความยินดีอย่างยิ่ง

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมได้รับสิ่งที่ดีๆ จากท่านอย่างมากมาย และท่านก็เป็น "ต้นแบบ" หรือ "แรงบันดาลใจ" ในการดำเนินชีวิตของผมเสมอมา

เมื่อถึงวันครูของทุกๆ ปี สิ่งที่ผมคิดถึงเป็นอันดับแรกก็คือ คิดถึงคุณครู ทั้ง ๒ ท่านดังกล่าว และไม่เคยลืมที่จะโทรไปพูดคุยและขอพรหรือข้อคิดดีๆ จากท่าน เพื่อนำมาปฏฺิบัติในชีวิตประจำวันต่อไป

วันนี้....ผมโทรไปขอพรจากคุณครูของผมเรียบร้อยแล้วนะครับ



ความเห็น (2)
  •   วันนี้พี่ก็ไประลึกและกราบไหว้ครูที่สั่งสอนมาในงานวันครู  โชคดีที่ครูของพี่(ตอนเรียนประถม) อยู่ในงานนี้เกือบทุกคน
  • เป็นบันทึกที่ยอดเยี่ยม ให้ความรู้สึกที่ดีมากๆค่ะ

 

อักขณิช
เขียนเมื่อ
      เป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ที่ผมได้ตัดสินใจยุติการทำงานด้านการขนส่งสินค้า หลังจากทำงานนี้มาเกือบ 4 ปี  เนื่องมาจากประสบปัญหาทางด้านสายตา ที่รู้สึกว่าเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ เพราะสังขารที่เริ่มโรยรา....คิดไปคิดมา สุดท้ายก็เลยตัดสินใจเลิกทำ แล้วก็รับทำงานอิสระ ช่วยแม่บ้านจำหน่ายสินค้าขายตรง และทำหน้าที่เป็น "ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน" อย่างเต็มที่      การยุติการทำงานขนส่งสินค้า เท่ากับว่าทำให้ผมต้องยุติ "การเดินทาง" ไปโดยปริยาย แม้ว่าจะรักและชอบการเดินทางมากมายแค่ไหนก็ตาม      ด้วยเหตุนี้  ผมจึงขอเปลี่ยนสโลแกนประจำตัว จาก "นักเดินทางอารมณ์ดี" มาเป็น "ชาวบ้านอารมณ์ดี" แทน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะที่ตนเองเป็นอยู่      สำหรับผมแล้ว.....ไม่ว่าผมจะทำหรือเป็นอะไรก็ตาม  ผมก็รู้สึกมีความสุขกับสิ่งที่ตนเองทำและเป็นอยู่เสมอนะครับ.....เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ผมได้เลือกแล้วนั่นเอง


ความเห็น (8)

เห็นด้วยกับประโยคสุดท้ายค่ะ ขอเพียงมีอิสระ ได้เลือกทำในกิจกรรมใดๆ ด้วยความพอใจ และเต็มที่กับมัน ก็สุขใจ ด้วยเชื่อมั่น ศรัทธา .. ส่งกำลังใจเสมอนะคะ :)

  • 3 เดือนที่ห่างเหินจากการเดินทาง คงรู้สึกเหมือนอะไรในชีวิตขาดหายไปใช่มั๊ยคะ
  • เวลาทำให้การดำเนินชีวิตเปลี่ยนแปลงไปไม่จบไม่สิ้น
  • การมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่และทำสิ่งที่เป็นอยู่ให้มีความสุขยิ่งๆขึ้น คือความสุขที่แท้จริง
  • มีความสุขกับการเป็น "ชาวบ้านอารมณ์ดี" ในทุกๆวันนะคะ

 

แล้วก็อย่าลืมไปหาหมอ

ตรวจเช็คสายตาด้วยนะคะ

อันนี้สำคัญมากๆ :)

สวัสดีครับ คุณ Poo

-ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับกำลังใจที่มอบให้เสมอมา

-ตั้งแต่เล็กจนโต ชีวิตของผมก็เกี่ยวเนื่องอยู่กับการเดินทางตลอดนะครับ ทั้งในและต่างประเทศ จนทำให้เกิดความรักในการเดินทางและคิดอยู่เสมอว่า "ชีวิตคือการเดินทาง" ทั้งด้านกายภาพและจิตวิญญาณ(ผมออกเดินทางจากบ้านเกิดที่ศรีสะเกษตั้งแต่อายุ 13 ปี จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีโอกาสได้กลับไปใช้ชีวิตที่นั่นอีกเลยนะครับ)

ในความรู้สึกนึกคิดที่มีอยู่นั้น....ผมยังรักการเดินทางและยังอยากจะเดินทางไปเรื่อยๆ เพราะบนเส้นทางที่ผมได้ผ่านไปนั้นมีเรื่องราวต่างๆ มากมายให้ผมได้พบเห็นและได้เรียนรู้

แต่ทว่าในความเป็นจริง.....สังขารกลับเป็นอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้ผมต้องตัดสินใจยุติการเดินทาง คงเหลือไว้เพียงการเดินทางในคราวที่จำเป็นเท่านั้นเอง

-ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา.....สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ ก็คือ....ผมได้เรียนรู้ว่า "ความสุขมีอยู่ในทุกหนแห่งและมีอยู่ในทุกขณะเวลา" ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เราหยุดอยู่กับที่หรือตอนที่เรากำลังเดินทางอยู่ก็ตาม

-ผมมีความสุขกับสิ่งที่ผมเลือกที่จะเป็นและเลือกที่จะทำ

แม้ว่ามันอาจจะทำให้ผมเป็นชาวบ้านนอกธรรมดาๆ ที่ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนใครๆ ก็ตาม

แต่ผมก็รู้สึกภูมิใจและมีความสุขเสมอนะครับ

-แล้วค่อยพูดคุยกันเพิ่มเติมใน facebook นะครับ

สวัสดีครับ คุณครู krupadee

 

-ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับกำลังใจที่มีให้กันเสมอมา

-ช่วงแรกๆ ผมก็สะดุ้งตื่นตอนตี 4 เกือบทุกวันนะครับ เพราะช่วงทำงานขนส่งสินค้าส่วนมากจะออกเดินทางช่วงเวลานั้น จะนอนต่อก็นอนไม่หลับ จนต้องเปิดเนตอ่านข่าวต่างๆ แทนจนสว่าง.....มันเหมือนกับมีอะไรบางอย่างขาดหายไปจริงๆ นะครับ

-เวลาเปลี่ยนแปลงและกลืนกินสรรพสิ่งจริงๆ นะครับ ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวของมันเอง

-ขอให้คุณครูมีความสุขกับทุกๆ ช่วงเวลาเช่นกันนะครับ

สวัสดีครับ คุณหนูรี

 

-ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับความห่วงใยและความปรารถนาดีที่มีให้ผมเสมอมา

-ผมไปตรวจสายตามาแล้วนะครับ หมอบอกว่าเป็นธรรมดาของคนที่สายตาสั้น เมื่อใช้สายตานานเกินไปก็จะทำให้สายตามีปัญหาเป็นธรรมดา แต่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร

แต่ผมก็ไม่อยากฝืนนะครับ เพราะแม้ใจจะสู้ก็จริง แต่ถ้าหากสังขารไม่เอื้ออำนวยแล้ว ฝืนต่อไปก็ลำบากและมีความเสี่ยงสูง ก็เลยเลือกที่จะหยุดดีกว่า แล้วหันมาทำงานที่เกี่ยวข้องกับการขับรถขับราน้อยลง ซึ่งจะทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น

-ครอบครัวของผมมี "แพทย์ประจำครอบครัว" อยู่นะครับ เพราะว่าน้องชายของภรรยาเขาเป็นนายแพทย์ครับ เวลามีปัญหาอะไรขึ้นมา เขาก็ดูแลตลอดเวลา เลยไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วงนะครับ

อิสรภาพที่สามารถเลือกทางเดินชีวิตได้เองนี่...ขึ้นกับการกระทำและบุญที่สะสมมานะคะ

รวมกับมุมมอง "ความสุขมีอยู่ในทุกหนแห่งและมีอยู่ในทุกขณะเวลา" ช่างเป็นความธรรมดาสามัญที่หาได้ง่ายดายและมีอยู่จริง

เห็นด้วยและยินดีด้วยมาก ๆ นะคะ.....ชีวิตสงบ สุข ง่าย งาม

สวัสดีครับ คุณหมอ ทพญ.ธิรัมภา -ขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจเสมอมา -ชีวิตของคนเรา ที่จริงเราสามารถเลือกได้นะครับ ว่าเราควรจะจัดวางชีวิตของเราให้อยู่ตรงจุดใด ถ้าเพียงแต่เราจะมีจุดยืนเป็นของตัวเองและมีความกล้าหาญมากพอ -ถ้าหากเราเข้าใจความเป็นธรรมดา เราก็จะพบเห็นว่าความสุขนั้นมีอยู่ในทุกหนแห่งและมีอยู่ในทุกขณะเวลานะครับ ทั้งนี้ อายุและประสบการณ์ที่มากขึ้น จะทำให้เราเข้าใจสิ่งเหล่านั้นได้ดีขึ้น -ขอให้คุณหมอมีความสุขในทุกๆ ขณะเวลานะครับ

อักขณิช
เขียนเมื่อ

 

คำพังเพยของไทยในอดีต....."น้ำขึ้น....ให้รีบตัก"
คำพังเพยของไทยในปี 2554....."น้ำท่วม.....ให้รีบอพยพหนี"



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

ช่วงเดือน พ.ย.54 นี้ มีงานค่อนข้างเยอะมาก

กลับบ้านดึกเกือบทุกวัน

เนื่องจากปฏิบัติตามคำโบราณที่ว่า ...."น้ำขึ้น  ให้รีบตัก"

(แต่ถ้าหากเป็น  "น้ำท่วม" ให้ "รีบอพยพหนี"  นะครับ....คิคิคิ)

ก็เลยอาจจะทำให้ไม่มีเวลาเขียนบันทึกใหม่ๆ ให้เพื่อนๆ ได้อ่านบ่อยเหมือนในช่วงที่ผ่านมา

ต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ

ระยะนี้ก็จะขอทำหน้าที่เป็น "ผู้อ่านที่ดี" อย่างเดียวไปก่อนนะครับ

เอาไว้เสร็จงานเมื่อไหร่ จะเขียนให้อ่านบ่อยๆ เช่นเดิมครับ



ความเห็น (2)
  • มัวแต่ "ตักน้ำตอนที่น้ำขึ้น" นี่เอง คุณพ่อน้องพอเพียงถึงได้ไม่มีเวลาเขียนบันทึกให้อ่าน
  • ดีแล้วล่ะค่ะ เพราะวัยของคุณอักขณิชนี่ เป็นวัยของการสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว
  • แต่ยังไงก็อย่าลืมหาเวลาเล่าเรื่อง เล่านิทานให้ลูกๆ ฟังบ้างนะคะ เพราะมันเป็นกิจกรรมที่จะทำให้ลูกๆ รู้สึกอบอุ่น มีความสุขมาก และก็ยังเป็นการพัฒนาทักษะการฟัง และการเสริมสร้างจินตนาการให้เด็กๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าผู้เล่ามีความรักเปี่ยมล้นให้กับผู้ฟัง และมีทักษะในการเล่าที่ออกรสอย่าง "คุณพ่ออักขณิช"   

-ขอบคุณ อาจารย์ ผศ.วิไล แพงศรี มากๆ เลยครับ ที่กรุณาชี้แนะและมอบข้อคิดดีๆ ให้กับผม ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากๆ เลยนะครับ

-ช่วงหลังๆ มานี้ นานๆ ถึงจะได้เล่านิทานให้ลูกฟัง

ส่วนใหญ่จะเปิดการ์ตูน Tom and Jerry และ Bernard Bear ให้เขาดูแทนนะครับ เพราะว่าเขาชอบดู.....กว่าเขาจะดูจบ ผมก็หลับไปก่อนตั้งนานแล้ว คิคิคิ

-ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับความปรารถนาดีและความห่วงใยที่มีให้ผมเสมอมา

อักขณิช
เขียนเมื่อ

 

 

โปรดอย่าปล่อยให้ความแตกต่างใดๆ

มาเป็นอุปสรรคขัดขวางในการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

 

         พรุ่งนี้เช้า(14 ต.ค.54) จะเดินทางไปนครสวรรค์กับเพื่อนๆ เพื่อนำสิ่งของไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่นั่น.....จะพยายามไปให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้  เย็นๆ ก็จะเดินทางกลับเชียงใหม่เลย

         แล้วจะกลับมาเล่าให้เพื่อนๆ ใน gtk ได้อ่านนะครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

 

"ถ้าเรียกร้องได้  ผมอยากเรียกร้องให้คนไทยที่ยังมีแรงอยู่ให้ออกมาช่วยกันให้มากที่สุด  ใครมีเงินช่วยเงิน ช่วยเรื่องสิ่งของ  ใครมีแรงช่วยออกแรง  ปัญหาวันนี้มันหนักหนาสาหัสจริงๆ"

  

"ผมขอร้อง..." 

 

 

ตัน  ภาสกรนที

12/10/54

 

 




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

 

 

หลายร้อยปีก่อนเราเคยเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับ.....พม่า

แต่ปีนี้เรากลับเสียพระนครศรีอยุธยาและเมืองใกล้เคียงให้กับ.....น้ำ

เป็นเรื่องตลกแบบเศร้าๆ นะครับ.....คิคิคิ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

๑.  หลายวันมานี้งานรุม อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝนตก

เลยทำให้มีปัญหาสุขภาพนิดหน่อย(พอมึนๆ หัว และคิดอะไรไม่ค่อยออก)........เลยไม่ได้เขียนบันทึกใหม่ๆ ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน (ทั้งที่มีเรื่องราวที่อยากจะเขียนอีกตั้ง 199,999 เรื่อง เลยทีเดียว  คิคิคิ)

 

๒.   ดูข่าวทีวี....เห็นข่าวน้ำท่วมแล้ว รู้สึกเศร้าและสงสารผู้ที่กำลังเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทนนั้นมากๆ ....อยากจะช่วยแบ่งเบาความทุกข์เหล่านั้นจังเลย  แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี.....ได้แต่คิด  คิด  คิด คิด และก็คิดเท่านั้นเอง  เฮ่อ!

๓.   ขอเป็นกำลังใจและขอเอาใจช่วยให้พี่น้องที่กำลังประสบปัญหาอุทกภัย จงมีความอดทน เข้มแข็ง และก้าวพ้นจากห้วงเวลาแห่งความยากลำบากเหล่านี้ไปได้ด้วยดีทุกประการ....นะครับ

 

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อักขณิช
เขียนเมื่อ

 

 

ยามใด.....เรารู้สึกตัวว่า "โง่"

ยามนั้นแหละ..... แสดงว่าเรา "เริ่มฉลาด" ขึ้นมาบ้างแล้ว



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท