เรื่องของ “นรก”ที่คนไม่อยากรู้

เรื่องของ “นรก”ที่คนไม่อยากรู้

เวลาคนตาย คนที่อยู่ข้างหลังมักพูดกันว่า ขอให้ไปสู่ “ สุคติ” เพราะไม่มีใครอยากไปสู่ “ทุคติ” ท่านทราบไหมว่า สุคติ อยู่ที่ไหน ทุคติ อยู่ที่ไหน สุคติผมพูดไปบ้างแล้วในเรื่องของเทวดา แต่ทุคติ ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ ผมจึงไปอ่านหนังสือโลกทีปนี ของพระพรหมโมลี(สมณศักดิ์ขณะนั้น)(วิลาศ ญาณวโร ป.ธ.๙)และหนังสือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ(ขอโทษที่ไม่เรียกสมณศักดิ์) ประกอบกับความรู้ที่ผมได้เรียนรู้ บูรณาการมาเป็นเรื่องราวที่จะคุยสู่กัลยาณมิตรชาวโกทูโนว์ทุคติภูมิ น่าจะหมายถึง อบายภูมิ หรือบางคนก็เรียก นิรยภูมิ บางคนเรียกโลกนรก จริงๆแล้ว อบายภูมิจะมี ๔ ภูมิคือ

๑. โลกนรก

๒.โลกเปรต

๓. โลกอสุรกาย

๔. โลกเดรัจฉาน

ใน ๔ ภูมินี้เรามองเห็นด้วยตาเนื้อ ไม่ต้องใช้ตาทิพย์ อยู่ ๑ ภูมิคือโลกเดรัจฉาน หมู หมา กา ไก่ ถือว่าอยู่ในทุคติภูมิ รวมทั้งหมาฝรั่ง หรือหมาที่ผู้มีบุญวาสนา ผู้มั่งคั่งเลี้ยง ราคาตัวละแสน ค่ารักษา ค่ายาหมา มากกว่าค่ายาบุพการี หมาป่วยพาไปหาหมอคลินิก พ่อแม่ป่วย ให้ไปนั่งต่อคิวที่โรงพยาบาลวันนี้จะขอเล่าเรื่อง โลกนรก ในข้อ ๑ ก่อนโลกนรก นี้มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล แบ่งเป็นขุม ใหญ่เล็กมากมายนับไม่ไหว ผมจึงขอเล่าถึงนรกประเภทใหญ่สุด ที่เรียกว่า มหานรกซึ่งมีอยู่ ๘ ขุม ดังนี้

๑. สัญชีวนรก

๒.กาฬสุตตนรก

๓.สังฆาฏนรก

๔.โรรุวนรก

๕.มหาโรรุวนรก

๖.ตาปนรก

๗.มหาตาปนรก

๘.อเวจีนรก

คราวนี้ผมจะพาไปดูนรก(ไม่ใช่พาไปลงนรกนะครับอย่าตกใจ แรกๆผมอาจพาไปดูขุมแรกๆก่อนแล้วถ้ามีเวลา จะมาเติมให้ครบทุกขุมต่อไป เชิญตามผมมานะครับ ระวัง ตกนรกนะครับ

๑. สัญชีวนรก แปลว่า นรกที่ไม่มีวันตาย เพราะสัตว์นรกในขุมนี้จะรับทุกข์ทรมานแสนสาหัสจนตายแล้วก็กลับฟื้นขึ้นมารับความทรมานต่อ ห้ามตายหนีทุกข์ ตัวอย่างความทรมานคือ ถูกนายนิรยบาล (ต่อไปผมจะเรียกว่า ผู้คุมนรกไม่ใช่เจ้าแห่งนรกนะครับ) บังคับให้นอนบนแผ่นเหล็กเผาไฟนรก แล้วเอามีดหรือ ขวานนรก ค่อยๆแล่เนื้อจนเหลือแต่กระดูก บางทีก็เอามีดนรกสับเป็นท่อนๆ พอตาย ก็มีลมกรรมพัดมา ทำให้กลับฟื้นขึ้นมารับกรรมอย่างเดิมอีก นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งนะครับ ยังมีรูปแบบการลงโทษสุดสยองในนรกขุมนี้อีกมาก

สร้างกรรมอะไรไว้ จึงมาตกนรกขุมนี้ กรรมที่ทำไว้คือตอนเป็นคน มีจิตใจหยาบช้า ลามกสกปรก ชอบก่อกรรมทำเข็ญ ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เบียดเบียนผู้อื่น(ดูแล้วในสังคมเรา หรือตัวเราก็หาไม่ยากนะครับแบบนี้)

อายุ ที่จะต้องอยู่เสวยกรรม สัตว์นรกขุมนี้ จะมีอายุ ๕๐๐ ปี แต่เดี๋ยวก่อนครับท่าน ปีในที่นี้คือปี นรก มีอัตราเทียบดังนี้ครับ๙,๐๐๐,๐๐๐ ปี(เก้าล้าน) ของโลกมนุษย์ เท่า กับ ๑ วัน(๒๔ ชั่วโมง) ของนรกขุมนี้

๒..กาฬสุตตนรก หมายถึงนรกที่ลงโทษด้วยเส้นด้ายดำ

สภาพความเป็นอยู่ของสัตว์นรกขุมนี้ สัตว์นรกยังคงถูกผู้คุมจับมัดให้ให้นอนบนแผ่นเหล็กที่เผาไฟนรกจนแดง แล้วเอาด้ายดำที่ทำด้วยเหล็กขนาดเท่าต้นตาล มาตีบนร่างสัตว์นรกให้เป็นรอยเส้น แล้วเอาเลื่อยนรกที่เผาไฟนรกจนแดงค่อยๆเลื่อยไปบนร่างกายสัตว์นรกตามแนวเส้นด้ายที่ตีไว้ ลองคิดดูซิว่าสัตว์นรกจะทุรนทุรายเพียงใด นี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการลงโทษในนรกขุมนี้เท่านั้น

กรรมที่สร้างไว้ จนทำให้ตกนรกขุมนี้คือ มีใจบาปหยาบช้า จับสัตว์ ๔ เท้ามาตัดอวัยวะ หรือพวกที่เจตนาจุดไฟเผาป่าให้สัตว์ล้มตาย หรือทำร้ายบิดา มารดา ครู อาจารย์ หรือผู้มีพระคุณ

อายุที่จะต้องอยู่เสวยกรรม จำนวน ๑,๐๐๐ ปีนรก อัตราเทียบ ๓๖,๐๐๐, ปีในโลกมนุษย์เท่ากับ ๑ วัน(๒๔ ชั่วโมง)ในโลกมนุษย์

๓. สังฆาฏนรก หมายถึง นรกบดขยี้สัตว์นรก

ภาพความเป็นอยู่ของสัตว์นรกขุมนี้ สัตว์นรกจะมีรูปร่างแปลกคือมีตัวเป็นคนแต่มีหัวเป็นสัตว์เดรัจฉานก็มี มีตัวเป็นสัตว์เดรัจฉานแต่มีหัวเป็นคนก็มี การลงโทษมีหลายรูปแบบแต่ที่ทำให้เรียกว่า นรกบดขยี้สัตว์ก็คือ ผู้คุมจะจับสัตว์นรกมาฝังไว้ในแผ่นเหล็กนรก ฝังลึกแค่บั้นเอว แล้วตรึงไม่ให้ขยับได้ ทันใดนั้นก็มีภูเขาที่ลุกเป็นไฟกลิ้งมาบดทับขยี้สัตว์นรก จนแหลกละเอียดน่าเวทนายิ่งนักพอลมกรรมพัดมาก็ฟื้นคืนชีพมารับกรรมอีก

อายุที่ต้องรับทุกเวทนาในนรกขุมนี้คือ ๒,๐๐๐ ปี อัตราเทียบ คือ ๑๔๕ ล้านปีในโลกมนุษย์ เท่ากับ ๑ วัน หรือ ๒๔ ชั่วโมงในนรกขุมนี้

กรรมที่ทำไว้จนทำให้มาอยู่นรกขุมนี้ คือเคยเป็นคนใจบาป หยาบช้า มากด้วยอกุศลกรรม ไร้ความเมตตากรุณา ทำการทารุณกรรมสัตว์เช่นฆ่าสัตว์เป็นประจำ

๔. โรรุวนรก หมายถึง นรกที่แต็มไปด้วยเสียงร้องไห้

สภาพความเป็นอยู่ของสัตว์นรกขุมนี้ นรกขุมนี้จะมีดอกบัวเหล็กเต็มไปหมดดอกบัวเหล็กนี่แหละเป็นเครื่องมือลงโทษสัตว์นรก โดยให้สัตว์นรกนอนคว่ำหน้า อยู่กลางดอกบัวเหล็ก หัวมิดเข้าไปในดอกบัว แค่คาง ปลายเท้าจมมิดเข้าไปในออกบัวเหล็กแค่ข้อเท้า มือกางจมมิดเข้าไปในดอกบัวเหล็กแค่ข้อมือ(ท่านลองทำท่าทางดูคงพิลึกอยู่) ทันใดนั้นก็ปรากฏเปลวไฟขึ้นเผาไหม้ดอกบัวเหล็กพร้อมสัตว์นรกนั้น เปลวไฟแลบเข้าหูขวาทะลุหูซ้าย เข้าปาก ตา จมูก สัตว์นรกก็ได้แต่ร้องครวญคราง จะตายก็ไม่ตายได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส

กรรมที่ทำให้มาตกนรกขุมนี้ เพราะเป็นคนใจบาปหยาบช้า จับเอาสัตว์เป็นๆมาเผา หรือปิ้งกินบ่อยๆ(พวกชอบกินปูเผา กุ้งเผาสดๆจะโดนไหมนี่) ผู้พิพากษาตัดสินอย่างไม่ยุติธรรม มีอคติทั้ง ๔ เห็นแก่สินบน ตายไปก็จะตกนรกขุมนี้ พวกที่ชอบรุกที่บ้าน ที่ดินไร่นา เลือกสวนคนอื่น พวกที่ชอบมีชู้แล้วให้ชู้มาฆ่าผัว ฆ่าผัวเขาแล้วเอาเมียมาครอง เบียดบังทรัพย์ที่มีคนทำบุญ ถวายพระรัตนตรัย ถวายวัด ตายแล้วมาอยู่นรกขุมนี้ทั้งนั้น

อายุของสัตว์นรกขุมนี้ ๔,๐๐๐ ปี อัตราเทียบ ๒๓๔,๐๐๐,๐๐๐ (สองร้อยสามสิบสี่ล้าน) ปีมนุษย์ เท่ากับ ๑ วันในนรกขุมนี้

๕. มหาโรรุวนรก หมายถึง นรกที่เต็มไปด้วยเสียงครวญครางอย่างมากมาย

สภาพความเป็นอยู่ของสัตว์นรกขุมนี้ สัตว์นรกจะต้องเข้าไปยืนในดอกบัว ซึ่งมีกลีบแต่ละกรีบคมเป็นกรด มีไฟนรกลุกโพลงอยู่ในดอกบัวตลอดเวลา ไฟนรกนี้จะเผาไหม้สัตว์นรกในดอกบัวตั้งแต่เท้าจรดศีรษะ เปลวไฟแลบเข้าไปในทวารทั้ง ๙ เผาไหม้ทั้งข้างในและข้างนอก เพราะเหตุที่นรกขุมนี้มีเปลวไฟที่ ร้อนแรงร้ายกาจ จึงได้ชื่ออีกชื่อว่า ชาลโรรุวะ หมายถึงนรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องครวญครางเพราะเปลวไฟ

อายุสัตว์นรกขุมนี้แค่เพียง ๘,๐๐๐ ปี เทียบอัตรา ๙๒๑๖,๐๐๐๐๐๐(เก้าพันสองร้อยสิบหกล้านปี)บนโลกมนุษย์เท่ากับ ๑ วันในนรกขุมนี้

ทำกรรมอะไรไว้จึงมาเกิดในนรกขุมนี้   ตอนเป็นคนใจบาปหยาบช้า ลามกสกปรกด้วยอกุศลกรรม ใจโหดร้าย ตัดศีรษะสัตว์และมนุษย์ (ยังงี้พวกโจร ๓ จังหวัดภาคใต้ ตายเมื่อไหร่ ต้องได้ลงนรกขุมนี้แน่ ผิดศีลห้าข้อ ๑ คือทำปาณาติบาตด้วยความโกรธ ทำโจรกรรมทำชั่วด้วยความอาฆาต ปล้นขโมยสิ่งของของพระรัตนตรัย ของพ่อแม่ ครูอาจารย์และของผู้ทรงศีล

๖. ตาปนรก หมายถึงนรกทำให้สัตว์เร่าร้อน

ความเป็นอยู่ของสัตว์นรกขุมนี้ ในนรกขุมนี้มีเหล็กหลาวอันใหญ่เท่าต้นตาล ลุกเป็นไฟ หลาวเหล็กไฟแต่ละอันมีสัตว์นรกเสียบอยู่บนปลายหลาว มีเปลวไฟพุ่งขึ้นภายใต้หลาวเหล็กไหม้เผาผลาญสัตว์นรกที่เสียบอยู่ตลอดเวลา เหมือนหมูย่าง

อายุสัตว์นรกในขุมนี้ ๑๖,๐๐๐ ปี เทียบอัตรา ๑๘๕๔,๐๐๐,๐๐๐ ล้านปี มนุษย์ เท่ากับ ๑ วัน นรก

ทำกรรมอะไรไว้ จึงมาตกนรกขุมนี้ เคยเป็นมนุษย์ใจบาปหยาบช้ ใช้อกุศลมูล เป็นเหตุให้ก่อกรรมทำเข็ญ เช่นเป็นนายพรานล่าสัตว์ เห็นแก่กินเห็นแก่ได้ มิอายต่อบาป

๗. มหาตาปนรก หมายถึงนรกที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนเหลือประมาณ

ความเป็นอยู่ของสัตว์นรกขุมนี้ นรกขุมนี้ทั้งลึกทั้งกว้าง มีกำแพงเหล็กลุกเป็นไฟและภายในกำแพงก็มีภูเขาเหล็กลุกเป็นไฟเช่นกัน ตั้งอยู่เป็นลูกๆ ตามพื้นข้างภูเขา มีขวากเหล็กแหลมคมปักอยู่ ผู้คุมสัตว์นรกเอาหอก ดาบ แหลน หลาวที่ลุกเป็นไฟไล่แทงสัตว์นรก ให้วิ่งขึ้นไปบนยอดเขา ทันใดนั้นก็มีลมกรดพัดมา ทำให้พลัดตกจากภูเขา ลงมาเสียบขวากจนร่างกายทะลุ ส่งเสียงครวญคราง น่าเวทนายิ่งนัก

อายุของสัตว์นรกขุมนี้ มีจำนวน ครึ่ง อันตรกัป คงต้องอธิบายกันหน่อยแล้วว่าเป็นอย่างไร สมัยก่อนคนเราอายุยืนมาก นับกันเป็นปีๆอย่างสมัยนี้ ไม่พอ สมัยนั้นก็มีจำนวนนับที่มากอยู่และเราคงเคยได้ยิน คือ อสงไขยปี ก็คือจำนวนเลขที่ขึ้นต้นด้วยเลข ๑ แล้วตามด้วย เลขศูนย์ ๑๔๐ ตัว

คราวนี้มาดูสูตรเทียบ

๑ รอบอสงไขยปี                  เป็น ๑      อันตรกัป

๖๔ อันตรกัป                         เป็น ๑      อสงไขยกัป

๔ อสงไขยกัป                       เป็น ๑       มหากัป

แค่นี้ก็ปวดหัวพอแล้วใช่ไหมครับ ไม่ต้องไปเคร่งเครียดกับตัวเลขมากนักเลยเอาเป็นว่ามันมานมากๆๆก็แล้วกัน

สัตว์นรกขุมนี้ เมื่อก่อนเป็นมนุษย์ที่ใจบาปหยาบช้า มีอกุศลมลทินมากยิ่งกว่าพวกที่ตกนรกขุมที่ ๖ คือตาปนรก พวกนี้ทำบาปโดยการประหารคน ประหารสัตว์ให้ตายเป็นหมู่มากๆ

\๘. อเวจีนรก แปลว่านรกที่ปราศจากคลื่น ดูจะเป็นชื่อที่พวกเราคุ้นกันมาก

นรกขุมนี้สัตว์นรกไม่มีเวลาหยุดพักเลย จะต้องได้รับทุกขเวทนาตลอดไม่มีเวลาว่าง จึงมีชื่อว่า เป็นนรกที่ปราศจากความเบาบางแห่งทุกข์สภาพความเป็นอยู่ นรกขุมนี้ เป็นนรกขุมใหญ่ที่สุด เป็นเหมือนเมืองใหญ่ ล้อมรอบด้วยกำแพงเหล็กที่ลุกเป็นไฟ เหมือนเมืองใหญ่ ล้อมรอบด้วยกำแพงเหล็กที่ลุกเป็นไฟ ภายในมีเปลวไฟร้อนระอุไหม้สัตว์นรกอยู่ ตลอดเวลาไม่ว่างเว้น ขุมนรกนี้มีสัตว์นรกแออัดยัดเยียดกัน มีประชากรมากที่สุด ใครเคยทำบาปขณะยืนก็มายืนรับทุกข์ ใครเดินทำบาปก็มาเดินทนทุกข์ทรมาน เรียกว่าทำบาปไว้อย่างไรก็มารับกรรมอย่างนั้น

อายุสัตว์นรก ในอเวจีมี ๑ อันตรกัป(ผมอธิบายไปแล้ว)กรรมที่ทำให้มาเกิดในอเวจี นรกคืออนันตริยกรรม คือกรรมหนัก ๕ ประการ คือ

๑.       ฆ่ามารดาตัวเอง(หรือใช้คนอื่นฆ่า

๒.     ฆ่าบิดาตัวเอง(หรือใช้คนอื่นฆ่า

๓.      ฆ่าพระอรหันต์ตัวเอง(หรือใช้คนอื่นฆ่า

๔.      ทำร้ายพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต

๕.     ทำสังฆเภท คือยุยงให้สงฆ์แตกกัน

ตัวอย่างผ็ที่ ตกอเวจีนรกก็มี พระเทวทัต นันทยักษ์ นันทมานพ

นรกมิได้มีเพียงเท่านี้ยังมีแยกย่อยไปอีก เช่นขุมใหญ่ ๘ ขุมนียังมีขุมเล็กเป็นบริวาร อีก ๔ ทิศ ทิศละ ๔ ขุม รวม ๑๖ ขุม(ของแต่ละขุมใหญ่ ถ้ารวมหมดก็ ๑๒๘ ขุม เรียกว่า อุสสทนรกมีชื่อดั้งนี้

๑.คูถนรก มีหนอนคอยกัดกินสัตว์นรก

๒.กกกุฬนรก มีเถ้าถ่านคอยเผา

๓.อสิปัตตนรก มีต้นมะม่วงใบเป็นหอก ดาบหล่นลงมาใส่สัตว์นรก

๔. เวตรณีนรก มีหวายหนามเหล็ก อยู่ในน้ำเค็ม บาดร่างกายสัตว์นรกผสมด้วยน้ำเค็มเจ็บแสบนัก

นอกจากนี้ยังมีนรกที่เรียกว่ายมโลก ซึ่จะลงโทษสัตว์นรกที่ยังไม่สิ้นกรรมต่อจาก อุสสทนรกยมโลกนี้ล้อมรอบเป็นบริวารชั้นนอกของมหานรกทั้ง ๘ ขุม ยมโลกจะเป็นบริวารอยู่ ๔ ทิศ คือ หน้า หลัง ซ้าย ขวา ทิศละ ๑๐ ขุมรวมเป็น ๔๐ขุม ต่อมหานรก ๑ ขุม รวม ๓๒๐ ขุมยมโลกนรกจะมีชื่อเหมือนกันดังนี้

๑.โลหกุมภีนรก มีหม้อเหล็กใหญ่ไว้ต้มสัตว์นรก

๒.สิมพลีนรก เป็นนรกที่ต้นงิ้ว หนามแหลมยาว ๑๖ องคุลี ใช้ลงโท ษพวกผิดศีลข้อ ๓
๓.อสินขะนรก สัตว์นรกมีเล็บของตนเป็นหอกเป็นดาบ ใช้ตะกุยเนื้อของตนเองกินเป็นอาหาร
๔.ตามโพะนรก มีหม้อต้มน้ำทองแดง ผสมก้อนกรวด เอาไว้กรอกปากสัตว์นรกที่ชอบกินเหล้าในสมัยที่เป็นคน
๕.อยคุฬะนรก มีก้อนเหล็กแดงร้อน หลอกให้สัตว์นรกกิน
๖. ปิสสกปัพพตะนรก มีภูเขาเคลื่อนมา กลิ้งบด สัตว์นรก
๗. ธุสะนรก มีน้ำมาหลอกให้กิน น้ำกลับกลายเป็นแกลบร้อนเป็นไฟอยู่ในท้อง
๘.สีตโลสิตะนรก มีน้ำเย็นให้สัตว์นรกตกไปตาย ตายแล้วฟื้น วนเวียนอยู่
๙.สุนขะนรก มีสุนัขดำ สุนัขขาว สุนัขเหลือง สุนัขแดง สุนัขลาย ไล่กัดสัตว์นรก
๑๐.ยันตปาสาณะนรก เป็นภูเขากระทบกัน ผู้คุมจับหัวสัตว์นรกให้ภูเขากระทบ

     ส่วนแต่ละขุมย่อยๆนี้ทำกรรมอะไรไว้ต้องไปค้นคว้ากันอีกที ถ้าอยากรู้ถามผมก็ได้จะวิ่งไปเปิดตำราให้ จะอะธิบายตอนนี้ก็เต็มเนื้อที่แล้ว

ยังมีนรกพิเศษอยู่อีกขุมใหญ่แต่อยู่นอกจักรวาล ชื่อว่าโลกันตนรก มันมืดเหลือเกินอย่าเพิ่งไปดูเลยนะครับ ขอจบเรื่องนรกก่อนนะครับอ่านแล้ว รีบทำความดี หนีนรกกันนะครับ

พิสูจน์ ใจเที่ยงกุล

นำมาเล่าสู่กันอ่าน