ว่างเว้นกับการเข้ามาบันทึกเสียหลายวัน ด้วยเหตุมีภารกิจติดต่อกันหลายเรื่อง เมื่อวันที่ 22-23 พค. ที่ผ่านมา พึ่งกลับจากเดินทางไปราชการที่ อุบลฯ เพื่อรับประชุมและรับฟังการชี้แจงการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งโครงการนี้เป็นการพัฒนาบุคลากรของ กศน. โดยอาศัยเทคโนโลยีเป็นตัวช่วย (ที่เรียกกันว่า e-learning) ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าเป็นสิ่งดี เพราะเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ครูเรียนรู้โดยการชี้นำตนเอง โดยเฉพาะครูศูนย์การเรียนชุมชน(ศรช.) ซึ่งมีหน้าที่หลักในการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน(นอกระบบ)
เมื่อกลับมา ดิฉันและทีมงาน (อีก 3 คน) จึงออกเดินสายชี้แจง สร้างความเข้าใจ ให้กับครู ซึ่งอยู่ในอำเภอต่าง ๆ โดยใช้วิธีให้ครูมารวมกันในอำเภอใกล้เคียง (ซึ่งแบ่งกันเป็นโซน) เริ่มต้นด้วยการโยนคำถามว่า "ทำไมครูต้องเรียนรู้" (โฟกัสไปในเรื่องที่หลักสูตรที่กล่าวข้างต้น) คำตอบจากครูหลายคนก็คือ เป็นเรื่องที่จำเป็นเพราะเป็นภารกิจของตน บ้างก็บอกว่าเป็นการเติมเต็ม บางครั้งทำไปนาน ๆ ก็ลืม ฯลฯ ซึ่งก็เป็นคำตอบที่แสดงถึงการรับรู้ต่อเป้าหมายของตนเอง ก็น่าพอใจ แต่เมื่อฟังจากครูบางคนก็ตกใจ (แต่ไม่กล้าแสดงว่าตกใจ) เพราะครูตอบว่า "เรียนเพราะถูกบังคับ" (ทำนองว่าถ้าไม่บังคับจ้างก็ไม่เข้าไปเรียน)
ระหว่างนั่งรถกลับมาบ้าน ใจก็ยังหวลไปคิดถึงคำตอบที่ได้รับจากครู ว่าเกิดจากอะไร ทำไมถึงคิดอย่างนั้น หรือว่าเขาพูดเล่นเพื่อสร้างบรรยากาศ ครูคงไม่คิดอะไรไปถึงขนาดนั้นมั่ง แต่ถ้าครูคิดและทำอย่างนั้นจริง ๆ คุณภาพครูจะเป็นอย่างไรกันนี่ เรากำลังเฝ้าบอกกันทุกวันว่า เราต้องช่วยกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ โดยวิธีการที่หลากหลาย หนึ่งในวิธีนั้น คงหนีไม่พ้นเรื่องที่คนในสังคมใฝ่รู้ใฝ่เรียน ชี้นำตนเอง ไม่ต้องรอให้ใครมาบอกหรือสร้างกฎเกณฑ์มาบีบบังคับ ถ้าเห็นว่าเป็นสิ่งจำเป็นและมีประโยชน์ ควรได้เริ่มจากตนเองก่อน
ท่านผู้รู้ได้บอกไว้ว่า จะเปลี่ยนอะไรให้เริ่มจากปรับกระบวนทัศน์ หรือแนวคิดก่อน อย่างอื่นจะตามมาเอง ซึ่งการปรับความคิดนั้นต้องอาศัยเวลา การซึมซับ สะสม จนเกิดกระบวนการภายใน ที่เราเรียกกันว่าการเรียนรู้นั่นเอง ขอยกคำกล่าวของพระไพศาล วิสาโล ท่านเจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต ชัยภูมิ ที่ว่า " ทุกวันนี้เน้นแต่การสอน ครูพูดไป พระเทศน์ไป แต่ไม่ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้จึงไม่เกิดผลเท่าที่ควร หัวใจของการศึกษาจึงไม่ใช่การสอน แต่อยู่ที่การเรียนรู้......."
สวัสดีครับ อ.วิมลพรรณ (oddy)
ผมเชื่อว่าคำตอบของครูอาจจะเป็นการสร้างบรรยากาศก็เป็นได้, เพราะผมยังเชื่ออย่างหนักแน่นว่า ครูส่วนใหญ่ยังคงศรัทธาต่อการเรียนรู้อย่างไม่หยุดนิ่ง ... และถ้าหยุดเฉยจะเอาอะไรไปสอนให้ร่วมสมัยได้ใช่ไหมครับ
ถึงแม้สังคมจะพร่ำบ่นว่า นี่คือสภาวะวิกฤตทางการศึกษา ผมก็ยังไม่เคยสิ้นศรัทธาต่อการศึกษาที่มีต่อการปลดล็อกความไม่รู้ของผู้คนและสังคม ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่า ตัวตนของครูจะต้องทำงานให้หนักและหนักขึ้นอย่างน่าเห็นใจ ภายใต้บริบทของวัฒนธรรมและนโยบายที่อาจจะดูแปร่ง ๆ ไปบ้างในบางสภาวะ
....
เหนือสิ่งอื่นใด...ชื่นชมและเป็นกำลังใจให้อาจารย์ขับเคลื่อนต่อไป, นะครับ
คุณแผ่นดิน
สวัสดีคะ อ.แอ๊ว
ถามเองตอบเองแล้วนะว่า ไม่มีใครคิด และทำอย่างที่เราอยากให้เป็นหรอกนะ ทำตามหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ก็ OK แล้วล่ะ
เขาอาจจะคิดอย่างนั้นจริงก็เป็นเรื่องของการคิด แต่สิ่งที่เขาต้องทำคือหน้าที่ของครู ทำอย่างไรจะให้เขาตระหนักในหน้าที่และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
แวะมาเยี่ยมเยียนครับ