BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

เล่าเรื่องไปประชุมที่กรุงเทพฯ : ศาสนาอิสลาม กับ ดร อณัส.


เล่าเรื่องไปประชุมที่กรุงเทพฯ

๑๙ พ.ค... เช้าวันที่สาม วันสุดท้ายของการประชุม และวันที่จะกลับสงขลา ปักษ์ใต้บ้านเรา... ผู้เขียนตื่นสายเพราะรู้สึกเหนื่อยมาหลายวันแล้ว... ตื่นขึ้นมาก็ยังไม่เห็นหลวงเพรียงกลับมาจากบิณฑบาต ผู้เขียนก็เลยนอนต่อ จนกระทั้งเกือบสองโมงเช้า หลวงเพรียงจึงกลับมาพลางบอกว่า โยมที่คุ้นเคยนิมนต์ฉันน้ำชาเพื่อธุระบางอย่าง ผมก็เลยมาช้า... ผู้เขียนก็รีบลุกขึ้น ไปสรงน้ำแล้วก็มาฉันกาแฟกับขนมกับหลวงเพรียง......

ฉันเสร็จก็เก็บของทั้งหมดใส่ย่ามซึ่งก็มีไม่กิ่อย่าง... บอกลาหลวงเพรียงกัลยาณมิตรผู้เปี่ยมด้วยน้ำใจของผู้เขียน แล้วก็ออกมาเรียกแท๊กซี่ที่หน้าวัด ซึ่งก็ใกล้ๆ สามโมงเช้าแล้ว... ถึง มศวประสานมิตร ก็สามโมงกว่า (สายปกติ) เพราะเป็นวันเสาร์รถไม่ติด มิเตอร์บอกราคา ๘๕ บาท ผู้เขียนให้ใบร้อยไป เค้าบอกว่าไม่มีทอนก็เลยบอกว่า เอาไปเลย.... สรุปค่าแท๊กซี่สามวัน.. ๑๔๐. ๑๑๐. และ ๘๕ (แต่จ่ายเต็ม ๑๐๐)...

เช้านี้หัวข้อในการอบรมคือ การสอนศาสนาแบบ Moral Dilemma โดย ดร. อณัส อมาตยกุล ... เมื่อผู้เขียนเข้าไปภายในห้อง การบรรยายกำลังเข้มข้น.... ดูตามเอกสารการบรรยายก็เป็น กรณีศึกษาการสอนศาสนาอิสลาม ของผู้บรรยาย...

ดอกเตอร์อณัส ผู้เขียนไม่รู้จัก และไม่เคยอ่านงานของท่าน... แต่จากการฟังคำบรรยาย น่าสนใจมาก ก็ขอคัดลอกคำสอนว่าด้วย หลักคุณธรรม หรือ อัล อิฮ์ซาน จากเอกสารประกอบการบรรยายไว้ที่นี้...

  • ท่านศาสดา นบี มุฮัมมัดได้กล่าวว่า

............. " คุณธรรมนั้นคือ การที่ท่านทำความดีประหนึ่งท่านเห็นอัลลอฮ์อยู่เบื้องหน้า และแม้ว่าท่านมิอาจเห็นอัลลอฮ์ก็ให้ตระหนักว่า อัลลอฮ์ทรงเฝ้ามองพวกท่านอยู่ตลอดเวลา" .........

.......... 

ระหว่างการบรรยาย อาจารย์อณัสมักจะใช้คำว่า ไม่มีตัวตน กุศลจิต ฯลฯ ...ติตอยู่ในเนื้อหาหรือสำนวนคำบรรยาย  ซึ่งคำเหล่านี้มีนัยสำคัญตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา....

เมื่อพักการอบรมภาคเช้า ขณะกำลังฉันเพล...  ก็มีพระคุณเจ้าบางรูปวิจารณ์ว่า นำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนานำมาใช้.... ประมาณนั้น

ซึ่งประเด็นนี้ ผู้เขียนก็นั่งฟังและวิเคราะห์อยู่เช่นกัน... โดยผู้เขียนคิดว่า คำบาลีซึ่งเป็นศัพท์ทางพระพุทธศาสนาเหล่านี้ เมื่อแปลงสัญชาติมาเป็นคำไทย ทุกคนที่ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารก็สามารถใช้ได้ ส่วนการจะปลอมปนหลักคำสอนหรือไม่ ? .... เป็นอีกกรณีหนึ่ง ซึ่งต้องแยกประเด็นออกไป...

.....นั่งฉันข้าวและฟังข้อวิพากษ์วิจารณ์ของเพื่อนสหธรรมิกอยู่ระยะหนึ่ง ผู้เขียนก็แสดงความเห็นบ้างเพื่อให้ได้อรรถรสในการฉันข้าวว่า...

...ตอนนี้ทำท่ามั่วหมดแล้ว อิสลามก็มาสอนเรื่องมิใช่ตัวตน... วัดธรรมกายก็สอนว่านิพพานเป็นอัตตา... ส่วนอาจารย์ชัชชัย มาประชุมก็แขวนจตุคามมาวันละ ๓ องค์ ทุกวัน.....  (วันนี้คณะวัดธรรมกายไม่ได้มา ส่วนอาจารย์ชัชชัยเป็นคริสตศาสนิกชน)

ประเด็นที่ผู้เขียนพูดไป จึงกลายเป็นเรื่องชวนยิ้มในโต๊ะอาหารของพระคุณเจ้าในวันสุดท้าย โดยประการฉะนี้   

คำสำคัญ (Tags): #เล่าเรื่อง
หมายเลขบันทึก: 97652เขียนเมื่อ 21 พฤษภาคม 2007 20:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
สมกับเป็นการฉันภัตตาหารของสหธรรมิกครับ

กราบนมัสการหลวงพี่ BM.chaiwut

ขออนุญาต อมยิ้มกับ "...ตอนนี้ทำท่ามั่วหมดแล้ว อิสลามก็มาสอนเรื่องมิใช่ตัวตน... วัดธรรมกายก็สอนว่านิพพานเป็นอัตตา... ส่วนอาจารย์ชัชชัย มาประชุมก็แขวนจตุคามมาวันละ ๓ องค์ ทุกวัน....."  ด้วยคนค่ะ

กระแสจตุคามมาแรงจริงๆ  ดิฉันก็ได้รับมาจากเพื่อนอาจารย์ (ก่อนกระแสมา) และได้มาอีกจากลูกศิษย์ (หลังกระแสโด่งดัง) เพราะลูกศิษย์เป็นคนนครฯ แต่ไม่ได้แขวนค่ะ

หมายเหตุ: ตรงที่เขียนว่า "อาจารย์อณัสมักจะใช้คำว่า ไม่มีตัวตัว กุศลจิต " น่าจะเป็นตัวตนใช่ไหมคะ..

P
P

(ขอขอบใจอาจารย์ กมลวัลย์  ที่ช่วยตรวจทานอีกครั้ง... ได้แก้ไขแล้ว)

เจริญพร

นมัสการค่ะ

จตุคามมา

ตอนที่ไปที่วัดท่าการ้อง

 มัคทายกวัด พูดเชิญชวนคนทางไมโครโฟนให้ไปเช่าจตุคามรุ่นโน้นรุ่นนี้ตลอดเวลา ยังบอกกับเพื่อนๆ ว่า ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าในวัดเองก็มีอย่างนี้ด้วยค่ะ

P
ตถตา เช่นนั้นเอง
เจริญพร
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท