ขอโทษนะครับ...ที่ขาดความต่อเนื่องในการนำเสนอ เนื่องจากมีภาระงานมากเหลือเกิน (ลืมไปด้วยครับว่าเขียนค้างเอาไว้ ในตอนที่ 1) มาลุยเกาหลีกันต่อเลยนะครับ
หลังจากได้ชิมอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เพื่อลิ้มรสพุลโกกิ (หมูผัดกับกะหล่ำปลี) คณะของเราก็ได้มีโอกาสได้เดินทางไปเยี่ยมชมองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี สำนักงานใหญ่กรุงโซล พร้อมทั้งฟังคำบรรยายจากผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งให้การต้อนรับอย่างดี (ได้รับของที่ระลึกถุงใหญ่เลย) ที่นี่ทำให้เราได้รับข้อมูลที่น่าสนใจว่า นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีนิยมมาเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ส่วนประเทศไทยในระยะหลังหันมานิยมเที่วในเกาหลีเพิ่มขึ้น โดยเกาหลีจะเน้นการดูแลนักท่องเที่ยวอย่างดี โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
การที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมไปเที่ยวเกาหลี คงเป็นผลมาจากภาพยนตร์ซีรี่ส์ ของเกาหลีที่เข้ามามีอิทธิพลในเมืองไทยหลายต่อหลายเรื่องแน่นอน
หลังจากเดินทางมายังไม่ได้พักผ่อนกันเลย แต่เราก็ลืมเหนื่อยกันเลยครับ เพราะยังไม่ได้เวลาเข้าโรงแรมที่พัก เลยได้แวะเที่ยวชมย่านการค้า ทงแดมุง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณประตูเมืองโบราณทางทิศตะวันออก มีสินค้าหลายหลายประเภท แต่สินค้าราคาก็ไม่จัดว่าถูก เลยไม่ค่อยจะได้ซื้ออะไรเท่าที่ควร
จากนั้นไปรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหาร ซัมเคทัง หรือไก่ตุ๋นโสมตำหรับชาววัง บำรุงสุขภาพ โดยคัดสรรไก่ที่เหมาะกับการรัประทาน (อายุ 45 วัน) คนละ 1 ตัว ล้างเครื่องในออกและยัดไส้ด้วยของบำรุง เช่น เม็ดพุทราแห้ง รากโสม เก๋ากี้ รับประทานพร้อมกับข้าวบรรจุภายในตัวไก่ และเสริมรสชาติด้วยอูด้งขาวบริสุทธิ์ เสิร์ฟพร้อมเหล้าไวน์รสโสม แถมด้วย โซจู เหล้าขาวหมักรสชาติกลมกล่อม จากนั้นเดินทางสู่ที่พักโรงแรม Captal Hotel
เป็นยังไงครับ...หมดไป 2 วัน รวมการเดินทางด้วยแล้ว น่าเหนื่อยนะครับ แน่นอนคืนแรกของเราที่เกาหลี หลับเป็นตายไปเลยครับ
ไม่มีความเห็น