ในโลกการทำงาน, เคยถามตัวเองบ้างไหมว่า เพราะเหตุใดจึงปักหลักปักใจทำงานอยู่กับองค์กรนั้นอย่างยาวนาน,
ไม่มีที่ไป, รายได้ดี มั่นคง เป็นกอบเป็นกำ, ใกล้บ้าน, เจ้านายใจดี, เพื่อนร่วมงานมีน้ำใจ, มีโอกาสก้าวหน้าในเร็ววันนี้ หรืออื่น ๆ อีกมากมายก่ายกองที่ขึ้นอยู่กับแต่ละคนเป็นที่ตั้ง
ผมถูกตั้งคำถามเช่นนี้จากคนรอบข้างอยู่บ่อยครั้ง และถามในทำนองว่าเหตุใดจึงจมปลักและจ่มจ่อมอยู่เช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีโอกาสไม่น้อยต่อการก้าวไปสู่ความก้าวหน้าทางอาชีพในองค์กรอื่น
เป็นคำถามที่ผมไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานต่อการให้คำตอบ เพราะคำตอบของวันนี้ เป็นคำตอบเดียวกับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ก่อนเข้ามาเป็นบุคคลากรตัวน้อย ๆ ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ผมเคยใช้ชีวิตในโลกการทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ผมมีรายได้มากกว่าปัจจุบัน และมีโอกาสที่จะก้าวหน้าอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสอบเข้าทำงานในมหาวิทยาลัยอื่น ๆ แต่สุดท้ายก็ละทิ้งโอกาสการเข้าสู่มหาวิทยาลัยแห่งนั้น เพียงเพราะปรารถนาที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่ตนเอง "เคารพรัก"
ผมตัดสินใจทิ้งการงานที่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำโดยไม่ใยดีต่อคำทัดทานของผู้บริหารองค์กร มุ่งหน้ากลับมารับราชการใน มหาวิทยาลัยที่เป็นเสมือน "มารดาทางความรู้" ของตนเอง
ผมรู้สึกเสมอว่า มหาวิทยาลัยเป็นองค์กร หรือสถาบันที่มีพระคุณต่อผม ที่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของการหล่อหลอมและสร้างผมมาอย่างมี "ตัวตน" เมื่อมีโอกาสเข้ามาทำงานในจุดที่ตัวเราเองมีตัวตนที่ชัดเจนเช่นนี้ ผมจึงยิ่งสบายใจ เพราะเป็นการมาทำงาน "ต่อยอด" ในสิ่งที่เราเคยได้ร่วมก่อร่างสร้างตำนานไว้บ้างแล้ว ไม่ใช่การมารื้อใหม่ หรือสร้างใหม่เสียทั้งหมด
ผมกำลังบอกว่าวันนั้นและวันนี้ที่นับเวลา 10 ปีของการทำงาน ผมมีเหตุผลหลักที่ยึดมั่นอย่างไม่คลอนคลาย นั่นก็คือ "ความรักและความศรัทธาต่อองค์กร" และนี่ก็คือต้นทุนที่มีอยู่อย่างมากล้นในจิตใต้สำนึกของผม ....
เมื่อไม่เคยสูญเสียความรักและความศรัทธาต่อองค์กร ผมจึงไม่เคยสูญสิ้นกำลังใจที่จะทำงานให้กับองค์กรอย่างสิ้นคิด และไม่เคยมีแม้แต่วูบเดียวที่จะบอกกับตนเองว่า "เช้าชามเย็นชาม" ..
ผมมีความสุขกับการทำงานที่นี่ , มีความสุขที่ได้ทุ่มเทความคิดและแรงกายอย่างไม่ลดละ เพราะผมรู้สึกเสมอว่า การทำงานในทุกวันนี้ส่วนหนึ่งเป็นการทำงานเพื่อทดแทนสถาบันอันเป็นที่รักของตนเอง
ความรักและความศรัทธาที่มีต่อองค์กร ช่วยให้ผมทำงานได้อย่างไม่ลังเล .. และถึงแม้จะเหนื่อย หรือสับสนไปบ้างในบางจังหวะ แต่ผมก็ไม่เคยสูญเสียศรัทธาที่มีต่อองค์กร ... ซึ่งความรู้สึกเช่นนี้นี่เองที่ช่วยให้ผมมีจุดยึดอย่างมั่นคง และกล้าหาญที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อองค์กร
ผมไม่เคยแม้แต่ที่จะคิดว่าหน่วยงานเป็น "อู่ข้าวอู่น้ำ" แต่กลับตระหนักอยู่ทุกขณะจิตว่า หน่วยงานที่กำลังทำงานอยู่นี้ เป็นเสมือน "บ้านหลังที่สอง" ของผม !
ผมจึงทำงานอย่างมีความสุข ราวกับได้ดูแลต่อเติมบ้านอยู่ทุกฤดูกาล หรือแม้แต่การปลูกบ้านหลังใหม่ให้คนในครอบครัวได้เข้าไปพักพิง....
แล้วท่านล่ะครับ .... ท่านมีทัศนะต่อองค์กร หรือหน่วยงานที่กำลังทำงานอยู่อย่างไรบ้าง ....
เรียนท่านแผ่นดิน
"บ้านหลังที่ ๒ ครองงาน ครองฅน"
บางท่านไม่ได้ใส่ใจบ้านหลังนี้เท่าใด เห็นเป็นเพียงแค่ทางผ่าน หรือ แหล่งประลองวิชาเท่านั้น
บ้านหลังที่ ๒ สร้างองค์กู ให้มีตัวตน และ ทำให้องค์กร มีชีวิต ขึ้นมาได้ครับ
สำหรับน้อง...
ม ขอนแก่น ก็เป็นเหมือนบ้านหลังที่ 2
มีความรู้สึกตลอดมาว่า อยู่ใน ม. แล้ว รู้สึกถึงความปลอดภัย ไม่ว่าจะกลางวัน หรือกลางคืน
อยู่ใน ม. มาตั้งแต่ มาเรียนปริญญาตรี จนป่านนี้ ยังไม่ได้ไปใหนเลย
สมเป็นลูกในบ้านว่านในสวนของ ม.มส. แท้ ๆ
เมืองไทย บ้านหลังเดียวของ ผมครับ
ตอบเวอร์ไปป่ะครับ
...
ที่มมส ฝนตก ลมแรงมั้ยครับ
สวัสดีครับ อ.ขุน
พูดได้อย่างเต็มปากว่าเป็น "เด็ก มมส" ที่รักและหลงใหล มมส เป็นชีวิตจิตใจ.
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ คุณตาหยู
ไม่เวอร์หรอกครับ...ผมมีประเทศไทย เป็นบ้านหลังใหญ่ของผมเหมือนกัน...
ช่วงนี้สารคามมีฝนตกอยู่บ่อยครั้ง วันเว้นวันก็มี...แต่ไม่ถึงกับตกแรงดังที่ใจอยากจะให้เป็น
ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับ
ดีใจที่ได้อ่านแล้วพบว่ามีอะไรคล้ายๆกัน .. แต่ผมขอเสริมว่า นอกจากความรู้สึกดีที่ได้ทดแทนคุณ ด้วยการมาเป็นส่วนหนึ่งของผู้ดูแล พัฒนา รักษาบ้านเก่าแล้ว แท้จริงยังมีสิ่งหนึ่งที่มัดใจเราอยู่นั่นคือ ผลที่เกิดกับคนที่ผ่านเข้ามาในระบบที่เราทำหน้าที่เกี่ยวข้องอยู่ .. ชีวิต จิตใจของคนเหล่านั้นได้รับการพัฒนากล่อมเกลาโดยมีเราเข้าไปมีส่วนร่วม มากบ้าง น้อยบ้าง เราเหนื่อยแต่ก็สุขใจกับหน้าที่ด้วยเหตุนี้ด้วยกระมังครับ กรณีของผมนั้น 30 ปีกว่าแล้ว ไม่คิดจะย้ายไปไหน เช่นกันทั้งที่โอกาสมีเงินมากรออยู่อย่างชัดแจ้ง แต่ไม่ใช่ทางของเราก็เลยไม่ไปครับ มีบันทึกเก่าที่พอจะเชื่อมโยงกับเรื่องเหล่านี้ได้บ้างครับ
สวัสดีครับ
ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับทราบว่า บันทึกของผมบันทึกนี้มีแนวคิดที่สอดรับกับแนวคิดของท่านอาจารย์
เมื่อสักครู่ผมได้เข้าไปอ่านบันทึกที่ท่านอาจารย์ได้แนะนำไว้แล้ว, ได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทัศนคติที่ดีที่มีต่อการดำรงชีวิตและการทำงาน
ขอบพระคุณอีกครั้ง, ครับ