GotoKnow
หน้าแรกสมาชิกWanpenสมุดบรรณารักษ์บริการ › เมื่อสำนักหอสมุดไปถ่ายทำประเพณีรับขวัญแม่โพสพ (...

เมื่อสำนักหอสมุดไปถ่ายทำประเพณีรับขวัญแม่โพสพ (ข้าว) : บ้านไผ่ขอน้ำ อ.พรหมพิราม พิษณุโลก (5)

Wanpen
เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2007 15:01 น. ()
แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:58 น. ()
เดินจากบ้านที่เตรียมบายศรีตัดเข้าไปในหมู่บ้าน ถามทางไปบ้านผู้ใหญ่ชวน พี่ป้าน้าอาชี้บอกทางและบางคนเดินตามมาส่งอีกต่างหาก

           เดินจากบ้านที่เตรียมบายศรีตัดเข้าไปในหมู่บ้าน ถามทางไปบ้านผู้ใหญ่ชวน พี่ป้าน้าอาชี้บอกทางและบางคนเดินตามมาส่งอีกต่างหาก พอมาถึงก็จัดแจงยกเครื่องวีข้าวแบบใช้แรงคนออกมากลางลานเพื่อสาธิตการวีข้าวลีบออกจากข้าวเปลือก ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องจักรจัดการให้หมดแล้วเครื่องใช้มือจึงไม่ค่อยได้ใช้แล้ว บางบ้านปล่อยให้ผุพังไปโดยไม่ได้จัดการอะไร

 ลานตากข้าวเปลือก นิยมตากตามลานหน้าบ้าน

เครื่องวี (พัด) ข้าวแรงคน วิธีการใช้ง่ายๆ เพียงนำข้าวเปลือกใส่ลงในเครื่องและหมุนเครื่องให้เกิดลมพัดเอาข้าวที่เบากว่าออกทางด้านบนและข้าวที่หนักกว่าจะถูกส่งลงมากองกับพื้นด้านหน้า ใช้คนทำงานอย่างน้อย 3 คน ได้แก่ คนตักข้าวใส่เครื่องด้านบน คนหมุนให้เกิดลมพัด และคนคอยกวาดข้าวให้ออกห่างจากเครื่องเพื่อเปิดทางให้ข้าวที่เหลืออยู่ในถังด้านบนตกลงมาได้สะดวกขึ้น และอาจมีบางคนที่เหลือคอยคนให้ข้าวร่วงลงมาง่ายขึ้นจากเครื่องข้างบนซึ่งบางครั้งจำเป็นและบางทีไม่ต้องก็ได้

      ใช้แรงคนช่วยสร้างกระแสลม

     แต่วันนี้เรามีสมาชิกมาช่วยออกแรงหลายคน ข้าวกองโตๆ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็จัดการเรียบร้อย หลังจากนำข้าวใส่กระสอบเรียบร้อยแล้ว ผู้มาร่วมออกแรงได้ของกำนัลเป็นน้ำสีเหลืองอำพัน 1 ขวดกลม หัวเราะกันครื้นเครงไป

***หมายเหตุตบท้าย หนึ่ง  บ้านในชนบทไทยเรา ไม่มีรั้วเหมือนในเมือง เดินทะลุถึงกันหมดไม่มีซอย ที่สำคัญไม่มีใครหลงทาง

***หมายเหตุตบท้าย สอง พึ่งรู้ว่าพี่นิด (สุวรรณา) เก่งเรื่องการจัดการข้าวเปลือก ข้าวลีบ เพราะโตมากับโรงสีข้าว มิน่าช่วยเขาทำงานคล่องซะขนาดนั้น



ความเห็น

pheeras
เขียนเมื่อ
ยังมีอีกนะ คนที่ทำหน้าที่หมุนเครื่องวี บางครั้งต้องทำหน้าที่เปิดฝาด้านท้ายของเครื่องวี เพื่อให้ข้าวที่ฝ่อ หรือข้าวที่ไม่มีคุณภาพออกทางด้านท้ายของเครื่อง ส่วนด้านหน้าก็จะได้ข้าวเปลือกที่พร้อมจะนำไปสี ที่เห็นอุปกรณ์ที่เปิดท้ายจะใช้อุปกรณ์แหลมๆ หรือเคียวเกี่ยวข้าว เปิดช่องเล็กๆไว้ เพื่อให้ข้าวที่ไม่มีคุณภาพออกทางด้านหลัง (จากภาพ คนที่สวมหมวกและถือไม้ไว้นั่นแหละ)
pheeras
เขียนเมื่อ
ไหนบอกว่ามีคนช่วยเยอะไงล่ะ ในภาพเห็นมีคนทำไม่กี่คนเอง นอกนั้นหลบแดดกันหมดเลย (ขอบอกฝุ่นละอองที่ออกมากับข้าวเปลือกคันมาก ขนาดคนอง ยังต้องพึ่งแป้งเย็นเลย)
Wanpen
เขียนเมื่อ
  • ขอบคุณพี่โหน่ง ที่มาช่วยเติมรายละเอียดให้ค่ะ คนเดียวหรือจะจำได้หมด จริงมั๊ยคะ
  • ใครที่ไปด้วยกันอยากต่อเติมให้สมบูรณ์ ก็ช่วยกันหน่อยนะคะ
  • ขอบคุณค่ะ
Ranee
เขียนเมื่อ
ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟังค่ะ  หาดูไม่ค่อยได้แล้วค่ะ
Wanpen
เขียนเมื่อ
  • ขอบคุณ คุณรานีค่ะ ที่แวะมาอ่านบันทึก
  • ที่พิษณุโลกของเรามีอะไรน่าเก็บ น่าค้นหา อีกมากทีเดียวค่ะ
KPN AC jack
เขียนเมื่อ

ที่อีสานก็คงเช่นกัน เมื่อเครื่องจักรเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงาน เกือบทุกขั้นตอน

เหลือแต่ยังไม่เคยเห็นเครื่อง ดำนา (ปลักกล้า) เท่านั้นเองครับ

Wanpen
เขียนเมื่อ
  • สวัสดีค่ะ คุณแจ๊ค ขอบคุณที่แวะมาแลกเปลี่ยนกันค่ะ
  • เครื่องจักรทำงานใช้เวลาน้อยกว่า ได้งานดีกว่า สะดวกกว่า แม้จะลงทุนเยอะกว่า เลยเข้ามาแทนที่ ทั้งคน ทั้งควาย ได้รวดเร็วมาก
  • ทำไงได้ละคะ โลกนี้มีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอๆ นี่นา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย