คุณเมตตา แห่ง ม.อ. "ดิฉั้นไม่ติดกาแฟกินๆ หายๆ....ได้ตามใจปรารถนา อยากเลิกก็เลิกอยากกินก็กินไม่มีอาการใดๆ วันนี้เดินมาโรงช้าง(โรงอาหารของ ม.อ.) และอาจารย์แป๋วแห่งม.สารคาม ข้องใจว่าทำไม "โรงอาหารของ มอ. ทำไมเรียกโรงช้างค่ะ" ............... มีคำตอบค่ะ เดิมที่ม.อ.หาดใหญ่มีโรงอาหารเรียกว่า "คาเฟตทีเรีย" แต่ในขณะเดียวเมื่อประมาณ 38 ปีที่ผ่านมา ม.อ.อยู่ไกลจากตัวเมืองหาดใหญ่ นักศึกษาต้องการร้านอาหารโต้รุ่ง จึงได้ก่อเกิด "โรงช้าง" ขึ้นโดยยกเสามีหลังคาสังกะสี คล้ายโรงเลี้ยงช้าง และมีร้านกาแฟ และร้านขนมให้นั่งศึกษาและบุคลากรนั่งจิบน้ำชากาแฟ และอาหารในยามค่ำคืนในบรรยากาศที่มีสายน้ำไหลผ่าน.......................แต่ปัจจุบันบรรยากาศเช่นนั้นหมดไปกลายเป็นภาพโรงอาหารใหญ่ เรียกว่า''ศูนย์อาหารโรงช้าง หรือนักศึกษาเรียกว่า เอราวัณพลาซ่า" ขึ้นมาแทนโรงอาหารเก่าค่ะ มีภาพบรรยากาศด้านหน้าศูนย์โรงช้างยามค่ำคืนค่ะ
ศูนย์อาหารโรงช้าง หรือนักศึกษาเรียกว่า เอราวัณพลาซ่า
พี่อัมพรเป็น PR กิตติมศักดิ์ของกองกิจการนักศึกษาด้วยหรือเปล่าคะนี่ ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมเลยค่ะ เห็นแล้วพรุ่งนี้ต้องแวะไปชิมไอติมลุงคมด้วยคนดีกว่า ขอบคุณหลายๆเด้อค่ะ (เอ๊ะ...นี่มันสำนวนอีสานนี่เนาะ ของใต้ๆเราต้องบอกว่าไงนะคะ)
ดีมากเลยครับ
ไม่ทราบว่า ใครพอจะมีภาพถ่ายหรือภาพวาดของโรงช้างเมื่อประมาณ 20-30 ปีที่แล้วบ้างครับ กำลังหาอยู่ครับ
ปัญญรักษ์
แวะมาเยี่ยมครับคุณอัมพร ครับ โรงช้างยังไม่ลืม...แต่เปลี่ยนสภาพไปมากครับ อะไรบ้างอย่างอาจจะเหมาะกับยุคสมัยนั้น ๆ ครับ....ผมมักจะทานข้าวเย็นที่คาเฟต์มากกว่าโรงช้าง อาจจะเพราะถูกเงินกว่า แต่ถ้าประชุมชมรมอาสาฯ หรือชมรมสังคมฯ หรือชมรมศรีตรังฯ ดึก ๆ ก็จะไปโรงช้างเพื่อหาผลไม้และขนมรองท้อง ....อีกอย่างก็ต้องไปส่งน้องผู้หญิงที่หอพักหญิงด้วย แค่ประตูครับ ..........
ยินดีครับที่ได้ร่วม หวนคิดถึงอดีตด้วยคนครับ.....