หมอคน หมอความ หมอดู


บันทึกการรับรู้กระบวนการยกร่างพ.ร.บ. คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข

หมอคนกำลังประมาทเลินเล่อทำให้ผู้ป่วยไทยเสียหายถึง 98,000 รายต่อปี

ตัวแทนเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์พยายามต่อสู้เพื่อให้หมอความฟ้องร้องหมอคน เสียเงินทองมากมายแต่ไม่ได้รับค่าชดเชยใดๆกลับมาเลย กระบวนการหมอความที่เข้าข้างฝ่ายหมอคน จนไม่เหลือความยุติธรรม มีการผลักดันต่อสู้สิทธิมนุษยชนเกือบ 16 ปีแต่ตัวแทนต้องมีหมดสิ้นกับฐานะทางเศรษฐกิจ เสียความรู้สึกที่ดีต่อระบบการแพทย์ไทย และสงสารประชาชนไทยที่กำลังเผชิญหน้ากับความผิดพลาดของหมอคนและหมอความ

ผมได้เรียนรู้ว่า กระบวนการยกร่างพ.ร.บ.ฉบับหนึ่งมันมีที่มาที่ไปหลายขั้นตอน

งานสัมมนาครั้งนี้ ผู้เข้าฟังส่วนใหญ่คือหมอคนและหมอความ ที่ผมมองแง่ดีว่าพวกเค้ากำลังช่วยเหลือผู้เสียหายทางการแพทย์ด้วยความจริงใจ

หลายท่านกำลังพิจารณาว่า ความเสียหายนี้คืออะไร ร่างกาย จิตใจ หรือ โชคชะตาที่ได้รับความผิดพลาดจากระบบการบริการด้านสุขภาพ

มีท่านหนึ่งกล่าวว่า น่าจะเพิ่ม "หมอดู" เข้าไปเป็นกรรมการในผู้พิจารณาพ.ร.บ.นี้ เพราะหมอดูจะได้กำหนดโชคชะตาว่า เมื่อไรหมอคนและหมอความจะช่วยให้ผู้เสียหายพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง สังเกตงานสัมมนากฎหมายเพื่อประชาชนแต่กลับมีตัวแทนที่เป็นประชาชนแบบเคยเป็นผุ้เสียหายจำนวนน้อยที่ถูกหมอคนและหมอความเชิญมาระดมความคิดเห็นในงานนี้

หมายเลขบันทึก: 92007เขียนเมื่อ 23 เมษายน 2007 16:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
สมพงศ์ ตันติวงศ์ไพศาล

ผมขอแสดงความคิดเห็นบ้างครับ.... งานหลักผมทำงานกับชุมชน (ชาวบ้าน) งานเสริมคือ หมอดู (ไพ่ยิบซี) เล็กน้อยครับ 99 บาทต่อการดูครั้งหนึ่ง

การร่างพรบ.ฉบับนี้ ถือว่าอาจารย์เปิดโอกาสให้กับหลายฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและรอบคอบ แต่ถ้าเราได้คนที่เป็นหมอคนที่มีความตั้งใจดีกับมนุษย์(คนทั่วไป)ว่าต้องรักษาเขาได้แม้เขาไม่มีเงิน ประเด็นนี้น่าจะนำมาพิจารณามากกว่า เพราะว่าปัจจุบันค่ารักษาพยาบาล .......แพงครับ  30 บาทบางครั้งช่วยได้ไม่ทุกโรค

การมีหมอความที่เก่งและมีคุณธรรมก็จะทำให้กฎหมายที่ออกมามีคุณธรรมด้วยความเสี่ยงที่จะเกิดกับจิตใจ เกิดกับร่างกาย  หรือชะตา(ไม่ใส่โชค) เพราะว่าการบังเอิญรอดตาย หรือเฉียด ภาษาผมที่เป็นหมอดูคือฟาดเคราะห์ไป แต่คนเราจะฟาดเคราะห์ได้ไม่เกิน 3 ครั้ง.........ซึ่งจะต่างกับคนบางคนเพราะมีน้อยเขาจะอยู่มีชีวิตต่อไปด้วยอย่างอื่นเช่นหนังเหนียวจากว่านยาและของขลัง หรือพญามัจจุไม่เอาชีวิตเป็นต้น

เพราะฉะนั้น การที่หมอคนมีความพยายามที่จะรักษาแล้วความผิดพลาดมีค่าเท่าใดก็น่าจะบอกกับผู้ป่วยก่อนรักษา อย่างตรงบ้างอ้อมบ้างก็ตามแต่ใจ อย่างน้อยก็รักษาด้วยตั้งใจให้เขาหาย ไม่ใช้รักษาตามหน้าที่ จุดนี้น่าจะเป็นจุดสำคัญ.......

ส่วนหมอดูจะมีความสำคัญก็เมื่อ หมอคนไม่แน่ใจว่าผู้ป่วยจะเกิดผลข้างเคียง หรือผิดพลาดหรือเปล่าให้เอาหมอดูที่คิดว่าแม่น มาตรวจดวงชะตาของผู้ป่วย จะได้กันเอาไว้อีกทาง  ความผิดพลาดที่เกิดในโรงพยาบาลหรือคลีนิคก็จะไม่เกิด  แต่ค่ารักษาคงแพงน่าดูน๊ะอาจารย์...............

 

เป็นความคิดเห็นที่ดีมากครับคุณสมพงศ์

ขอบคุณครับ

  • ตามมาอ่านครับ
  • เป็นข้อมูลที่ประโยชน์มากครับน้อง POP
  • ขอบคุณครับผม

ขอบคุณครับพี่ขจิต

ตอนแรกพิมพ์เยอะกว่านี้ แต่ Accident ไฟล์หายไปเลยตอน Disconnected internet

 

สำหรับผู้สนใจ เข้าดูร่างเต็มที่ www.mrd.go.th ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท