เราไม่ได้ตั้งใจที่จะเป็นผู้บริหาร แต่เมื่อมีผู้มาขอให้เราเป็น เราก็คิดว่าเราน่าจะลองดู เพราะเผื่อการเป็นผู้บริหารจะทำให้เราเป็นผู้มีประโยชน์ที่สุดคนหนึ่ง [1] ตามที่ท่านพุทธทาสไ้ด้ให้พรปีใหม่ว่า ให้มีชีิวิตอยู่ โดยไม่ต้องรู้สึกว่า เราดี เด่น ดัง อะไรเลย เพียงแต่ให้รู้สึกว่าเป็นผู้มีประโยชน์ที่สุดคนหนึ่ง
เมื่อได้มาเป็น เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งอาจารย์ที่ดีและผู้บริหารที่ดี ซึ่งน่าท้าทายยิ่งนักในการบริหารจัดการเวลา พอดีได้ไปเจอคำสอนที่น่าสนใจของพระราชวรมุนี
พระราชวรมุนี (ประยูร ธมมจิตโต) ได้กล่าวไว้ว่า [2] มีธรรมะของพระพุทธเจ้าอีกหมวดหนึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นนักบริหารที ่เก่ง ดีและมีสุข ธรรมะที่ว่านั้นได้แก่ พละหรือกำลังภายใน ๔ ประการ คือ
๑. ปัญญาคือความฉลาดรอบรู้
๒. วิริยะคือความขยันขันแข็ง
๓. อนวัชชะคือการทำงานดีด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
๔. สังคหะคือการผูกใจคนด้วยมนุษยสัมพันธ์
เราเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับธรรมะในหมวดนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นตัวอย่างที่ดียิ่งของบุคคลที่มีธรรมะในหมวดนี้
อ้างอิงจาก
[1] หลักธรรมนำสุขสำหรับปีใหม่http://gotoknow.org/blog/tomkanda/71900
[2] คนเก่งและดีต้องมีความสุข http://www.wfb-hq.org/specth4.htm
ชอบบันทึกนี้ของอาจารย์ครับ
ผมเองกำลังทำหน้าที่เป็นหนึ่งในผู้บริหารคณะ แต่ก็อ่อนประสบการณ์และต้องการเรียนรู้หลักการและธรรมะแห่งการเป็นนักบริหารที่ดีครับ
ขอบคุณค่ะ อ.ป๊อป พวกเราคงต้องเรียนรู้กันตลอดเวลาค่ะ ขอให้โชคดีในการเป็นผู้บริหารค่ะ
๑. ปัญญาคือความฉลาดรอบรู้
๒. วิริยะคือความขยันขันแข็ง
๓. อนวัชชะคือการทำงานดีด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
๔. สังคหะคือการผูกใจคนด้วยมนุษยสัมพันธ์
เราเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับธรรมะในหมวดนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นตัวอย่างที่ดียิ่งของบุคคลที่มีธรรมะในหมวดนี้
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาเยี่ยมและให้ข้ิอคิดเห็นเช่นเคย
เดี๋ยวจะเขียนอีเมลไปหาทั้งเพื่อนต้อมและคุณขจิตเพื่อที่จะแนะนำให้รู้จักกันนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ อ แป๋ว ดีใจค่ะที่วันนี้ได้เจอและได้คุยกับ อ แป๋ว ในประชุม รวมพลคนเขียน Blog ครั้งที่ 1/2550 ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ขอคิดนี้ดีมากๆเลยค่ะ หนูอยากเป็นนักบริหารงานต่อพ่อ แต่เท่าที่ดูมา ก็มีปัญหาเยอะมากในเรื่องของพนักงานที่ไม่ค่อยมีความรับผิดชอบ มีบริษัทอื่นที่สมัยใหม่กว่า อยากทราบความคิดเห็นค่ะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไรค่ะ