KM....It's not what you know. บทแปลเป็นภาษาไทย


เอามาแปลให้อ่าน เพราะชอบมากค่ะ อยากให้มาช่วยกันคิด

ได้อ่านบันทึก It's not what you know. ของ อ.จันทวรรณแล้ว อยากเอามาแปลให้พวกเราได้อ่านกันอีกรอบค่ะ ผู้เขียนคงเป็นผู้บริหาร (เดาเอาจากที่มีอ้างอิงไว้ว่า Contributed by Brian Hackett, from Across The Board, The Conference Board: http://www.conference-board.org  และมีที่มาจาก http://www.skyrme.com/updates/digest.htm) อ่านแล้วได้ความสะใจยังไงบอกไม่ค่อยถูกค่ะ รู้สึกว่าเขาสะกิด ให้เราคิดให้ลึกขึ้นได้ดีมากๆ เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งว่าจะแปลให้เป็นไทยได้ตรงกับที่เขาว่าสักแค่ไหน


It's not what you know.

It's not what you know.
ไม่ใช่อะไรที่คุณรู้หรอก

It's knowing when you know that you don't know.

แต่เป็นการรู้ เมื่อคุณรู้ว่าคุณไม่รู้อะไร

It's knowing who knows what. It's intuition, insight, and years of making mistakes.
เป็นการรู้ว่าใครรู้อะไร เป็นจิตใต้สำนึก ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และการทำผิดพลาดหลายครั้งหลายหนมายาวนาน

It's knowing when to approach a key customer and let him know you're listening.
เป็นการรู้ว่า เมื่อใดควรจะเข้าไปหาลูกค้าคนสำคัญ แล้วทำให้เขารู้ว่าคุณฟังเขาอยู่

It's knowing whether he likes golf or fishing or building houses for the poor.
เป็นการรู้ว่า เขาชอบเล่นกอล์ฟหรือชอบตกปลา หรือว่าชอบสร้างบ้านให้คนยากคนจน

It's knowing how to get the best price for a flight, a car, or a mortgage on the Internet.
เป็นการรู้ว่า ทำยังไงถึงจะได้ราคาที่ดีที่สุดสำหรับตั๋วเครื่องบิน สำหรับรถหรือค่าค้ำประกันทางอินเตอร์เน็ต

It's the knowledge of the hands-knowing how to keep that old lathe running smoothly.
เป็นความรู้ที่ได้จากการลงมือทำว่า ทำยังไงเครื่องกลึงเก่าแก่นั้นถึงจะทำงานได้อย่างราบรื่น

It's the ability to know what's wrong with something just by the smell, whether it's a gourmet dish or a car engine.
เป็นความสามารถที่จะรู้ได้ว่ามีอะไรผิดปกติ จากเพียงการได้กลิ่น ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องยนต์

It's knowing how to work as a team.
เป็นการรู้ ถึงวิธีทำงานเป็นกลุ่ม

It's knowing how to really listen.
เป็นการรู้วิธีฟังที่แท้จริง

It's knowing when not to say anything. To let others learn for themselves.
เป็นการรู้ว่าไม่ควรพูดอะไรเมื่อไหร่ เพื่อให้คนอื่นได้เรียนรู้ด้วยตัวของเขาเอง

It's knowing that you don't need to know it all to have all the answers.
เป็นการรู้ว่า คุณไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง จึงจะได้คำตอบทั้งหมด

It's knowing that the next best thing to knowing something is knowing where to find it.
เป็นการรู้ว่า สิ่งที่ดีที่สุดยิ่งกว่าการรู้อะไร ก็คือการรู้ว่าจะหาความรู้นั้นได้ที่ไหน

It's knowing that you can make mistakes and admit it.
เป็นการรู้ว่า คุณทำผิดได้และยอมรับความผิดนั้น

It's knowing that innovation comes from making more mistakes faster than your competition and learning from them.
เป็นการรู้ว่าการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆนั้นมาจากการทำผิดมากและเร็วกว่าคู่แข่งของคุณ โดยเรียนรู้จากความผิดนั้น

As an individual, it's knowing why you work for a living. Is it to pay the rent? Or do you have the luxury of looking for meaning? As an organization, it's knowing why your firm exists and what, if anything, you owe to society.
ในฐานะคนคนหนึ่ง เป็นการรู้ว่าทำไมคุณถึงทำงานเพื่อความอยู่รอด  เพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าเช่าหรือว่าคิดได้หรูหราว่าทำเพื่อหาความหมาย ในฐานะองค์กร เป็นการรู้ว่าทำไมจึงมีองค์กรของคุณ และคุณมีอะไร (ถ้าหากมี) ที่ติดค้างต่อสังคมบ้าง

... What you can do is create the right culture, find the right people, give them the right tools and the right motivation, and get out of their way ...
สิ่งที่คุณทำได้คือ การสร้างวัฒนธรรมที่เหมาะสม มองหาคนที่เหมาะสม ให้เครื่องมือที่เหมาะสมแก่เขา ให้การกระตุ้นที่ถูกต้อง แล้วก็อย่าไปยุ่งกับพวกเขา

คำสำคัญ (Tags): #km#ความหมาย
หมายเลขบันทึก: 90508เขียนเมื่อ 15 เมษายน 2007 22:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 23:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอบคุณสำหรับบันทึกนี้ครับ น่าสนใจและคิดตาม

พี่โอ๋แปลได้ตรงจุดและตรงใจครับ

 

มาอ่าน....คิด....คิด....และคิด...ขอบคุณค่ะ
ได้ข้อคิดดีๆ มีความหมายครับ......ขอบคุณครับ
  • ขออนุญาติ share ต่อให้เพื่อนๆ ด้วยนะคะ อ.โอ๋

ด้วยความยินดีมากๆค่ะ พี่หมอนน โอ๋กลับมาอ่านเองเลยขยายเอง ขอบคุณที่พี่หมอนนจะช่วยขยายค่ะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท