เสียงร้องไห้จากความอ้างว้างและเจ็บปวดในตึกเด็กศัลยกรรม


อย่ามองเพียงเพราะเค้าแตกต่างจากคนอื่น แต่จงลองทำความเข้าใจในสิ่งที่เค้าเป็น แล้วเราจะเข้าใจในความเป็นตัวตนของคนที่คิดว่าแตกต่าง

         วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ฉันไปเป็นอาสาสมัครในโรงพยาบาลเด็ก ซึ่งตึกที่ฉันรับผิดชอบคือตึกเด็กป่วยศัลยกรรม กิจกรรมที่ฉันเตรียมไปยังคงเป็นกิจกรรมในรูปแบบง่ายๆอยู่ เพื่อความเหมาะสมและค่อยๆสร้างความคุ้นเคยกับเด็กป่วย กิจกรรมที่เตรียมไปได้แก่ การพับกระดาษ ระบายสีภาพ สื่อการเรียนรู้  และนิทาน สาเหตุที่ต้องเตรียมกิจกรรมไปหลากหลายก็เพราะว่าเด็กแต่ละคนจะมีลักษณะนิสัยแตกต่างกันและบางคนไม่สามารถเขียนหรือระบายสีได้ ทำให้ต้องสร้างความหลากหลายในกิจกรรมให้เพียงพอต่อความต้องการของเด็ก
        ฉันเดินเข้าไปสวัสดีพี่ๆพยาบาลประจำวอร์ดก่อนเป็นอันดับแรก พี่ๆพยาบาลยิ้มรับและให้คำแนะนำว่าเตียงไหนควรดูแลเป็นพิเศษ เพราะค่อนข้างมีปัญหา เตียงไหนไม่มีผู้ปกครองเฝ้า ฉันมองสำรวจไปรอบๆห้อง เพื่อสังเกตดูว่าเด็กเตียงไหนสามารถทำกิจกรรมได้บ้าง ฉันรู้สึกว่าวันนี้เด็กจะค่อนข้างมีอาการหนักกว่าครั้งแรกที่ฉันมาซะอีก อาจเป็นเพราะเพิ่งได้รับการผ่าตัดมาใหม่ๆจึงทำให้เด็กบางคนนอนซมอยู่ที่เตียง บางคนร้องไห้งอแงเสียงดังลั่น และบางเตียงก็นอนหลับ ฉันเริ่มเดินไปทักทายน้องแชมป์ก่อนเป็นเตียงแรก เพราะเคยเจอกับน้องแชมป์แล้ว แม่น้องแชมป์ยิ้มให้แทนคำทักทายและช่วยชวนน้องแชมป์ไปทำกิจกรรมที่โต๊ะด้วย น้องแชมป์ไม่ปฏิเสธคำชวนเลย แถมยังรีบลงจากเตียงเพื่อไปนั่งทำกิจกรรมอีกด้วย จากนั้นฉันกับน้องอาสาสมัครอีกคนก็ช่วยกันชักชวนเด็กเตียงอื่นๆมาร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งฉันจะเริ่มจากเด็กที่ฉันเคยเจอมาก่อนแล้ว จากนั้นก็ค่อยๆไปทักทายทำความรู้จักกับเด็กคนอื่นที่ฉันยังไม่เคยเจอ เพื่อชวนมาทำกิจกรรมด้วยกัน ฉันเดินไปเห็นเด็กคนหนึ่ง ชื่อว่าน้องนาย ฉันเห็นน้องนายนั่งเล่นอยู่คนเดียว โดยมีแม่นั่งป้อนข้าวอยู่ข้างๆ ฉันจึงเข้าไปทักทายและชวนน้องนายไปทำกิจกรรมที่โต๊ะด้วยกัน ตอนแรกน้องนายปฏิเสธคำชวนของฉัน คงเพราะเห็นเป็นคนแปลกหน้าไม่คุ้นเคยจึงไม่กล้าที่จะพูดคุยด้วย ฉันจึงนั่งพูดคุยด้วยและยังใช้ความพยายามชวนน้องไปทำกิจกรรมด้วยกัน ซึ่งได้แม่ของน้องนายช่วยชวนอีกแรงหนึ่ง และก็ประสบความสำเร็จ น้องนายยอมไปทำกิจกรรมกับฉัน ซึ่งน้องนายเลือกที่จะระบายสีภาพ และทำสื่อการเรียนรู้ ฉันสังเกตเห็นว่าเมื่น้องนายระบายสีไปสักพักเริ่มมีอาการหายใจแรงและดูเหนื่อย ฉันจึงบอกให้น้องนายพักก่อนแล้วค่อยระบายใหม่ แต่น้องนายปฏิเสธบอกว่าไม่เป็นไรต้องทำให้เสร็จ ฉันมองเห็นความพยายามอย่างมากของเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นเด็กบางคนคงจะเลิกทำไปแล้ว แต่น้องนายมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้มันสำเร็จและน้องนายก็ทำได้จริงๆ ซึ่งหลังจากน้องนายระบายสีภาพเสร็จก็ลุกเอาภาพไปอวดให้แม่ดู จากนั้นน้องนายก็เดินกลับมาบอกว่าเอาให้แม่ดูแล้ว แม่ชมว่าสวยด้วย และขณะที่น้องนายกำลังเดินจะกลับไปนั่งที่โต๊ะฉันก็ต้องตกใจสุดๆ เมื่อน้องนายเซล้มลง ฉันรีบเข้าไปพยุงน้องนายลุกขึ้นแล้วสอบถามอาการว่าเป็นอย่างไรบ้าง น้องนายทำสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆว่าจะร้องไห้หรือเจ็บ แต่ฉันรู้ว่าน้องนายคงจะเหนื่อยมากกับการพยายามฝืนที่จะระบายสีภาพให้เสร็จ ฉันพาน้องนายมานั่งที่เก้าอี้ จากนั้นก็เดินไปส่งน้องนายที่เตียงเพื่อให้น้องนายพักผ่อน แม่น้องนายแสดงความขอบคุณที่ฉันพาน้องนายไปทำกิจกรรมและมาส่งที่เตียง ฉันยิ้มรับอย่างปลื้มใจกับคำขอบคุณและรู้สึกว่าน้องนายเป็นเด็กที่เข้มแข็งอีกคนหนึ่งจริงๆ
      "ความเจ็บปวดของน้องป๊อบ กับ  เด็กชายฝั่งตรงข้าม" เมื่อครั้งแรกที่ฉันมาเป็นอาสาสมัครที่วอร์ดนี้ ฉันก็เห็นเด็กหญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง นั่งอยู่บนเตียงคุยกับแม่ด้วยความร่าเริง พร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนยิ้มตลอดเวลา แม้กระทั่งกับฉันซึ่งเป็นคนแปลกหน้าสำหรับน้องป๊อบก็ยังได้รับรอยยิ้มนั้นด้วย แต่มาในวันนี้ฉันกลับเห็นแต่เด็กผู้หญิงที่ใบหน้าเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาและความทรมาน ฉันตกใจมากรีบเข้าไปสอบถามความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับน้องป๊อบ แม่น้องป๊อบบอกว่าน้องปวดท้องมากตั้งแต่สิบเอ็ดโมงแล้ว กินข้าวก็ไม่ได้ ดื่มน้ำเข้าไปก็เจ็บท้อง ไปบอกพยาบาลแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นหมอมาสักที ฉันคิดในใจน้องป๊อบปวดท้องตั้งแต่สิบเอ็ดโมงแต่นี้มันจะบ่ายสองแล้ว แม่น้องป๊อบบอกกับฉันด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า ปกติน้องป๊อบจะเป็นคนอดทนมาก น้องป๊อบจะปวดท้องทุกวันแต่ก็จะไม่ร้อง ไม่บ่น ใช้การอ่านหนังสือเพื่อให้ลืมเอา บางที่เล่นๆอยู่ก็ปวดท้องแต่ก็จะอดทนเอา เป็นเด็กที่มีความเข้มแข็งและอดทนสูงมาก แต่วันนี้คงปวดมากจนร้องไห้ออกมา และน้องก็หิวข้าวด้วย ทำให้ยิ่งทรมาน โดนท้องก็ไม่ได้เลย เพราะน้องป๊อบบอกว่าเจ็บ ขณะที่ฉันรับฟังความรู้สึกต่างๆจากแม่น้องป๊อบ น้องป๊อบก็จะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งดูแล้วน่าสงสารมาก แม่น้องป๊อบเล่าให้ฟังต่อว่ามาอยู่ที่นี่เป็นเดือนแล้ว แต่ยังไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ เพราะยังหาสาเหตุของอาการปวดท้องไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร เอ็กซเรย์ก็แล้ว ก็ยังไม่พบสาเหตุจึงทำให้ไม่สามารถรักษาให้หายได้ แม่น้องป๊อบยังบอกอีกว่า ถ้าน้องป๊อบปวดท้องก็จะกินยาแก้ปวดเอาหรือไม่ก็ฉีดยาระงับปวด ซึ่งทำได้แค่นี้เท่านั้นในตอนนี้ ฉันได้ยินน้องป๊อบพูดกับแม่ว่า หนูอยากกลับบ้าน หนูอยากกลับไปอยู่บ้าน ไม่อยากอยู่ที่นี้แล้ว ซึ่งฉันเห็นสีหน้าของแม่น้องป๊อบเศร้าลงและมีแต่ริ้วรอยของความทุกข์ใจเต็มไปหมด ฉันเกือบจะร้องไห้อีกแล้ว เพราะความสงสาร การมาเป็นอาสาสมัครในโรงพยาบาลทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนอ่อนไหวง่ายมากๆ แม่น้องป๊อบยังคงเป็นกังวลกับอาการน้องป๊อบตลอดเวลาและเริ่มถามถึงหมอว่าเมื่อไหร่จะมาสักที ฉันเห็นมีหมอมาตรวจเตียงใกล้ๆกันจึงถามแม่น้องป๊อบว่าทำไมหมอถึงไม่มาตรวจน้องป๊อบให้ แม่น้องป๊อบบอกว่าคนไข้ใครคนไข้มัน คนไข้แต่ละคนจะมีหมอประจำอยู่แล้ว ถึงเราร้องจะเป็นจะตายหมออื่นก็ไม่มารักษาให้หรอก เต็มที่ก็แค่มาถามอาการ ฉันเลยเข้าใจและช่วยอธิบายแทนหมอว่า ที่หมอคนอื่นไม่มาทำการรักษาให้คงเพราะไม่ได้รักษามาตั้งแต่ต้นจึงไม่รู้อาการที่แน่นอน เลยไม่กล้าทำอะไร ซึ่งแม่น้องป๊อบก็เข้าใจ แต่ด้วยความกังวลจึงทำให้พูดไปแบบนั้น ระหว่างที่รอหมอมาตรวจ เด็กผู้ชายเตียงตรงข้ามกับเตียงน้องป๊อบก็ร้องไห้ โวยวายดังลั่นห้องและร้องเรียกหาพ่อ ฉันเห็นผู้ปกครองคนหนึ่งเดินเข้าไปปลอบก็นึกว่าเป็นแม่เด็กแต่ก็ไม่ใช้ เพราะน้องก็ยังไม่ยอมหยุดร้อง ฉันเลยเดินเข้าไปหาน้องและพูดคุยด้วย น้องคงเห็นฉันเป็นคนแปลกหน้าเลยยิ่งร้องไห้ โวยวายนักกว่าเดิมและเริ่มทุบเตียง ดึงผ้าปูเตียง พูดง่ายๆคือเริ่มอาละวาดนะค่ะ ฉันตกใจมากทำอะไรไม่ถูกและไม่มีใครเข้ามาช่วยดูน้องเลย ฉันยืนงงอยู่แป๊บนึงและคิดว่าเอาล่ะทำมันทุกทางนี่แหละ ฉันเริ่มพูดไปเรื่อยๆและมองหาของเล่นข้างๆเตียง ฉันเห็นกล่องหุ่นยนต์ของน้องก็หยิบมาและชวนน้องเล่น น้องไม่สนใจยังคงร้องไห้เหมือนเดิม ฉันรู้สึกว่าถ้าฉันพูดกับน้องเค้าตรงๆคงไม่รอดแน่ จึงทำเป็นไม่สนใจและเริ่มพูดคนเดียว เล่นหุ่นยนต์คนเดียวไปเรื่อยๆ ได้ผลดังคาด น้องเริ่มเงียบและหันมาสนใจฉัน ฉันจึงเริ่มพูดกับน้องอีกครั้ง ฉันคอยปลอบและหลอกล่อต่างๆนานาเพื่อเบี่ยงเบนความเคว้งคว้างจากการที่ผู้ปกครองหายไป ผู้ช่วยพยาบาลเดินมาบอกฉันว่าหมอเรียกพ่อเด็กไปคุยและไปเอายาเดี๋ยวคงมาเวลาผ่านไปสักพักแม่เด็กก็กลับมาที่เตียง ฉันรู้สึกโล่งใจมาก พอแม่เด็กเดินเข้ามาเห็นฉันก็พูดขอบคุณก่อนเลยและเข้าไปกอดน้อง เพื่อปลอบใจ ฉันเห็นภาพนั้นแล้วรู้สึกอบอุ่นใจแทน ฉันจึงขอตัวเดินกลับมาหาน้องป๊อบเพื่อดูอาการน้องป๊อบต่อ น้องป๊อบยังคงร้องไห้อยู่เช่นเดิม มีหยุดร้องเป็นบางช่วง ฉันรู้สึกดีอยู่ตอนหนึ่งที่ฉันพูดเล่นกับน้องป๊อบแล้วแม่ของน้องป๊อบหัวเราะ มันเป็นสิ่งดีมากที่ทำให้คนกำลังมีความทุกข์ทางใจหัวเราะออกมาได้บ้าง จนเมื่อหมอมาแม่น้องป๊อบดีใจมากเมื่อเห็นหมอ จากความโมโหที่หมอมาช้าเปลี่ยนเป็นความรู้สึกดีใจแทน แม่น้องป๊อบบอกให้ฉันดูหมอและบอกว่าน่าสงสารหมอคงจะรีบมาแน่ๆ แถมหมอยังท้องอีกไม่รู้จะเป็นอะไรรึเปล่า หมอเข้ามาตรวจอาการและฉีดยาแก้ปวดให้ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที แต่บรรยากาศกับดูเปลี่ยนไปมากอย่างน่าประหลาด แม่น้องป๊อบมีสีหน้าดีขึ้น น้องป๊อบค่อยๆหายเจ็บ รอบๆดูสดใส อย่างนี้ที่เข้าเรียกว่าแค่ได้เห็นหน้าหมอก็หายแล้วละมั้ง ฉันพูดอาจฟังดูเว่อร์ไป แต่ถ้าใครได้ไปอยู่ตรงนั้นแทนฉันคงจะเข้าใจได้ดี ฉันขอตัวออกมาข้างนอก เพื่อให้น้องป๊อบได้พักผ่อน
        "น้องใบเฟิร์น เด็กหญิงเอาแต่ใจ จากความอ้างว้าง" ฉันเจอน้องเฟิร์นครั้งแรก น้องเฟิร์นร้องไห้อย่างนักไม่มีใครดูแล ไม่คุยกับคนแปลกหน้า ไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ และทำหน้ามุ่ยอยู่ตลอดเวลา วันนี้ตอนที่ฉันไปถึงน้องเฟิร์นหลับอยู่ สักพักฉันเห็นน้องเฟิร์นลุกขึ้นมานั่งบนเตียงและไม่มีใครเข้าไปคุยด้วยเลย ฉันจึงเสี่ยงเดินเข้าไปหาน้องเฟิร์นดูว่าน้องเฟิร์นจะยอมพูดคุยกับฉันมั้ย และสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นคือพอฉันทักทายน้องเฟิร์นปุบ น้องเฟิร์นก็หันมายิ้มให้ฉันอย่างไม่ได้ฝืนทำเลย ฉันชวนเล่นทำกิจกรรมน้องเฟิร์นก็สนใจ ฉันเอาภาพระบายสีมาให้น้องเฟิร์นทำ แต่น้องเฟิร์นทำได้ไม่นานก็เริ่มบ่นหิวและถามหาแม่ ฉันเริ่มรู้สึกว่าน้องเฟิร์นคงจะเริ่มหงุดหงิดแล้วแน่ๆ ฉันจึงชวนคุยไปเรื่อยๆ น้องเฟิร์นเล่าให้ฟังถึงเรื่องแม่ของน้องเฟิร์นเอง แม่น้องเฟิร์นชือ ใจ น้องเฟิร์นก็จะเรียกว่า แม่ใจ ฉันถามน้องว่ารักแม่ใจมั้ย น้องเฟิร์นก็บอกว่า รักมาก แต่แม่ใจชอบตีน้องเฟิร์น ฉันเลยถามว่าทำไมถึงตีล่ะ น้องเฟิร์นตอบว่า เพราะดื้อ แม่ใจเลยตี ฉันเห็นสีหน้าน้องเฟิร์นเริ่มโกรธ ฉันจึงไปเอานิทานมาเล่าให้น้องเฟิร์นฟัง ระหว่างที่ฉันเล่านิทานน้องเฟิร์นก็จะมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครในนิทานไปด้วย เช่น เจองูก็จะบอกว่ากลัว ฉันจะคอยอธิบายถึงสิ่งที่อยู่ในนิทานให้น้องเฟิร์นฟัง น้องเฟิร์นก็จะตั้งใจฟังและคอยสักถามตลอดเวลาว่านี้ตัวอะไร อย่างเช่นฉันเล่าเรื่องนกกระจอก ฉันก็จะทำท่านกไปด้วย น้องเฟิร์นก็จะทำตามและหะวเราะไปด้วย น้องเฟิร์นบอกฉันว่านกกระจอกเคยมาหาด้วย ซึ่งน้องเฟิร์นเวลามองผ่านกระจกหน้าต่างโรงพยาบาลแล้วเห็นนกบินผ่านก็คงจะคิดว่านกเหล่านั้นแวะมาทักทายอย่างแน่นอน น้องเฟิร์นบอกฉันว่าไม่มีใครมาเล่นกับหนูหรอก ไม่เคยมีใครมาเล่นกับหนูเลย เมื่อได้ยินอย่างนี้แล้วทำให้ฉันเข้าใจในความเป็นน้องเฟิร์นมากขึ้นและสามารถทำความเข้าใจถึงลักษณะนิสัยของน้องเฟิร์นได้ดี เวลาผ่านไปสักพักน้องเฟิร์นก็เริ่มมีอาการหงุดหงิดและเริ่มเอาแต่ใจขึ้น ซึ่งจะไม่สนใจฉันแล้ว เริ่มทำหน้ามุ่ย ไม่พูดด้วย ยกมือมาปิดหน้า ฉันเลยขอตัวออกมา เพื่อให้น้องเฟิร์นสบายใจขึ้นแล้วค่อยไปคุยใหม่ เวลาของการทำกิจกรรมใกล้หมดเข้ามาทุกที ฉันเดินไปส่งเด็กที่เตียงพอเดินกลับมาที่โต๊ะกิจกรรม ก็พบว่าน้องเฟิร์นลงมาจากเตียงมาอยู่ที่โต๊ะกิจกรรมแล้ว ฉันคิดว่าน้องเฟิร์นคงบอยากมีเพื่อนคุยด้วย พออารมณ์หงุดหงิดจากการที่แม่ยังไม่มาบวกกับความหิวหายไปแล้ว จึงอยากกลับมาเล่นด้วยแน่ๆ การที่ฉันจะสามารถสร้างความคุ้นเคยให้กับน้องเฟิร์นได้คงต้องใช้เวลาและความพยายามสักหน่อย แต่แค่วันนี้เกิดความเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆ แม้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็ทำให้ฉันมีกำลังใจที่จะพยายามต่อไปได้ ฉันซึ่งตอนแรกไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่น้องเฟิร์นเป็นได้ แต่วันนี้ฉันสามารถเข้าใจสาเหตุที่น้องเฟิร์นเป็นได้อย่างเข้าใจจิตใจ เด็กขี้เหงา เด็กที่ต้องการความอบอุ่น เด็กที่มองหาคนข้างกาย เด็กที่ต้องการใครสักคนสนใจ ความเคว้งคว้างเมื่อตื่อนมาพบ เป็นสิ่งที่เด็กอายุเพียง 3 ขวบ ต้องการจากผู้ปกครองอย่างที่สุด นี่คือส่วนหนึ่งที่เป็นตัวตนของเด็กผู้หญิงชื่อ น้องเฟิร์น เด็กหญิงผู้อ้างว้าง

       ภาพความอบอุ่นจากการที่แม่กอดลูก กับ เด็กบางคนที่ต้องมองออกไปนอกหน้าต่างเพียงเดียวดาย.. มันช่างเป็นความต่างที่เกิดขึ้นในสถานที่เดียวกัน ช่วงเวลาเดียวกัน นี้คือสิ่งที่ฉันเห็นในวันนี้ ฉันรู้สึกว่าจิตใจนั้นช่างบอบบางกว่าร่างกายเสียอีก วันนี้ฉันกลับออกมาพร้อมกับความเหนื่อยล้าทางจิตใจ คิดหาวิธีในการให้เด็กเกิดความสุข แม้ต้องอยู่เพียงลำพัง แต่ก็นั้นแหละทุกอย่างก็คงต้องใช้เวลา เพื่อการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

หมายเลขบันทึก: 89962เขียนเมื่อ 12 เมษายน 2007 14:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท