ไปเจอคนแนะนำหนังสือภาษาอังกฤษที่แต่งโดย นายฝรั่งเกษียณอายุ ชื่อ นาย Andrew Hicks ตามประวัติที่เขาเขียนว่าเขาเป็นใคร บอกว่า เขาคือ
About Me
It's a funny thing hitting sixty after a career as a corporate lawyer and university professor as I'm now early retired and living in Thailand with my Thai wife, Cat, who's quite a fair bit younger than me. I boast a bestselling novel called "Thai Girl" in the bookstores, a house out in the rice fields of Surin, Thailand, a thirty year old jeep in the garage and an antique buffalo cart in the living room. For me this life's always been a heady roller coaster and I want to share something of it with you.
ที่มา : Thai Girl
ี้
หนังสือเล่มนี้เป็นการตีพิมพ์ครั้งที่สอง โดยพิมพ์ซ้ำที่สิงค์โปร์ และมีวางขายทั้งในสิงค์โปร์ มาเลเซีย รวมถึงเว็บไซต์หนังสือทั่วไป
ในขณะที่ ปกแรก ตีพิมพ์ในประเทศไทย ในปี 2004 จัดจำหน่ายโดย Asia Book
หลังจากอ่าน review เกี่ยวกับหนังสือ และเข้าไปอ่าน blog ของผู้เขียน ดิฉันยอมรับว่า ละอายใจเกินกว่าจะอยากหาซื้อหนังสือเล่มนี้มาเก็บไว้ ข้อเท็จจริงของหญิงสาวในหมู่บ้านแถบอีสาน ที่แต่งลูกเขยฝรั่งแก่คราวพ่อ หรือแก่คราวปู่ มีให้รู้ให้เห็นกันดาษดื่น รู้กันเสียจนเป็นเรื่องธรรมด้า....ธรรมดา ทั้งๆ ที่มันไม่ธรรมดา !
ผู้ชายไทย รุ่นราวคราวเดียวกับหญิงไทยในภูมิภาคเหล่านั้น ไม่รู้สึกว่า ตัวเองถูกจัดเป็นพลเมืองชั้นสองหรือคะ
อยากให้ลองอ่านมุมมองฝรั่งที่อาศัยในประเทศไทย (เดี๋ยวจะเหลือเวลาเรียกชื่อนี้น้อยลงละ ต่อไปอาจจะต้องเรียก สยามประเทศ แทน แฮะๆๆ) ดูนะคะ จะมีความรู้สึกอีกแบบเมื่อได้อ่าน
อ้อ ดิฉันไม่ได้มาเขียน blog ให้ต่อต้านหนังสือเล่มนี้นะคะ อยากให้เห็นไทยอีกมุมจากสายตาฝรั่งแก่ๆ ค่ะ
ขอแง่คิดที่ว่า "น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า"
ฝรั่งแก่ๆ อยากได้คนดูแล รับใช้ยามเรี่ยวแรงน้อยลง ได้อยู่ประเทศเขตร้อน หลบหนาว
หญิงไทย อยากได้คนรับผิดชอบช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว อย่างน้อยก็ได้หลักประกันที่ไม่ต้องอายใครๆ
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความจริงใจต่อกัน มากกว่า มีทั้งคนไปด้วยกันได้ดี หรือ ล้มเหลว ต้องว่ากันไปตามกรณี
สาวไทย...มีทั้งชื่อเสียง และชื่อเสีย ต้องอยู่ที่ตัวเองเท่านั้นที่รู้ว่าจะเป็นแบบไหนดี
สวัสดีค่ะ
ดิฉันมีเรื่องจริงยิ่งกว่าอิงนิยาย
คนเลี้ยงหลาน เขาเลี้ยงทั้งพี่ น้อง 2 คนเลย พอเด็กโต คุณแม่ของหลาน ให้เช่าร้านถูกๆ ทำร้านซักรีด ที่Condoเขา
มีฝรั่งแก่ๆ มาเช่า และถูกใจ แต่งงานด้วย ผู้หญิงมีลูกติด 1 คน สามีตาย
ตอนนี้ฝรั่งตายแล้ว ทำประกันชีวิตให้+ให้สมบัติอีกส่วนหนึ่ง เป็นการตอบแทนความดีที่ดูแลมา
ตอนนี้ ยังอยู่เมืองนอกกับลูก
แต่ผู้หญิงคนนี้ดีค่ะ เรียบร้อย สะอาดและเอาใจเก่ง ใช้ได้มากๆ ก็ไม่รู้สึกอะไร ดิฉันยังชอบเขาเลย
รู้แต่ว่า ยังกะละครแน่ะ
เมื่อดีมานด์ และ ซัพพลาย มันเอื้อต่อกัน .. เมื่อมองผ่านมุมมองฝรั่งแก่ๆ ก็ต้องมองผ่านมุมมองสาวอีสานรอรักบ้าง จะได้เห็นมุมที่แตกต่างทั้งสองมุม
หากมองมุมด้านสังคม เป็นปัญหาระดับประเทศ เนื่องจากรัฐไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนให้คนภาคอีสานได้
สวัสดีอีกทีค่ะ
ปัญหาความยากจน ช่องว่างระหว่า รวยกับ จน มันกว้างมาก ทราบว่า ทางภาครัฐก็พยายามจะหาวิธีการมาแก้ไขอย่างรีบเร่ง แต่คงเร็วไม่ได้ เพราะ ปัญหานี้ ใหญ่หลวงนัก ต้องใช้เวลานานด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะทุกท่าน
ขอบคุณทุกความเห็นเลย อันที่จริง ตอนที่เขียน เขียนอย่างขุ่นใจว่า ทำไมค่านิยมนี้จริงเกิดขึ้นได้ (เหมือนกับยุคที่สาวเหนือ ต้องลงมาขายตัวหาเลี้ยงครอบครัว เพื่อพิสูจน์ความเป็นลูกสาวที่ดีของครอบครัว) จริงอยู่ การรักกันนั้นย่อมมี (ไม่งั้นจะตกร่องปล่องชิ้นกันได้หรือ) แต่มันไม่น่ามากขนาดยกหมู่บ้านค่ะ มันเป็นค่านิยมเบี่ยงเบน แบบเดียวกับจตุคามเลยนะคะเนี่ย
นี่คืออีกมุมมอง ที่เจอมากับตนเอง แต่ไม่ได้ยอมรับ หรือปฏิเสธ ปัญหาอยู่ที่ไหนน่าจะนำมาเป็นประเด็นให้คิดกันต่อนะครับ คงสนุกน่าดู
ขอนำรายงานการวิจัย พร้อมบทความมาฝากนะครับ ลองคลิ๊กอ่านก้นดูนะครับ น่าสนใจ
เล่าจากประสบการณ์สักนิดก็ได้ค่ะว่า การสมรส มันก็ทำให้คนสองคน (หรือสองครอบครัว) จำเป็นต้องปรับตัวเข้าหากัน ในหลายกรณีมันเป็นเรื่องยากเหมือนกัน (เช่น คนไทยเชื้อสายจีน แต่งงานกับคนไทยแท้ๆ จะยิ่งลำบากขึ้น ถ้าเป็นคนไทยแท้ๆ ในชนบท) แต่ถ้าหากเป็นการสมรสข้ามประเทศ เรื่องที่ว่ายาก มันยากขึ้นเป็นทวีคูณ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง my country, your country หรือ ทำไมบ้านยูทำงี้ ทำไมบ้านไอไม่เหมือนบ้านยู หรือเมื่อมีลูกจะจัดการกับชีวิตอะไร อย่างไร สารพัดปัญหาร้อยแปด
ที่ว่าปัญหาเยอะนั้น ยังดีถ้าคู่สมรสมีความสามารถในการสื่อสารได้ดีระดับหนึ่ง (เช่นพูดจาภาษาใดภาษาหนึ่งได้เข้าใจพอ) แต่มันจะเครียดขนาดไหน ถ้าสองคนคู่นั้น พูดกันไม่รู้เรื่องเป็นช่วงเวลาหนึ่ง
อ่านจากสามบทความ ดิฉันขอพูดแทนใจหญิงไทยที่สมรสกับคนต่างชาติได้ว่า
มองในมุมกลับสังคมไทยก็ยังเหมือนเดิมคือจะดูถูกผู้หญิง เมื่อได้ยินคำว่า "เมียฝรั่ง" แต่หากว่าผู้ชาย เป็น "สามีฝรั่ง" เรามองกันปรกติ เฉยๆ
ระบบความคิดนี้ สั่งสมมาแต่สงครามเวียดนาม ผู้หญิงขายบริการให้กับ GI ทหารอเมริกา ( tiger woods นักกอล์ฟ มือ 1 ของโลก เป็นลูกทหาร GI) ส่งส่งผ่านมาทางผู้หญิงในบาร์แถวพัฒน์พงษ์ พัทยา สนามบินอู่ตะเภา (ทหารอเมริกาที่มาทางเรือพักรบแถวนี้)
เมื่อมองลึกเข้าไปในเนื้อแท้ของปัญหา แล้ว กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ยกมาไม่ใช่ปัญหา ปัญหาจริงๆ คือเราดูถูกความเป็นหญิงของเราเองว่าทำไมได้ หากเป็นผู้ชายไม่เป็นไร ใช่หรือไม่ ?? ทิ้งไว้เป็นคำถาม
(อยากฟังความคิดอันหลากหลายจากคนใน G2Kจัง)
สวัสดีค่ะ
กลับเข้ามาอีกที แหม ความเห็นไปกันไกลแล้ว
ความเห็นของดิฉันนะคะ
ผมเองก็ไม่ชอบที่เป็นแบบนี้นะครับ
แต่ก็เห็นใจผู้หญิงบ้านเรา รู้สึกว่าเธอเป็น victim ของอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องการเงิน ค่านิยมของครอบครัว ความกตัญญู ถ้าเอาเฉพาะตัวเธอเป็นคนตัดสินโดยไม่ต้องตอบแทนพ่อแม่ ผมว่าเรื่องแบบนี้คงลดลงมาก
ไม่ชอบผู้ชายฝรั่งเลย รู้สึกเหมือนเขามาหาคนที่จะรับใช้เขาได้เมื่อแก่ มันเป็นสถานภาพที่เหนือกว่า คนบ้านเราด้อยกว่า
โดยรวมก็อึดอัดใจกับสภาพการณ์แบบนี้ แต่ไม่มีอะไรจะตำหนิหญิงเรา เพราะเห็นใจเขาครับ ถ้าจะแก้ก็ต้องให้เศรษกิจบ้านเราดีขึ้น ค่านิยมพ่อแม่ที่หวังพึ่งลูกเพื่อให้เทียมหน้าเทียมตากับคนอื่นลดลง
สวัสดีค่ะ
เราทุกคน ก็คงอึดอัดต่อ สังคมกลุ่มใหม่ ที่บางหมู่บ้านมีลูกเขยฝรั่งเกือบทั้งหมู่บ้าน มันโก้ตรงไหน?????
แต่ก็ไม่ทราบจะทำอย่างไร ในเมื่อความรู้น้อย เงินน้อย แต่อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรถเครื่อง มีเสื้อผ้าสวยๆ ,มีอะไรๆที่อยากได้ ช่วยพ่อแม่ได้ด้วย
จะว่าไม่ทำงานก็ไม่ได้ การไปปรนนิบัติฝรั่งคือการทำงาน เขาคงไม่ให้เงินใช้ฟรีๆหรอก
คุณ
ปัญหาบ้านเราคือ รวยล้น จนเเหลือ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการศึกษาน้อย ไม่นับคนที่การศึกษาก็ไม่มาก แต่รวยเองเพราะบุญเก่า ทำบุญมาดี แต่เขาต้องมีปัญญาติดตัวมามาก มีความขยันหมั่นเพียร มีโอกาสและช่องทางมากมายที่จะสร้างตัวเอง ดิฉันเชื่อในเรื่อง การทำบุญมาดีค่ะ ส่งผลจริงๆ
และประเทศเกษตรกรรม ก็จะเป็นแบบนี้ทั้งนั้น
Adam Smith ปราชญ์ของด้านทุนนิยม กล่าวว่า
คนเราจะรวยหรือจน ขึ้นอยู่กับ ความสามารถในการใช้แรงงานของตนและแรงงานผู้อื่น แต่การใช้แรงงานของตนเอง สนองต่อความต้องการของตนเองได้อย่างจำกัด ส่วนใหญ่ ผู้ที่บรรลุความต้องการของตนเองได้มากๆนั้น ล้วนแต่อาศัยแรงงานผู้อื่น
ดิฉันเห็นพวกฝรั่งเศส ใช้แรงงานประเทศคนผิวคล้ำ ที่อยู่ใกล้ๆกับเขา มานาน ประเทศฝรั่งเศสรวยคนเดียวค่ะ
ดิฉันว่า เราก็ยังดีกว่านะ ไม่เคยมีใครมาปกครองอย่างนี้ ยังไง ก็เป็นชาติอิสระ ไม่เคยถูกกดขี่ เพียงแต่ไม่รวยเท่านั้น(ภาพรวมค่ะ)
เหตุการณ์นี้ จะคล้ายกับเหตุการณ์ 10 กว่าปีก่อน เรื่องหมู่บ้านสาวดอกคำใต้ เด็กหญิง เด็กสาวต้องลงมาหาเงินให้ครอบครัว โดยที่สุดมักต้องขายบริการทางเพศ และเมื่อถึงวัยที่ขายไม่ได้แล้ว กลายเป็นหญิงสาว เธอเหล่านี้เมื่อกลับสู่หมู่บ้าน ก็ได้รับการต้อนรับอบอุ่น มีหนุ่มๆ รอแต่งงานอยู่กิน (เพราะเป็นหญิงมีกตัญญู)
มาตอนนี้จากแค่ขายบริการทางเพศ เปลี่ยนรูปแบบเป็นสมรสเพื่อความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน และเพื่อ .. อนาคตที่ดีกว่า (หรือเปล่าก็ไม่รู้) ...
ภาพเหล่านี้ได้ส่งผลในวรรณกรรมหลายเล่มเลยนะคะ
มีเรื่องของเมียฝรั่งหรือเมียเช่ามากมาย อยากให้พูดถึง เรื่องลูกผสม หรือลูกจีไอ ว่า พวกเขาเป็นผลผลิตโดยไม่ได้ตั้งใจ ของ หญิงไทยกับฝรั่ง ที่ถูกทอดทิ้ง บ้างคะ
ไทยเรื่องจริงเป็นเขตเมืองร้อน มีแต่คนผิวดำ เคยเห็นผู้หยิงผิวขาวทางเหนือเดินกะฝรั่งแก่ๆ เหมือนกันเชื่อว่าเป็นกระหรี่ แต่ดูเท่าไรหน้าตาโครงสร้างใบหน้าก็ยังไม่ใช่คนไท/ไตต้วจริงผิวขาวน้ำนมอย่างในสิบสองปันนาเลย
ในหลวงเราเรื่องจริงถามอีกทีเป็นใคร เรื่องจริงในหลวงเราเป้นคนพื้นเมืองจากชุมชนมอญอพยพจากพม่าในสมัยอยุธยา ซึ่งยังไม่ใช่คนไท/ไตแต่อย่างใด คนไท/ไตเสียมก๊กสิ้นสายเลือดไปหมดแล้วจากตอนกลางประเทศไทยหรือสยาม หลังทำสงครามกับพม่าครั่ง่ที่ 2 ร 1 แค่มีเชื่อสายไท/ไตบางส่วน จากนั้นก็ไม่มีสายเลือดเผ่าไท/ไตอีกแล้ว เราไม่ใช่คนไท/ไตแต่เป็นแค่คนพื้นเมืองมีเลือดผสมคนขาวจากตอนเหนือ เป็นแค่คนมีวัฒนธรรมไท/ไตเท่่านั้น
เวลาคุณอะไรให้ฝรั่งก็ต้องรู้จักประวัติศาสตร์ตัวเองให้ดีด้วย เพราะยังมีคนไท/ไตผิวขาวตัวจริงอยุู่เหนือแม่น้ำโขง นอกเขตประเทศไทย และเขาไม่ได้ทำงานเป็นกระหรี่นอนกะฝรั่ง
คนอีสานเรื่องจริงไม่ใช่คนไท/ไต แค่คนพื้นเมือง ในหลวงก็ไม่ใช่คนไท/ไต คนขาวน้ำนมเท่่านั้นที่เป็นคนไท/ไต เคยเห็นผู้หยิงผิวขาวทางเหนือเดินกะฝรั่งแก่ๆ เหมือนกันเชื่อว่าเป็นกระหรี่ แต่ดูเท่าไรหน้าตาโครงสร้างใบหน้าก็ยังไม่ใช่คนไท/ไตต้วจริงผิวขาวน้ำนมอย่างในสิบสองปันนาเลย ทางตอนเหนือเคยเป็นเมืองมอญซึ่งเป็นเขตปะกันกันระหว่างคนดำกับคนขาวทางตอนเหนือ(จีนปัจจุบัน) และต่อเมืองมอญถุกคนไต/ไทผิวขาวยึดเป็นดินแดนของตนเองแล้วเปลี่ยนสภาพเป็น ล้านนา ดังนั้นคนในล้านนาเรื่องจริงก็แทบจะไม่มีคนไท/ไตอาศัยอยู่จริง แต่น่าจะมีการผสมพันธุ์กันระหว่างคนขาวหิมะกับคนดำ ซึ่งลูกออกมาก็ยังไม่ใช่คนไท/ไตตัวจรงอะไร เวลาคุณอะไรให้ฝรั่งก็ต้องรู้จักประวัติศาสตร์ตัวเองให้ดีด้วย เพราะยังมีคนไท/ไตผิวขาวตัวจริงอยุู่เหนือแม่น้ำโขงนอกเขตประเทศไทย/ลาว พม่า และเขาไม่ได้ทำงานเป็นกระหรี่นอนกะฝรั่ง
ยุคไอทีย่อโลกทำให้ฝรั่งกับสาวไทยได้กัน ยุค 3g แต่ความคิดแคบ
ฝรั่งชั้นสูงที่มีชื่อเสียงในสังคมอเมริกาหรือยุโรป (ดารา นักร้อง นักกีฬาที่มีชื่อเสียง) ไม่เคยออกเดทกับผู้หญิงไทยค่ะ ก็มีแต่ฝรั่งชาวบ้านทั่วไปเท่านั้น
แต่ผู้หญิงไทยชั้นสูงที่มีชื่อเสียงในสังคมไทย (ดาราอย่างสิเรียม นางงามนามสกุลเจ้าอย่างโอสถานนท์ และอีกหลายคน) ออกเดทกับฝรั่งที่เป็นเพียงระดับชาวบ้านทั่วไป ผู้หญิงไทยเราเป็นฝ่ายง่ายจริงๆ แล้ว หรือฝรั่งมีรูปร่างที่หล่อกว่าผู้ชายไทยจนผู้หญิงชั้นสูงของไทยไม่อาจอดใจได้ต้องหาฝรั่งระดับไหนก็ได้มาทำผัว อันนี้ต้องศึกษา
ทำไมฝรั่งที่อยู่กับผู้หญิงไทยจึงมีแต่แก่ๆ ก็เพราะฝรั่งหนุ่มๆ ไม่เอาผู้หญิงไทย ผู้หญิงไทยจึงมีโอกาสน้อยมากๆ ที่จะได้เดทกับผู้ชายหนุ่ม ถ้ามีก็มีจำนวนน้อยเต็มทนที่สามารถหาสามีอายุไม่ต่างตัวเอง
หยุดคิดเถอะค่ะว่าผู้หญิงไทยอย่างเราสวยเป็นที่ต้องการของฝรั่ง เราต้องดูคุณสมบัติประกอบด้วย ไม่ใช่แค่มีฝรั่งมาแต่งงานกับผู้หญิงไทยไม่กี่คน ก็หลงว่าผู้หญิงไทยเราสวยตายห่า