ผมเองยังไม่ทราบครับว่า ทำไมผมจะต้องไปเรียนปริญญาเองด้วย ระหว่างการพัฒนาองค์ความรู้ด้วยตนเองกับกระบวนการวิจัยยังไม่เพียงพอหรือ? หรือการเข้าไปนั่งเรียนในระดับปริญญาเอกเป็นสิ่งจำเป็นของการพัฒนาองค์ความรู้
แต่ที่แน่ใจอย่างหนึ่งคือ มีหลายระเบียบเหลือเกินที่คนของรัฐสร้างขึ้น เพื่อบังคับกลายๆ ให้คนในวงวิชาการต้องเรียนต่อในระดับปริญญาเอก
ทำไมดร.บางคนถึงพูดว่า ช่วงเวลาที่ตนเสียดายที่สุดในชีวิตคือการเรียนต่อ ดร.
เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ คิดตามแล้วบางครั้งก็เห็นด้วย บางครั้งก็เห็นต่างค่ะ ปัจจัยของชีวิตแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ เราไม่สามารถเอาแนวคิดของใครมาตัดสินใครได้ค่ะ โดยเฉพาะเรื่องนี้
ชอบที่อ.เขียนมากค่ะ "ลงถึงรากแก้วเลย ทำให้เราทราบว่าทฤษฎีต่างๆมีแนวคิดเบื้องหลังอะไร เราเองรู้สึกว่า เหมือนได้ดูเบื้องหลังการถ่ายทำ"
สำหรับตัวเอง มีความเห็นคล้่ายคุณ paew มากค่ะ การเรียนป.เอกเป็นช่วงเวลาแห่งการฝึกตน ค้นหาตัวเอง
ส่วนตัวไม่เสียใจเลยที่มาเรียน คิดว่าปัจจัยเรื่องงานที่ทำ โรงเรียน และ อ.ที่ปรึษามีส่วนอย่างมาก ในการที่จะชอบหรือไม่ชอบช่วงเวลานี้
ตัว Ph ใน PhD คือ Philosophy เพราะฉะนั้นถ้าเรียนแล้วไม่ได้แตะส่วนนั้น น่าเสียดายอยู่ไม่น้อยค่ะ ไม่ว่าจะเรียนสาขาไหน น่าจะได้"การเขียนบทและการถ่ายทำเบื้องหลัง"เหล่านี้กลับไปด้วยค ่ะ
สวัสดีค่ะ ทุกท่านรวมทั้งท่านอ.ขจิตค่ะ
สวัสดีครับพี่เก่ง
ในระหว่างพักอ่านเรื่อง RBC model, ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่พี่เก่งเขียนครับ การเรียนปริญญาเอกเป็นการเรียนให้ลึกลงถึงรากแก้วขององค์ความรู้ในแต่ละศาสตร์นั้น ซึ่งคณิตศาสตร์ถือเป็นรากแก้วที่สำคัญของวิชาเศรษฐศาสตร์ อย่างไรก็ตามผมว่าเศรษฐศาสตร์มีความเป็นปรัชญาทางความคิดสูงโดยเฉพาะการสร้างตรรกะทางความเข้าใจในเรื่องวิธีการจัดสรรทรัพยากรหรือพูดง่ายๆว่าเป็นการเลือก Choose the Choice ผมเคยอ่านเจอในหนังสือของท่านพุทธทาสเรื่องของรากศัพท์คำว่าเศรษฐศาสตร์มาจากภาษาบาลีที่ว่า เสฎฐ อันหมายถึงดีที่สุดหรือ Optimal นั่นเองครับ
สุดท้ายผมขอให้พวกเรามีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อไปในการเรียนปริญญาเอกเพราะอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตเราสามารถบอกตัวเองได้ว่าเราเคยอดทนในสิ่งที่ยากที่สุดมาแล้ว รักษาสุขภาพด้วยครับ
อองต้วน
คิดว่าปัจจัยเรื่องงานที่ทำ โรงเรียน และ อ.ที่ปรึษามีส่วนอย่างมาก ในการที่จะชอบหรือไม่ชอบช่วงเวลานี้
ดีครับอาจารย์ ผม ก็เรียน เศรษฐศาสตร์ เหมือนกัน ที่ ม ขอนแก่น อยากเรียนกับอาจารย์เร็ว เมื่อไหร่จะกลับมาครับ
ไม่ว่าจะทำอะไร เรียนขั้นไหน อย่าถามว่า result ของมันคืออะไร แต่ควรจะสนใจ process และ Out put ที่แท้จริงของมันมากกว่า Ph.D ก็เช่นกัน แต่ละคนคงจะได้ output ที่ไม่เหมือนกัน เพราะ ความจริงแล้วกว่าจะได้ ปริญญามา แต่ละคนก็จะมีรายละเอียดใน process การเรียนที่ต่างกันเป็นเรื่องเฉพาะตัวนะคะ...ส่วนเรื่องความคุ้มค่าเป็นเรื่องที่แต่ละคนจะคิดได้ ซึ่งมันก็ต่างกัน เพราะไม่มีใครมี context ที่เหมือนกันเลยจริงไหม
จริงค่ะ แต่ละคนมันก็เหมือนหนังคนละเรื่องเลย ที่มีตัวเอกคือเรา กะอ.ที่ปรึกษา เป็นคนเดินเรื่อง
Cheer Up ครับ ท่านพี่
เรียนเอก
โหด มันส์ ฮา (ออกบ้างไม่ออกบ้าง)
แต่เป็นอะไรที่ดีที่สุด
เป็นการค้นพบตนเองเลยครับ