ประเทศไทยจัดเป็นประเทศที่รับเทคโนโลยีมาจากทั่วโลก โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้านอิเล็กทรอนิกส์เช่น วิทยุ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ แต่เมื่อเทคโนโลยีเหล่านั้นหมดอายุการใช้งาน การทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้คือผลกระทบที่เกิดขึ้นในอนาคต
ลองมาฟังความเห็นของ ผศ.ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล และหวังว่าจะได้รับความคิดเห็นแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากทุกท่านเช่นเคย
E-Waste-ขยะอิเล็กทรอนิกส์
เรื่องของขยะอิเล็กทรอนิกส์หรือที่ภาษาไอทีเรียกว่า E-Waste อีเวสท์
นั้นเป็นเรื่องสำคัญมากไม่แพ้เรื่องสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ
สำหรับประเทศไทย
ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะจากอุตสาหกรรมเก่า
ประเภทอุตสาหกรรมการผลิต ถ้าหาก ไม่มีการปฏิบัติใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
ผลกระทบต่อประชาชนก็จะรุนแรงในทุกระดับ
ตัวอย่างล่าสุดที่สร้างผลกระทบชัดเจนคือ มลพิษทางน้ำ กรณีปลาตายเป็นแพ
ตามลำน้ำเจ้าพระยา ซึ่งก่อผลกระทบต่อคนนับล้านคน
ไม่ใช่เฉพาะผู้เลี้ยงปลาแต่ผู้ที่จำเป็นต้องบริโภคน้ำจากแม่น้ำไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
และก็แน่นอนคงไม่พ้นโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นลักษณะอุตสาหกรรมเก่า
ไม่มีความตั้งใจจริงกับการลงทุนด้านการกำจัดของเสียและมลพิษ
เรื่องของขยะอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Waste นั้น
ความรุนแรงจะอยู่ที่การปล่อยสารพิษสู่ธรรมชาติ
สะสมในปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและสูงสุด
ปัจจุบันขยะพิษเหล่านี้คิดเป็น 40 ล้านเมตริกตันต่อปี
ขยะเหล่านี้ เช่น เตาไมโคร เวฟ ถ่านแบตเตอรี่ เครื่องถ่ายเอกสาร
ไดร์เป่าผม ทีวี คอมพิวเตอร์ และมือถือ
ซึ่งเราเห็นชัดที่สุดว่าเพิ่มขึ้นทุกปี และอายุการใช้งานสั้นมาก ๆ
เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นเปลี่ยนโมเดลเพื่อให้ทันสมัยราคาถูก
ขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้จึงถูกสะสมขึ้นอย่างทวีคูณ
ความเคลื่อนไหวต่อสภาพธรรมชาติที่ถูกทำลายโดยพิษจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นี้ล่าสุดก็ยังมีข่าวดีอยู่บ้างคือ
บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการไอทีของโลกประกาศร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในการจัดการกับปัญหาขยะอิเล็ก
ทรอนิกส์เพื่อรับมือกับภาวะวิกฤติจากธรรมชาติแล้วนำโดย ไมโครซอฟต์ ฮิว
เลตต์แพกการ์ด ฟิลิปส์ ร่วมมือกับภาครัฐ
สถาบันการศึกษาจำนวนมากโดยมีเป้าหมายไปที่การรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์
หรือยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้น
โครงการดังกล่าวชื่อว่า Step หรือ Solving the E-Waste Problem
ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่บริษัทเหล่านี้จะคืนกำไรให้สังคมหลังจากที่ธุรกิจเหล่านี้สร้างความรวยที่สุดในโลกให้กับบริษัทและเจ้าของบริษัทเหล่านี้มาแล้ว
บริษัทเหล่านี้ซึ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเป็นส่วนใหญ่
แต่ก่อนจะมาถึงวันนี้
ก็คงจะไม่ง่ายนักเพราะก็ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมและบริการไอซีทีที่เกิดขึ้นในโลกเจริญเติบโตรวดเร็วมาก
เพราะฉะนั้นการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนายความสะดวกสำหรับโลกไอทีก็ถูกสะสม
มาอย่างรวดเร็วมาก
โดยเฉพาะขยะอิเล็กทรอ นิกส์ของทั้งโลกนี้มาจากสหรัฐอเมริกา ประมาณ 45
เปอร์เซ็นต์ ยุโรปอีก 45 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้นอีก 10
เปอร์เซ็นต์ก็มาจากญี่ปุ่นและอิสราเอล
ขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้นอกจากกระจายไปตามประชาชนของประเทศผู้ใช้ไอซีทีทั่วโลกแล้ว
ปัญหาที่
มากกว่านั้นก็คือวิธีการกำจัดขยะเหล่านี้ไม่เคยได้รับการพัฒนาและก็มักจะใช้วิธีขุดฝังกลบและประเทศร่ำรวยเหล่านี้ก็จะหาซื้อที่ทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ไปยังประเทศยากจน
ซึ่งยังไม่มีกฎหมายที่ควบคุมเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นพิษอย่างเข้มแข็งเหมือนในประเทศที่เจริญแล้ว
แน่นอนประเทศที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนมากคือประเทศในทวีปแอฟริกาและประเทศในแถบทวีปเอเชียบางประเทศ
รวมทั้งจีนและไทย
กากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอ
นิกส์เหล่านี้เป็นผลมาจากอุตสาหกรรมการผลิตซึ่งระยะหลังประเทศเจริญแล้วมักจะหาฐานผลิตในประเทศเอเชีย
เช่น จีน ล่าสุดก็ไฟเขียวให้อินเทลลงทุนในประเทศ 2,500
ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 90,000 ล้านบาท
ที่เขียนมานี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปต่อต้านความเจริญจากการลงทุนแต่ในปัจจุบันการลงทุนจากสิ่งเหล่านี้จะต้องมีกฎหมายหรือระเบียบควบคุมทางสิ่งแวดล้อมให้เป็นที่ยอมรับกับประชาชนในประเทศนั้น
ๆ ด้วย
ก็หวังอย่างยิ่งว่า รัฐบาลจะต้องคอยสอดส่องดูแลไม่ให้ขยะอิเล็ก
ทรอนิกส์หรือ E-Waste มีผลกระทบต่อลูกหลานคนไทยในอนาคตด้วย.
เดลินิวส์ วันอังคารที่ 03 เมษายน พ.ศ.
2550
ผศ.ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล
ผู้ช่วยอธิการบดี RSU Cyber University
มหาวิทยาลัยรังสิต
[email protected]
เห็นด้วยครับว่าปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ครับ...
นอกจากของใหม่แล้ว ไทยยังของเก่าจากต่างประเทศมาอีก แถวบ้านหม้อ คลองถมครับ เยอะมาก...
อนาคตประเทศไทยลำบากครับ ถ้าไม่หามาตรการมารองรับ...
ขอบคุณมากครับ...
เห็นด้วยกับความคิดเห็นข้างต้น แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
เพราะว่าคนจนก็ต้องการของถูก ต้องมีมาตรฐานคุณภาพขั้นต่ำของสินค้าอิเลคทรอนิค และกำหนดมาตรฐานอายุการใช้งานไว้ ควรมีกฎบัตรโลกหรือสหามาประชาชาติห้ามการนำขยะไปทิ้งประเทศอื่น
เก็บภาษีของเก่าที่จะนำเข้ามาภายในประเทศให้อยู่ในเกณฑืสูงกว่าปกติมาก ๆ เพราะว่าจะมีภาระในการทำลายกำจัดในภายหลัง ถ้าสินค้าหมดคุณภาพหมดอายุควรไม่อนุญาตนำเข้
E-Waste หรือขยะอิเล็กโทรนิกส์ ดูเหมือนจะเป็นประเด็นร้อนที่ดูเหมือนคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนที่ให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมให้ความสนใจมากขึ้นเป็นลำดับในปัจจุบัน และมักจะมองขยะอิเล็กโทรนิกส์เหล่านี้ในแง่ลบเสียเป็นส่วนมาก แต่จะมีสักกี่คนที่มองเห็นประโยชน์หรือโอกาสจากขยะเหล่านี้? ก่อนอื่นน่าจะต้องมา Definition ให้เข้าใจตรงกันเสียก่อนถึงคำจำกัดความของขยะอิเล็กโทรนิกส์ว่าครอบคลุมถึงอะไรบ้าง? เพราะต้องแยกให้ขาดจากขยะมีพิษทั้งหลายซึ่งมีพิษภัยกับสิ่งแวดล้อมมากเกินกว่าจะนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์
แต่เมื่อแยกแยะให้เหลือแต่ขยะที่เป็นชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิกส์จริงๆแล้ว แล้วในบางกรณีสิ่งที่ได้จากขยะอิเล็กโทรนิกส์เหล่านี้เมื่อผ่านกระบวนการ Recycle ที่ถูกต้องแล้วอาจจะได้ของมีค่าเช่น ทองคำ กลับมาเป็นต้น ซึ่งเมื่อมองในแง่เศรษฐกิจแล้วก็อาจให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการลงทุน เพียงแต่เป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะต้องมีการควบคุมและบังคับให้มีการนำเอาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ โดยต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งเท่าที่ทราบในปัจจุบันมีภาคเอกชนที่ทำธุรกิจ Recycle มากมายหลายบริษัทที่ให้ความสนใจจะลงทุนในด้านนี้แต่ยังติดขัดไม่สามารถจะขอใบอนุญาตได้ ซึ่งเมื่อมองในแง่ของความเข้มงวดในการออกใบอนุญาตก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใสว่าเงื่อนไขที่ภาครัฐต้องการคืออะไร? ไม่ใช่ว่าเข้มงวดก็เพื่อเป็นช่องทางการวิ่งเต้นเรียกร้องผลประโยชน์
ซึ่งถ้าหากมีการศึกษาถึงแนวทางการจัดการกับขยะเหล่านี้และทำให้เกิดผลในทางปฏิบัติได้โดยเร็วแล้วน่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ก่อนที่ขยะเหล่านี้จะปล่อยสารพิษออกสู่สภาวะแวดล้อม!
วิจารณ์เพิ่มเติมe-west หรือขยะอิเล็กโทรนิกส์ เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาในอนาคต
ปัญหาทางด้านสังคมอาจก่อให้เกิดปัญหาโลหะหนัก ปัญหามลพิษที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ลดน้อยถอยไป
ปัญหาทางด้านเทคโนโลยี สืบเนื่องจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็วมากทำให้ผู้ใช้เครื่องมือสื่อสารใหม่ๆต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายต่างๆเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
ปัญหาทางด้านจริยธรรม ก่อให้เกิดการลักลอบโขมยลิคสิทธ์ ก่อให้เกิดผลต่อสวัสดิภาพของเด็กวัยรุ่น
ทางด้านการเมือง ปัญหาการละเมิดลิคสิทธ์ระหว่างประเทศก่อให้เกิดปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศตามมา
ปัญหา ขยะอิเล็กทรอนิกส์ และ สารพิษเป็นปัญหาที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญมากเพราะมีผลต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน รัฐต้องมีกฎหมายที่ทันสมัยสามารถควบคุมขยะอิเล็กทรอนิกส์ และ สารพิษที่เกิดขึ้นใหม่ได้ทันและเจ้าหน้าที่รัฐต้องปฏิบัติหน้าที่ควบคุมดูแลอย่างจริงจังและมีบทลงโทษและมีการปรับที่สามารถชดใช้กับการเสียหายที่เกิดขึ้นตามสภาพที่เป็นจริง และเจ้าหน้าที่ต้องติดตามวิธีการจัดเจ็บ การทำลาย ขยะอิเล็กทรอนิกส์ และ สารพิษอย่างมีประสิทธิภาพและตามทันประเทศที่นำขยะอิเล็กทรอนิกส์ และ สารพิษที่นำเข้ามาในประเทศไทย ประเทศไทยน่าจะมีกฎหมายเหมือนที่ประเทศในยุโรปมี
ในเรื่องของ E-Waste หรือขยะอิเล็กโทรนิกส์ เป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกสำหรับคนไทยและชาวโลก เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วจนตามไม่ทันทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ และอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีอื่น มีการออกแบบใหม่ๆมาแทบทุกเดือนสินค้าที่ทันสมัยในเดือนนี้เดือนหน้าอาจตกรุ่นไปแล้วก็เป็นไปได้ ดังนั้นของที่ล้าสมัยก็จะกลายเป็นขยะอิเล็กโทรนิกส์ ที่ประเทศที่เจริญก็จะส่งไปขายยังประเทศที่ด้อยพัฒนากว่า หรือนำไปฝังและเผาทำลายก็ให้เกิดมลภาวะแก่ดลกเป็นอย่าง แนวทางการแก้ไขควรจะกำหนดวิธีการทำลายขยะเหล่านั้นด้วยการนำกลับมาใช้ใหม่หรือการรีไซเคิลนั่นเอง เพราะในความเป็นจริงแล้วขยะเหล่านี้ยังสามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับชาวโลกได้อีกมาก เมื่อนำกลับมาใช้อย่างถูกวิธีก็เท่ากับว่าเราได้เปลี่ยนขยะเป็นเงินนั่นเอง
ธนเดช นัชธนวินท์ CTU
ผมคิดว่าเรายังอ่อนในเรื่องจริยธรรมทั้งต่อบุคคลและสังคมอยู่มาก ควรมีการเข้มงวดในระบบอุตสาหกรรมมากขึ้น มีการตรวจสอบโรงงานให้ได้มาตรฐาน โรงที่ไหนไม่ได้มาตรฐานก็เสียค่าปรับหรือให้ปิดปรับปรุงโรงงานจนกว่าจะได้มาตรฐานตามที่กำหนดไว้
และที่สำคัญเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐที่เข้ามาตรวจสอบต้องทำงานให้เป็นกลางต้องมีจรรยาบรรณในหน้าที่ต้องตนเองให้ได้
ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมยังคงมีเพิ่มเติมอีก ก็ได้แต่หวังว่า เทคโนโลยีนาโน จะช่วยทำให้ขนาดของขยะอิเล็คทรอกนิกส์ลดลง นะ
ประเทศไทยจัดเป็นประเทศที่รับเทคโนโลยี่มาจากทั่วโลกโดยเฉพาะเทคโนโลยี่ทางด้านอีเล็กทรอนิกส์
ประเทศไทยได้รับขยะอีเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ
อย่างยำแย่
หนูคิดว่า เรื่องขยะอีเลคทรอนิคส์หรือE-Waste จะส่งผลกระทบกับภาวะโลกร้อน
ผมคิดว่าควรลดการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิค
เพราะ จะทำให้เกิดผลกระทบดังนั้นอาจจะมี
ผลกระทบที่หนักขึ้นในภายหน้าดังนั้นจึงควรลด
การทิ้งขยะอิเล็กทรอนิค
ขยะอีเล็คทรอนิกส์หรือE-waste ที่เพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมคิดว่าเราไม่ควรใช้อย่างฟุ่มเฟือย ไม่งั้นอาจเกิดสิ่งที่ไม่ดีขึ้นได้ อย่างเช่น ภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นจากการเผาขยะอีเล็กทรอนิกส์ หรือพลาสติกนั้นและครับ เพื่อป้องกันแล้วเราไม่ควร ใช้ของพวกนี่อย่างฟุ่มเฟื่อยเพราะคงไม่มีใครอยากให้โลกร้อนขึ้นหรอกครับ
E-waste เป็นขยะอีเล็กทรอนิคที่เกือบทุกประเทศ มีมันอยู่ ผมคิดว่า ขยะอีเล็กทรอนิคนี้มันมีเยอะเกินไปควรลดการทิ้งขยะอีเล็กทรอนิคลงหน่อย
น่าสงสารคนยากจนจังเลยค่ะ ที่ถูกคน jai ร้ายซื้อที่ไปเพื่อแค่ทิ้งขยะ E-waste อยากให้รัฐบาลช่วยหน่อยน่ะค่ะ
ผมคิดว่าควรให้ประชาชนลดการทิ้งขยะอิเลคทรอนิกส์
หนูขอความกรุณาช่วยกันลด E-WASTE ด้วยนะค่ะ
รู้สึกเศร้าใจที่ตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งในการใช้เทคโนโลยี และทำให้เกิดE-waste เคยดูสารคดีเกี่ยวกับE-waste แล้ว เป็นปัญหาระดับโลก สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย แถวท่าเรือคลองเตยน่าจะมีE-wasteหลบซ่อนอยู่ ยังแก้ไขไม่ได้เลย รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร ในอนาคตต้องมีคนป่วยจากสารพิษเหล่านี้ นักวิทยาศาสตร์คงต้องเปลี่ยนแนวคิดมาสร้างinnovationใหม่ๆที่จะจัดการกับEwasteเหล่านี้ แทนที่จะให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์สิ่งของที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ และต้องสอนลูกหลานและตัวเองให้ตระหนักถึงความสำคัญของEwaste .............สุภาณี แก้วธำรงค์
ถ้าต้องการ Recycle Computer ดูรายละเอียดได้ที่
To K.Chatri Moonstan
I am working on my thesis on the topic of e-waste management/recycling. I read your comment on the blog and believe your experience could help us a lot. Would you please contact us at nara.tt@ gmail.com ?
ประเทศไทยอยากจะทำแต่โรงงาน อยากให้คนบางกลุ่มมีงานทำ มุ่งแต่ gdp แต่ไม่ได้มองปัญหาที่จะเกิดตามมาในอนาคต และต้องเร่งที่จะปรับปรุงให้ทันตามมาตรฐานต่างๆ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมด้วย
สวัสดีค่ะ
ดร. ปรัชญนันท์ นิลสุข
ในปัจจุบันปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์นับวันยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้น แต่ปัญหาที่สำคัญคือการจัดการขยะนั่นเองเพราะจากการสำรวจ ประชาชนทุกคนรู้ว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์คืออะไร แต่ประะชาชนไม่รู้ว่าต้องจัดการอย่างไรต่างหาก อย่างเช่น ตามแหล่งชุมชนไม่มีที่ทิ้งขยะเหล่านี้เลย ทางเทศบาลนั่นก็ไม่มีนโยบายจะจัดการ ชาวบ้านก็ต้องทิ้งรวมกับขยะทั่วไป ทำให้เกิดอนตรายและปนเปื้อนทำให้เกิดการกำจัดที่ยากขึ้น
ขยะอิเล็คทรอนิคส์ ซิดี แปลงสภาพเป็น ทองได้ รู้ไว้ซะ
สวัสดีครับ อ. ดร.ปรัชญนันท์ นิลสุข
ผมเป็นคนหนึ่งได้มีโอกาศไปอบรมการกำจัดขยะ อิเล็กทรอนิกส์ที่ญี่ปุ่นครับและปัจจุบันรับกำจัดขยะพวกนี้อยู่ครับเชิญชมที่ www.pcboardrecycle.com ครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์ พอดีดิฉันกำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาโท โดยอาจารย์ผู้สอน สั่งงานว่าให้เขียนบทความ เกี่ยวกับปัญหาทางสังคม ตอนนี้ดิฉันคิดว่าจะเขียนบทความเรื่องขยะอิเล็คทรอนิคส์ค่ะ แต่ไม่มีข้อมูล โดยจะขอคำปรึกษาจากอาจารย์ดังนี้นะคะ
1. บทความ เขียนอย่างไร
2. หาข้อมูลนี้ได้ที่ไหนอีกบ้าง
รบกวนอาจารย์ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ พอดีไม่รู้จะปรึกษาใครค่ะ เห็นว่าปัญหานี้ น่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะปัจจุบันเป็นยุคของเทคโนโลยีที่แท้จริง
ขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ