PCU ไร้ฟอร์ม (Live form)


เมื่อเป็นสิ่งมีชีวิต ต้องมีอัตตลักษณ์ เพื่อจะบอกว่าตัวเองเป็นใคร อยากเป็นใคร และ มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร

การพัฒนา PCU เป็นเรื่องที่เราดำเนินการมานานแล้วหลายปี แต่ ก็เหมือนโฆษณาเพชรยี่ห้อ หนึ่ง "เรารักมาทั้งนานแล้ว แต่ยังไม่ไปถึงไหน" หลายค่ายสำนักก็พยายามจะยก PCU ของตนขึ้นมาเป็น Model แล้วบอกว่านี้แหละ PCU ต้นแบบ ช่วงหลังๆ นี้ผมเกลียดคำว่าต้นแบบมาก เพราะ ในชีวิตจริง มันหาต้นแบบไม่ได้หรอก ทุกสิ่งมีอัตตลักษณ์ ของตน และเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เหมือนสมัยหนึ่งที่ผู้หญิงฟันดำเป็นที่นิยม คนที่ฟันดำที่สุด เป็นสตรีสวยต้นแบบ พอมาสมัยนี้นิยมฟันขาว ไม่เห็นมีใครนิยมฟันดำเลย

การจะสรรหา หรือ สร้างPCU ต้นแบบ เป็นแนวคิดแบบวิทยาศาสตร์กระบวนทัศน์เก่าโดยแท้ หรือ เป็นการคิดแบบ mechanic ที่มองว่าการดำเนินการ จัดตั้ง PCU  ก็เหมือนกับการผลิตรถยนต์ ที่หากออกแบบดีๆ มีคนที่ฝึกอบรมตามตารางที่กำหนดโดยผู้ทรงคุณวุฒิ(ถนัดปริยัติ พนันกันก็ได้ว่าไม่เคยอยู่ PCU แต่ใช้วิชาคาดเดา+อวิชา ในการแต่ง ) และกระบวนการจัดการดีๆ ก็จะสามารถ copy กันออกมาเป็นล๊อตๆ ได้ วิธีการนี้มีคนพยายามทำมาแล้วไม่ว่าจะเป็น software ต้นแบบ ให้ใช้กันได้ทุกรพ.โดยมี model เดียว ก็ล้มไม่เป็นท่า แต่ก็ยังมีคนพยายามทำอยู่ดี โดยเข้าข้างตัวเองว่า ฉันเก่งกว่าไอ้คนที่ทำคราวก่อน มันต้องสำเร็จ แต่โดยกระบวนคิดซ้ำๆ กันเพียงแค่เปลี่ยนชื่อ ก็ไม่ได้ทำให้มันสำเร็จได้ ไอน์สไตน์กล่าวไว้ว่า "มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่พยายามทำกระบวนการซ้ำๆเดิม แล้วหวังว่าจะมีผลที่แตกต่าง"

PCU ในมุมมองของผม เป็นองค์กรมีชีวิต เมื่อมีชีวิตมันจะแตกต่างกันไปแน่นอน ในบริบท และอัตตลักษณ์(Identity หรือ persona) แนวคิดการสร้าง Model โดยอาศัยหลักการว่าทรัพยากรเหมือนกัน อบรมมาแบบเดียวกัน มีโครงสร้างเดียวกัน ย่อมให้ผลเหมือนกัน คงไม่เข้าใจชีวิต เพราะคนมี เป้าหมาย อัตตลักษณ์ อารมณ์ ความชอบ ไม่เหมือนกัน ยิ่งการอบรมแบบมีคนจ้ออยู่ข้างหน้าคนเดียว แล้วหวังว่าจะได้คือคนทำในสิ่งเดียวกันได้ สมควรปลุกให้ตื่นได้แล้ว กระบวนการ และผู้คนใน model เมื่อย้ายสถานที่ไปอีกที่ทางหนึ่ง ก็ไม่อาจได้ผลดังเดิม เพราะตัวแปรคือ บริบท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริบทของPCU อันใหญ่คือชุมชน ในชีวิตที่ผ่านมาผมพบว่ารพช.ที่โดดเด่นโดยมีผู้อำนวยการที่เก่งกล้าสามารถ มีชื่อเสียง เมื่อเขาย้ายโรงพยาบาล ก็ไม่สามารถทำให้โรงพยาบาลที่เขาไปอยู่ใหม่มีชื่อเสียงเท่าโรงพยาบาลเดิม และโรงพยาบาลเดิมที่เขาอยู่ก็ไม่อาจมีชื่อเสียงได้เหมือนเดิม ไม่ใช่ว่าเขาเก่งไม่จริง เขาเก่งเท่าเดิม แต่กระบวนการเดิมๆที่เขาใช้มันไม่อาจใช้ได้ในบริบทใหม่ หรือ ทดลองก็ได้ ให้ย้ายทั้งเจ้าหน้าที่ และ ผอก. ไปอยู่ที่อื่นพร้อมๆ ผมคิดว่างานด้านชุมชนของเขาก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน ในมิตินี้เราไม่ควรเสียเวลาไปกับการสร้าง Model ที่ไม่อาจนำไปทำซ้ำได้ แล้วเราจะทำอย่างไร

เราควรไร้ฟอร์มให้ถึงที่สุด จนเป็นความว่าง ไร้ฟอร์มคือ เราอาจต้องลืมวิธีการที่ทำให้เราประสบความสำเร็จมาใช้ เพราะมันเป็น block อย่างหนึ่ง ความว่างในที่นี่ไม่ใช้ว่างหัวสมองกลวงโบ๋ เราพยายามจะไม่ใช้ความจำได้หมายรู้เดิมในการ ประเมินสถานการณ์ เพราะเราจะติดกับดัก ของ มนัส(ไปหาอ่านเพิ่ม ใน "สู่ชีวิตอันอุดม" โดย ติช์ นัท ฮันห์) ทำให้เราใช้สิ่งที่อาจารย์วิศิษฐ วังวิญญู บอกว่าใช้เทปม้วนเก่า ทำงานตลอดเวลา เมื่อเป็นสิ่งมีชีวิต ต้องมีอัตตลักษณ์ เพื่อจะบอกว่าตัวเองเป็นใคร อยากเป็นใคร และ มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร การเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต เป็น สมุหภาพ คือค่อยๆสะสมประการณ์ ความรู้ เชื่อมโยงข้อมูลใหม่ๆ เหล่านี้ต้องใช้เวลา พวกกลไกมักไม่มีเวลา เพราะชอบเร่งความเร็ว เวลาเป็นสิ่งที่พวกเขาขาด แต่การพัฒนาสิ่งมีชีวิตต้องใช้เวลา ทารกน้อยในครรภ์หนึ่งคน ออกมาสมบูรณ์เป็นเด็กทารกลืมตาดูโลก ใช้เวลา 40 สัปดาห์ เร็วกว่านี้เรียกว่าคลอดก่อนกำหนด เร็วขึ้นอีก น้อยกว่า 28 สัปดาห์ เรียกว่าแท้ง ใครคนใดคาดหวังว่าทำ PCU มาตั้ง3-4 ปี ทำไมไม่ไปถึงไหนเลย รีบๆทำให้เหมือนเมืองนอกแป๊ปเดียวก็เสร็จ สงสัยเขาจะทำแท้ง PCU แหงๆ พวกจักรกล เอ๊ย

ถึงเวลาที่พวกเราที่อยู่ PCU จะได้ไต่ถามตนเองอย่างจริงๆจังๆ เสียทีว่าเราเป็นใคร เราต้องการเป็นใคร และเราจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ก่อนที่ใครบางคนจะแปรสภาพพวกเราเป็นอะไหล่รถ ที่มีมูลค่าตามราคาของเงิน และ เห็นเราเป็นเพียงตัวเลขทางบัญชี และตัวชี้วัด ที่ไม่มีความหมายอะไรกับชุมชนที่เราอยู่ และดูแลเขา เรามีหน้าที่ที่ต้องดูแลพวกเขาอย่างที่พวกเขาเป็น ไม่ได้อยู่เพื่อเป็นดัชนีชี้วัด โบนัสของใคร "จงอย่ากลัวในการทำสิ่งที่แตกต่าง ขอเพียงเราค้นหาให้เจอว่าแท้จริงหัวใจเราคืออะไร จงทำเพื่อหัวใจนั้น" น่าจะได้เวลาที่เราจะได้ค้นพบว่า หัวใจของ PCU ก็คือ หัวใจ พวกจักรกลไม่มีสิ่งนี้ PCU live form เท่านั้นจึงมีหัวใจ

หมายเลขบันทึก: 88195เขียนเมื่อ 3 เมษายน 2007 00:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

สวัสดีครับ

  • เข้ามาอ่านบันทึกและเรียนรู้ครับ
  • คิดแล้วก็เห็นด้วย..ครับ
ขอบคุณครับ แล้วทางปายมีอะไรแลกเปลี่ยนไหมครับ

สวัสดีครับ

  • ขอบคุณครับ  ยินดีที่จะได้ ลปรรกับอาจารย์ครับ
  • เห็นชื่ออาจารย์ บ่อยๆในบันทึกอาจารย์ฟีนิกส์
  • และเข้าไปติดตามอ่านและเรียนรู้บันทึกและเว็บบอร์ดใน  เวบ วังน้ำชา  ของอาจารย์ด้วยครับ
  • สนใจในกิจกรรมของวังน้ำชาทั้ง 3 อันมากครับอาจารย์  รอเก็บตางค์และหาเวลาว่างก่อนจะสมัครไปครับ
  • และสนใจในกิจกรรมที่มีการ ลปรร  ที่เชียงหใม่มากๆด้วยครับ  อยากเข้าไปเป็นลองฝึกด้วยจังครับ
  • ที่ปายเรามีการออกหน่วยอนามัยหลัก 3 ที่ครับ(คล้าย  PCU) มีทั้งแพทย์และเภสัช  ออกไป   2 สัปดาห์ต่อครังครับ  ก็จะมีคนไข้เรื้อรังที่จะดูแลอย่างต่อเนื่องครับ  เพราะอนามัยแต่ละที่เดินทางไกลมาก2-4 ชม.. ครับ 
  • เท่าที่ผมเพิ่งจะมาทำก็ยังไม่ได้มีระบบอะไรที่ชัดเจนครับอาจารย์  กำลังๆเริ่มจะพัฒนาครับ  ไปทีละอย่าง  เพราะว่างานที่ รพ  เยอะมากครับ 
  • ที่ปายเป็นรพ เหมือนเมืองใหญ่ๆเลยครับ  คนไข้ซับซ้อนมากครับ หลากหลาย  หมอก็มีแต่  GP มี แฟมเมท 1 ท่านครับ  ที่นี่เปิด C/S appendix เองครับ  ทุกสับดาห์เลยครับที่ต้องทำ
  • นอกจากทำงานประจำก็ยังมีงานพัฒนาคุณภาพ(HA)อีกครับอาจารย์  ถูกมอบหมายจากท่าน ผอ ให้เป็น FA ครับ
  • ขอบคุณอาจารย์มากครับ ติดตามบันทึกอาจารย์ตลอดนะครับ
555 ดีใจมีแฟนอ่านแล้ว ผมแอบไปเที่ยวปายมาแล้วนะจะบอกให้ เดือนไหนหว่านึกก่อน ช่วงกุมภานี้แหละ ออกจะเสียดายธรรมชาติกับความสงบ แต่ปายนี้มีเสน่ห์ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก วิวก็ไม่ถึงกับ โดนนะครับ อ้อ...นึกออกแล้วประทับใจมิตรไมตรีคนที่นั่น แค่เราจอดรถลังเลว่าจะไปไหน จะมีคนเข้าถามเลยว่า ต้องการไปที่ไหน ประทับใจมาก มีอัตตลักษณ์ดีๆๆแน่นอน ว่าแต่ คุณ Kmsabai อยู่ที่นั่นน่าจะเห็นนะครับ เป็นประโยชน์มากสำหรับงาน PCU ในอนาคต

ผมลืมชวนไป ถ้าสนใจจะมาร่วมอบรม เชิญนะครับ ผมจะจัดอีกครั้งเดือนสิงหาคม นี้

เดือนพค. ก็จะเอาคนไข้จริงมาทำเลย สนใจ observe ยินดีเสมอครับ  พวกเราเชียงใหม่ยินดี connect กับทุกท่านครับ

" ผมเกลียดคำว่าต้นแบบมาก เพราะ ในชีวิตจริง มันหาต้นแบบไม่ได้หรอก " เห็นด้วยครับ แล้วก็เห็นด้วยกับ "แนวคิดการสร้าง Model โดยอาศัยหลักการว่าทรัพยากรเหมือนกัน อบรมมาแบบเดียวกัน มีโครงสร้างเดียวกัน ย่อมให้ผลเหมือนกัน " ผมชอบ ค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ ต่อยอด ในบริบทของตัวเอง ให้อยู่ในเส้นทางตลอด เพราะเราต้องใช้เวลาหลายปี ทำไปเรื่อย ๆ แต่มีความหวัง แล้วก็เห็นด้วย " พนันกันก็ได้ว่าไม่เคยอยู่ PCU แต่ใช้วิชาคาดเดา+อวิชา ในการแต่ง )" รู้สึกจะเห็นด้วยหลายเรื่องเหลือเกิน เอาเป็นว่าเห็นด้วยหมดเลยครับ
ดีใจจังครับ ที่ได้เจอเพื่อนร่วมทางเพิ่ม มีอะไรก็เล่าสู่กันฟังนะครับ ยินดีครับ

สวสัดีครับ

  • อาจารย์ครับสิงหานี้อาจจะว่าง  อยากไปครับ
  • ไกล้ๆแล้วอย่าลืมชวนหรือแจ้งนะครับ
  • ถ้าส่งหนังสือมาที่ผอ.ได้ก็จะ Ok มาก ครับ

ขออย่างหนึ่งนะครับ อย่าเรียกว่าอาจารย์ได้ไหม ผมจั๊กกะจี้ ฟังแล้วแล้วอัตตาพองโต เรียกพี่ก็ได้ครับ หรือถ้าไม่ชอบเรียกคุณก็ได้ แต่อย่าเรียกอาจารย์มันห่างเหิน ไว้โครงการกำหนดวันจะส่งจม.ไปปายแน่นอน

สวัสดีครับ

  • ขอบคุณครับพี่ครับ
  • สวัสดีปี๋ใหม่เมืองครับ....ขอรดน้ำดำหัว online นะครับ...

 

ยินดีเสมอครับ น้องครับ

โจ๊กดีปี๋ใหม่ เหมือนกันเน้อ

อ่านแล้วเข้าใจค่ะ  เห็นด้วย  PCU ต้องเป็นฝันร่วม ทำร่วม  ของคนทำงานและคนใช้บริการ  ที่อื่นๆๆเป็นแบบ ของการถอดบทเรียน  แลกเปลี่ยน  ใช่ว่าจะต้องเดินตามกัน  ที่ทำก่อนเป็นเพื่อนร่วมทางของงานที่ทำและเป็นกำลังใจให้แก่กัน    นะคะ

 

คนเรานั้นล้วนอยู่ในกรอบ หรือจะเรียกว่ากับดักก็น่าจะได้นะครับ ผมเองก็อยู่  เพราะถ้าจะออกไป เราก็ต้องออกจากสังคมที่เราอยู่

           เป็นไปไม่ได้ที่เราจะไร้กรอบตราบเท่าเรายังเป็นมนุษย์และมีหน้าที่มากมายต่อตนเองและผู้อื่น

            นกแม้จะมีอิสระ ฟ้ากว้าง  แต่นกก็ออกจากฟ้าไปไม่ได้อยู่ดี

            แต่........เราควรที่จะมีความคิดนอกกรอบ ออกนอกกับดักได้  กายถูกขังแต่ใจโบยบิน

            ความคิดที่โบนบินนอกกรอบ กับการต้องทำงานที่มีกรอบ  จะสมดุลกันได้ครับผมเชื่ออย่างนั้น

            พีซียู ก็แค่ระบบการทำงาน ระบบกรอบอันใหม่ ก็ไม่ต่างจากเดิม  เพียงแต่ย้ายไปมา  ก็อย่างที่คุณบอกว่า บริบท มันเปลี่ยนไป  พีซีอยู่ก็เป็นหนึ่งในบริบทนั้นเท่านั้นครับ

             ต้นแบบมันจำเป็นอยู่บ้างครับในแง่ของหลักการและการปรับใช้   ซึ่งเราเรียนรู้กันได้และนับไปปรับกันต่อ   แม้แต่โรงพยาบาล ทั่วประเทศไทยก็ไม่เหมือนกันหรอกครับ  แบ่งฝ่ายแบ่งงานกันไม่เห็นเหมือนกันซะที   (ดีที่ว่ากระทรวงสาธารณสุขมีกระทรวงเดียว)  แล้วที่ไม่เหมือนก็คือบริบทในสังคมนั้น ๆ พื้นที่นั้น ๆ ไม่เหมือนกัน  แต่เราก็ต้องมีกรอบเอาไว้กว้าง ๆ ครับ ไม่งั้นก็บริหารไม่ได้

            มองชัดลึกลงไป  การแพทย์ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์ก็เป็นเรื่องเก่าครับ  แต่ยุคหนึ่งมันเริ่ม ๆ หายไปเป็นพาณิชย์กันมากสุดโต่ง  ก็เลยต้องหาผู้มีอุดมการณ์กลับมาคิดปรับสังคมปรับบริบทให้มันดูสมดุลได้บ้าง

           กรอบหนึ่งคือความเชื่อครับ  อุดมการณ์ของแต่ละคน  กรอบมากมายชนกัน หรือถูกรวมอยู่ในกรอบใหญ่อีกอันและหลายอัน  จำเป็นต้องศึกษากรอบของคนอื่น ของสังคมอื่นบ้าง 

           สุดท้ายก็คือเราต้องมีความคิดให้ว่างอย่างที่คุณว่าน่ะครับ  ปรับความคิดให้ว่างเพื่อรับสิ่งอื่นได้ และก็เพื่อรับได้เรื่อยๆ ไม่ติดว่า ต้องเป็นอันนี้ สิ่งนี้  มันยังมีอีก มีอีก ......

            ขอบคุณครับ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท