ดร.อุทัย อันพิมพ์
ดร. อุทัย ดร.อุทัย อันพิมพ์ อันพิมพ์

ผมถูกต่อว่า....ว่าทำไมไม่สอน


เกษตรกรที่มาต่อว่าผมคือ พ่อทองม้วน สิมสีดา ซึ่งมีความสนใจในการเปลี่ยนยอดกระสังให้เป็นมะนาว

เมื่อเช้า...เวลาประมาณ 09.00 . หลังจากที่ผมรดน้ำเห็ดเสร็จ ผมได้มานั่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับท่านครูบาสุทธินันท์ เกี่ยวกับกิจกรรมการเพาะเห็ด ครั้นเมื่อผมกำลังนั่งแลกเปลี่นเรียนรู้กับท่านครูบาอยู่นั้น มีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 50 กว่าปีเห็นจะได้ ขี่รถมอเตอร์ไซด์ Best สีน้ำเงินขาว สภาพกลางเก่ากลางใหม่ ใส่หมวกทหารสมัยสงครามเวียดนาม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดอยู่หน้าสำนักงานของมหาชีวาลัยอีสาน

ครั้นสิ้นเสียงรถจักร (มอเตอร์ไซด์) ชายคนนั้นก็เดินเท้าดิ่งเข้ามาหาผมกับท่านครูบาสุทธินันท์ ทันทีด้วยความกระฉับกระเฉง ทำให้ผมกับท่านครูบา ตกใจไม่ทราบว่ามาด้วยจุดประสงค์อันใด เนื่องจากใส่หมวกใบใหญ่มองเห็นได้ไม่ค่อยชัดเจนนักในระยะไกล พอมาถึงระยะชิดเขาคนนั้นจึงได้ถอดหมวกออกอย่างรวดเร็ว พร้อมับยกมือไหว้ท่านครูบา และผมด้วยอาการที่สงบเรียบร้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าที่เริ่มเหี่ยว

ผมจึงหายตกใจครั้นเมื่อชายหนุ่มร่างใหญ่คนนั้นถอดหมวกออก และเห็นโครงร่างและใบหน้าที่ชัดเจน จึงรู้ว่าเป็นพ่อใหญ่ทองม้วน หรือพ่อใหญ่สมร สิมสีดา ที่มาอบรมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง ในรุ่นแรก พร้อมกับต่อว่าผมอย่างหน้าตาดุดันว่า "ผมลำเอียง" "ผมรักลูกศิษย์ไม่เท่ากัน" ผมจึงได้ถามต่อว่าลำเอียงอย่างไร พ่อใหญ่สมร จึงได้สาธยายว่า รุ่นที่พ่อใหญ่สมรมาอบรมนั้นผมไม่ได้สอนวิชาการขยายพันธุ์พืช โดยเฉพาะการต่อยอดไม้ผล และไม้ดอกไม้ประดับให้กับกลุ่มดังกล่าว พ่อใหญ่สมร จึงบอกว่าเขาเสียโอกาส แต่มีความสนใจจะทำอย่างไรดี

ผมจึงต้องผวา และภูมิใจที่ยังมีเกษตรกรประเภทนี้อยู่ เพราะโดยทั่วไปเท่าที่ผมเห็นไม่ค่อยเสาะแสวงหาความรู้มากนัก แล้วท่านครูบา จึงถามต่อว่าอยากเรียนเรื่องอะไร พ่อใหญ่สมรจึงตอบว่า "ต้องการเรียนการเปลี่ยนยอดกระสังให้เป็นยอดมะนาวครับ" นับว่าเป็นเกษตรกรที่ที่มีความสนใจเป็นพิเศษ แล้วท่านครูบาจึงโยนคำถามไปว่าต้องการเรียนเมื่อไหร่ อุปกรณ์พร้อมหรือยัง "พร้อมแล้วครับ" เป็นคำพูดของพ่อใหญ่สมร จากนั้นท่านครูบาจึงได้พาทีมนักศึกษา ออกไปสาธิตวิธีพร้อมกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการเปลี่ยนยอดกระสังให้ออกลูกเป็นมะนาวน้ำหอมลูกใหญ่ๆ

ครั้นไปถึงสวนของพ่อใหญ่สมร สิมสีดา พ่อใหญ่เริ่มร่ายยาวเกี่ยวกับเกษตรกรรมแบบประณีตที่ตนเองทำมากับมือร่วม 2 ปี และต้องทึ่งในความคิด และ ความสามารถ ที่ระดับเกษตรกรสามารถทำได้ดีทีเดียว และเมื่อมาถึงต้นกระสังจึงได้เริ่มลงมือสามธิตการเปลี่ยนยอดกระสังทันที และเป็นที่น่าแปลกครับ พ่อใหญ่สมร บอกว่าให้ผมทำเพียงกิ่งเดียวก็พอแล้ว ส่วนที่เหลือเขาจะทำเอง จึงทำให้ผมมีความมั่นใจในการเรียนรู้ของพ่อใหญ่สมรอีกครั้ง ว่าเขาเป็นคนไฝ่เรียนรู้จริงๆ

จากกรณีของพ่อใหญ่สมร คงเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการทำเกษตรกรรมแบบประณีตที่ปลูกพืชอย่างหลากหลาย และเป็นคนที่รักการเรียนรู้ รักในการที่จะพัฒนาตนเองและงานในอาชีพ อยู่เสมอ

ขอบคุณมากครับ

อุทัย อันพิมพ์

1 เมษายน 2550

หมายเลขบันทึก: 87947เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2007 23:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อ่านทีแรก เป็นห่วงพี่อุทัยแทบแย่ แต่แล้วก็ได้พบเพื่อนร่วมทางที่ใฝ่เรียนรู้นั่นเอง....

อยากให้มีคนใฝ่รู้แบบนี้เยอะๆ นะ เชื่อว่าต้งอดีกับสังคมเราแน่นอน....

ขอบคุณมากครับที่มาให้กำลังใจ

เราคงต้องช่วยกันผลักดันต่อไปเพื่อสังคมไทยนะครับ

ทำได้คนละนิดละหน่อยก็ยังดี

หวังว่าผมคงจะได้เพื่อนร่วมทางอีกท่านนะครับ

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท