ผมเริ่มต้นการทำงานสองวันแรกของสัปดาห์ในแบบชนิดไม่มีโอกาสได้นั่งโต๊ะทำงาน แต่กลับต้องตะเวนท่องไปตามชุมชนเพื่อเตรียมความพร้อมเรื่องการลงพื้นที่ค่าย “เรียนรู้คุณธรรม นำชีวิตพอเพียง” ซึ่งต้องนำนิสิตมาใช้ชีวิตแบบฝังตัวร่วมเรียนรู้วัฒนธรรมชุมชนอย่างจริงจังในช่วงต้นเมษาฯ ที่กำลังจะมาถึง
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">วันจันทร์สัญจรไปพบปะ พูดคุยกับคณะครูและผู้นำชุมชนบ้านเม็กดำ หมู่ที่ 1 ต.เม็กดำ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม และวันอังคาร (วันนี้) ก็ไปเยือนบ้านแกดำ หมู่ 1 เทศบาลตำบลแกดำ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมชื่นชอบการเดินทาง เพราะการเดินทางช่วยให้ผมเห็นความแตกต่างของชีวิตจากจุดที่ยืนอยู่</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p>วันนี้, ชาวบ้านได้พาผมและทีมงานไปเยี่ยมชม “หนองแกดำ” แหล่งน้ำขนาดใหญ่ของหมู่บ้านที่เป็นเสมือนสายเลือดแห่งการหล่อเลี้ยงวิถีชีวิตผู้คนของชุมชนมาอย่างยาวนาน </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แหล่งน้ำแห่งนี้..เป็นที่รู้จักขึ้นชื่อ เพราะเป็นแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ด้วย “กบ” จำนวนมาก ชาวบ้านมีกฎกติกาการจับกบเป็นห้วงฤดูกาล ซ้ำยังห้ามมิให้ยิงนกเป็ดน้ำ ใครฝ่าฝืนมีบทลงโทษของชุมชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นข้อตกลงที่สร้างขึ้นมาเป็นบรรทัดฐาน (social norms) ให้คนในสังคมได้ถือปฏิบัติร่วมกัน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมประทับใจทัศนียภาพที่เป็นธรรมชาติรอบแหล่งน้ำนี้มาก …สุดลูกตามองเห็นฝูงควายตัวเล็ก ๆ กำลังเดินกินหญ้าอยู่รายรอบแหล่งน้ำ ผักตบชวาลอยเกลื่อนเป็นหย่อม ๆ ท้องน้ำมีคลื่นเป็นระลอก ๆ น้ำใสมองเห็นสาหร่ายและก้อนหินหรือแม้แต่ฝูงปลาตัวเล็ก ๆ ว่ายวนอย่างไม่รู้เหนื่อย เสียงใบไม้ต้องลมดังหวู่หวิวอยู่เป็นระยะ ๆ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">อากาศที่นี่เย็นสบายเป็นอย่างมาก ต้นไม้ใหญ่ยืนต้นรอบแหล่งน้ำชูใบและกิ่งก้านแผ่เป็นร่มเงาเย้ายวนชวนเชิญให้อยาก “ผูกเปล” นอนพักหลับฝันเป็นไหน ๆ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">อีกทั้งผมยังประทับใจเป็นที่สุดกับเรือที่ลอยลำอยู่ติดตลิ่งน้ำอย่างนิ่งสงบ … </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ถึงแม้ผมจะเติบโตมาจากลุ่มน้ำปาวของเมืองน้ำดำ เคยแจวเรือ ล่องเรือและจมเรือมาหลายลำแล้ว แต่เหลือเชื่อนัก ผมกลับไม่เคยเห็นเรือในลักษณะเช่นนี้มาก่อนเลย</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ชาวบ้านเรียกเรือแจวลำเล็ก ๆ เหล่านี้ว่า “เรือต้นตาล” และให้การยืนยันว่าเป็นเรือที่ชาวบ้านสมัยนิยมใช้กันจำนวนมากและใช้ติดต่อกันมายาวนานจนถึงทุกวันนี้ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เรือต้นตาลไม่จำเป็นต้องเลื่อยไม้เป็นชิ้น ๆ มาต่อเป็นลำเรือเหมือนที่พบเห็นอยู่ทั่วไป ซึ่งต้นทุนของการต่อเรือเช่นนั้นย่อมใช้งบประมาณพอสมควรในการจัดซื้อวัสดุที่เป็นไม้ ตะปู ยางสำหรับอุดรูรั่วตามรอยปะของตัวเรือ และอื่น ๆ อีกไม่น้อย (ที่ผมนึกไม่ออก) แต่เรือต้นตาลจะสร้างหรือต่อเรือได้ง่ายกว่า เพียงแค่มีลำต้นของต้นตาลเพียงท่อนเดียวก็สามารถสร้างเป็นเรือได้อย่างไม่ยากเย็น ไม่ต้องเลื่อยแยกชิ้น ไม่ต้องใช้ไม้อื่น ๆ มาประกอบเป็นตัวเรือ ใช้เพียงต้นตาลลำต้นเดียวแล้วแกะหรือสกัดตรงกลางของท่อนไม้ให้เป็นท้องเรือสำหรับเป็นที่นั่งและบรรทุกสิ่งของก็เรียบร้อยแล้ว แถมมีน้ำหนักเบา สะดวกใช้สะดวกเก็บ !</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>ที่หมู่บ้านของผม และผมผู้ซึ่งเป็นลูกชาวเขื่อนโดยแท้กลับไม่เคยพานพบเรือต้นตาลเลยแม้แต่ลำเดียว เห็นก็แต่เรือที่สร้างขึ้นจากไม้เนื้อแข็งหลาย ๆ ชิ้นมาประกอบเข้าเป็นลำเรือและตัวเรือก็มีน้ำหนักที่มากกว่าเรือต้นตาลอยู่มากโข </p><p> </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมไม่มีเวลาได้เรียนรู้เก็บเกี่ยวข้อมูลเรื่องเรือนี้มากนัก แต่ก็ยอมรับว่าตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษที่ได้เห็นเรือที่ตนเองไม่เคยเห็นมาก่อน และคาดหวังว่าเมื่อนิสิตลงสู่พื้นที่เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนแล้วก็ย่อมได้เรียนรู้เรื่องของเรือต้นตาลนี้ด้วยเช่นกัน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">สำหรับผมแล้ว การได้เห็นเรือต้นตาลครั้งนี้ถือเป็นกำไรชีวิตโดยตรง เป็นการยืนยันให้รู้ว่าการเดินทางช่วยให้เราได้พบเห็นความแตกต่างของชีวิตจากจุดที่ยืนอยู่…</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมเชื่อเหลือเกินว่า หลายท่านที่เดินทางมายาวนานกว่าผม หรือจัดเจนกับโลกและชีวิตกว่าผมอาจพบเห็นจนคุ้นชินแล้วกับเรื่องเรือต้นตาล ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็โปรดกรุณาแบ่งปันเรื่องราวให้ผมได้เรียนรู้บ้างก็จะดีไม่น้อย</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">อย่างน้อยก็เป็นเสมือนการเตรียมตัวสู่การเรียนรู้จริงร่วมกับชุมชนที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และบัดนี้ก็ใกล้เข้ามาแล้วทุกขณะ !….</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
แม่เคยเล่าให้ฟังว่าแถบตำบลบางแก้ว จ.นครปฐมก็มีใช้เหมือนกันค่ะเพราะเป็นเรือลำเล็ก กินน้ำตื้น ใช้ขนของในสวนหรือใช้ทั่วไป มีน้ำหนักเบา..เรือต้นตาลเป็นเรือขุด ( ขุดเจาะตรงกลางต้น เหมือนที่คุณแผ่นดินเล่า ) มีอายุการใช้งานนานเพราะเป็นไม้เนื้อแข็ง..แต่เบิร์ดก็ไม่เคยเห็นของจริง เพิ่งมาเห็นนี่แหละค่ะ..
รูปร่างน่ารักดี ^ ^..นั่งพายได้ทั้งสองข้างหรือเปล่าคะหรือว่าต้องนั่งด้านกว้างของลำเรือ..
ขอบคุณครับ...
หนองน้ำที่ผมกล่าวถึง ถ้าไม่ลงเรือล่องเล่น ก็ผูกเปลนอนได้สบายครับ ลมโชยพัดฉ่ำเย็นมาก
ผมก็งงตัวเอง ทำไมไม่เคยเจอและไม่มีความรู้เรื่องเรือเหล่านี้เลย ทั้ง ๆ ที่ใกล้กับวิถีชีวิตตนเองเป็นนักหนา
ขอบคุณมากครับ คุณเบิร์ด
อันที่จริงวันนี้ผมสงสัยและแย้งอยู่ในใจกับหลายประเด็นแต่ยังไม่กล้าซักถามผู้เฒ่าผู้แก่ เพราะยังไงก็คิดว่าจะได้มาอีกหลายวันอยู่แล้ว เช่น ลักษณะเรือไม่น่าจะเบา มันน่าจะหนักเพราะเป็นลำต้นของต้นตาลแท้ ๆ
เสียดายผมไม่มีแม้กระทั่งเวลาลงไปสัมผัสนั่ง เพราะเกรงจะเป็นภาระชาวบ้าน และยังทิ้งคำถามไว้กับชุมชนว่าใครกันนะเป็นปราชญ์ชาวบ้านในการทำเรือต้นตาลเหล่านี้ (อีโปง)
สิ่งเหล่านี้ผมจะไปพิสูจน์อีกครั้งในต้นเดือนเมษายนพร้อมนิสิต
.........
แถวบ้านผมไม่มีใช้ทั้งที่เป็นเมืองเขื่อน หรืออาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยมีต้นตาลกระมัง..แต่ถึงมีก็คงเสียดายแย่ เพราะปลุกตาลต้องใช้เวลานาน ขนาดมีแค่สองต้นอยู่หัวไร่ปลายนายังร้องห้ามพี่ชายไม่ให้ตัด ซึ่งก็คงเหลือมาจนบัดนี้
ช่วงนี้แทบไม่ได้หายใจเลยนะครับ...พรุ่งนี้เช้าประชุมเตรียมงานโครงการนี้แถลงและชี้แจงต่อผู้บริหารและซักซ้อมความเข้าใจต่อเจ้าหน้าที่ ..บ่ายก็ต้องต้อนรับ ม.นเรศวรที่มาดูงาน
....
มีความสุขที่รู้ว่าอีกไม่กี่วันจะได้ไปเยือนทั้งเม็กดำและแกดำ อีกครั้ง
สอง - สามปีหลังผมขยับขึ้นมาทำหน้าที่ผู้ประสานงานโครงการ ไม่ต้องลงพื้นที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาภาคสนาม
แต่ครั้งแรกที่มีโครงการนี้ขึ้น ผมทั้งทำหน้าที่ผู้ประสานและลงพื้นที่ที่ จ.นครพนม (ไกลแสนไกลและทุรกันดารมาก) ตอนนั้นน้องดินเพิ่งลืมตาดูโลกแค่ไม่ถึงเดือนเลยนะครับ ผมก็ห่างไปเป็นเดือน
มาทำหน้าที่ผู้ประสานก็เหนื่อยไปอีกอย่าง แต่ก็ดีตรงไม่ต้องฝังตัวอยู่ในชุมชน เทียวไปนิเทศและตามงานเป็นระยะ ๆ
.....
เป็นกำลังใจให้อาจารย์เสมอนะครับ
ไม่ใช่ไม่ชอบนะครับ...แต่ภารงานบริหารมันรัดตัวเกินกว่าจะลงไปลุยได้ อีกทั้งตอนนี้เรามีบุคลากรที่พร้อมจะทำตรงนี้เยอะแล้ว ก็ควรให้พวกเขาได้แสดงศักยภาพเต็มที่
แหล่งน้ำเป็นที่สาธารณะ..วันนี้ผมยังเห็นรถเก๋งจอดนั่งตกปลาอยู่เลยนะครับ
ที่นี่มีการอนุรักษ์กบที่ดังมาก มีสะพานไม้ที่มีเสน่ห์มาก แล้วจะนำมาเขียนไว้ในบันทึกให้อ่านอีกครั้ง
แต่ถ้าข้อมูลจะชัดเจนต้องช่วงลงพื้นที่ครับ...น่าจะมีอะไรให้ศึกษาอย่างมากมาย
ขอบคุณ อ.ขจิต มากครับ
เพลงรักเก่าที่บ้านเกิด เพลงลูกทุ่งเพลงแรกในชีวิตที่ร้องได้ครับ
บันทึกนี้ดูจะคึกคักไม่น้อย เพราะมีผู้รู้มาช่วยเติมเต็ม โดยเฉพาะท่านอาจารย์ไพศาล..(บางทราย) และท่านอื่น ๆ
ผมกำลังคิดว่าในช่วงที่เด็กลงพื้นที่ผมอยากให้เขาจัดเก็บข้อมูลเรื่องเรือในชุมชนให้ชัดเจนทั้งเรื่องคติชนเกี่ยวกับเรือ, อายุของเรือ, คนสร้าง, บทบาทและสถานะปัจจุบันของเรือในชุมชน ฯลฯ ซึ่งเข้าใจว่านิสิตน่าจะมีความรู้จากปากคำชุมชนโดยตรงบ้าง แล้วค่อยไปบูรณาการเพิ่มเติมจากตำราต่าง ๆ ...
ผมน่าสนใจไม่น้อยนะครับ...
ขอบพระคุณ อ.ไพศาล อีกครั้งครับ
เรือที่แกดำจขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับที่อาจารย์เล่า อาจเป็นเพราะว่าถูกใช้งานแต่เฉพาะในบริบทหนองน้ำนี้เท่านั้น ไม่ได้ใช้บรรทุกผลิตผลใด ๆ จำนวนมาก ๆ เพียงแต่ผมสนใจว่าทำไมคนแถบนั้นจึงนิยมเอาต้นตาลมาทำเป็นเรือ...
ผมคงจะเอาบันทึกนี้และการแสดงทัศนะต่าง ๆ ไปเป็นเอกสารประกอบการปฐมนิเทศให้นิสิตได้อ่านบ้าง เพื่อกระตุ้นความสนใจของนิสิตในการลงสู่การเรียนรู้ในชุมชน
ผมเห็นบ่อยเหมือนกันที่เรือถูกปลดระวางไปเป็นกระถางปลูกผัก...แต่ดังที่เรียนคือส่วนใหญ่ชุมชนของผมไม่พบเรืออีโปงเลยครับ
กลับบ้านคราวนี้...จะไปถ่ายภาพมาดูและเก็บไว้เป็นความทรงจำอีกสักชุด
ขอบพระคุณครับ
เฮืออีโป่งนี่ไหงละ เป็นภูมิปัญญาที่ถ่ายทอดกันมา
ไม่ทราบว่าที่ไหนเป็นต้นคิดประดิษฐกรรมเรือชนิดพิเศษนี้
ขอบพระคุณพ่อครูบามากครับ
และนี่คือ ..บางส่วนที่ผมค้นจากเว็บไซด์นะครับ ทำให้พอทราบเพิ่มเติมว่า เรืออีโปง เรยกอีกชื่อว่า "เรือหลุ้มโปง"
อันนี้เป็นประสบการณ์ที่เพื่อนผมเคยเล่าให้ฟังนะครับ บางทีวิธีการทำอาจแตกต่างกันไป
แจ๊ค
ไม่เคยเห็นเหมือนกันค่ะ
เอ...ดูครั้งแรกแล้วเหมือนจะลอยไม่ได้เลย
กลัวน้ำจะไหลเข้าเรือน่ะคะ
อยากลองนั่งเล่นดูบ้างจังเลยค่ะ
วันนี้ ม.นเรศวรมาศึกษาดุงาน เพิ่งลาจากกันเมื่อเวลาประมาณเกือบ 2 ทุ่ม
นิสิต ม.นเรศวร เก่งและบุคลิกภาพดีมากครับ มีวิสัยทัศน์และองค์ความรู้เรื่องกิจกรรมที่ชัดเจนมาก
....
ฝากหัวใจไปเที่ยวด้วยแล้วกันนะครับ....ช่วงนี้เงิน ๆ ทอง ๆ วิ่งมาแล้วออกไป (สำรองราชการ จนไม่เหลือใช้)
ขอให้มีความสุขกับวันพักผ่อน นะครับ
ส่วนใหญ่เรือเก่า ๆ แก่ ๆ ถูกปลดระวางไปมากแล้ว และดูเหมือนเรือชนิดนี้ก็จะใช้กันมากในแถบภาคกลาง
ตอนนี้ผมกำลังค้นคว้าข้อมูลให้นิสิตได้ศึกษา แต่เฉพาะข้อมูลในบันทึกของการแลกเปลี่ยนก็มีประโยชน์อยู่มากโขเลยครับ
ขอบคุณแจ๊คมากครับ
เป็นความบังเอิญมากถ้าภาพที่นำมาแสดงในบันทึกเป็นเรือลำเดียวกับที่แจ็คได้นั่งมาแล้ว....
พี่ยัวไม่มีโอกาสได้นั่งได้แจวเลย แต่ช่วงไปนิเทศเด้กก็อาจจะลอง ๆ ดูบ้าง เพื่อเป็นกำไรชีวิต
ขอบคุณนะครับ...ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีคุณค่า
สวัสดีครับ...(ไม่แสดงตน)
นิสิต มมส จะลงพื้นที่แกดำในวันที่ 3 - 17 เมษายนนี้ ซึ่งคงมีรายละเอียดหลายอย่างในการขยายเรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่นได้ไม่มากก็น้อย ..
....
ถ้ามีโอกาสจะนั่งเผื่อนะครับ..
ขอบคุณเช่นกัน ครับ
สวัสดีครับ คุณโก๊ะ...
ดูเงียบ ๆ หาย ๆ ไปสักพัก ..วันนี้ผมยังคุยกับบล็อกเกอร์เลยว่า "แฟนคลับ" อย่างคุณโก๊ะหายไปไหนไม่รู้ ไม่คิดว่าจะมาเจออีกครั้งในวันนี้...
เป็นไงบ้างครับงานการและชีวิตช่วงนี้...หน้าร้อนก็คงเหนื่อยอ่อนได้ง่ายกว่าปกติ แต่ยังไงซะก็ขอให้มีพลังในการใช้ชีวิตนะครับ
ผมเป็นกำลังใจให้....
และคงได้นำภาพต่าง ๆ มาฝากอีกอย่างไม่รู้จบ.
ขอบคุณครับ
คุณหมูน้อยครับ...
ต้นตาลกว่าจะปลูกให้โตใช้เวลาน๊านนาน พอมาทำเป็นเรือก็คงทนถาวร น๊านนาน...
ถ้ามีโอกาสจะนั่งเผื่อนะครับ...
...
ขอบคุณครับ...
สวัสดีครับ พี่อัมพร
ช่วงนี้พักกลางวันจากการปฐมนิเทศนิสิตค่ายเรียนรู้คุณธรรมฯ จึงมีเวลาโดดเข้ามาในบล็อกได้
เท่าที่ทราบ ม.นเรศวร ก็กำลังเริ่มทั้งมหาวิทยาลัย หลังจากก่อนหน้านี้บางคณะก็ใช้สมุดบันทึกกิจกรรมบ้างแล้ว
แต่ตอนนี้รู้สึกจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการว่า ถ้าเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบก็ไม่จบการศึกษา
ขณะที่ มมส ท่าน ผอ. ก็เร่งให้ผมนำเสนอเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ผมยังอยากทิ้งช่วงศึกษาสักระยะเพื่อศึกษาข้อดีข้อด้อยให้ชัดเจนยิ่งขึ้น