มาสูบบุหรี่สมาธิกันดีกว่า

เมื่อตอนเช้านั่งรถออกจากบ้านมาผ่านหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งด้วยความบังเอิญมองไปเห็นเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษา ประมาณ 4-5 คนเห็นจะได้นั่งใต้ฐานป้ายชื่อโรงเรียนและสูบบุหรีกันอยู่  ทำให้นึกว่าโชคดีที่เราไม่มีลูกผู้ชาย  ถ้าเป็นลูกหลานของเราจะทำยังไง  พ่อแม่ที่บ้านหรือบางคนที่ทำงานจะรู้หรือไม่  ครูที่อยู่ในโรงเรียนจะมาเห็นเหมือนที่เราได้เห็นหรือเปล่า  หรือว่าเป็นแฟชั่นของนักเรียนยุคนี้ก็ไม่รู้นะ

บุหรี่ที่สูบนั้นแก้เครียดได้จริงหรือ  ทำให้ลืมความทุกข์ได้จริงหรือ  หรือเป็นเพียงการกล่าวอ้างเฉยๆก็ไม่รู้   เคยได้อ่านหนังสือ  ชีวิตผ่องใส ที่ใครๆปราถนามีสาระสำคัญก็เลยเขียนและให้ทุกคนที่สนใจทดลองทำดูมีดังนี้

ลองเป่าลมหายใจออกทางปากช้าๆเหมือนที่เราพ่นควันบุหรี่  ทำประมาณ 3-4 ครั้งความรู้สึกที่เกิดขึ้น.......

รู้สึกผ่อนคลายสบายขึ้นมาก  เมื่อหายใจออกก็สูดเข้าไปใหม่จนรู้สึกได้ว่าอิ่ม  นี่คือกุญแจไขปัญหาที่สำคัญเป็นความลับของธรรมชาติ

ผลที่ได้รับคือคำตอบที่ว่า  สิ่งที่คลายเครียดมิใช้บุหรี่  แต่เป็นการขยายตัวของลมหายใจที่เข้า - ออกทำให้มีการผ่อนคลาย

คนทั่วไปมักหนีอารมณ์เครียดด้วยวิธีการต่างๆ  อันนี้มีหลายวิธีแล้วแต่บุคคลว่าจะมีวิธีใหน  อันนี้เป็นการหลอกตัวเองที่สามารถใช้วิธีเหล่านั้นแก้ปัญหาได้ชั่วคราว  แต่มักเกิดปัญหาตามมาภายหลังไม่สิ้นสุด  ความสบายจากการสูบบุหรี่เกิดเพียงชั่วขณะที่ลมหายใจอยาก และสูดลมหายใจที่ยาวผ่อนคลายและหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร.....

ดังนั้นจึงเห็นว่าบุหรี่ชนิดใหม่  ชนิดพิเศษไม่มีควันพิษและสารพิษ ไม่เสียทรัพย์ต้องจับจ่าย  ไม่เสียสุขภาพและกลับบำรุงสุขภาพ  ทำให้สบายกาย - ใจ    คลายความกังวลก็บุหรี่ยี่ห้อสมาธินั้นไงสูบแล้วมีความสุขทั้งครอบครัว

เคล็ดลับที่สำคัญ  ในขณะที่เป่าลมหายใจช้าๆออกจนหมดท้อง(เหมือนกำลังพ่นควันบุหรี่) และสูดลมหายใจใหม่ที่ยาวและนุ่มเข้าไปช้าๆให้จิตใจจดจ่อกับลมหายใจที่ออกและเข้า เป็นการทำสมาธิและฝึกจิตไปในตัว  สิ่งที่ขุ่นมัว  คิดไม่ออก  ก็จะแจ่มใสปลอดโปร่งขึ้น  จิตใจสงบผ่องใสขึ้น (ทดลองทำดู) แล้วค่อยๆแก้ปัญหา  ไม่ใช้อารมณ์  ร่างกายก็จะแข็งแรง  เพราะปอดขยายตัวได้รับอ๊อกชิเจนเต็มที่มากขึ้น  โลหิตบริสุทธิ์ขึ้น   หัวใจทำงานดีขึ้น

เพียงแค่เรารู้จักกำหนดลมหายใจ  ไม่ต้องพึ่งพาวัตถุใดๆให้สิ้นเปลือง  มาสูบบหรี่สมาธิกันดีกว่า  เพิ่มชีวิตชีวาทั้งร่างกายและจิตใจ