อาจารย์สอนหนังสือเป็นอาชีพที่ไม่ได้ตั้งใจอยากจะเป็นตั้งแต่เด็กๆ ตอนเด็กอยากเป็นนักโบราณคดีเนื่องจากตอนเด็กๆเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือนิยายและมีจิตนามากมายเกินเด็ก เลยอยากจะเป็นนักประวัติศาสาตร์เพื่อย้อนเวลากลับไปศึกษาอดีต...พอโตขึ้นก็เปลี่ยนความคิดอยากจะเป็นหมอเพราะเห็นคุณย่าป่วยบ่อยๆ เลยอยากจะรักษาให้หาย..จนกระทั่งต้องมาเรียนสายวิทย์ ด้วยความเป็นเด็กบ้านนอก แต่อยากจะสอบเอ็นทรานส์ติดเหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง ก็เลยตั้งนั่งรถจากราชบุรีมาเรียนพิเศษกรุงเทพคนเดียว เสาร์-อาทิตย์ จนกระทั่งไปสอบเทียบผ่านตอนอยู่ ม.4 รู้สึกว่าเราเดินทางมาผิดเพราะไม่ได้มีชีวิตของวัยรุ่นเหมือนเพื่อนคนอื่นเขาเลย เรียนแต่หนังสือกับเรียนพิเศษ จนกระทั่งเอ็นทรานส์ติดคณะทันตแพทย์สมใจ...แต่พอไปมอบจะเรียนจริงๆ เห็นคนเลือดออกก็ดันเป็นลม เลยคิดว่าชีวิตนี้เอาดีทางการเป็นหมอไม่ได้แน่ๆ เลยไปสมัครเรียนที่ ABAC ทางด้าน Information Technology ก็ยิ่งมึนไปกันใหญ่เนื่องจากเด็กนอกที่ไม่เคยรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เลยต้องมาเรียนทั้งภาษาอังกฤษและคอมพิวเตอร์ เป็นอะไรที่ทรมานมากยิ่งไปเจอสังคม High So ที่ ABAC เห็นทีชีวิตจะไม่ไปไม่รอดแน่ๆ ก็เลยบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าจะไปเรียนต่างประเทศ... ก็ได้เรียนสมใจ ตรี-โท จบโทมาทำงานบริษัทอยู่ได้ 2 อาทิตย์ก็คิดได้อีกว่าตัวเองต้องไม่รอดแน่ๆ บนสภาวะการณ์ที่แข่งขันกันเช่นนี้...พอดีคุณแม่บอกว่าเขาเปิดรับสมัครอาจารย์...ก็เลยมาสอบดูและก็ทดลองสอน...การเป็นอาจารย์เป็นงานที่ท้าทาย เป็นสิ่งที่สนุก มันมีวิญญาณของความเป็นครูอยู่ในตัว สิ่งที่สำคัญได้ช่วยเหลือคนอื่นนับว่าเป็นการทำความดีอย่างหนึ่ง จนเป็นมาเรื่อยๆ ก็ยิ่งรักและชอบในการเป็นครูเพราะได้เรียนอะไรอีกมากมายจากลูกศิษย์ที่มีหลากหลายอาชีพ อายุ และพื้นฐานที่แตกต่างกันออกไป.....จนถึงทุกวันนี้เกือบ 10 ปีแล้วบนเส้นทางอาชีพนี้ นับมีค่า สร้างความรู้และแนะนำการใช้ชีวิตให้คนอื่นได้ เป็นเรื่องที่แก่สังคมค่ะ....คงจะเป็นครูตลอดไปค่ะ....
อ.เอ๋
เรียนคุณ จิราภา
ขอบคุณมากๆ ที่เข้าแลกเปลี่ยนประการณ์กันค่ะ ตอนนี้การสอบบรรจุเข้าเป็นข้าราชการครูจริงๆ อัตรากำลังค่อนข้างนะน้อยค่ะ แต่ก็พอมีเป็นระยะ ๆ คงต้องติดตามข่าวของ สพฐ. อยู่ตลอดค่ะ ที่สำคัญเงินเดือนของครูจะเพิ่มขึ้นด้วย ขอให้เรียนต่อให้ได้ "ใบประกอบวิชาชีพครู" ค่ะ จะมีโอกาสทำผลงานทางวิชาการ เช่น เป็นครูชานาญการ ครูเชี่ยวชาญ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ ซึ่งมีเงินประจำตำแหน่งทำ ผศ. รศ. และ ศ เลยค่ะ ทำได้ง่ายกว่าการเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยอีกค่ะ ตอนนี้ครูกว่า 100000 ทั่วประเทศทำผลงานวิชาการประกอบอาชีพ เผลอๆ เงินค่าประจำตำแหน่งมากกว่าเงินเดือนอีกค่ะ ให้ติดตามข่าวจาก สพฐ นะค่ะ แล้วก็น่าจะเรียนต่อให้ประกาศนียบัตรนะค่ะ....เพื่อความมั่นคงค่ะ
ครูเอ๋
ผมก็เคยฝันครับ
แต่ ตอนนี้ผมตื่นแล้ว ผมจะเป็นแบบที่ว่า มีคำถามเสมอ ทำไมจะทำไม่ได้ และก็ดันทุรังทำจนได้ แม้ว่าจะไม่ดี
แต่ก็ยังว่ายน้ำก็ได้ บินก็ได้ เดินก็ได้ แต่ไม่ได้ดีซักอย่าง
แม้กระทั้งทุกวันนี้ ผมก็ยังเป็นนักวิทยาศาสตร์ เป็นตัวแทนประกันชีวิต เป็นครูสอนพิเศษ เป็นนักธุรกิจอิสระ เป็นนักศึกษาพลังงาน(จริง ๆ ก็ได้เคยไปอบรม KM ที่สวนดุสิตด้วย)
แต่...
ไม่ได้ดีซักอย่าง(เหมือนเดิม)
อาจารย์เก่งจังค่ะ มีความพยายามและความตั้งใจที่ดี จนทำให้ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ที่ได้เล่าประสบการณ์ดี ๆ ให้แก่สมาชิกได้อ่านกันค่ะ ^-^
ขอบคุณทุกคนเข้ามาแชร์ความคิดทางด้านการเป็นอาจารย์นะค่ะ....ตอนสิ่งที่มีความสำคัญคือ...การโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาของประเทศไทย คนไทยเป็นคนที่อยู่ตัวคนเดียวแล้วทุกคนเก่งหมด...เช่น IQ มากกว่า 180 แต่ทำไม...เวลารวมกันแล้ว IQ ขององค์กรหรือส่วนรวมมีไม่มากนัก...เนื่องจากมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน และยังขาดทักษะการเรียนรู้ร่วมกันค่ะ....อยากให้คนในสังคมช่วยเป็น ครูที่ดีเริ่มจากที่บ้านให้ความรักและเอื้ออาทรต่อคนครอบครัว คนรอบตัวที่อยู่ที่ทำงาน....แล้วทุกคนในสังคมจะทำให้เป็น สังคมแห่งภูมิปัญญาและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขค่ะ...
อ.เอ๋
ผมว่าพื้นฐานของการเรียนการสอนในระดับก่อนอุดมศึกษามันไม่เอื่อให้นักศึกษาได้คิดเป็น ทำเป็นนะครับ สอนแต่ท่องจำมากกว่า
ดูแต่ช่วงนี้ที่ต้องมาจับฉลากในการเข้าเรียน มัธยมต้น แล้วต้องมีเด็กมานั่งเสียใจไม่มีที่เรียน มันต้องปรับพื้นฐานทั้งหมดนะครับ ควรดูตั้งแต่อนุบาลมาเลย
คนเป็นครูต้องมีความพร้อมนะครับ ใจมาก่อนเลย ขอให้กำลังใจคนเป็นครูทุกคนครับ
โอชกร
เรียน อ.โอชกร ขอบคุณมากๆ ค่ะที่เข้ามา Share ความคิดกัน และเห็นด้วยกับอาจารย์อย่างมากว่าเราควรจะต้องปรับพื้นฐานการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลไปเลยค่ะ เพราะเด็กควรได้รับพื้นการศึกษาที่ถูกต้องไม่ใช่มาสอนในระดับอุดมศึกษาที่เด็กเป็นไม่แก่สะแล้ว ไม่ค่อยจะเห็นผลและเกิดประโยชน์ค่ะ...ตัวเองก็เลยไปสอนเด็ก ป.3 ค่ะ...สนุกมากๆ และได้เรียนรู้อะไรจากเด็กเยอะมาก นับมาปรับใช้ได้เยอะมากๆค่ะ เพราะเด็กเป็นวัยใส และมีความน่ารักอยู่ในตัว...อยากให้อาจารย์ในอุดมศึกษาลองหันมาสอนเด็กๆ อนุบาลหรือประถมบ้างค่ะ...จะได้ช่วยกันพัฒนาคนต่อไปค่ะ
เอ๋
ดีใจจังที่ได้พบ ดร.เอ๋ จากวันที่ MBA รุ่น 3 ศูนย์หัวหิน เข้าไปประชุมทำภาคนิพนธ์ที่ศูนย์กรุงเทพฯ
ในฐานะครูคนหนึ่ง ภาคเรียนนี้มีโอกาสสอน นร.ระดับ ปวช.1 ประมาณ 150 คน ดร.เชื่อไหมว่าเหมือนกับรวมเด็กมีปัญหามาอยู่ด้วยกัน เกือบครึ่งเป็นเด็กจากครอบครัวแตกแยก พ่อแม่แยกกัน ไม่มีพ่อแม่ พ่อแม่เลี้ยงด้วยเงิน น่าสงสารจริงๆ สงสารทั้งเด็กทั้งพ่อแม่ สงสารครอบครัว สงสารครู(ตัวเอง) รวมถึงสงสารประเทศชาติถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ สะท้อนใจ ข่าวนร.ตีครูปกครอง ข่าวพ่อของลูกอดีตนางสาวไทยออกมาปกป้องลูกในทางที่ผิดไม่ยอมรับความจริง ทุกวันนี้ครูไม่เพียงแต่สอนหนังสือ แต่ทำหน้าที่ครูพ่อครูแม่ด้วย ดูแลสั่งสอนเด็กทุกเรื่อง เหนื่อยแต่สุขใจ จริงๆ น่ะ กาญจนา MBA รุ่น 3 หัวหิน
ราชภัฏสวนดุสิต(หัวหิน)เปิดสอนหลักสูตรใบประกอบวิชาชีพครูหรือไม่ ถ้าเปิดเปิดช่วงใหนค่าเทอมเท่าไรอยากทราบมากค่ะ
สวัสดีคะอาจารย์
เส้นทางชีวิตคล้าย ๆ กับอาจารย์เลยคะ แต่ไม่ได้ไฮโซเหมือนอาจารย์ตอนนี้ก็ทำงานสอนภาษาอังกฤษ และคอมพิวเตอร์
จะติดตามข่าวสารอาจารย์ต่อไปอีกนะคะ ให้กำลังใจคะ