ประเทศไทยในฝัน (ซักวันหนึ่งต้องเป็นจริง)


สรุปว่าหากมีการกระจายสิ่งที่ดีๆ ออกไป สิ่งดีๆ ก็จะกระจายทั่วโลก ห่อหุ้มโลกด้วยกัน หากในทางกลับกันท่านก็มองออกครับ

สวัสดีครับผม

         วันนี้ขอเพ้อฝันแล้วกันนะครับ และอยากจะเชิญท่านๆ ที่หลงเข้ามาอ่าน ร่วมเพ้อฝันไปด้วยกันกับผมและช่วยกันขีดฝันกันต่อนะครับ หากบทความไปในทางที่ท่านคิด หรือไม่ก็ตามครับ

          ณ วันนี้คุณมองประเทศไทยของเราเป็นอย่างไรบ้างครับ ผมยังแอบฝันอยากให้ประเทศเราเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้นะครับ ก็ฝันไปแต่ละคน บางฝันอาจจะไปได้ไม่ถึง บางฝันอาจจะไปได้ถึง หากคนในชาติร่วมมือกัน คนละเล็กคนละน้อย

          ที่ผมฝันมากอย่างหนึ่งคือการกระจายความพอเพียงให้ไปอยู่ในใจของคนไทยทุกคน โดยเข้าใจพื้นฐานของตัวเอง ครอบครัวของตัวเอง พยายามรักษาความสมดุลให้เกิดระหว่างสิ่งที่เข้ามากับความเป็นตัวตนหรือรากของตัวเราเอง ดูมันเหมือนจะยากไปหน่อยครับสำหรับหลายคน หรือมันง่ายมากสำหรับหลายๆ คนครับ

          สิ่งหนึ่งที่ผมอยากเห็นคือการกระจายของการศึกษาไปยังทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ตอนนี้นับว่าเราได้เปรียบแล้วที่มีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เราอาจจะมีมหาวิทยาลัยมากๆ กว่าหลายประเทศ ณ วันนี้ เวลานี้ หากเราร่วมกันพัฒนาให้ทุกๆ มหาวิทยาลัยเป็นที่พึ่งของสังคมได้จริงๆ แล้วนักเรียนแต่ละคนก็ไม่ต้องหลั่งไหลเข้าเมืองใหญ่ ประมาณว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกัน เว้นแต่ว่าจะเรียนสาขาเฉพาะทาง ผมเชื่อว่าเรียนตรงไหนก็คงเหมือนกัน หากได้กระจายคน องค์ความรู้ให้กระจายไปอยู่ทั่วประเทศ

         ต่อมาคือการกระจายงานออกไปให้มีโอกาสในการทำงานต่างๆ กระจายและทั่วถึง ทำให้คนต่างจังหวัดไม่จำเป็นต้องวิ่งเข้าเมืองใหญ่ และผมก็เชื่อว่าคนส่วนใหญ่เค้าคงไม่อยากเข้ามาจุกกันที่ กทม.แน่นอนหากมีงานกระจายต่างจังหวัด อาจจะมีเงินเดือนน้อยกว่า กทม. แต่ค่าใช้จ่ายก็ต่ำกว่า ในกทม.อาจจะมีเงินเดือนให้เยอะกว่าแต่ก็ต้องจ่ายเยอะกว่า จ่ายทุกๆ อย่างที่ขวางหน้า คงไม่มีแบบยื่นข้าวยื่นแกงกันระหว่างห้องเพื่อนบ้านกันนะครับ เพราะต่างคนต่างไม่รู้จัก ต่างที่มา แต่ละคนก็ต้องหาเงินให้กับตัวเองกัน หรือหาอะไรก็ได้ที่มาหา มาหาในสิ่งที่หายไป ขาดไปในชีวิต

         กระจายความพอเพียงแล้ว กระจายการศึกษาแล้ว กระจายงานออกไปแล้ว จะมีอะไรให้กระจายอีกครับ กระจายอำนาจ จริงๆ อันนี้ก็น่าจะมีอยู่แล้ว ลงไปถึง อบต. แต่ส่วนจะเป็นดาบสองคม สามคม หรือไม่นั่นเราก็เห็นกันอยู่ครับ

        ก่อนจาก เลยขอให้ข้อมูลคุณๆ ท่านๆ นำไปคิดกันเล่นๆ ครับ เกี่ยวกับความจริง ดังต่อไปนี้ ผมอยู่ในเยอรมันตอนนี้ มีสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ให้เทียบกันเล่นๆ ครับ

  1. พื้นที่ประเทศไทย มากกว่าประเทศเยอรมัน ในทางภูมิศาสตร์
  2. ประชากรของประเทศเยอรมัน (80ล้านคน) มากกว่าประเทศไทย (60 ล้านคน) โดยประมาณ
  3. ในเมืองหลวงเยอรมัน กรุงเบอร์ลิน มีคนอาศัยประมาณ 4 ล้านคน ในกทม.เมืองไทย มีคนอาศัย มากกว่า 10 ล้านคน
  4. เยอรมันมีเมืองเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไป และมีสถานที่ศึกษากระจายอยู่ทั่วประเทศ เมืองไทยเราก็มีสถานศึกษาใน กทม.ระดับมหาวิทยาลัยก็หลายสถาบัน และมีระดับภูมิภาค แต่ตอนนี้คิดว่า มหาวิทยาลัยในไทยคงมีเกือบ ทุกจังหวัดแล้ว หลังจากยกระดับ ราชภัฏขึ้นมาเป็นมหาวิทยาลัย
  5. รถไฟการสื่อสารทางการคมนาคม ก็จะมีสองเลน เช่นรถไฟรถราง ส่วนเมืองไทยเรา มีหรือเปล่าไม่แน่ใจครับ (ไม่ใช่ว่าต่างชาติจะมีแล้วเราก็จะต้องมีนะคับ ไม่ใช่หมายถึงอย่างนั้น ต้องดูความจำเป็นครับ) ผมนำเสนอถึงความสะดวกสบายในการเดินทางไปไหนมาไหนนะครับ แม้ว่าที่ทำงานจะไกลหน่อยแต่หากไปมาสะดวกคนก็คงยอมครับ
  6. นักศึกษาส่วนใหญ่จะเรียนกันในมหาวิทยาลัยที่ไม่ไกลบ้านตัวเองมากนัก เพราะตรงไหนก็มีศักยภาพเช่นกัน เว้นแต่สาขาเฉพาะทางที่จำเป็น ไม่นับคนที่อยากเข้ามหาลัยดังๆ

     ยังมีความต่างและความเหมือนกันอีกมากครับ แต่ขอยกแค่นี้แล้วกันครับ ผมไม่ได้จะเห่อเยอรมัน แต่พยายามมองจุดดีจุดเด่นของเค้าของเรา ว่าเราควรจะปรับกันอย่างไรบ้าง เราจะกระจายคน 60 ล้านในไทยให้กระจายกันได้อย่างไร แทนที่จะมากระจุกใน กทม. หากกระจายได้ ปัญหารถติดคงไม่มีให้เราแก้กันนะคับผมว่า

     ในอนาคตคงมีโอกาสดีกว่านี้นะครับ ผมเชื่อว่าคนไทยคงหาทางออกไปสู่การแก้ปัญหาที่ดี เว้นแต่ว่าเราจะเดินเส้นทางเดิมๆ ศึกษาต่างประเทศไว้ก็ไม่ได้เสียหาย หากเอาข้อดีๆ แนวทางการคิด ไปปรับใช้ให้เข้ากับสังคมไทยของเรา โดยไม่ลืมรากเหง้าของตัวเอง เพราะผมมาอยู่นี่นานก็ตาม ผมก็ยังทำอาหารไทยกินทุกวัน ก็ปรับและประยุกต์ให้เข้ากับที่เราทำได้ แล้วไม่เกิดความเดือนร้อน

     สำหรับการศึกษาในระดับล่างของบ้านเรา ผมคิดว่าสถานศึกษากระจายอยู่มากแล้ว เพียงแต่จะลดความต่างของการศึกษาได้อย่างไรให้มีอุปกรณ์ที่เป็นสื่อการสอนไม่ต่างกัน และที่สำคัญคือ บุคลากรที่ไม่ต่างๆกัน การกระจายตัวของบุคลากรครูที่มีคุณภาพให้ทั่วประเทศ หากทำได้ก็คงดีมาก

     พูดเพ้อบ้างบ่นบ้าง ถูกบ้างผิดบ้าง โดนใจคุณบ้างไม่โดนบ้าง ก็ขอจบแค่นี้ครับ ท่านมีความเห็นเหมือนต่างอย่างไร ก็บรรเลงกันได้เลยนะครับ ด้านล่าง ผมยินดีรับฟังทุกความเห็น

     ตอนนี้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในโลกเริ่มชัดเจนขึ้นมาก คงอีกไม่นานครับ ระดับความรุนแรงอาจจะทวีคุณขึ้นครับ เมื่อใดปัญหาที่รุนแรงมากวิ่งเข้าหัวใจ หัวใจก็จะปั้มปัญหาเหล่านั้นให้แพร่กระจายวิ่งเข้าไปยังทุกส่วนของร่างกาย คราวนั้นหล่ะครับ ภัยก็จะมาเยือน แล้วชีวิตจะอยู่ได้อย่างไร

     ฉันเผาป่าของฉันในพื้นที่ฉัน จะไปเกี่ยวอะไรกับคนอื่น วันนี้หากยังคิดอย่างนี้ ให้กลับความคิดใหม่เสียนะครับ เพราะสภาพอากาศด้านบนไม่ได้แยกว่านี่ควันจากบ้านใคร มันรวมๆ กันหมดเป็นก้อนมลพิษที่จะส่งผลกับคนทั่วโลก ถึงเวลานั้น เราจะได้รับกำไรจากสิ่งที่ได้ก่อ กันอย่างทั่วถึงแน่นอน

    สรุปว่าหากมีการกระจายสิ่งที่ดีๆ ออกไป สิ่งดีๆ ก็จะกระจายทั่วโลก ห่อหุ้มโลกด้วยกัน หากในทางกลับกันท่านก็มองออกครับ

 ขอบพระคุณสำหรับทุกความเห็นครับ

สมพร ช่วยอารีย์

หมายเลขบันทึก: 84273เขียนเมื่อ 15 มีนาคม 2007 18:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 13:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

ขอฝันด้วยคนนะคะ

สิ่งหนึ่งที่ผมอยากเห็นคือการกระจายของการศึกษาไปยังทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

ฝันอยากให้  คนที่ให้การศึกษา  ไม่ปิดกั้น  คนที่อยากจะศึกษาคะ

คือ 

วันหนึ่ง  ของที่ๆหนึ่ง   เด็กบอกครูคนหนึ่งว่า  หนูอยากเป็นหมอรักษาคนที่ไม่มีตังค์  

ครูคนหนึ่ง  บอกนักเรียนที่ใกล้จบ ป.6 ที่ฝันอยากเป็นหมอ  ว่า  

 อย่าฝันเลย  เป็นแค่เด็ก  กะเหรี่ยงจนๆ  จะไปเอปัญญาอะไรไปเป็นถึงหมอ  ไม่ต้องเรียนหรอก  นี่มีโรงงานใกล้ๆเนี่ย  ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองให้ได้ก่อนเถอะเจ้าหนู

 

ฝันอยากให้ประเทศไทย  มีคนดีๆที่รู้จักการให้  เพื่อความรักต่อกันและกัน  ระหว่างเพื่อนมนุษย์  โดยไม่จำกัด  เพศ  วัย  วุฒิ  สติปัญญา  ฯฯฯเทอญ

โอเพี้ยง

(เรื่องที่บอกเป็นเรื่องที่ได้ยินครูคนนั้นพูดจริงๆ  และที่รับรู้  ยังมีครูอีกหลายคนที่บอกนักเรียนลักษณะนี้  )

เศร้ามากกกกกกกกกกกก

อาจารย์เม้ง...

อ่านแล้วเริ่มปลื้ม มีความคิดว่า อาจารย์เม้งน่าจะเป็นรัฐมนตรีศึกษาฯ ... แต่เพียงแว๊บเดียว ความเห็นก็เปลี่ยนไป...

หลวงพี่ไม่เคยไปเยอรมัน แต่ฟังมาว่า เยอรมันเป็นพื้นที่ราบ ง่ายต่อการรุกรานจากชนต่างถิ่น สิ่งแวดล้อมและประวัติที่ยาวนาน จึงทำให้คนเยอรมันฝักใฝ่ในการทหาร มีระเบียบ เอาจริงเอาจัง....

เค้าว่า เยอรมันคล้ายๆ ญี่ปุ่น นั่นคือ ความจำเป็นของความเป็นอยู่ ทำให้ต้องเอาจริงเอาจัง มีระเบียบ...

ถอยกลับไปถึงชนชาวสปาตาร์ของยุคกรีกโบราณ ชนเหล่านี้อยู่ลึกเข้าไปในที่แห้งแล้งกันดาร พวกเค้าจึงเข้มแข็ง เด็กๆ ที่อ่อนแอ ก็ให้ตายไปซะดีกว่า อะไรทำนองนี้....

สังคมไทย มีสิ่งแวดล้อม และบริบททางสังคมอื่นๆ ต่างไปจากที่ยกตัวอย่างมาข้างบนมาก ดังนั้น เราต้องคิดจากพื้นฐานของเราเอง....

แค่นี้นะ อาจารย์เม้ง (มีความเห็นแย้งเมื่อไหร่ ถูกโต้ตอบเมื่อนั้น ถ้าไม่รู้สึกเป็นกันเอง จึงไม่ค่อยเสนอความเห็นแย้ง)

เจริญพร  

P

ขอบคุณน้องนุชครับผม

  • ร่วมแลกเปลี่ยนเข้ามาเลยครับ มีอะไรหลายๆ อย่างที่เรามองไม่เห็นครับ ได้ยินได้เห็นก็ร่วมแลกเปลี่ยนกันครับ
  • ทุกคนฝันได้ครับ แล้วก็ไม่ผิดครับในฝันนั้น ส่วนฝันจะเป็นจริงหรือไม่ก็อยู่ที่เราเป็นหลักครับ

ถ้าให้เลือกฝันได้...

ขอฝันง่าย ๆ เลยครับ...

       ฝันให้คนไทยทุกคนมีความสุข อยู่ร่วมกันด้วยมิตรภาพ แบ่งปันสิ่ง ๆ รู้รักสามัคคีครับ...

ขอบคุณครับ...

กราบนมัสการพระคุณเจ้า

P
  • กราบขอบพระคุณพระคุณเจ้ามากครับ ที่ให้แนวทางและข้อเห็นต่างครับ ผมชอบครับในข้อเห็นต่างแล้วข้อเห็นต่างทั้งหมดคือสิ่งที่ดี อยู่ที่ว่าเราจะเปิดรับหรือเปล่าครับ
  • สำหรับการศึกษา การงาน ความเจริญนั้น ผมเน้นให้มีการกระจายให้ทั่วถึงครับ ผมว่าหากไม่ทั่วถึงเราก็จะกระจุกกันอยู่แต่ในเมืองนี่หล่ะครับ
  • อิๆ พอพระคุณเจ้าอ่านเริ่มต้นปลื้มเลยหรือครับ ท่านก็ฝันอยากให้ผมเป็น รมว.เลยหรือครับ แต่ดีแล้วหล่ะครับ ต้องอ่านให้ตลอดครับ เพราะบทความก็เขียนให้หลากหลาย ให้คนอ่านเกิดความขัดแย้งภายใน จะได้มองสิ่งต่างๆ มากขึ้นครับ เหมือนกับว่ายากยิ่งนักที่จะสรุปว่าคนนั้นคนนี้เป็นคนดี หากไม่ตายไปก่อนแล้วค่อยสรุปคน แต่ไม่ใช่ว่าคนไม่มีจะไม่มีส่วนดีนะครับ
  • ผมเชื่อว่าคนในประเทศทุกประเทศทั่วโลกคงไม่มีประเทศไหนที่จะมีบวกหรือลบอย่างเดียวนะครับ แต่ผมเชื่อว่าเราก็สามารถเอาแนวคิด สิ่งที่ดี มาประยุกต์ใช้ได้ใช่ไหมครับ เช่นเอาความขยันหมั่นเพียรของคนจีนมาใช้ เอาความจริงใจของคนบางประเทศมาใช้ในการทำงาน เอาความอ่อนน้อมของคนอีกประเทศหนึ่งมาใช้ เอาข้อดีของแต่ละที่แต่ละคนมามองครับ เพื่อพัฒนาสังคมเราได้ใช่ไหมครับ
  • เมืองไทยเองก็คงมีข้อดีข้อเสียมากมายนะครับ อยู่ที่ว่าเราจะเปิดรับความจริงนั้นได้มากน้อยแค่ไหน ทางยุโรปเค้าต้องต่อสู้กับฤดูกาลที่ต่างๆ กัน ในขณะที่บ้านเราไม่ต้องต่อสู้ครับ คนจะพัฒนาและป้องกันให้ตนเองมีชีวิตรอดใช่ไหมครับ เทคโนโลยีก็เกิด
  • แต่อย่างเยอรมัน ไม่ได้กินข้าวเป็นอาหารหลัก เทคโนโลยีเช่น หม้อหุงข้าวก็ไม่เกิดที่เยอรมัน แต่กลับเกิดที่บ้านเรา เพราะเรากินข้าว
  • อย่างอิตาลีจะอยู่ต่ำลงไปหน่อยครับ มีสภาพคล้ายๆ ไทย คนที่ไปเที่ยวมาก็จะคิดว่า ทำไมอิตาลีคล้ายๆ ไทยในหลายๆ อย่าง อันนี้ก็ลองไปศึกษากันเอาเองนะครับ ในเรื่องคน กฏระเบียบต่างๆ
  • สำหรับตัวอย่างที่ยกให้เห็นเรื่องการจัดการกระจายสิ่งต่างๆ ออกไป ผมเพียงอยากจะบอกว่า ทำไมบ้านเราถึงทำไม่ได้ ในการกระจายสิ่งเหล่านี้ออกไปให้ทั่วทุกภูมิภาค ทุกพื้นที่
  • ลองช่วยๆ กันคิดกันต่อไปนะครับ เพื่อได้มุมมองที่ดี และกว้างกันมากขึ้นครับ
  • ยินดีทุกความเห็นเหมือนและต่างๆครับ เต็มที่นะครับ
P

สวัสดีครับคุณดิเรก

  • ฝันได้เลยครับ ผมว่าไม่ต้องเลือกครับ ฝันแล้วเริ่มๆกันที่ตัวเรา เราคงมีโอกาสได้ร่วมสานฝันครับ แต่ในความจริงมันก็คือความจริง หากพัฒนาความจริงให้เป็นฝันได้ ฝันก็คือความจริง ความจริงก็คงความฝัน คืออย่างเดียวกัน คือฝันที่เป็นจริง
  • ก่อนจะมาสุขได้ ก็ต้องมีทุกข์มาให้เทียบใช่ไหมครับ หากทุกคนรู้จักแต่สุข ไม่มีทุกข์ สุขก็ไม่มีความหลากหลายครับ ใช่หรือเปล่าครับ
  • สำหรับความสุขก็คงหาได้ในความทุกข์ด้วย แล้วในความสุขก็มีความทุกข์ได้ด้วย ในความเห็นผมนะครับ เช่น สุขใจที่มีเงินมาก แต่ทุกข์ใจว่าจะมีคนมาปล้น  หรือทุกข์ใจจังที่ไม่ได้รวยอย่างคนอื่นเค้า ไม่มีรถยนต์ขับ แต่ก็ยังสุขใจที่ไม่ต้องเป็นหนี้ไปกู้เงินมาซื้อรถ
  • อยากฝันให้เป็นไปตามที่คุณดิเรกคิดนะครับ มีมิตรภาพที่ดี แบ่งปันกัน ผมว่านั่นคือรากลึกๆ ของคนไทย เพราะคนไทยอยู่ที่ไหนก็จะสนิทกันเร็ว ช่วยเหลือกันเร็ว ส่วนประเทศอื่น ก็คงทำนองเดียวกัน ส่วนมากหรือน้อยอันนี้คงมีหลายอย่างประกอบกันครับ

สวัสดีค่ะคุณเม้ง

           ไม่ได้เข้าหลายวัน มาดูอีกทีรูปคุณเม้งเปลี่ยนไป 

            เห็นด้วยค่ะที่เราต้องกระจายการศึกษา  แต่เราทำได้ก็ต้องเปลี่ยนแนวความคิดของคนในระดับใหญ่ ที่อยากกระจุกอำนาจไว้ในมือตน  อีกทั้งยังต้องศึกษาทั้งผลดีผลเสีย สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงมากที่สุดคือประชาชนที่ได้รับผลประโยชน์  อีกทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ไปยังคนอีกหลาย ๆ กลุ่มได้ด้วยค่ะ  สรุปเห็นด้วยค่ะ

บางครั้ง ผมก็อยากจะกลับเป็นเด็กอีกครั้ง

เพราะว่าน้อยมากเลยหรือว่าแทบจะไม่มีด้วยซ้ำที่ผู้ใหญ่จะคิด จะฝันอย่างนี้

แต่ก็ฝัน แต่ไม่อยากฝัน(ผมอาจจะมีความคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้)

หากต้องการให้ฝันนั้นเป็นจริง เราคงต้องใช้เวลาพอ ๆ กันกับที่เราสร้างปัจจุบันนี้ขึ้นมา(ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่น่าจะมาพร้อมกันกับอารยธรรมตะวันตก อ้าว โทษเขาซะอีก)

P

ขอบคุณคุณราณีมากนะครับ เป็นอย่างไรบ้างครับ เหนื่อยไหมครับ ออกพื้นที่

  • คงมีอะไรมาเล่าให้ฟังเยอะเลยใช่ไหมครับ ขอเป็นกำลังใจในการร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆนะครับ
  • ครับผม เห็นด้วยสำหรับการศึกษาผลดีผลเสียที่จะกระทบครับ ปัญหาที่เกิดในโลกนี้ก็เกิดเพราะไม่ได้ศึกษาผลกระทบนี่หล่ะครับ อย่างสิ่งแวดล้อมก็มี EIA เราไม่ได้ศึกษา หรือว่าศึกษาแค่ให้โครงการผ่านๆ ไป แล้วได้เงินมาบรรเลงกันในหมู่เรา อันนี้ผลก็จะส่งกลิ่นมาเองครับ
  • ปัญหาคงมีหลายระดับครับ แล้วแต่ว่าแต่ละระดับจะร่วมจูนหาจุดลงตัวที่จะหยุดปัญหาหรือลดปัญหากันอย่างไรครับ
  • ขอบคุณมากนะครับ

มาแวะบอกว่า แปลกจังค่ะที่เพิ่งคิดเรื่องนี้ไปเมื่อวานนี้เอง แต่เขียนไม่ออก แต่หัวข้อที่คิดประมาณนี้เลยค่ะ คือฝันว่าเมืองไทยจะเป็นยังไง และเราจะมีส่วนยังไงถึงจะช่วยให้เมืองไทย สงบสุขมากกว่านี้ โดยเฉพาะภาคใต้ของเรา ที่คนธรรมดาสามัญไม่ได้มีเรื่องอะไรกับใคร ต้องมารับเคราะห์เป็นเหยื่อของความขัดแย้งที่กำลังกรุ่นๆอยู่ ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีใครทำอะไรได้เลย น่าเศร้าใจมากจริงๆค่ะ

P

ขอบคุณคุณอุทัยมากครับ

  • จริงๆ แล้วก็ทำได้ครับ แต่ต้องเริ่มตั้งแต่ระดับนโยบายที่จริงใจในการจะพัฒนา ผมก็เชื่อว่าประชาชนเห็นด้วยหากจะกระจายการศึกษาให้ทั่วถึง กระจายงานให้ทั่วถึง กระจายอำนาจให้ทั่วถึง อย่าเรียกว่าอำนาจดีกว่ามันฟังแล้วหดหู่ เรียกว่ากระจายความยุติธรรมก็ได้ คงยากที่จะยุติธรรมแต่ให้ไม่ต่างกันมากจนเกินไป
  • ขณะที่คนรวยขาดทุนหมื่นล้าน แต่คนจนไม่มีข้าวกิน
  • ขณะที่เด็กไทยสอบได้โอลิมปิกเหรียญทองทุกๆปี แต่ส่วนหนึ่ง ไม่มีโอกาสเรียน ประถมหรือไม่จบ ป หก หรือจบ ป หกแต่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
  • เราจะลดส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเหล่านี้ได้อย่างไรครับ
P

สวัสดีครับพี่โอ๋

  • ภัยที่เกิดจากธรรมชาติก็หนักหนาอยู่แล้วครับในปัจจุบัน แล้วไม่มีทางแก้อยู่แล้วครับ แต่คนเราก็ยังสร้างเรื่องราวอีกมากมายครับ ที่ทั้งๆที่เราก็รู้ว่าวันหนึ่งเราก็ไม่เหลืออะไรนอกจากทิ้งรอยเอาไว้ให้คนรุ่นหลังยิ้ม สำหรับจะยิ้มแบบไหนก็ต้องอยู่ที่ผลการกระทำของคนในรุ่นปัจจุบัน เช่น ยิ้มแบบสบายใจ ยิ้มแบบอมทุกข์ ยิ้มไม่ออก ยิ้มๆ
  • ควันบนท้องฟ้าที่อีรักต่อไปคนไทยก็ได้ดมครับ
  • หมอกควันที่ภาคเหนือก็จะได้มีโอกาสดุมกันทั้งประเทศครับ หรือแถมให้พม่า จีน ลาว คนภาคกลาง ช่วยกันดมด้วยครับ
  • แต่เค้าว่า คนจะสามัคคีกันครับ เวลาเกิดเรื่องทุกข์ยากขึ้น อาจจะจริงเป็นบางกรณี แต่หากดูหนังเรื่อง Deep Impact แล้วบางทีเหมือนคนแสดงความเห็นแก่ตัวออกมากันให้เห็นด้วย แต่ในนั้นก็มีสิ่งดีๆ ร่วมอยู่ด้วยครับ
  • แต่ผมเชื่อในเรื่องกรรมครับ ผมเชื่อในเรื่องของกรรมในชาตินี้ครับ ทำในชาตินี้ได้รับกันในชาตินี้ครับ ส่วนช้าหรือเร็วนั่นรอเวลาครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะคับ
  • คุณเม้งคะ...ราณีเขาพาเด็กไปดูงาน  แต่หว้าไปออกพื้นที่จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นร่างรัฐธรรมนูญค่ะ
  • ได้อ่านบันทึกนี้แล้ว สมกับพี่ lioness ชมคุณเม้งให้ฟัง   หว้าเจอกับพี่เขาวันนี้ค่ะ
  • หวังว่าพอคุณเม้งเรียนจบ...คงจะกลับมาเมืองไทยนะคะ
  • คนคุณภาพอย่างนี้  เมืองไทยเรายังขาดแคลนอีกมาก......
  • มาร่วมกันสร้างฝันให้เป็นจริงกันดีกว่า...
P

ขอบคุณ อ.ลูกหว้ามากนะครับ

  • โทษทีครับ จำผิดครับ ว่าคุณราณีไปออกพื้นที่ แต่ก็จำได้ว่า อ.หว้า ไปออกพื้นที่ครับ เคยเข้าไปดูรูปอยู่คับ ที่ติดอยู่บนสะพานไม้ แล้ววันนั้นได้อาบน้ำคลองหรือเปล่าครับ อิๆ (หากเป็นผม กระโดดลงคลองไปแล้วครับ ไม่ได้อาบน้ำคลองมานานครับ)
  • จบแล้วกลับแน่นอนครับ ส่วนจะไปอยู่ที่ไกลหรือใกล้ ก็คงได้ทำงานร่วมกันได้ครับ มีเครือข่ายที่ดีเชื่อมระหว่างกัน ก็ถึงกันได้ครับ
  • ผมเองไม่ได้มีคุณภาพครับ และสิ่งที่ทำมาก็แค่เล็กน้อยมากครับ บางทีผมก็เหนื่อยครับ ที่เราพยายามทำหลายๆ อย่างออกมาเพื่อจะแสดงให้คนเห็นว่าคนไทยทำได้นะ คุณเร่งพัฒนาสมองคนไทย ให้ทั่วถึงในด้านต่างๆ กันเถิดกว่าจะสายเกินไป บอกตรงๆ บางทีหมดแรงครับ ที่จะได้ยินโครงการบางโครงการที่ออกมาหรือแผนที่จะทำกัน ซึ่งที่หมดแรงก็คือ เราไม่น่าจะมาเสียเวลาในการไปคัดค้านหรืออธิบายสิ่งเหล่านั้นซ้ำแล้วซ้ำอีกเลย
  • ยังมีอีกหลายอย่างผมอยากเรียนรู้ครับ ผมถึงได้ตั้งหัวข้อความกระหายที่ว่าในวันก่อนนะครับ ความรู้นี้ หากเอาไปใช้อีกทางมันจะอันตรายมากๆ ครับ ประมาณว่า หากคนเก่งแล้วชั่วร่วมด้วยเนี่ย ชั่วจับไม่ได้ไล่ไม่ทันจริงๆ กว่าจะจับได้สังคมก็ไปไกลแล้วครับ
  • บางทีผมก็เทียบเล่นๆ ระหว่างคนเก่งแต่ชั่วมากกว่าดี กับคนดีที่ไม่เก่ง ไม่รู้ว่าคำตอบเป็นไงครับ ใครบอกได้ช่วยบอกหน่อยครับ
  • ขอบคุณครับ

หวัดดีคะ

อืมมม ชักติดใจบลอกพี่เม้งแล้วหล่ะ

ขอเข้ามาบ่อยๆ ไม่ว่ากันนะคะ อิๆๆๆๆ

กระจายความพอเพียงอันนี้เห็นด้วยนะ ชอบ เป็นฝันข้อหนึ่งที่อยากให้เป็นเลยหล่ะ

แค่พอเพียงก้อเพียงพอ จะมีอะไรมากไปกว่านี้ถ้ามันพอดีอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องการกระจายการศึกษา กระจายงาน ฯลฯ อันนี้ก้อเห็นด้วยนะ

แต่รู้สึกว่าความพอเพียงเนี่ยจะสำคัญทีสุด

เป็นคนไม่ค่อยช่างฝันซักเท่าไร ขอฝันแค่ว่า....

  1. ความสงบสุขของประเทศชาติ
  2. ผู้นำทุกระดับมีความเป็นผู้นำ
  3. คนไทยทุกคนมีความพอเพียง

แค่นี้แหละ สามข้อพอไม่มากไปไม่น้อยไป กำลังพอดี

  • ขอบคุณน้องลีย์มากครับ เข้ามาได้เลยครับ
  • หากได้ทั้งสามข้อที่ว่ามา ประเทศไทยก็คงพ้นวิกฤษทุกๆ ด้านแล้วหล่ะครับ
  • ตอนหลังตาย มีคนยัดเหรียญเข้าปากให้ไป กะว่าจะได้เอาไปใช้ ไม่รู้ใครได้เงินไปใช้บ้างนะครับ แต่ตอนไปเก็บกระดูก ก็เจอเหรียญกันหรือเปล่าครับ
  • ทำได้แค่สบายใจครับ ตายแล้วก็ดับครับ
  • แต่ก่อนตาย ก่อนดับ เราจะดับความกระหายก่อนตายได้อย่างไร
  • มีคนดีเต็มแผ่นดิน  ก็พอใจแล้วครับ
  • ขอบคุณมากครับ คุณย่ามแดง
  • ให้มีคนไม่ดีอยู่บ้างก็ดีครับ ประเทศจะได้พัฒนาเพิ่มขึ้นครับ ต้องให้ผสมกันครับ แต่ต้องให้คนดีปกครองคนไม่ดี
  • จะได้มีความหลากหลาย มากขึ้น ขอให้คนดีๆ มีโอกาสทำงานร่วมกันกับคนดีๆ ทำในสิ่งดีๆ ออกมาด้วยครับ
  • ประมาณว่ายีนเด่นยีนด้อนในตัวเรานะครับ มีการข่มกันน่าดูครับ
  • ขอบคุณมากครับ
  • สำหรับผมคิดว่าแค่ทำให้คนส่วนใหญ่มีการศึกษาจะช่วยได้ครับ
  • แต่ต้องนิยามคำว่าศึกษาก่อนครับ
  • ในที่นี่ผมขอให้หมายถึงคำว่า สิกขา หรือ ไตรสิกขานั่นแหละครับ มี ศีล สมาธิ ปัญญา
  • 1. ประพฤติดี มีระเบียบวินัย มีความสุจริต
  • 2. อบรมจิต ปลูกฝังคุณธรรม
  • 3. อบรมป้ญญา ให้เข้าใจโลกตามความเป็นจริง ว่าทุกสิ่งเกิดแต่เหตุปัจจัย ไม่มีเหตุมันก็ไม่เกิด
  • เมื่อเกิดปัญญาแล้ว ทำอะไรมันก็ถูกลู่ถูกทางเองครับ

ผมก็หวังแค่นี้แหละครับ

  • น่าสนใจครับ น้องธรรมาวุธ
  • คงต้องปฏิบัติกันครับ จะได้ถึงฝั่งฝันไวๆ ครับ
  • ขอบคุณมากครับ

เป็นความฝันที่ดีมากค่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท