แลกปลี่ยนเรียนรู้คุณอำนวย : 11 . อุทาหรณ์แกะดำ


"คนที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ แม้จะเห็นว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้องดีแล้ว แต่จำนวนคนเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงที่มีจำนวนน้อยกว่า สุดท้ายเรานั่นแหละจะกลายเป็นแกะดำเสียเอง เหตุเพราะว่าคนส่วนใหญ่คิดเหมือนกันหมดและไม่ยอมเปลี่ยนแปลง"

          แลกเปลี่ยนเรียนรู้คุณอำนวยตอนที่ 11 นี้ เป็นประสบการณ์ที่ได้แรงบันดาลใจจากข้อคิดของเพื่อนนักส่งเสริมการเกษตรที่อยู่ในภาคสนามเมื่อปีที่แล้ว  ในช่วงที่เราสรุปบทเรียนจากการทำงานในลักษณะของการนำร่องในพื้นที่

          โดยพื้นฐานของความคิดของคนหน้างาน  ที่ได้นำการจัดการความรู้มาเป็นเครื่องมือในการทำงานส่งเสริมการเกษตร  ซึ่งในเบื้องต้นก็ได้แรงและกำลังใจจากเพื่อนนักส่งเสริมการเกษตรจำนวนหนึ่ง เป็นหัวหอกหรือแนวหน้า สิ่งที่เพื่อนๆ เหล่านั้นได้นำการจัดการความรู้มาปรับใช้มีเหตุปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ เช่น

  • รู้สถานการณ์และยอมรับการเปลี่ยนแปลง
  • ปรับเปลี่ยนวิธีคิด
  • ปรับวิธีการทำงานในพื้นที่
  • ไม่ให้ยึดติดอยู่กับกรอบหรือวิธีการทำงานตามสั่ง
  • มีผลงานส่งเสริมที่แปลกใหม่ แต่ค่อนข้างจะได้รับการยอมรับจากชุมชน
  • ทำงานติดพื้นที่ และมีความสม่ำเสมอในการลงพื้นที่
  • ค่อนข้างจะมีความเป็นอาวุโส และมีประสบการณ์ในการทำงานส่งเสริมการเกษตรมากหน่อย เป็นต้น

          ที่กล่าวมา เป็นสิ่งที่ในตัว "คน" นักส่งเสริมการเกษตร ที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง และสามารถนำเครื่องมือต่างๆ ของการจัดการความรู้ มาประยุกต์ใช้ในงานส่งเสริมการเกษตรอย่างได้ผล  แม้ว่าจะเรียนรู้เรื่องการจัดการความรู้มาเพียงระยะสั้นๆ ก็ตาม

          บทสรุปบทหนึ่งที่เป็นที่มาของชื่อบันทึกนี้ ก็ได้มาจากพวกเขาเหล่านั้น  ที่กล่าวกันโดยสรุปแบบให้ได้คิด ในช่วงต้นๆ ของการปรับวิธีคิด/วิธีการทำงาน  เพื่อให้ตระหนัก และระมัดระวังในการที่จะพัฒนา "คน" ให้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีการทำงาน ว่า "คนที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ แม้จะเห็นว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้องดีแล้ว   แต่จำนวนคนเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงที่มีจำนวนน้อยกว่า    สุดท้ายเรานั่นแหละจะกลายเป็นแกะดำเสียเอง  เหตุเพราะว่าคนส่วนใหญ่คิดเหมือนกันหมดและไม่ยอมเปลี่ยนแปลง"

          ผมอาจเขียนอธิบายได้ไม่ค่อยชัดเจนนัก  แต่อุทาหรณ์นี้ก็อาจจะเป็นบทเรียน หรือข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเพื่อนๆ คุณอำนวยทั้งหลายให้ได้คิดและทบทวนกระบวนการทำงานของเรา ที่จะชักนำหรือนำพา "คน" ในองค์กรให้เรียนรู้และนำการจัดการความรู้มาพัฒนางานของท่านทั้งหลายว่า  "อย่ารีบร้อน แต่จงคิด วิเคราะห์ และกำหนดกุศโลบายในการนำการจัดการความรู้ไปปรับใช้ในการทำงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป  ขยายวงไปอย่างมีขั้นตอน  หนักแน่นและรอเวลาที่เหมาะสมครับ"

          ขอท่านผู้รู้โปรดต่อเติมด้วยครับ

บันทีกมาเพื่อการ ลปรร.

วีรยุทธ  สมป่าสัก   7  มี.ค.  50 

หมายเลขบันทึก: 82353เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2007 09:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 15:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
ครับ เป็นการแบ่งปัน ที่มีประโยชน์ต่อ ชาว KM มือใหม่อย่างผม และอีกหลายๆคน ที่คิดว่าจะเดินหน้าแบบก้าวกระโดด ซึ่งคงจะไม่มีประโยชน์ ถ้ามีแต่ปริมาณ .......

เรียน พี่ชัยพร

  • ในช่วงของการเริ่มต้น หากได้มีโอกาส ลปรร.กับเพื่อนๆ ต่างพื้นที่ ต่างองค์กรบ้าง อาจทำให้พบทางลัดที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนางานได้ดี
  • ขอบพระคุณมากครับที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนและ ปลรร.

gotoKnow ช่วยพวกเราให้ได้แลกเปลี่ยนอย่างมีคุณค่ามากจริง ๆ

  • ขอให้มีกำลังใจ สู้ๆๆ  อย่าท้อถอย
  • หมั่นเติมพลังใจให้กันและกันอยู่เสมอนะคะ 

 

เรียน  พี่ชาญวิทย์

  • ช่องทางนี้มีประโยชน์จริงๆ สำหรับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงานกับนักส่งเสริมฯ และเครือข่ายต่างๆ (ไม่ทำไม่รู้-ทำแล้วจึงรู้)
  • แต่จะทำอย่างไรให้เพื่อนๆ ได้ฝ่าด่านเข้ามาจนถึงที่นี่ได้.....เคยนำเสนอแนวคิดกับบางกลุ่มงานที่เราคิดว่าเขาจะมาเสริมจุดอ่อนที่เกี่ยวกับการ ลปรร.นี้ ผลออกมาคือ...ไม่ใช่งาน/ไม่เกี่ยวข้องกัน  เลยไม่รู้จะอธิบายอย่างไร 
  • คงต้องอาศัยการกำหนดสิ่งหนุนเสริมจากหลายๆ ส่วน  เช่น หากว่าผมเป็น......ผมจะกำหนดให้หัวหน้าส่วน.....รายงานความก้าวหน้างาน หรือ ลป.ผ่านบล็อกเป็นต้น ฯลฯ (ความคิดนั้นมีเยอะแต่ฝันคงไม่เป็นจริง...เลยต้องเขียนบันทึกนี้ไว้เตือนสติครับ)
  • ขอบพระคุณมากครับที่เข้ามา ลปรร.

เรียน พี่นันทา

  • คงไม่ท้อถอยแน่นอนครับ  ทุกอย่างก็คงต้องใช้เวลาช้าบ้างเร็วบ้าง  แต่บางครั้งก็ยินดีที่จะรอครับ
  • ขอบพระคุณมากครับ ที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจเสมอมา

 

น้องสิงห์ป่าสักครับ

  • ยังเชื่ออยู่ว่าสิ่งที่น้องทำอยู่ถูกต้องถูกทาง
  • คนที่ไม่ร่วมเดินในเส้นทางนี้ขณะนี้ แต่กาลข้างหน้าเขาเหล่านั้นจะต้องเข้ามาร่วมเดินด้วยอย่างแน่นอน ไม่อาจที่ใครจะปฏิเสธเส้นทางนี้ วันนั้นอาจจะยังมาไม่ถึงสำหรับเขาในขณะนี้ แต่วันข้างหน้าไม่วันใดวันหนึ่งจะต้องมีขึ้นอย่างแน่นอน
  • อินทรีย์ 5 หรือ พละ 5 คือ ธรรมที่เป็นใหญ่ในตน ที่จะทำให้เรามีกำลังในการทำกิจกรรมให้สำเร็จ เจริญธรรมข้อนี้ไว้นะครับ 5 ข้อ คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และ ปัญญา
  • ขอบคุณที่ทำไปแล้วทบทวนตนเองไปเป็นระยะๆ

เรียน  ครูนงเมืองคอน

  • พวกเราทุกคนได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วคือ "ทำหน้าที่  ทำการงาน" ของแต่ละคนอย่างเต็มกำลังความสามารถ
  • คงไม่ง่ายนักที่จะเปลี่ยนความคิดของคนทำงานทั้งหมดให้หันหน้ามาร่วมมือกัน ปรับ-บูรณาการกันเพื่อสังคมอยู่ดีมีสุข โดยมีเป้าหมายอยู่ที่คนอื่น  คือคนส่วนใหญ่ที่เป็นลูกค้าของเราในสังคม  เพราะบางส่วนยังคิดได้ไม่ไกลไปจากตัวเอง คือทำงานเพื่อตัวเอง(ลาภ ยศ สรรเสริญ) ไปวันๆ
  • "ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และ ปัญญา "  ขอบพระคุณมากครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท