เมื่อวานก่อนเที่ยง ไปแวะเยี่ยมโรงเรียนแสงทรัพย์วิทยาคาร เป็นโรงเรียนมัธยมที่เคยเล่าไว้แล้วว่าที่นี่เด็กๆรุ่นพี่ช่วยกันสร้างห้องเรียน
ให้รุ่นน้องซึ่งตอนนี้ก็กำลังก่อผนังรอบทั้งสี่ด้าน ได้ระดับเอวแล้ว
ฉันกราบสวัสดีท่าน ผอ.โรงเรียน พอดีกับกำลังมีงาน “ บายศรีสู่ขวัญ”
( จองได ) ให้กับนักเรียนทุกชั้น หลังการสอบพระท่านกำลังให้พร
และปะพรมน้ำมนต์
ท่าน ผอ.โรงเรียน กล่าว เล่าประสบการณ์ ยกตัวอย่าง อย่างน่าฟัง ให้เรียนรู้ ไม่ใช่ให้โอวาท
“ นักเรียนครับ เรื่องผูกด้ายสายสิญจน์ พวกเราขอให้คำนึงถึง เป็นเครื่องเตือนสติ เราได้นะนักเรียน อย่างครูเองจะขอ เล่าประสบการณ์ให้ฟัง
เย็นแล้ว ครูก็กลับออกมาจากบ้านงาน ที่มีการผูกด้ายสายสิญจน์ นี่แหละ ครูไหว้หนึ่งจบและนำมาผูกที่ รถมอเตอร์ไซค์ของครู และขับกลับบ้าน ครูขับไปตามทางบนถนนดำชิดซ้าย ขับไปๆ ก็มีอะไร ดลใจให้ครู บอกว่า ให้ขับลงไปที่ทางเท้า ถนนแดงดีกว่า ครูก็ขับลงไปที่ถนนแดง จากนั้นก็มีรถปิคอัพ วิ่งมาอย่างเร็วและหักมาทางครู ดีที่ครูลงมาสุดถนนแล้วและหักหลบทัน ทราบภายหลังว่า คนขับรถเมา .....นี่เป็นอุทาหรณ์ นะนักเรียน ขอให้เราเก็บด้ายสายสิญจน์ที่ผูกข้อมือนักเรียนในวันนี้ให้ดี ระลึกอยู่เสมอว่า มีคนที่รักและเป็นห่วงพวกเธอ ตลอดเวลา....”
ฉันนั่งฟัง แล้วก็รู้สึกว่า ทำไมช่างดูอบอุ่นอย่างนี้ ....การเตือนวัยรุ่น ให้ระวังภัยที่จะมาพรากเขาจากคนที่รัก ....ชีวิตเป็นสิ่งที่ต้องประคับประคอง กว่าพวกเราจะโต เราต้องใช้เวลาที่มีอยู่ให้นานที่สุด และมีคุณค่ามากที่สุด.....
อรุณสวัสดิ์ค่ะน้อง ดอกแก้ว
ขอบคุณค่ะ
คะครูอ้อย ฟังมาแล้วก็รู้สึกประทับใจคะ ว่า ครูเขาเตือนเด็กๆ ด้วยสิ่งดีๆ น่ารักดี เพราะปิดเทอม เด็กๆก็ต้องเดินทางไปโน้นมานี่ ยิ่งสงกรานต์ ก็เป็นมหกรรม
บนท้องถนน