จากลักษณะงานที่ทำต้องทำงานกับระบบเทคโนโลยี่หลักที่มีความซับซ้อนและยังมีการเชื่อมต่อกับระบบย่อย ๆ อีกหลายระบบ และที่สำคัญงานที่ทำเป็นงานซ่อมบำรุง (Maintenance) เมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นกับระบบหรือการทำงานของระบบขัดข้อง เราจะต้องหาสาเหตุให้ได้ว่าเกิดปัญหาขึ้นที่ส่วนใดของระบบ และเราจะต้องแก้ไขปัญหานั้นให้เร็วที่สุด...
การที่เราจะวิเคราะห์ให้ได้ว่าปัญหาหรือความผิดพลาดเกิดขึ้นที่ส่วนใดของระบบ เราจำเป็นจะต้องเข้าใจภาพรวมการทำงานของระบบทั้งหมดก่อน หลังจากนั้นเราต้องมาทำเข้าใจว่าแต่ละส่วนของระบบมีความเชื่อมโยงกันอย่างไร แล้วเราถึงค่อยมาทำความเข้าใจส่วนย่อย ๆ ของแต่ละระบบ...
เนื่องจากระบบต้องทำงาน 24 ชั่วโมง เราจึงต้องใช้เวลาให้น้อยที่สุดในการแก้ปัญหา เพื่อให้ระบบกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม ซึ่งถ้าเราไม่เข้าใจระบบจริง ๆ เราก็ไม่สามารถหาสาเหตุของปัญหาหรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ หรืออาจต้องใช้เวลานานในการแก้ปัญหา นั่นย่อมส่งผลกระทบต่อผลการปฏิบัติงานของเราโดยตรงครับ...
สวัสดีครับ
วันสิงวันที่ผ่านมาผมไปร่วมประชุมเวทีวิจัย ณ สถานที่แห่งหนึ่ง และในเวทีนี้เอง เราได้คุยกันเรื่องกระบวนการคิดที่เป็นระบบ
เราฝึกการมองภาพรวมให้เข้าใจเป็นเบื้องต้นก่อน จากนั้นค่อยทำความเข้าใจแต่ละส่วนย่อยที่รวมกันอยู่ในระบบที่ซับซ้อน
เราฝึกการมองระบบที่ซับซ้อน ที่เชื่อมโยงกันอย่างเข้าใจ
.......
หรืออีกนัยหนึ่ง
การมองในภาพรวมเพื่อให้เห็นและเข้าใจ
เหมือนเราเป็นนก บินให้เห็นแบบ "ตานก" ลงมายังพื้นดิน ให้เห็นสิ่งต่างๆที่กระจายตัวอยู่ด้านล่าง อะไรอยู่ตรงไหน และนกควรจะบินลงตรงไหนเพื่อไปกินอาหารอันอุดม
เป็นการฝึกอบรมที่น่าจะได้ประโยชน์มาก ๆ ครับ...
กระบวนการวิจัยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้วิจัยจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเข้าใจภาพรวมทั้งหมดของงานวิจัยก่อน แล้วค่อยเริ่มทำทีละกระบวนการ...
ไม่เช่นนั้นงานวิจัยของเราอาจจะไม่เป็นรูปเป็นร่างหรือขาดขอบเขตที่ชัดเจนครับ....
ขอบคุณครับ...