นึกขึ้นได้ว่าเคยสัญญากับคุณกันยามาสไว้ว่า จะเขียนเรื่องสติมีสตางค์จะตามมาเอง......
เคยตรวจคนไข้คนนึงค่ะ หนุ่มใหญ่วัยน่าจะปลายๆ40 มีอาการท้องอืด นอนไม่ค่อยหลับ มานั่งร้องเพลงคุณหมอครับ.....ผมนอนไม่ค่อยจะหลับ 555 ขออภัยค่ะจะพาไปคาราโอเกะอีกแล้ว ต่อๆเข้าเรื่องค่ะคนไข้คนนี้มีธุรกิจหลายอย่าง วงเงินคงหลายหลักอยู่หนะค่ะ ขับรถเบนซ์รุ่นใหม่ แต่เค้าสารภาพเองว่า ชีวิตไม่ค่อยมีความสุขเลย การทำธุรกิจถ้าหยุดนิ่งไม่ขยายนั่นหมายถึงถอยหลัง หมอ...มันเหมือนขึ้นหลังเสือนะครับ ขึ้นแล้วลงไม่ได้ เขาบอกดิฉันอย่างนั้นค่ะ ดังนั้นชีวิตเขาจึงเหมือนเร่งรีบต้องรุดไปข้างหน้าอย่างเดียว ปัญหามีมากมาย ความเครียดจึงเกิดสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ มาทีไรต้องนั่งระบายความทุกข์ใจให้ฟังเกือบชั่วโมง อาการที่เจ็บป่วยทางกายนั่นก็มาจากความเครียดทางใจนั่นแหละค่ะ
ดิฉันชอบออกกำลังกายโดยปั่นจักรยาน คำว่าปั่นมันชวนให้ผ่อนคลายกว่าขี่จักรยานยังไงไม่รู้ค่ะ ปั่นไปเรื่อยๆเลียบทางรถไฟแถวบ้านไปกลับรอบนึงก็น่าจะกิโลกว่า ปั่นสบายๆชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ สองข้างทางเทศบาลปลูกต้นไม้เขียวตลอดสาย รถยนต์กับมอเตอร์ไซค์ก็ไม่มากค่ะ ค่อนข้างปลอดภัย ดิฉันปั่นไปปั่นมาก็เหลือบไปเห็นกลุ่มคนสองสามคนก้มๆเงยๆเก็บผักข้างทาง ก็เลยหยุดรถตะโกนคุยว่า เก็บอะไรไปขายคะ ขายยังไงได้ตังประมาณเท่าไหร่ เค้าก็ตะโกนคุยกลับมาว่า ผักเป็ดค่ะ เค้าขายกันเป็นกิโล มาเก็บนี่ได้ตังก็ประมาณ 100 บาท อากาศตอนนั้นก็ร้อนนะคะ เมืองพิษณุโลกหนะค่ะ มีแต่ร้อนมากกับร้อนเอ้ออะไรหายๆทำนองนั้นหละค่ะ
หน้าตาสองสามคนที่เก็บผักเป็ดนี่ยิ้มแย้ม คุยกันไปเรื่อยๆ ทำงานแบบสบายใจ มีความสุข ช่างต่างกันเหลือเกินกับนักธุรกิจคนนั้นที่ทำงานทีวงเงินว่ากันเป็นล้าน แต่สองสามคนนี่วงเงิน 100 เอง แต่ความสุขจากการงานช่างต่างกันดังฟ้ากับเหว
นักธุรกิจคนนั้นกลับมาหาดิฉันใหม่อีกครั้ง คราวนี้หน้าตาสดชื่นยิ้มกริ่มเข้ามาเลย ถามไถ่ได้ความว่า ไปปฏิบัติธรรมมาค่ะ แถวๆพิษณุโลกนี่เอง ไปได้สองครั้งแล้ว ไปมาเองแล้วดี เลยพาลูกๆเข้าตามไปด้วย สติมีมากขึ้น แก้ปัญหาก็ถูกจุด ทำงานอย่างมีความสุขมากขึ้น ความเครียดก็ลดลงไปได้มาก ธุรกิจก็ก้าวหน้าขึ้น สตางค์ก็ตามมาเอง ไม่ต้องพึ่งหมอแล้วหละค่ะ ........สาธุ หมอก็ขออนุโมทนาด้วย
อืม คุณมะปรางเปรี้ยวจะบอกถึงทางสายกลางใช่ไหมเอ่ย
สังคมปัจจุบันรีบเร่งไปหมด บางคนมาหาหมอยังรอไม่ได้เลยหละค่ะ จะเอาแบบมาปุ๊บได้ตรวจปั๊บ แบบมีเคืองด้วยนะคะถ้าเราตรวจช้าหนะค่ะ 555
หูคุณมะปรางเปรี้ยวหายดียังเอ่ย ขอให้หายเป็นปกติไวไวนะคะ
ทำงานและดำเนินชีวิตแบบพอเพียงครับ...
ได้ทั้งงาน เงินและความสุขครับ...
ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึงค่ะ เป็นคนเก่ง มีกิจการของตัวเอง แต่งานเธอเครียด ด้วยบุคลิกส่วนตัวที่เป็นคนช่างเลือกช่างจัดการสารพัด และด้วยงานที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เธอมีอาการเครียดสะสม จนสุขภาพแย่ลง เดี๋ยวปวดท้อง ปวดหัว ตอนนี้ปวดปลายประสาท ที่ฉันรู้สึกน่ากลัวคือคนเรามักจะไม่รู้ตัวเองเวลาเครียดค่ะ มันเกาะ มันเซาะเข้าไปในใจอยู่เรื่อยๆ แล้วร่างกายก็เริ่มล้า........อาการป่วยที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคอะไรต่างๆเหล่านี้ รักษาอย่างไรก็ไม่หาย จริงหรือเปล่าค่ะคุณหมอ เพราะฉันเห็นยาที่เขากินนั้นรักษาได้เฉพาะปลายเหตุ เมื่อไหร่เครียดเดี๋ยวก็เป็นอีก
ค่ะ คุณเอ๋
เมื่อวันก่อน อ่านหนังสือมติชนรายสัปดาห์ ชอบอ่านคอลัมภ์คุณหนุ่มเมืองจันท์หนะค่ะ เค้าเขียนคอลัมภ์ได้สนุก มีสาระแบบอ่านแล้วยิ้ม บางทีก็ฮาก๊ากเลยหละค่ะ ช่วยคลายเครียดได้บ้าง
บ้านเราตอนนี้เครียดนะคะ ทั้งการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ต้องหาวิธีคลายเครียดค่ะ คุณเอ๋ลองแนะนำ วิธีคลายเครียดให้เพื่อนสิคะ หมอชอบแนะนำให้ออกกำลังกาย ดูรายการตลกเช่น ลิงกะหมา บางรักซอยเก้า เป็นต่อ สภาโจ๊ก เป็นต้นค่ะ อ่านขายหัวเราะก็ดีนะคะ ตอนเรียนหมอพวกเราชอบซื้อมาอ่านกัน
ฮะ ฮะ เพิ่งรู้ว่าหมอนิดอ่านขายหัวเราะ ชอบดู ลิงกะหมา บางรักซอยเก้า เป็นต่อ
อารมณ์ขันฮากลิ้งอย่างนี้ ระวังตอนตรวจพุงคนไข้ห้ามนึกถึงฉากฮาก็แล้วกัน เดี๋ยวคนไข้จะนึกว่าขำพุงเค้า..ฮะ ฮะ
ตามมาอ่านด้วยค่ะ
ชอบจังที่คุณหมอเล่าว่าขี่จักรยาน
ทำให้นึกถึงมอชอสมัยที่พวกเราเรียนจริงๆ
ตอนนั้นยังมีสวนสตอเบอรี่ กุหลาบอยู่แถวข้างมอและหน้ามอ บรรยากาศน่าสบายมาก
แต่ตอนนี้หาบ่ได้แล้วค่ะมีตะฝุ่น
แถมเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นทุ่งนาและสวนริมถนนแล้ว
คุณหมอยังได้อยู่กับธรรมชาติดีจังค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณโอ๋-อโณและอาจารย์ปราโมทย์ พักนี้ตื้อๆค่ะ เนื่องจากภารกิจยุ่งเหยิงและต้องเฝ้าคนเจ็บด้วยค่ะ
แต่รับรองว่า จะมาเขียนอีกค่ะ แหมๆแฟนๆเรียกร้องงี้สู้ตายค่า