........คุณเคยสงสัยไหมว่าคนเราเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่ออะไรและเป้าหมายในชีวิตนี้ของเราคืออะไร
ตัวเองจำได้ว่าตอนเด็กๆเราก็เหมือนกับเด็กทั่วไปที่ไม่ได้สนใจเรื่องศาสนาและเป้าหมายในชีวิตอะไรนัก ดำเนินชีวิตตามปกติธรรมดา มีความสุขกับครอบครัว เรียนให้เก่ง ๆ มีงาน มีเงินใช้ ไม่ทำให้พ่อแม่เดือดร้อน ก็เพียงพอแล้ว
...แต่หลังจากที่ได้มีโอกาสศึกษาธรรมทั้งจากหนังสือและที่พระครูมาสอน จากการได้เป็นตัวแทนตอบปัญหาธรรมะตั้งแต่ชั้นประมาณ ม. 1 ก็เริ่มที่จะศึกษาอย่างจริงจังและลองปฏิบัติภาวนาตามที่เราได้อ่านมาก็ทำให้ได้ลิ้มรสสิ่งมหัศจรรย์ซึ่งไม่สามารถที่จะบอกได้อย่างเป็นรูปธรรมได้ว่าเป็นอย่างไร .....แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราได้รู้ว่า การที่เราได้หยุด...บ้าง ได้มีโอกาสเฝ้าดูอารมณ์ของตนเองท่ามกลางความสงบ เราจะได้อะไรจากความสงบนี้อย่างมากมาย และเมื่อมาถึงจุดนี้ เราก็เริ่มรู้แล้วว่า แค่การมีเงิน มีครอบครัวที่อบอุ่นนั้นยังไม่เพียงพอ.....
.....ไม่มีใครบอกเราได้หรอกว่าจุดใดจึงจะพอดี พอๆกับที่ไม่มีใครรู้หรอกว่า ความสุขที่แท้จริงของเราอยู่ที่ไหน จนกว่าเราจะหยุดวิ่งตามคนอื่นและหันกลับมามองดูใจเราเอง......
......".แล้วคุณล่ะคะ มาถึงวันนี้แล้ว คุณพบเป้าหมายในชีวิตคุณแล้วหรือยัง"เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
พี่ก็ยังไม่เจอเป้าหมายของชีวิต ยังไม่รู้เลยว่าอะไรคือสิ่งที่สุด ก็อยู่เรื่อยๆต่อไป แต่ก็ต้องการความสุขใจและสุขกาย ลูกหลานมีงานทำที่ดี ประสบความสำเร็จในชีวิตก็พอแล้ว
ความเพียงพอและพอเพียงอยู่ที่ใจเรา...
แล้วความสุขก็อยู่รอบ ๆ ตัวเราครับ...
คนเราเกิดมาทำไม เป็นคำถามที่ดีและคลาสสิคมาก
จะอย่างไรก็แล้วแต่ คนที่สอบถามตัวเองอยู่สม่ำเสมอด้วยคำถามเหล่านี้ น่าจะเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง มีสติและมีเหตุผล ค้นหาคำตอบให้กับตัวเองอยู่เสมอ
ขอเป็นแรงใจในการค้นหาคำตอบให้กับตัวเองนะครับว่าคนเราเิกิดมาทำไม???
คุณขจิต คุณอัสกอมี และพี่แอ้....
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับมุมมองดีๆที่มีให้กัน....
สวัสดีค่ะน้องแอ้ว
พี่ว่าความสุขที่เกิดขึ้นในตัวเรา มันเกิดจากจิตที่ไม่ประมาท เรามีสมาธีดีอย่างเดียวไม่สามารถทำให้จิตของเราหมดทุกข์ได้ แต่สมาธินั้นจะต้องมีปัญญาประกอบด้วยเราจึงจะเอาชนะปัญหาทางใจของเราได้