เสวนาจานส้มตำ ๑๙ : พลังและความตั้งใจจากวิถีของหมอดิน – แต่งแต้มเติมฝันของหนูนิดและตาเหรียญแห่งบุรีรัมย์ .. ผสานกับพี่หนิง DSS@MSU , พี่


มื่อหนูนิดได้มาเจอตัวจริงเสียงจริง หรือ เอฟสองเอฟ (F2F) กับพี่อำนาจ พี่พนัส และพี่หนิงแล้ว จะช่วยแต่งแต้มเติมฝันต่อไปยังไง

ถึงเวลาของบันทึกการเสวนาในแบบนอกกรอบ กับรสชาติที่แตกต่างครับ

<p>
ขอยืมภาพนางแบบ (ดญ.ชาสิลา) จากพี่เมตตา ใน เสวนาจานส้มตำ ๑๖ :</p>

กลับมาพบกับเวทีเสวนาที่มีต้นทุนต่ำที่สุดในประเทศไทยอีกครั้ง จากตลาดสดทุ่งนาทอง กาฬสินธุ์
กับประเด็นที่กำลังอยู่ในความสนใจของเด็กตลาดโต้รุ่งที่วันนี้ ย้ายวงมานั่งกินส้มตำที่ตลาดสดแห่งนี้

คู่สนทนา 1 : ได้อ่านบันทึกใน gotoknow ของหนูนิด ที่บอกว่าเป็นน้องใหม่ในวงการแล้วอึ้งเลย นึกไม่ถึงว่าคนในภาคราชการจะมีความตั้งใจจริงในงานพัฒนาถึงเพียงนี้

<h2>

คู่สนทนา 2

: ถือว่าเป็นข้อดีของ blog ที่ทำให้ได้สัมผัสถึงความคิด ความรู้สึกของคนในภาคราชการได้ แต่คนทั่วไปไม่ค่อยได้รับรู้ว่าภาคราชการมีความจริงใจแค่ไหน ไม่เคยเห็นใครเขียนบันทึกออกมาแบบนี้ เค้าคงคิดว่า คงไม่มีใครอยากรู้ว่า ภาคราชการคิดเห็นอย่างไร หรือบางที เค้าอาจจะไม่ได้คิดอย่างนี้ก็ได้</h2>
คู่สนทนา 1 : หนูนิดเขียนเก่งมากๆ อยากจะเขียนได้แบบนี้มั่ง แต่เขียนไม่ออกจริงๆ

คู่สนทนา 2 : เห็นเค้ามาเขียนความเห็นในบันทึกของนายบอน ประมาณว่า ท้าให้พวกเราโผล่เข้าไปเขียนใน gotoknow มั่ง พี่อำนาจ น.เมืองสรวง ก็เคยถามว่า เข้ามาเขียนใน gotoknow หรือยัง และยังวิเคราะห์ไว้ด้วย ว่า เรื่องปากท้อง เป็นเรื่องหลัก เลยทำให้ไมได้เข้ามาเขียนอะไรใน gotoknow ได้สักที

<div class="picture">P</div>

คู่สนทนา 1 : กว่าจะเข้ามาอ่าน blog ได้ก็ยากพอสมควรแล้ว ถ้าจะให้เขียนคงต้องใช้เวลาเรียนรู้อีกสักนิด

คู่สนทนา 2 : คงจะยากเหมือนกันนะ เพราะคนที่เขียน blog แต่ละคนเรียนสูงกว่าพวกเราทั้งนั้น อาชีพ หน้าที่การงาน เกี่ยวข้องกับการอ่าน การเขียนอยู่ทุกวัน แต่วิถีชีวิตแบบชาวบ้าน ได้อ่านเพียงแค่หนังสือพิมพ์ เขียนรายรับรายจ่ายซื้อขายข้าวของในสมุดจดเท่านั้น จะเขียนแต่ละที ยากเหมือนกัน ถ้าให้พูดออกมาให้ฟังแล้ว สบาย ใครก็พูดได้

นายบอน  : หนูนิดมีพื้นฐานดี และสั่งสมความคิด ประสบการณ์ต่างๆมาเรื่อยๆ ทำให้สามารถที่จะกลั่นกรองเรื่องราวต่างๆออกมาได้ เป็นนักอ่านหนังสืออีกด้วย เก็บสะสมข้อมูลมาเรื่อยๆ รวมทั้งเป็นนักคิด นักฝัน จึงเขียนอะไรออกมาได้ง่ายดาย แต่ถ้าหนูนิดไปบอกให้ชาวบ้านเรียนจบ ป.6 มาเขียนบันทึกแบบเธอมั่ง จะกลายเป็นเรื่องยากไปทันที แต่ถ้าให้พูดออกมาแทนล่ะก้อ จะสบายมากๆ


คู่สนทนา 1 : จริงด้วย พื้นฐานนั้นสำคัญมากๆ นั่งอ่านบันทึกหลายเรื่องใน gotoknow อ่านแล้วไม่รู้เรื่องเลยว่า เค้าคุยอะไรกัน คงเป็นเพราะพื้นฐานความรู้ไม่มีเท่าคนอื่นเขา อ่านๆไปยังรู้สึกว่า เหมือนเป็นคนละชนชั้นกับชาว gotoknow ส่วนใหญ่

คู่สนทนา 2 : อยากเขียนได้แบบที่นายบอนนำคำพูดที่พวกเราพูดคุยไปถ่ายทอดในเสวนาจานส้มตำจัง แต่ก้ได้แค่พูดออกมา แต่เขียนไม่ได้

คู่สนทนา 1 : คงต้องเรียนรู้อีกนานกว่าที่จะมานั่งเขียนบันทึกได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าให้พูดแล้วมีคนมาช่วยพิมพ์ ช่วยเขียนให้ แม้แต่พ่อใหญ่ที่บ้านก็สามารถที่จะถ่ายทอดความคิดผ่านบล็อกได้ทุกคน

คู่สนทนา 2 : อ่านบันทึกที่พิมพ์ออกมาจาก blog หมอดินของหนูนิดแล้ว ประทับใจมาก ดูเป็นคนที่เอาจริงเอาจัง และกล้าลุยทำงานดีเหมือนกัน

คู่สนทนา 1 : คิดได้ยังไงหนอ ให้การบ้านตาเหรียญ ให้ไปอ่านหนังสือก่อร่าง สร้างฝัน แล้วยังให้ข้อคิดที่โดนใจว่า “…..ดูซิทั้งๆ ที่ตัวเค้าไม่ได้อาศัยอยู่ในชุมชนของเขาเลย  ตัวเค้าทำงานอยู่ที่ชลบุรี เค้าทำได้ยังไง เค้าปลูกฝังแนวคิด กันยังไง………..”  อิจฉาที่หนูนิดมีโอกาสได้ไปพบพี่อำนาจ และได้รับการถ่ายทอดแนวคิดแบบเต็ม 2 หู

คู่สนทนา 2 : เก่งเหมือนกันที่หนูนิด สามารถจับหัวใจของตาเหรียญออกมาเขียนในบันทึกได้ ที่บอกว่า “….
ไม่มีใครที่ไม่รู้จักท้อแท้และเหน็ดเหนื่อยหรอกค่ะ ไหนจะงานที่บ้าน และงานของส่วนรวม  จึงได้ทำการกระตุ้นลักษณะนี้แหละค่ะ แต่ไม่ใช่ให้แค่บันทึกนี้บันทึกเดียวนะค่ะ บันทึกที่มีคำชมมา หรือว่าสนใจใคร่รู้ ก็ให้ตาเหรียญอ่านเหมือนกันค่ะ….”

คู่สนทนา 1 : แต่นายบอนแน่กว่า เขียนความคิดเห็นกระทุ้งซะยาวเหยียด เปิดช่องให้หนูนิดได้พูดถึงความคิดที่ยังไม่ได้สื่อสารออกมา  ต้องพยายามแคะๆออกมา ไม่งั้นจะออกมาไม่หมด คนอื่นอ่านบันทึกแล้ว อ่านจบพูดชมให้กำลังใจ แต่การที่จะมีใครแคะแกะออกมาได้อีก ต้องเจ๋งมากๆ

นายบอน : ความจริงไม่ได้แคะนะ มองเหมือนมาม่าหมูสับต่างหาก ถ้าไม่สับเนื้อให้ละเอียด  จะทำให้เคี้ยวเนื้อที่เหนียวๆยาก ต้องคนที่ฟันแข็งแรงเท่านั้น ถึงจะเคี้ยวเนื้อชิ้นนั้นได้ แต่ถ้าสับให้ละเอียดขึ้น เคี้ยวง่าย กลืนง่าย ใครก็สัมผัสถึงรสชาติของเนื้อชิ้นนั้นได้ แต่หลายคนที่ทำอาหาร (เขียนบันทึก) มักจะปรุงอาหารในแบบที่ตัวเองถนัด คนที่กินอาหารจานนั้นบ่อยๆ ย่อมจะกินได้ไม่ยาก แต่คนที่ไม่ค่อยได้กิน อาจจะเคี้ยวยากสักหน่อย

คู่สนทนา 1 : ใน gotoknow มีคนคอยให้กำลังใจแบบ KM เยอะอยู่แล้ว อ่านๆไป ส่วนใหญ่พากันระดมให้กำลังใจกันเพียบ ถ้าเป็นผมคงจะลอยสูงขึ้นๆๆๆๆ ไม่ติดดิน ถ้ามีใครสักคนกระทุ้งให้กลับมายืนบนพื้นดิน ไม่ให้ล่องลอยออกไปสู่ท้องฟ้าบ้าง ย่อมดีไม่น้อย

<h2>

คู่สนทนา 2

: กำลังใจนั้น ใครๆก็เติมให้ได้ แต่ความเข้มแข็งในจิตใจ นั้น ยากเหลือเกินในการเติมเต็ม ชัยชนะที่สำคัญนั้น คือ การชนะใจตนเอง</h2>
คู่สนทนา 1 : เมื่อหนูนิดได้มาเจอตัวจริงเสียงจริง หรือ เอฟสองเอฟ (F2F) กับพี่อำนาจ พี่พนัส และพี่หนิงแล้ว จะช่วยแต่งแต้มเติมฝันต่อไปยังไง

นายบอน : ซื้อได้มั้ย คำว่า แต่งแต้มเติมฝันนี่ เพราะ ก่อร่าง สร้างฝัน เป็นคำที่คุณอำนาจใช้จนหลายคนคุ้นเคยแล้ว …  หนูนิดยึด หนังสือ ก่อร่าง สร้างฝัน ที่หนองสรวง เป็นแนวทางเริ่มต้น เพื่อสร้างแนวทางของตัวเอง แต่หนูนิด กับตาเหรียญ มีหลายอย่างที่ลงมือทำไปแล้ว ไม่น่าจะก่อร่าง สร้างฝันอีกแล้วล่ะ ต้องแต่งแต้มเติมฝัน

คู่สนทนา 2 : จะไม่ทำหนังสือ “แต่งแต้มเติมฝัน” ให้ตาเหรียญสักเล่มหรือ ในอนาคตอาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้คนที่ได้อ่าน เกิดความคิด และแรงผลักดันในการทำสิ่งดีๆเพื่อสังคมท้องถิ่นขึ้นมาได้บ้างนะ เหมือนก่อร่าง สร้างฝันเล่มเล็กๆ ที่ทำให้หลายคน และหนูนิด เกิดพลังและความตั้งใจในการสานฝันให้เป็นจริง

นายบอน
: ความจริงแล้ว ไม่ยากเลย ในการดึงความฝัน ความคิดต่างๆ ออกมาเรียบเรียงให้คนอื่นจับต้องสัมผัสได้ การดึงความคิด ความฝัน ความต้องการ จะทำให้ทั้งตาเหรียญและหนูนิด ได้ทบทวน ย้อนระลึกถึงผลงานที่ผ่านมา ได้ปลุกความฝันให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง เกิดกำลังใจ มีเป้าหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น  อย่างน้อยเมื่อได้เรียบเรียงออกมาแล้ว ย่อมจะใช้เป็นเส้นทางในการเดินไปสู่จุดหมายที่วางไว้ได้ง่ายขึ้น เพราะคนที่ได้อ่าน จะช่วยเติมเต็มให้กำลังใจ แนวทางในการทำงานมาให้ จะมีคนมาร่วม แต่งแต้มเติมฝัน ให้เป็นจริงขึ้นมาได้

<div class="picture"> PPP </div>

คู่สนทนา 1
: ยังไม่ตอบคำถามเลยว่า เมื่อหนูนิดได้มาเจอตัวจริงเสียงจริง หรือ เอฟสองเอฟ (F2F) กับพี่อำนาจ พี่พนัส และพี่หนิงแล้ว จะช่วยแต่งแต้มเติมฝันต่อไปยังไง

นายบอน : หนูนิดได้เขียนบันทึกสรุปเป็นเด็นปัญหาความพร้อมของกลุ่มเกษตรกรวิสาหกิจชุมชนบ้านกอกโคกไว้ 5 ประเด็นคือ

   1. กระบวนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพอัดเม็ดให้มีคุณภาพ
   2. การบริหารจัดการของกลุ่ม
   3. เครือข่ายการตลาด
   4. การอบรมเพิ่มทักษะความรู้ความสามารถของผู้นำและสมาชิกในกลุ่ม
   5. การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร

แล้วบอกว่า ข้อ 1-4 ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามบทบาทหน้าที่เองตามขั้นตอน ส่วนข้อ 5 หนูนิดช่วยได้ ความจริงถ้ามองให้ดี ทุกอย่างก็เชื่อมโยงกันได้ทั้งนั้น เชื่อมโยงในส่วนที่สามารถทำได้  ถ้าเขียนใหม่ว่า

1. คุณอำนาจ แสงสุข (น.เมืองสรวง)
2. ตาเหรียญ
3. พี่พนัส- แผ่นดิน
4. พี่หนิง DSS@MSU
5.หนูนิด

หนูนิดคือ ข้อ  5 ได้รู้จัก พุดคุยทั้ง 4 คนแรก สนิทสนม ได้กินข้าวกับอีก 4 คนแรกมาแล้ว ในขณะที่ ทั้ง 4 คนแรก ยังไม่มีโอกาสได้กินข้าวร่วมกันทุกคน หนูนิด สามารถพูดคุย แลกเปลี่ยน สอบถาม ขอกำลังใจ ปรึกษาหารือ จาก 1 ใน 4 คนได้ตามที่ต้องการ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีสิ่งที่หนูนิด ต้องการต่างกันไป  

<h2>ในเมื่อหนูนิดรู้จัก และเชื่อมโยงกับ 4 คนได้ แล้วไอ้ 5 ประเด็นนั่น ทำไมจะเชื่อมไม่ได้</h2>
คู่สนทนา 1 : แล้วนายบอนหายไปไหน ทำไมไม่ติดโผ 1 ใน 5

นายบอน : เป็นคนสับเนื้อหมูใส่มาม่าไงล่ะ คนอื่นๆจะไปหาเครื่องปรุงมาใส่ในชาม หั่นผัก เติมเครื่องปรุง จุดไฟ เติมฟืน

<h2> คู่สนทนา 2 :  พี่อำนาจให้แนวคิด ให้พลัง คำแนะนำอย่างเต็มที่กับหนูนิดไปแล้ว  ตาเหรียญคือ เป้าหมายที่หนูนิดพยายามทุ่มเทช่วยเหลือ พี่พนัส แผ่นดิน เป็นนักกิจกรรม ให้คำแนะนำ คำปรึกษาและอาจจะแนะนำให้นิสิตไปร่วมทำโครงการกับหนูนิดก็ได้ พี่หนิง DSS ก็พานิสิตพิการไปร่วมเติมเต็มศักยภาพได้เช่นกัน </h2>

คู่สนทนา 1 : ชอบคำพูดตาเหรียญที่ว่า “เฮาต้อง ซอยโตเฮาก่อน จนเฮาประสบความสำเร็จจริง ไผๆ กะเห็นกะฮู้ กันหมดทุกคน เมื่อนั้นเฮาค่อยไปขอความซอยเหลือจากทางราชการ แต่เฮาอย่าไปหวังเพิ่งเพิ่นหลาย โตเฮาเองต้องเพิ่งโตเอง เฮาต้องยืนอยู่ได๋ด้วยตัวเฮาเองก่อน “  ถ้าหนูนิดเปิดช่องให้พี่พนัสกับพี่หนิง ให้นิสิตมาทำโครงการอะไรสักอย่างร่วมกับชาวบ้านและตาเหรียญ จะได้ฝึกประสบการณ์ คิด แก้ไขปัญหาไปด้วย

<h2>คู่สนทนา 2 : อ่านในบันทึกเห็นพี่พนัส กะพี่หนิงจะพานิสิตไปร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนเม็กดำ และ ครูบาสุทธินันท์ก่อน กับพื้นที่ที่มีความพร้อมแล้ว ถ้าได้ประสบการณ์ วิธีคิดมาแล้ว ควรที่จะมาทำกิจกรรมในพื้นที่ของหนูนิดบ้าง กับพื้นที่ที่ยังไม่พร้อม ซึ่งนิสิตจะได้ออกแบบ คิด ทำ จากที่ที่ยังไม่พร้อม ได้เรียนรู้จากของจริงไปด้วย โดยมีพี่พนัส พี่หนิง คอยดูแล และขอคำแนะนำจากครูบา และอีกหลายๆท่านไปด้วย</h2>
นายบอน : โห อ่านขาดถึงขนาดนี้เลยหรือ (หมายถึง –มองไกล)

คู่สนทนา 2 : “ถ้าจะเลี้ยงไก่ อยากได้ไข่ ก็ต้องทำรังให้ไก่ไข่ก่อน“  หยิบความฝัน เป้าหมายของหนูนิด มาให้หลายคนช่วยคิด ช่วยกันสร้างรังให้ไก่ไข่ มากันหลายคน ย่อมจะสร้างรังได้เยอะขึ้น นิสิตของพี่พนัสและพี่หนิงที่ไม่เคยเลี้ยงไก่ ไม่เคยสร้างรังให้ไก่เลย จะได้มีโอกาสมาทำจากของจริง ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย

คู่สนทนา 1 : แล้วคิดที่จะเชื่อมโยงหนูนิด ตาเหรียญ ไปยังท่านอื่นๆบ้างไหม นอกจาก น.เมืองสรวง พี่พนัส พี่หนิง DSS แล้ว

<h2> นายบอน : ตั้งใจไว้ว่า จะสอนหนูนิดเขียนแผนที่ความคิด ดึงความฝันออกมาวางไว้ตรงหน้า วิเคราะห์และสับๆๆๆๆๆ ให้ละเอียด จะได้กลืนง่าย เมื่อเขียนเป็นแผนที่ความคิด มองเห็นภาพรวมทั้งหมด แต่ละกิ่งของแผนที่ความคิด = เป้าหมาย หรือความฝันที่อยากลงมือทำนั่นเอง  สามารถที่จะแต่งแต้มเติมฝัน ต่อเติมกิ่งก้านของแผนที่ความคิดให้ยืดยาวออกไปได้อีก จากความคิด ของหนูนิด บวกกับความคิด มุมมองของหลายๆท่าน จะล้วงแคะแกะความคิดให้หลุดออกมาตรงหน้า  แล้วกลางเดือนมี.ค. ที่หนูนิดตั้งใจว่า จะร่วมเดินทางไปกับพี่พนัส และพี่หนิงนั้น  ก็เอาแผนที่ความคิดอันนั้นแหละ เอาไปด้วย เอาไปให้อีกหลายๆคน แต่งแต้มเติมฝันต่อไป... </h2>
คู่สนทนา 2 :ำทุกอย่างให้ประสานกันได้นี่เอง หนูนิดให้รายละเอียดต่างๆออกมา มาถึงพี่หนิง พี่พนัส เมื่อมองเห็นรายละเอียดแล้ว  ก็จะมีคำแนะนำ แนวทาง หรือถ้าอยากร่วมงานกัน ย่อมจะหาช่องที่จะเชื่อมโยงได้ทั้งนั้น  จะให้นิสิตลองฝึกวิเคราะห์โครงการ ออกแบบโครงการก็ย่อมได้ แม้ว่าจะไม่ได้ไปลงพื้นที่จริงๆ แต่การระดมความคิดสร้างสรรค์จากคนรุ่นใหม่ เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย พี่พนัส และพี่หนิง จะได้โอกาสสอนเด็กให้ออกแบบ เขียน คิด โครงการได้ด้วย

นายบอน : โห อ่านขาดมากๆ

คู่สนทนา 2 :  ที่ตาเหรียญ  บอกกับหนูนิดว่า  “ตา ไม่เคยคิดเลยนะนิด  ชีวิตตาน่ะเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาๆ คนนึงจะได้มีวันนี้ ตาได้รับโล่พระราชทานฯ ตาไม่รู้จะหาอะไรเปรียบเทียบเลย มันยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของตา เป็นความภูมิใจที่สุดในชีวิต ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด  ตาก็เลยคิดว่า ตาจะทำงานเพื่อชาวบ้าน ต่อไป เพื่อในหลวง และเพื่อแผ่นดินต่อไป”

<h2>มีหลายคนที่อยากทำงานเพื่อ แผ่นดินถิ่นเกิด มี ความอดทนความพยายาม ถ้าทำให้คนที่คิดคล้ายกันมาเจอกัน การแต่งแต้มเติมฝัน จะสำเร็จมากยิ่งขึ้น</h2>




และนี่คือ เสวนาจานส้มตำครับ


อ่าน เสวนาจานส้มตำ  ตอนที่ผ่านๆมา


 

หมายเลขบันทึก: 80884เขียนเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2007 11:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สวัสดีค่ะคุณบอน และฝากสวัสดีวงเสวนาส้มตำด้วยนะค่ะเป็นวงเสวนาที่ยาวมากเลย

  • ..ขอบคุณมากนะค่ะ..ที่ให้กำลังให้และติดตาม..หนูนิดไม่ได้เก่งอะไรหรอก แต่คนที่เก่งคือชาวบ้าน และตัวตาเหรียญ เองค่ะ เพียงแต่หนูนิดก้าวเข้าไปเพื่อดึงความรู้สึกของทุกคนออกมาแค่นั้นเอง เป็นเหมือนน็อตตัวเล็กๆ แต่ฟันเฟืองตัวใหญ่คือชาวบ้านและตาเหรียญเอง ที่เป็นตัวหลัก
  • ขอยอมรับตามตรงนะค่ะ หนูนิดไม่ได้เขียนเก่งอะไรมากมายเลย เพียงแต่พวกพี่ๆ ชื่นชอบงานในแนวนี้เท่านั้น ก็เลยมองว่าหนูนิดเก่ง
  • คุณ น.เมืองสรวงให้ข้อคิดแนวทาง คุณบอนคอยชี้แนะกระตุกต่อม   พี่พนัสให้กำลังใจ ครูอ้อยให้บันทึกที่อบอุ่น พี่หนิงก็กำลังตามติดๆ และทุกท่านใน G2K ที่นิดไม่ได้เอ่ยถึง ทุกคน  มีส่วนช่วยหนูนิดเยอะค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ
  • ถึงแม้ระดับความรู้ต่างกัน แต่พื้นฐานของความเป็นคนเท่ากันนะค่ะ อย่าไปคิดแบบนั้นเลย โดยหน้าที่หลักคืองานประจำ หนูนิดต้องคลุกคลีอยู่กับชาวบ้านหนูนิดไม่เคยคิดว่าชาวบ้านน่ะไม่มีความรู้เลย ชาวบ้านน่ะฉลาดออก ป.4 ก็ได้สอนหนูนิดมาแล้ว สอนให้เป็นคนดี สอนให้รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา อยากให้เค้ารักเราก็ต้องรักเค้าก่อน... รู้มั้ยค่ะว่าใคร...ก็พ่อหนูนิดไงค่ะ
  • ยังตอบไม่หมดเลยอยากตอบเยอะกว่านี้นะค่ะ หรือจะเข้ามาคุยกับหนูนิดก็ได้
  • คุณครูคนเก่งแล้ว ใครบอกว่าไม่เก่ง อย่างน้อยก็ยังเล่น net ได้เข้มมาอ่านบันทึก ได้ ขอปรบมือให้นะค่ะ และพัฒนาต่อไปนะค่ะ
  • ไม่แน่อาจเราอาจจะได้ F2F ก็ได้

 

 

 

  • เป็นบันทึกที่ยาว...แต่มีรายละเอียดที่ละเอียดมาก
  • ผมอ่านรอบแรกตอนเที่ยง และกลับมาอ่อนอีกครั้งในช่วงนี้
  • บันทึกนี้สะท้อนให้เห็นตัวตนคุณบอนที่ชัดเจนคือการจัดเก็บประเด็นระหว่างการสนทนา  ไม่เสียหลายเคยเป็นนักข่าว, วิจัย ฯลฯ ... การจับประเด็นจึงเป็นไปอย่างมีคุณภาพ
  • ยอมรับ...ครับ
  • ชื่นชม  (งดแลกเปลี่ยน เพราะชัดเจนในตัวบันทึกแล้ว)
อย่าใส่พริกหลายเด้อ มันสิเผ็ดฮ้อน...
ลป ลืมไป...หนูนิด อย่าลืมที่เราคุยกันน๊า...ทำอย่างไร ให้ Tacit Knowledge ของตาเหรียญ ออกมาเป็น Explicit Knowledge ให้ได้นะคะ หนูนิดต้องช่วยน๊า...
  • น่ารักมาก
  • ได้สีสัน
  • สามารถทำได้เพียงแค่ใจรักที่จะทำ
  • สนุกในการเล่าเรื่องเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความรู้สึก
  • ขอให้กำลังใจค่ะ

พี่หนิง

จะจำใส่ใจค่ะพี่สาว  ไม่ลืมค่ะแต่ให้ทุกอย่าง oK แล้วไม่พลาดแน่ นิดได้ผู้ช่วยแล้ว!!!

 

สวัสดีหนูนิด

 วันนี้ มีเวลาว่างน้อยไปหน่อย  คงต้องยกยอดไปต่อใน เสวนาจานส้มตำ จานต่อไปแล้วล่ะ แต่พ่อของหนูนิดนี่ถือว่า ไม่ธรรมดานะครับ เตรียมหยิบเอามาเป็นประเด็นเสวนารอบต่อไป ดีกว่า!!!!

สวัสดีครับพี่พนัส

  เอ.. สะท้อนตรงไหนครับ เพียงแค่รับบทเป็นผู้รายงาน หรือ บันทึกการประชุมเท่านั้นเองครับ

สวัสดีครับพี่หนิง
  ถ้าใส่พริกน้อยไป  ไม่อร่อยนา แล้วอย่าลืมถ่ายทอดวิทยายุทธฺ Explicit Knowledge ให้หนูนิดเค้าล่ะครับ

สวัสดีครับ คุณอนงค์ MSU-KM :panatung  
  เอ้า กลายเป็นเรื่องน่ารักไปได้ ในขณะที่กำลังซู๊ดปาก เผ็ดกันทั้งวง
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท