" ถ้าปราศจาคซึ่งความศรัทธา ก็จะไม่มีความจริงใจ
ปราศจาคความจริงใจ ก็ไม่มีความซื่อสัตย์
ปราศจาคความซื่อสัตย์ ก็ไม่มีความรัก
ปราศจาคความรัก ก็จะไม่มีอะไรเลย "
มาเยี่ยม...อ่านแล้ว
นึกถึงหลักพุทธธรรมเท่าที่ศึกษามาว่า...ทุกครั้งที่เรามีศรัทธาจะต้องมีปัญญามากำกับอยู่ด้วยเสมอ
มันพึ่งพาอาศัยกันและกัน เสริมต่อจากคุณ
คนพึ่งข้าวเจ้าพึ่งศาลเขาขานไข
วัดพึ่งบ้านบ้านพึ่งวัดผลัดกับไป
ต่างอาศัยผลัดกันจึงเจริญ...ฯลฯ นะครับ
อ่านแล้ว...ก็เป็นปรัชญาที่ดี แต่ดิฉันคิดว่าทุกอย่างเกิดมาจากความรักก่อน เพราะมนุษย์ทุกคนเกิดมาเพราะความรัก ถ้ารักหรือชอบในสิ่งไหนก็จะทำสิ่งนั้นได้ดี ลองคิดเล่น ๆว่าทุกวันนี้เรารักงานที่เราทำอยู่หรือเปล่า ถ้ายัง...มีวิธีไหนบ้างช่วยตอบที
เพื่อน..คือคนแรกที่ทำให้เรารู้จักผู้อื่น
เพื่อน..คือคนแปลกหน้าคนแรกที่ทำให้เรารู้จักความรักนอกเหนือจากคนในครอบครัวที่เรารักมาตั้งแต่เกิด
เพื่อน..โผล่หัวมาตอนโตเป็นใครรู้ แล้วจู่ๆวันหนึ่งเราก็รักมัน
ฉันมองความรักเพื่อน เป็นความรักที่น่าเคารพยกย่องแต่ต้องเป็นเพื่อนแท้
เพื่อน..จะรักกันแบบพอดีๆ ไม่หวง ไม่หึง ไม่ต้องการอะไรตอบแทนไม่ว่าเราจะห่างกันแค่ไหน เราจะคิกถึงกันถามไถ่สารทุกข์สุขดิบอยู่เสมอ
..............อีกมุมหนึ่งของคำว่าเพื่อน..................
เห็นด้วยอย่างยิ่ง ครับผม
|
||
ความเชื่อมั่นและความศรัทธาเป็นพลังพื้นฐานที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ การสร้างศรัทธาในตัวเราให้ประจักษ์ในสายตาคนอื่นไม่ใช่เรื่องง่าย...หากก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำ...หากทำได้...การรักษาให้คงอยู่เป็นสิ่งสำคัญ...
ความเชื่อมั่นและความศรัทธาเป็นพื้นฐานของความสำเร็จ เราลองมาสร้างศรัทธาและความเชื่อมั่น โดยเริ่มจากงานที่ทำ มุ่งมั่น ตั้งใจให้เต็มร้อย แล้วชีวิตก็จะมีความสุข
ความศรัทธาเกิดได้จากการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความสำเร็จในอดีตที่ยิ่งใหญ่...แม้จะดูเล็กน้อยในสายตาคนอื่นก็ตาม...แต่ทุกคนควรมีสั่งสมไว้ในจิตใจ ความสำเร็จคือประวัติศาสตร์อันควรจดจำ...ความศรัทธาสร้างได้เสมอด้วยหนึ่งสมองกับสองมือเรียว ๆ แม้จะหยาบกร้านไปบ้าง...แต่มันคือคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่ใคร ๆ ก็ไม่สามารถหยิบยื่นให้เราได้
" ศรัทธาจึงเป็นที่มาของกำลังใจ...ที่ใคร ๆ ก็ให้เราไม่ได้เท่ากับตัวของเราเอง... "