สืบเนื่องมาจากโดนพี่โอศรี หน่วยประกันฯ มน. เค้า Tag มา http://gotoknow.org/blog/nuqa-ro/78953 ก็เลยถือโอกาสตามกติกาซักนิดนะครับ ตามกติกาเค้าให้เผยความลับมา ๕ อย่างใช่มั้ยครับ มาดูกัน
ความลับที่ ๑ สมัยผมเรียนอยู่มัธยมต้นนะครับ ผมเรียนโรงเรียนประจำ (กาญจนาภิเษกวิทยาลัย เพชรบูรณ์) เป็นโรงเรียนประจำก็ต้องนอนหอ มีหอก็ต้องมีกฏระเบียบของหอพัก มีกฏข้อหนึ่งระบุว่า ห้ามนำอาหารขึ้นมาบนหอ เหอๆข้อนี้ทรมานใจผมและเพื่อนๆมาก ก็เลยมีการลักลอบนำขึ้นหออยู่เสมอ แล้ววันดีคืนดีนะครับก็จะมีการตรวจหอ ซึ่งถ้าหากข่าวกรองไม่ดีนั้น อาจารย์อาจยึดขนมได้เป็นเข่งๆทีเดียว คราวนี้ก็ถึงคราวที่เด็กๆจะต้องหาที่ซ่อน ใต้หมอน ใต้เตียง ในกระเป๋าเป้ อะไรพวกนี้ใช้ไม่ได้ครับ ธรรมดาเกินไป อาจารย์จะหาเจอ ลองมาดูความลับของเด็กหออย่างผมกันดีกว่าครับ ว่าซ่อนไว้ที่ไหนได้บ้าง
- บนฝ้าห้องน้ำ ก็คือยกฝ้าขึ้น เลื่อน เอาของวาง ยกปิด เหอๆ อันนี้ควรจำตำแหน่งดีดี
- เอาถุงพลาสติกห่อแล้วเอาเทปกาวแปะไว้ตรงเพดานกันสาด ต้องหาที่ลับตาหน่อยครับ เพราะอาจารย์ไม่ค่อยจะสังเกต มันสูง
- เอาถุงพลาสติกห่อ ผูกเชือกถ่วงน้ำไว้ในแทงค์ประปา ต้องห้อยเชือกออกมาด้วยนะครับ เอาไว้ดึงขึ้น
เวลากลับบ้านก็เช่นกันครับ มักจะซื้อขนมกลับมาที่โรงเรียนคราวนี้ก็เอาขึ้นหอไม่ได้ อาจารย์นั่งอยู่ใต้หอตรวจกระเป๋า ทำยังไงครับ
- ก็ให้เพื่อนโรยเชือกลงมา มัดขนม แล้วก็ดึงขึ้นไป 555+
นี่ละครับชีวิตเด็กหอ เป็นความลับนะครับ ไม่เคยมีประวัติถูกจับได้ ไม่รู้สมัยนี้ที่โรงเรียนเดิม อาจารย์จะจับได้รึยัง รึเด็กๆอาจพัฒนาไปไกลกว่านี้ก็ได้นะครับ
..........................................
ความลับที่ ๒ สมัยประถมนะครับที่ตลาดสด เพชรบูรณ์จะมีแม่ค้านำไก่(ลูกเจี๊ยบ)มาพ่นสีให้เป็นสีชมพู สีเขียว แล้วนำมาขาย แม่ก็ชื้อให้เลี้ยง ๔ ตัว ผมเป็นเด็กก็ชอบไปเล่นครับ ซื้อมาแล้วก็ไปเล่นกับไก่แถวสนามหญ้า หน้าบ้าน มันก็ชอบวิ่งตามครับ สงสัยคิดว่าเป็นแม่ของมัน นานๆไปสีที่พ่นก็หาย จากสีชมพูกลายเป็นสีปกติของไก่ทั่วไป นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กๆ ช้ำใจมาก ว่าไก่ของเค้าสีตก 555+ เท่านั้นยังไม่พอครับ ด้วยความที่มันวิ่งตาม ผมเผลอไปเหยียบเข้าซะ ๑ ตัว ตายเลยครับ น่าสงสารมาก ผมร้องไห้อยู่นาน ว่าไปเหยียบลูกไก่ตาย ส่วนที่เหลือนั้นก็มีชะตากรรมที่น่าสงสารไม่แพ้กันครับ
- เหลือสามตัวใช่มั้ยครับ
- สองตัวแรกถูกงูกิน เหอๆ เศร้า
- ตัวสุดท้ายเห็นแมงป่องสงสัยนึกว่าเพื่อน เดินไปหา โดนต่อยตายซะงั้น
เป็นความลับที่แสนเศร้าครับ
..........................................
ความลับที่ ๓ สมัยเป็นเด็กนะครับ พ่อผมมาสอนผมปั่นจักรยาน ซึ่งก็เป็นนะครับ แต่ทำไมไม่ทราบนะครับ เค้าไม่สอนตอนลงรถ พอผมปั่นเป็นปุ๊ป ครั้งแรกเลย ผมดีใจมากปั่นไปทั่วเลย หัวซอยท้ายซอยปั่นไม่หยุด แต่พอเหนื่อยจะเลิก เลิกไม่ได้ครับ พ่อลืมสอนตอนลงรถ ไม่รู้จะจอดยังไง ขาก็ไม่ถึง เบรกๆพอรถชลอ มันก็เสียความทรงตัวจะล้มให้ได้ ผมก็ทำใจดีสู้เสือปั่นไปเรื่อยใจอยากเลิกเพราะหิวข้าว พอดีครับแม่ออกมาตามครับ เห็นไม่เข้าบ้าน ผมขับผ่านแม่หนึ่งรอบเพื่อเล็งเป้า ก่อนตัดสินใจเลี้ยงกลับมา ขับไปหาแม่เลยครับ เพื่อหยุดรถ
สรุปคือแม่จับไว้ได้ทันครับ ไม่ชน แต่โดนแม่ดุ ข้อหาขับไม่ดูตาม้าตาเรือ จริงๆไม่กล้าบอกแม่ครับว่าจอดไม่เป็น อิอิ
ปล.ต่อมาก็พัฒนาครับ หยุดรถด้วยการขับไปชนต้นไม้ในป่า 555+
..........................................
ความลับที่ ๔ ผมมีสิ่งที่ไม่กินหลายอย่าง ผมแพ้อาหารบางประเภทครับ เช่น กุ้ง กับ ปู นั้นผมทานไม่ได้เลยเพราะแพ้ ส่วนอย่างอื่นๆก็จะไม่ทาน ถั่วงอก มันหมู(ชิ้นใหญ่ๆ) คิดว่าคงไม่ชอบนะครับ เลยไม่ทาน แต่ผมเคยลองทานนะครับ เกือบอาเจียนเลยทีเดียวสรุปคือ อาหารที่กล่าวมานั้น ทานไม่ได้ครับ
..........................................
ความลับที่ ๕ ชอบทำงานพิเศษ ถึงตรงนี้หลายๆคนอาจบอกว่า แหมธรรมดา เด็กมหาวิทยาลัยที่ไหนเค้าก็ทำกัน อิอิ ผมจะบอกว่าผมทำมาตั้งแต่ ม.ต้นแล้วครับ แต่ก่อนหลายๆคนคงเคยเห็นโทรศัพท์มือถือที่เค้าตั้งโต๊ะ บอกว่านาทีละสามบาท หรือสามบามทั่วไทยนะครับ นั่นแหละครับงานพิเศษแรกในชีวิต ต่อมาก็รับพิมพ์งาน รับจ้างนู่นนี่ เคยไปรับเป็นลูกจ้างขายเสื้อผ้าอยู่งานกาชาด จนมาอยู่มหาวิทยาลัยนี่แหละครับ แรกๆก็รับพิมพ์งาน ต่อมาความรู้ในศาสตร์แห่งการผลิตสื่อเริ่มมี ก็รับทำสื่อทั่วไป ถ่ายภาพ ตัดต่อ ออกแบบโปสเตอร์ ทำคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ วารสาร ทำเว็บ จนปัจจุบันสามารถออกแบบระบบการถ่ายทอดสดงานพิธี หรือกิจกรรมต่างๆได้ โดยงานใหญ่ที่สุดที่เคยเป็นผู้กำกับกล้อง ในการถ่ายทอดสดนั้นคือ โครงการ Beginning Camp สามวันสองคืน มีคนเข้าร่วมประมาณ ๖๐๐๐ คน กิจกรรมกินพื้นที่เกือบทุกคณะในมหาวิทยาลัย ใช้ทีมงานจำนวนกว่า ๔๐ คนในการถ่ายทอดสด ใช้กล้อง ๕ ตัว และที่สำคัญ คนทั้ง ๔๐ คนที่มาทำงานนั้น เป็นเพื่อนๆที่เรียนมาด้วยกัน และน้องๆที่ผมสอนเองฝึกเองมากับมือ ซึ่งภูมิใจมากครับ
ก็คือจะบอกว่าระบบการถ่ายทอดสดโดยกิจกรรมใหญ่ที่ใช้กล้องหลายๆตัวนั้น ผู้ออกแบบระบบรวมถึงติดตั้งได้ที่เป็นนิสิต น้อยคนครับที่สามารถทำได้ครบถ้วน นั่นเกิดจากการที่รักในการทำงาน ชอบวิ่งเข้าหางาน เคยทำทุกอย่างตั้งแต่เก็บสายไฟ ถ่ายกล้องวิดีโอ ตัดต่อ ขนของ จนในที่สุดก็พัฒนามาจนเป็นผู้กำกับ เป็นผลจากคำที่ว่า หนักเอา เบาสู้ ครับ เป็นความลับของความสำเร็จครับ อิอิ
..........................................
ความลับของผมหมดแล้วนะครับ ก็ขอส่งต่อไปอีก ๕ คนตามกติกานะครับ
ขอบคุณครับ และเรียนเชิญแสดงความคิดเห็นครับ ..................
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย บีเวอร์ ใน จิตอิสระ
ความลับนี่สุดยอดเจงๆ มะน่าเชื่อเลยนะเนี่ยว่าท่านพี่เราจะมีวีระกรรมกะเค้าขนาดนี้ ตลกตอนที่ขี้จักรยานมากๆเลยอะ มีที่ไหนพ่อสอนแต่ขี้ มะได้สอนตอนลง ก๊ากกกกกกกกกกกก เลยลงมะได้ อิๆๆ
แต่ก้ออะนะขอชื่นชมในความพยายามในเรื่องอื่นๆจนประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้น้าค้า ท่านน้องก้อจะขอแอบๆเอามาใช้บ้างละกานนะท่านพี่ แต่คงมะเอาที่หัดขี้จักรยานนะอิๆๆ
ช่วงนี้เห็นว่าแฮปปี้ๆก้อให้แฮปปี้มั๊กๆยิ่งขึ้นน้าจ้า