ผมไปเข้าร่วมประชุมปฏิบัติการเพื่อกำหนดประเด็นเชิงนโยบายอุดมศึกษา สำหรับการจัดทำแผนพัฒนา
อุดมศึกษาระยะยาว ๑๕ ปี ฉบับที่ ๒ (พ.ศ.๒๕๕๐ - ๒๕๖๔) ที่กาญจนบุรี เมื่อวันที่ ๑๐-๑๑ ก.พ. ๕๐ ได้เอกสาร "ความรับผิดชอบของสภาสถาบัน ๑๒ ประการ" ที่สรุปจากหนังสือ Effective Trusteeship เขียนโดย Richard T. Ingram, ๑๙๙๕ จึงนำมาบันทึกไว้
๑. กำหนดวิสัยทัศน์และเป้าประสงค์ (setting mission and purpose) สภาฯ ต้องเข้าใจเป้าประสงค์ของสถาบันอย่างชัดเจน และช่วยกันกำหนดทิศทางเพื่อให้สถาบันเดินทางไปสู่เป้าประสงค์
๒. สรรหาอธิการบดี เป็นความรับผิดชอบสำคัญที่สุด ที่สภาฯ จะต้องสรรหาบุคคลที่มีทั้งคุณสมบัติและประสบการณ์ที่จำเป็น เพื่อมารับหน้าที่สำคัญนี้
๓. สนับสนุนงานของอธิการบดี
-ใส่ใจและช่วยเหลืองานของสถาบัน
-ช่วยระดมทรัพยากรช่วยสถาบัน
-ให้กำลังใจและชมเชยในผลสำเร็จ
-มาประชุมสม่ำเสมอ
๔. ติดตาม-กำกับการปฏิบัติงานของอธิการบดี
-การประเมินผลการปฏิบัติงาน
-การตรวจสอบภายในการเงิน
เพื่อช่วยให้อธิการบดีปฏิบัติงานได้ดียิ่งขึ้น
๕. ประเมินการปฏิบัติงานของสภาฯ
-ประเมินผลการปฏิบัติงานตามมติของสภา
-ประเมินผลประจำปีโดยองค์กรอิสระ
-จัดประชุมปฏิบัติการ (workshop) หรือประชุมทบทวน (retreat) ทุก ๓-๔ ปี โดยสมาชิกสภา
๖. ยืนหยัดให้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์
-ให้ฝ่ายบริหารและฝ่ายปฏิบัติกำหนดแผนการบริหารและแผนปฏิบัติ
-ประเมินผลงาน - ผลกระทบ
-ปรับปรุงการบริหารและการปฏิบัติ
*หลักสูตร การเรียน การสอน
*การวิจัยและพันธกิจต่างๆ
๗. ทบทวนโปรแกรมการศึกษาและโครงการบริการสังคม เพื่อนำไปสู่
-การควบคุมค่าใช้จ่าย
-การจัดสรรทรัพยากรใหม่
-การลดแรงกดดันที่ต้องขึ้นค่าเล่าเรียน
-การปรับโครงสร้าง
๘. ประกันความพอเพียงของทรัพยากร
-"งบประมาณไม่เคยพอ" ก็จริง แต่สภาก็ต้องร่วมรับผิดชอบเพื่อให้มีทรัพยากรที่เพียงพอกับ
การบริหาร และการปฏิบัติงาน
-กรรมการสภาต้องช่วยหาเงิน หาทรัพยากรอื่น หาความร่วมมือ หาพันธมิตร ฯลฯ
๙. ประกันการบริหารจัดการที่ดี
เครื่องชี้ :-
-มี "ธรรมาภิบาล"
-งบดุลไม่ติดลบ
-คณาจารย์และเจ้าหน้าที่มีคุณภาพ เสียสละเพื่อสถาบัน
-ได้ "บัณฑิตที่พึงประสงค์" ฯลฯ
๑๐. ยึดมั่นในความมีอิสระของสถาบัน
-สภาฯ ปฏิบัติในกรอบจริยธรรม
-ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ผลดี
-สถาบันได้รับการรับรองคุณภาพ
หากเป็นเช่นนี้แล้ว สภาฯ ต้องประกัน
"ความอิสระทางวิชาการ - academic freedom" และ
"ความเป็นอิสระในการบริหารสถาบัน - Institutional autonomy"
๑๑. เชื่อมโยงสถาบันสู่ชุมชน และเชื่อมโยงชุมชนสู่สถาบัน
-สภาเป็น "กันชน - buffer"
-สภาเป็น "สะพาน - bridge"
-สภาช่วยสร้างความเข้าใจระหว่างชุมชนและสถาบัน (one foot firmly planted in "the real world" and the other in "the academic world")
๑๒. บางครั้งทำหน้าที่เป็นศาลอุทธรณ์
-ความขัดแย้ง ความขัดข้องหมองใจทั้งหลายของนักศึกษา เจ้าหน้าที่ คณาจารย์ ต้องยุติสิ้นสุดที่ระดับบริหารและระดับปฏิบัติ
-สภามีหน้าที่ดูแลว่า "ระบบและกระบวนการยุติธรรมในสถาบันเป็นไปตามกฎระเบียบ และความเป็นธรรม"
๑. ออกความเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจ และตั้งใจฟังเหตุผลของบุคคลอื่น
๒. เมื่อมีมติแล้ว ต้องสนับสนุนมตินั้นอย่างเต็มกำลัง ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับมตินั้น
๓. ช่วยเผยแพร่ผลงานและเกียรติคุณของสถาบัน
วิจารณ์ พานิช
๑๐ ก.พ. ๕๐
โรงแรมเฟลิกซ์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท
สวัสดีค่ะ Prof. Vicharn Panich
เพิ่งอ่านพบบันทึกนี้ มีประโยชน์สำหรับดิฉันมากเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะที่ได้บันทึกไว้
สำหรับประสบการณ์ส่วนตัวที่ยังมีอยู่น้อยในเรื่องนี้ ดิฉันคิดว่ายังมีหลายเรื่องที่สภาฯ (ที่ตัวเองเป็นกรรมการอยู่) ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างชัดเจน เช่น ๔, ๕, ๗, ๘ และข้อ ๙ บางข้อค่ะ แต่เป็นไปได้ว่าดิฉันยังมีประสบการณ์น้อย เลยไม่ทราบว่าสภาฯ ได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว
ดิฉันคิดว่าแต่ละข้อสำคัญๆ ทั้งนั้นเลย นับเป็นบันทึกที่เป็น guideline ที่ดีสำหรับดิฉันจริงๆ
ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ