การจัดงานเฉลิมฉลองที่มีประวัติยาวนานที่สุดในโลกคือเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ เพราะมีหลักฐานย้อนไปถึงยุคบาบิลอนเมื่อ 4 พันปีมาแล้วค่ะ เพียงแต่ไม่ใช่วันที่ 1 มกราคมอย่างยุคนี้
วันขึ้นปีใหม่ของแต่ละชาติ กำหนดไว้แตกต่างกัน ถ้าคิดจะฉลองปีใหม่ของทุกชาติก็คงทำกันได้ตลอดทั้งปี ปีใหม่ของไทยเราเองก็ยังเป็นวันที่ 13 เมษายนหรือวันสงกรานต์นี่นา
สำหรับวันที่ 1 มกราคมนั้น ชาวโรมันเป็นผู้กำหนดไว้เมื่อ 153 ปีก่อนคริสตกาลมาแล้วค่ะ แต่ประเทศต่างๆ เพิ่งจะยอมรับให้วันนี้เป็นวันปีใหม่อย่างจริงจังเมื่อประมาณ 400 ปีมานี้เอง
แล้วเรื่องกินมาเกี่ยวข้องอะไรกับวันขึ้นปีใหม่?เกี่ยวอย่างมากเลยค่ะ เพราะไม่ว่าวันปีใหม่จะตรงกับวันไหนก็ตาม หลายชาติมีความเชื่อว่าคนเราจะมีโชคดีตลอดปีที่จะมาถึงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คนๆนั้นทำหรือกินในวันแรกของปีใหม่
ด้วยเหตุนี้จึงมีการจัดงานปาร์ตี้สนุกสนานในวันสุดท้ายของปีเก่า เพื่อรับวันขึ้นปีใหม่ที่จะมาถึงตอนเที่ยงคืน และกินอาหารที่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความมีโชคลาภหรือสิ่งดีๆสารพัดอย่างที่อยากจะให้เกิดขึ้นกับตัวเองตลอดปีใหม่
ชาวเดนมาร์กกินโดนัทในวันแรกของปีเพื่อจะได้มีโชคลาภ เพราะเชื่อว่าสิ่งที่มีรูปร่างเป็นวงแหวนเป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์ แสดงการบรรจบครบวงจร
ชาวอเมริกันในหลายรัฐ จะฉลองวันขึ้นปีใหม่ด้วยการกินถั่วที่เรียกว่า black eyed peas บางคนบอกว่าต้องกินอย่างน้อย 365 เม็ดเพื่อที่จะได้โชคดีทุกวันตลอดปี เนื้อสัตว์ที่กินจะเป็นแฮม เพราะถือว่าหมูเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ส่วนผักที่กินจะเป็นกระหล่ำปลีซึ่งหมายถึงทรัพย์สินเงินทอง
ชาวสเปนมีธรรมเนียมการกินองุ่น 12 ผลในวันแรกของปี โดยแต่ละคนจะเตรียมองุ่นของตนไว้ในมือ คอยฟังเสียงนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนซึ่งมีการกระจายเสียงมาจากนครหลวงเมดริก เมื่อได้ยินเสียงตีหนึ่งครั้งก็กินองุ่น 1 ผล ทุกคนต้องกินให้หมดทันทีที่นาฬิกาตีครบเวลา
ชาวยิวฉลองปีใหม่ด้วยการกินอาหารรสหวาน เน้นน้ำผึ้งเป็นหลัก ของกินยอดนิยมคือแอปเปิลชุบน้ำผึ้ง การที่เชื่อว่าความหวานหมายถึงความดีงามและความรื่นรมย์ ทำให้บางคนถึงกับเตรียมน้ำตาลไว้ 1 ช้อน สำหรับกินต้อนรับวันแรกของปีซะเลย
ชาวอังกฤษก็มีการกินอาหารในวันขึ้นปีใหม่โดยเลือกสิ่งที่มีความหมายไปในทางที่ดี เช่น กินเซลาลี่ ซึ่งมีชื่อคล้ายกับคำที่แปลว่าเงินเดือน เพื่อจะได้รับเงินเดือนขึ้น กินลูกเกดซึ่งหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง กินปลาซึ่งหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ เป็นต้น
ชาวญี่ปุ่นกินอาหารที่มีหลายอย่างรวมกัน ซึ่งเรียกว่า โอเซชิเรียวริ ซึ่งอาหารในชุดนี้แต่ละอย่างจะเป็นตัวแทนของการมีสุขภาพดี ความสุข ความเจริญงอกงาม อายุยืน ฯลฯ ส่วนชาวเกาหลี จะกินซุปที่ทำจากข้าว ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้อายุยืนต่อไปอีกปี
ชาวจีนจัดอาหารเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ของตน โดยคำนึงถึงชื่ออาหารที่มีความหมายหรือเป็นตัวแทนของความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวยและสุขภาพดีเช่นกัน อย่างเช่น ขนมโก๋ ขนมเข่ง ซึ่งนิยมกินช่วงปีใหม่จนเรียกว่าขนมปีใหม่ มีความหมายถึงการมีฐานะสูงขึ้นทุกปีๆ
การกินเพื่อเป็นมงคลสำหรับต้อนรับวันแรกของปีจึงเป็นธรรมเนียมที่หลายชาติถือปฏิบัติกันอย่างหลากหลาย ส่วนใครจะเคร่งครัดแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล
สำหรับชาวไทยมีธรรมเนียมกินอะไรในวันแรกของปีนั้น ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เพราะเท่าที่สังเกตมาหลายปีก็ยังหาข้อสรุปที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะสาระสำคัญของการฉลองปีใหม่ไทยไม่ได้อยู่ที่เรื่องอาหารก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ชาวไทยส่วนใหญ่มีความเชื่อในเรื่องการใช้อาหารที่มีชื่อเป็นมงคลในโอกาสพิเศษต่างๆ อยู่แล้ว ฉะนั้น ในวาระขึ้นปีใหม่ที่จะถึงนี้ อาจมีบางคนเตรียมจัดเมนูมงคลสำหรับต้อนรับวันแรกของปีกันแล้ว
ยังไงๆ ก็ตรวจสอบเมนูให้ละเอียดหน่อยนะคะ อย่าเล็งแค่ชื่อที่เป็นมงคลเท่านั้น ดูให้แน่ใจด้วยว่าส่วนผสมหรือวัตถุดิบที่ทำ เป็นมงคลต่อร่างกายด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีตั้งแต่วันแรกของปีเลยนะคะ
ขอบคุณค่ะ.... ที่บ้านจะกินองุ่นตอนเช้าวันใหม่ ทำมาเป็น 10 ๆ ปีแล้ว ก็ดีนะคะ ชีวิตก็ดีจริง ๆ