1-2-50
วันนี้ที่สถาบันเรามีการประชุมคณะกรรมการKMชุดใหม่ครั้งที่สองหลังจากที่การประชุมครั้งแรก ดิฉันติดการสอนคนมาดูงาน ในการประชุมวันนี้หมอหน่อยได้เล่าถึงการไปประชุมKMภาคราชการและความประทับใจถึงความหลากหลายของหน่วยงานต่างๆ ดิฉันให้ปิ่ง นันท์ ช่วยกันเติมในส่วนที่ยังไม่ได้กล่าวถึง เรามาคุยถึงการทำแผนKMส่งกรมโดยที่การทำKVในปีนี้อาจจะยังไม่ชัดนักเนื่องจากงานแผนได้สื่อถึงตัวชี้วัดมากกว่าเป้าหมายที่คาดหวัง ทำให้เราอาจมองความเชื่อมโยงไม่ค่อยชัด ดิฉันได้สรุปว่าเราใช้แผนเดิมแต่ปรับแผนเพิ่มเติมเพราะมีโครงการTUCมาช่วยทำ เกิดเป้าหมายและผลลัพท์ที่ชัดขึ้น เราสรุปว่าเราจะใช้แผนKMเสริมทำให้เกิด การสื่อสารนโยบายถึงบุคลากรทุกระดับ ให้ทุกระดับรู้จักKM นำKMไปเป็นเครื่องมือในการพัฒนางาน จะมีการเก็บKAให้เป็นระบบ สิ่งที่ได้วันนี้คือเราตั้งหน่วยงานสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์โดยให้คุณกรองแก้วจากงานสุขศึกษาและคุณวราภรณ์จากงานประชาสัมพันธ์ของพยาบาลมารับหน้าที่นี้ งานKAจะมีหมอก้องและหมอต่อมาเป็นเจ้าของงาน การจัด KSเราจะสร้างเวทีในวันที่12-2-50โดยใช้KV ที่ทำให้เกิดการบริหารยามีการใช้ยาและรายงานได้ถูกต้องและรวดเร็ว เราจะตั้งหัวข้อคือ ใช้ยาปลอดภัยรายงานถูกต้อง เราจะนำคนมาเล่า Tacit ของตัวเอง เนื่องจากเรายังไม่เคยจัดเป็นเรื่องราวมาก่อน ดิฉันให้กรรมการทำ BARก่อนจัดKSวันที่12
1 หมอหน่อยอยากฝึกการเป็นคุณอำนวยและมีการ ลปรร tacit กัน
2 หนูเล็กศุภลักษณ์ อยากให้มีการshare และมีการเก็บKA
3 คุณสุนันทาอยากให้คนมาshareโดยมองว่าเราไม่ค่อยมีเวทีให้เด็กๆ
4 ปิ่งอยากให้คนรู้ค่าตัวเอง และมีการบันทึกเก็บความรู้ ดิฉันมอบให้คณะทำงานทำBARแล้ว คุยกันว่าเราคาดหวังแล้วเราเตรียมอะไรบ้างที่จะให้สิ่งที่เราคาดหวังสำเร็จ
ข้อสรุปคือจะให้หนูเล็กและหมอหน่อยฝึกการเป็นคุณอำนวย และเราจะเรียนรู้ในการทำKSว่าเมื่อทำAARแล้วงานแรกของกรรมการชุดนี้จะ Happy Endingหรือไม่ อาจจะให้ สคส มาช่วยประเมินและช่วยดู ทุกคนมีตำราของอาจารย์ จาก สคส. แต่ยังไม่เคยใช้เครื่องมือของKMอย่างจริงจัง เราพัฒนาโดยอ่านตำราHAและใช้CQIเป็นหลัก หมอต่อและหมอก้องจะช่วยให้มีการเก็บ KAให้เป็นระบบ
ส่วนทันสิษฐ์อยากให้เราทำมาตรฐานให้เป็นหนึ่งเดียวในการให้บริการระบบยา
ดิฉันดูบรรยากาศแล้วรู้สึกดีใจที่วันนี้เป็นการประชุมกรรมการKMที่เราเห็นภาพของการทำงานค่อนข้างชัดเจนตั้งแต่มีการประชุมมา ทุกคนดูสบายๆกับการทำแผน พูดอะไรก็เข้าใจทันทีไม่มีใครทำหน้า เอ๋อ ในการใช้ศัพท์KM ดิฉันรู้สื่อสารง่ายเหมือนกับมีบางคนที่ใช้เปรียบว่า มองตาก็รู้ใจเพราะเรามีหัวใจดวงเดียวกันคือความมุ่งมั่นที่จะไปสู่วิสัยทัศน์อันมีประชาชนเป็นเป้าหมายค่ะ