วันนี้คนพันธ์ S เราคึกคักตั้งแต่เช้าครับ ถึงแม้ว่าเมื่อคืนบางคนจะโชว์ลูกคอกันจนดึก แต่พอเช้าด้วยความรับผิดชอบของแต่ละคน เรามีนัดกันว่า หกโมงเช้าทุกคนต้องพร้อม เพราะกำหนดการทำบุญบ้านจะเริ่ม ในเวลานั้น... คนพันธ์ S ซึ่งเป็นช่างซ่อมบำรุง แม้จะรักสนุกสนานปานใด แต่ในเรื่องความรับผิดชอบเราไม่ยิ่งหย่อน ถึงเวลาทำงานเราทำงานกันเต็มที่ เวลาพักเราก็สนุกสนานกันเต็มที่ ..แบบว่าใจสู้ว่างั้นเถอะ..เหมือนอย่างเช้าวันนี้พอถึงเวลานัดหมายพวกเราทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ตรงตามกำหนดการ
แต่เราก็ได้เรียนรู้ อีกเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนดการ..ในช่วงที่รอพระคุณเจ้า ..พวกเราก็ตรวจสอบความพร้อม อีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป้นเรื่องของระบบเปิดป้าย..ความเรียบร้อยของสถานที่..สิ่งที่ผมได้เห็นและเกิดความประทับใจว่า..นิสัยการเป็นนักเรียนรู้ เกิดขึ้นกับคนพันธ์ S แล้วนั่นก็คือ ..การทำโบว์ ผูกต้นไม้สำหรับให้ประธานปลูกเป็นที่ระลึก..ด้วยความที่เป็นช่างจับแต่ประแจ..แต่พอต้องมาทำงานที่ปราณีต..เลยเป็นของยากขึ้นมาทันที..ตอนแรกๆก็พยายามหาคนทำให้ แต่จนแล้วจนรอดก็หาไม่ได้..วิญญาณ คุณอำนวยเข้าสิง ผมทันที..รีบปะหน้า ทาแป้ง เสนอหน้าไปยั่วเลยครับ.. “ไม่ลองทำเองกันดูก่อนหรือครับ...น่าจะทำได้นะ..” เริ่มมีคนสนใจคำพูดของผมครับ..โดยการไป หยิยริบบิ้นมาตัด..แล้วลองพับไปพับมา มัดบ้าง ฉีกบ้าง..พอมีคนเริ่มคนแรกคนอื่นๆก็ลองบ้าง..ซักพัก ได้ยินเสียง “ เฮ้ย! ทำได้แล้ว..” แล้วคนอื่นก็.งแสดงฝีมือกัน..จนในที่สุดเราได้โบว์ มากเกินกว่าที่ต้องการซะอีก แต่ไม่สำคัญยิ่งกว่า การได้สร้างบทเรียน สร้างนิสัยการเรียนรู้ ให้ กล้าคิด กล้าลอง กล้าทำ ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ พอทำได้ก็เกิดความมั่นใจ ฝึกบ่อยๆ ก็คงไม่มีอะไรที่จะทำไม่ได้..
แล้วเมื่อถึงเวลาที่พระคุณเจ้าเดินทางมาถึง ก็เริ่มทำพิธีสงฆ์ แล้วก็ต่อด้วยพิธีมอบบ้าน ซึ่งเป็นผลงานจากการเรียนรู้ของคนพันธ์ S : บริษัทเอส ซี ไอ แพลนท์ เซอวิส เซส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทซ่อมบำรุงของเครือซิเมนต์ไทย โดยคุณวีระพงษ์ เพชรนารี รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการ เป็นผู้แทน มอบให้กับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพื่อเป็นสำนักงานของคณะบูรณาการศาสตร์ .โดยมีท่าน ศ.ดร อภิชัย พันธเสน คณบดีคณะบริหารศาสตร์ เป็นผู้รับมอบ ..พิธีในวันนี้ได้มีเครือข่ายมาร่วมงานจำนวนมากครับ ทั้งนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี . คณะผู้บริการสถานศึกษาในอำเภอสตึก .นักเรียนนักศึกษาจากโรงเรียนสตึกวิทยาลัย ,นักเรียนจากโรงเรียนเม็กดำ.และเครือข่ายจากชุมชน ใกล้เคียง ดูแล้วประมาณ 200 กว่าคนเห็นจะได้ครับ..
หลังจากเสร็จพิธีมอบบ้านแล้วก้เป็นรายการเสวนา..อีก 2 -3 รายการ แต่ช่วงนี้พวกเรา คนพันธ์ S ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่ไม่ได้อยู่ร่วม การเสวนา เนื่องจากว่าได้เวลาเดินทางกลับพอดี จึงสาละวนกับการจัดเก็บสถานที่ ที่หลับที่นอน เก็บเต๊นท์ ..แล้วก็ร่ำลา เจ้าสำนัก แล้วออกเดินทางกลับสระบุรี ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทาง ถึง 4 โมง ก็มาถึง แก่งคอยกันในช่วง บ่าย 5 โมงเย็น และเนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์บางคนก็ต้องเดินทางกลับ กทม.ต่อ กันอีก..
สำหรับบันทึกนี้หากลงรายละเอียดทั้งหมดก็คงจะนาน แต่ขอสรุปเป็นจุดเรียนรู้ที่พอสังเขปนะครับ ว่า ผมได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการจัดงานในวันนี้
1. เรื่องของเวลา การจัดงาน บางครั้งต้องเผื่อเวลาไว้บ้าง หากเรากำหนดเวลาที่ตายตัว แต่เมื่อ ถึงเวลาจริงไม่สามารถจัดได้ตามกำหนด ก็ต้องหาทางแก้ไข หรือปรับกิจกรรม ให้เหมาะสมกับเวลาที่เหลืออยู่
2. “ตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน” ..ซึ่งวันนี้ผมต้องขอบคุณผู้บริหารของ เครือซิเมนต์ไทย ที่ทำให้ผมเหนื่อยน้อยลง นั่นคือการที่ท่านเดินทาง มาถึงที่หมายก่อนกำหนด..ทำให้พนักงานที่อยู่ตรงนั้นเห็นว่าแม้จะนัดเช้าขนาดไหน ผู้บังคับบัญก็ให้ความสำคัญ เท่านี้พนักงานก็เกิดกำลังใจมากโขแล้วล่ะครับ ..แม้แต่ตอนนั่งรถกลับ ก็ยังมีการพูดถึง ว่า “นี่คือ Role model”
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอขอบคุณทุกๆท่าน..ตั้งแต่ท่านครูบาสุทธินันท์ เจ้าสำนักสวนป่า, อาจารย์อุทัย.อาจารย์พันดา และทีมงานจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี . ท่านผอ.ศิริพงษ์ และคณะนักเรียนโรงเรียนเม็กดำ พร้อมทั้งเครือข่าย ทุกๆท่านครับ ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ กันจนงานนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี หลายท่านต้องอดหลับอดนอน กันหลายๆคืน โอกาสหน้าคาดว่าเราคงได้รับความกรุณาจากท่าน เหมือนดั่งเคย..ขอบคุณครับ...
หนิงไปไม่ทันได้ F2F กับคุณภูคาและทีมคนพันธุ์ S เลยค่ะ คนพันธุ์ XL เลยนั่งดูรูปจาก presentation ของพ่อครูแทนค่ะ
ตามมาเรียนรู้บทบาทดาวยั่ว (ให้เกิดการเรียนรู้) ที่ดี อีกตอนค่ะ
ได้ฟังสิ่งที่ได้ของผู้จัดแล้ว อยากฟังสิ่งที่ได้ของผู้เข้าร่วมบ้างจังเลยค่ะ คงจะมีประเด็นดี ๆ มาฝากในตอนต่อ ๆ ไป ใช่ไหมค่ะ (ยิ้ม ๆ)
ขอบคุณครับ..
เรียน คุณภูคา
ดิฉันถือเป็นคำชวนแล้วนะคะ รู้สึกได้รับเกียรติเป็นอย่างยิ่ง คุณเมตตา เธอก็คงดีใจเช่นกัน เพราะเปรย ๆ ว่า อยากไปฝังตัวอยู่แถว ๆ นั้น สักสองสามเดือน