ผมมานอนโรงแรมตรงข้ามสนามหลวง เห็นใครต่อใครเดินทางมาเยอะแยะ สอบถามได้ความว่ารัฐบาลจัดพิธีทำบุญใหญ่สะเดาะเคราะห์ให้ประเทศไทย เรียกว่า ”พิธีสยามมงคล” เมื่อคืนนี้ก็มีงานแสดงรื่นเริงต่างๆ ผมไม่มีเวลาไปเยี่ยมกราย เพราะมีการบ้านที่จะต้องเตรียมไปเสนอในเวทีอภิปรายงานวิชาการประจำปี จึงขอร่วมทำบุญสะเดาะเคราะห์บนเตียงแต่เพียงผู้เดียว
สาธุ! ประเทศไทย ยกโทษให้ลูกช้างด้วย ที่ไม่ได้ไปร่วมพิธี
หัวอกของวิทยาการก็อย่างนี้ละครับ ไปงานไหนก็เข้าห้องก้มหน้าก้มตาทำการบ้าน เตรียม Power Point เตรียมประเด็น เตรียมหารือว่าจะแบ่งสาระในแต่ละวิทยากรอย่างไร ที่แปลกที่สุดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศไทย ผู้จัดจะถามประวัติวิทยากร แปลกไหมครับ ถ้าไม่รู้กำพืดจะเชิญมาทำไมทราบ!! ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้และหลายๆแห่งเชิญมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่ไม่ถามประวัติ ส่อให้เห็นระบบสารสนเทศที่เปาะแปะและง่ายกับวิธีการตรงนี้
วันนี้เจ้าภาพเลี้ยงรับรองที่ KU Home ได้ทักทายผู้ร่วมอภิปราย ที่ส่วนใหญ่ก็รู้จักมักจี่กันทั้งนั้น บางท่านเจอกันบนเวทีจนเบื่อหน้า ตรงนี้ก็เป็นจุดบอดของผู้จัดเช่นเดียวกัน ไม่ควรจะเชิญคนที่มีพิมพ์เขียวอยู่ในกรุอย่างเดียว น่าจะเชิญคนรุ่นใหม่ นักวิชาการที่มีความรู้ความคิดสดๆไปขึ้นเวทีบ้าง เอาแต่พวกเหี่ยวๆไปคุย วิชาการก็พลอยชราภาพไปด้วย
เรื่องนี้ผมเสนอให้ผู้จัดลองค้นหาในบล็อกของเรา ผมเล่าให้เขาฟังว่ามีหนุ่มสาวไฟแรงที่วิสัยทัศน์จ๊าบๆกันทั้งนั้น ช่วยมาเชิญไปขยายความคิดกันหน่อย พวกชราความรู้อย่างผม ควรจะปลดประจำการได้แล้ว ไม่ใช่มาให้วิ่งรอกฝุ่นตลบอย่างนี้
ผมไปถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เพื่อนเอารถมารับ จึงถือโอกาสเดินไปชมงานเกษตรแฟร์ เพราะมั่นใจว่าซื้อของแล้วเอากลับบ้านได้ มีเวลาไม่มากนักรีบเดินรีบซื้อเมล็ดพันธุ์ผัก พันธุ์ไม้หายากที่อยากได้มานาน เช่น มะตูมนิ่ม ต้นหอมหมื่นลี้ ต้นมะเดื่อฝรั่ง ไม้พวกนี้ยังไม่แพร่หลาย คนขายจึงตั้งราคาตามอำเภอใจ มะเดื่อฝรั่งต้นเล็กขายต้นละ500 บาท เดินไปเจอน้ำเต้า พวกน้ำเต้าขึ้นสมอง เลยเหมาซื้อลูกใหญ่ๆมาหมดร้าน จะเดินต่อไปที่มุมปศุสัตว์ เสียงโทรศัพท์ก็มาเตือนให้ไปร้าน KU.HOME ที่เจ้าภาพจัดเลี้ยงรับรองวิทยากร ไปเจออาจารย์หลายคณะที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพร่วมจัดงานห้อง 301 เช่น
ห้องนี้มีนักศึกษาหลายคณะมาร่วมรับฟัง มีคนนอกที่สนใจมาร่วมอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อไปถึงอาคารที่สัมมนา พบว่าวิทยากรที่จะร่วมอภิปรายเปลี่ยนหมด มีผมคนเดียวโด่เด่ที่คงกระพันตามกำหนดการเดิม ผีถึงป่าช้าจะทำอะไรได้ละครับ ถึงใครจะมาพูดเราก็ได้ร่วมเรียนรู้ด้วยทั้งนั้น วิทยากรที่นำเสนอ มีสามเหลี่ยมสามมุม ดังนี้
นายเกรียงไกร คะนองชาติ
รองอธิบดีฝ่ายส่งเสริมและฝึกอบรมกรมส่งเสริมวิชาการเกษตร <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; color: maroon; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal">ดร.มีชัย วีระไวทยะ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; color: maroon; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"> ทูตพิเศษองค์การสหประชาติ ผู้ก่อตั้งและนายกสมาคมพัฒนา </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; color: maroon; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"> ประชากรและชุมชน อดีตรัฐมนตรี มีหน้าที่และเกียรติประวัติไม่ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; color: maroon; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"> น้อยกว่า3หน้ากระดาษ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; color: maroon; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal">ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; color: maroon; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"> คนป่าแห่งมหาชีวาลัยอีสาน </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; color: maroon; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal">ผศ.ดร.ธันวา จิตต์สงวน ผู้ดำเนินรายการ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; color: maroon; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"> ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์ </p><p align="justify">บรรยากาศพูดคุยก็ดีครับ โดยเฉพาะท่านทูต UN. ท่านทำงานด้านนี้มานาน จึงมีเรื่องดีๆมาเล่าให้เราฟังเยอะแยะ ส่วนผมก็เสนอหลักการของมหาชีวาลัยอีสาน ที่ใช้วิธีอิงระบบ เอาการจัดการความรู้เป็นกระบวนการ เอาบล็อกเป็นเครื่องมือในการสานต่อความรู้ อยากเห็นคนไทยเปลี่ยนจากการรับรู้ไปเป็นการเรียนรู้ ต้องเรียนวิธีทำงานบนฐานความไม่พร้อม </p><p align="justify">มีผู้ฟังซักถามหลายประเด็น สุดท้ายก็จบลงด้วยความชื่นมื่น มีการแจกของที่ระลึก แจกเอกสาร ถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก แล้วก็เลิกราไปตามธรรมเนียม ก่อนที่รถมหาวิทยาลัยจะมาส่งที่พัก ก็มีพันธมิตรทางวิชาการมาบอกว่า “ผมจะไปส่งครูบาเอง” เอาละสิ ผมก็เลยให้ไปส่งที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบท ไปถึงเจอคนเสื้อเหลืองรออยู่แล้ว บอกว่าจะมาเป็นเพื่อนชมภาพยนต์ จึงซื้อตั๋วไปนั่งชมพระนเรศวรตอนเป็นเชลยที่เมืองพม่า ดูแล้วก็นึงถึงประเทศไทยตอนนี้ เป็นเมืองขึ้นไม่ต่างกับเมื่อครั้งกระโน้น เพียงแต่รูปแบบมันเปลี่ยนไป แต่จะมองยังไงๆเราก็ไม่ต่างกับเชลยอยู่ดี</p>
อิอิ เป็นเยี่ยงนี้นี่เอง
ผมต่อเน๊ททางโทรศัพท์ จะกดลบ มันไม่ลบ จะกดแก้ไข ก็ไม่ยอมแก้ไข ไม่รู้จะทำยังไง ฮือๆ ช่องกดแก้ไขไม่เหมือนเดิม ไม่ทำงาน
ขอบคุณมากครับ อ.ขจิต แหมย้ายก็ไม่บอก เผลอไปจ้อนิดเดียวกลับเข้าบ้านแทบไม่ถูก
เดี๋ยวจะลงรูปให้ชมครับ
สุธรา ขอบใจที่เป็นแรงเชียร์ให้สู้ ทั้งๆที่เหนื่อย
เรียนท่านครูบา ที่เคารพ
แวะมาอีกรอบค่ะ มีใครแอบนินทาลาวหรือป่าวน๊า
คุณหนิงไม่มีใครนินทาหรอกคะ
แอบมาอ่าน(เยี่ยม)บันทึกครูบา บ่อย ๆ (เพิ่ม rating...ฮา....)
มาแอบดูว่าครูบาจะแจกหมูจริง ๆ เมื่อไร
มาแอบดูว่าวันนี้ครูบาจะไปไหน จะนำความรู้อะไรมาเล่าสู่พวกเรา จะทำอะไรให้พวกเราตื่นเต้นไหม
แอบมาเห็นอกเห็นใจวิทยากรค่ะ
คุณพ่อครูบาขา.......
ดีใจที่ชอบ อ่านแล้วให้คนอื่นอ่านต่อก็ได้ถ้าเขาชอบอ่าน ถ้าไม่มีใครชอบเรื่องทำนองนี้ก็เก็บไว้ ถ้าไม่เกะกะ