วันที่สองของการเรียนรู้ของคนพันธ์ S รุ่นที่ 6 ครับ กับคืนแรกที่สวนป่า พวกเราได้สัมผัสกับอากาศที่หนาวเหน็บ..พอสมควร ..ก็ได้บรรยากาศดีครับ อากาศหนาวๆกับการนอนเต๊นท์..บางคนก็ไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวมา เพราะไม่คิดว่าจะเจอกับอากาศที่หนาวเช่นนี้..คืนแรกนอกจากมีพวกเราแล้วยังมีน้องๆนักเรียนจากโรงเรียนเม็กดำ มาเป็นเพื่อนกับพวกเราด้วย ทำให้บรรยากาศที่สวนป่าครึกครื้น พอสมควร..ฝั่งทางปูนกางเต๊นท์นอนที่บริเวณบ้านหกเหลี่ยม..มีคาระโอเกะ เป็นเพื่อนแก้เหงา..ส่วนน้องๆจากเม็กดำ..กางเต๊นท์นอน ทางด้านทิศตะวันออกของบ้านครูบา..ก็มีคาราโอเกะ เหมือนกัน..สนุกสนานกันน่าดู เสียงเพลงเสียงดนตรีก้องสวนป่า ครับ แต่ดังกันคนละทิศ เสียดายครับยังไม่ได้ประชันกัน..กะว่าจะคืนนี้จะจัดเวทีประชันกันซะหน่อย แต่น้องๆได้กลับไปแล้ว...
พอตกเช้าขึ้นมาได้ยินเสียงคุยกันว่า..”ตอนฟังเสียงเพลงก็สนุกดี แต่พอตกดึกนอนฟังเสียงกรน นี่นะซิ..เกิดทุกข์ขึ้นมาแทน หนาวก็หนาว นอนก็ไม่หลับเพราะคนข้างๆที่หลับก่อนกรนดังๆ..คนที่นอนทีหลังก็เลยแย่..”...หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าที่แสนอร่อยเสร็จแล้ว เราก็เริ่มต้นการเรียนรู้ต่อ..โจทย์สำหรับการเรียนรู้ในวันนี้ คือ...การตกแต่งบริเวณบ้านหกเหลี่ยม เพื่อเตรียมมอบในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้ ..ทางทีมคุณอำนวยเราได้ให้ กลุ่มผู้เรียน วิเคราะห์ถึงงานที่ต้องทำในวันนี้..ว่า งานไหนที่ต้องทำ และ ต้องทำงานไหนก่อน หลัง ..แล้วก็ให้แบ่งกลุ่มทำงานตามที่ชอบ หรือถนัด..พร้อมทั้ง ตั้งเป้าหมายของงาน..เมื่อแต่ละกลุ่มประชุมเตรียมการทำงานเสร็จแล้ว ก็ปล่อยให้ไปเรียนรู้จากการทำงาน ตามอิสระ ...บรรยากาศการทำงานตอนกลางวันเต็มไปด้วยความเป็นกันเอง สนุกสนาน มีทีมที่คอยบริการน้ำ บริการผลไม้ บริการผ้าเย็นให้กับเพื่อนๆ..และที่สำคัญเราได้ น้องๆจากโรงเรียนเม็กดำ มาช่วยพวกเราด้วย...และผมก็อดที่จะเขียนถึงความประทับใจที่มีกับน้องๆไม่ได้ครับ..
น้องที่มาจากเม็กดำ..สร้างความประทับใจให้กับพวกเรามากครับ เพราะน้องๆทำงานเก่งมาก ทำงานแบบไม่ต้องมีการบังคับ ไม่มีการสั่ง น้องๆจะรู้กันเอง ทำกันอย่างไม่เห็นแก่การเหน็ดเหนื่อย และ ที่น่าสนใจมากก็คือ น้องๆทุกคนกล้าที่จะเรียนรู้ จะเห็นได้จากการ ทดลองขับรถ ขนอิฐ รถเป็นดั๊มเปอร์ ที่ใช้ในงานการก่อสร้าง ผมได้ยินว่าน้องบางคนไม่เคยขับ แต่ก็มาลองขับกันในที่สวนป่านี่แหละ มีอยู่ตอนหนึ่งน้องคนหนึ่งขับรถเข่าไปติดที่กองฟาง และเป็นที่คับแคบ ซึ่งการขับนั้นยากมาก พอหลุดจากกองฟาง ก็ไปติดต้นไม้..ผมได้เห็นน้องหลายคนพยายามช่วยกัน คิดที่จะหาทางเอารถออกจากที่แห่งนั้นให้ได้ ช่วยกันทั้งผลักทั้งดัน ชาวยกันแม้แต่การเข้าเกียร์รถ..แบบว่าคนหนึ่งจับพวงมาลัย อีกคนคอยช่วยเข้าเกียร์ อีกคนคอยดูด้านหน้า อีกคนคอยดูด้านข้าง ..สนุกครับ แล้วน้องๆก็มีความพยายามกันสูงมาก เรียกได้ว่า เป็น Team Learning อย่างแท้จริง ทุกคนช่วยกันแก้ปัญหาอย่างตั้งใจ และมีความสุข..แม้จะเหนื่อย..แต่ก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะครับ จนสุดท้ายด้วยพลังของทีมน้องๆก็สามารถนำรถออกมาจนได้ พร้อมๆกับเสียงหัวเราะของพวกเรา..ระหว่างที่น้องๆกำลังสาละวนอญุ่กับการช่วยกันนำรถออกจากกองฝางผมมองไปเห็นท่าน ผู้อำนวยการนั่งอมยิ้มมองน้องๆอย่างขำๆ..น้องอยู่ช่วยพวกเราจนถึงเย็นครับ..และฝากฝีมือการปูอิฐไว้ให้พวกเรามองอย่างชื่นชม..
พอตกถึงเย็นเมื่อเราเลิกงานกันแล้ว ก็มานั่งล้อมวง คุยกันถึงการทำงานของตนเองในวันนี้ ทีมคุณอำนวยเราได้ตั้งโจทย์ ว่า “ ให้ทุกคนพูดถึงตนเองในวันนี้ ว่า ..ตนเองมีเป้าหมายการทำงานอย่างไร...ทำได้ตามเป้าหมายแค่ไหน..จุดแข็งของตนเองต่อการทำงาน..จุดอ่อนของตนเอง..จุดเรียนรู้ที่ได้จาการทำงาน..แนวทางพัฒนาตนเองหากมีโอกาสได้ทำงานนี้อีกครั้ง...เมื่อทุกคนพูดหมดแล้วทีมคุณอำนวยก็ใช้มุขเดิมครับ หยอดคำหวาน ชื่นชมให้กำลังใจ..พร้อมกับให้ข้อคิดเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง..ซึ่งสรุปๆด้ว่า “ การพัฒนาตนเอง ต้องเริ่มจากตัวเราเอง ..เพราะเรารู้จักตัวเราเองมากที่สุด”..และการที่จะพัฒนาตนเองได้ “เราต้องรู้จักตนเอง รู้ใจของตนเอง” จะรู้จักตนเองได้อย่างไร “ก็ต้องหมั่นทบทวนตนเอง (Reflection) ครับ”หลังจากนั้นเราก็ แยกย้ายกันพักผ่อน ครับ....
.. จุดเรียนรู้ที่ได้จากการ Reflection –ของกลุ่มผู้เรียนในวันนี้พอสรุปได้ดังนี้ครับ..
ติดตามมาอ่านอีกตอนค่ะ
คืนนี้ ครูบาฯ คงไม่เหงาแล้วสิคะ มีเสียงกรน ขับกล่อมบรรเลงตลอดคืน (เย้าเล่นค่ะ)
ขอบคุณทุกท่านครับ...
อ.ลูกหว้า ,คุณรัตติยา...
การอยู่ใกล้ชิด(ติดดิน)กับธรรมชาติช่วยให้เข้าถึงธรรม(ชาติ) ใจเปิด จึงเปิดใจได้ง่ายในการ “รู้จักตนเอง รู้ใจของตนเอง”“ทบทวนตนเอง (Reflection) ได้
ออกจากห้องสี่เหลี่ยมมาอยู่กับห้องเรียนรู้ธรรมชาติบ้างก็จะดีนะคะ
ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยให้ได้เรียนรู้ไปด้วย