ก่อนอื่นต้องแจ้งให้ทราบนะครับว่า รูปที่เอามาลงได้ ผมขออนุญาต เจ้าของรูปแล้วนะครับ แกบอกว่าเอาไปเลยคุณหมอ เป็นวิทยาทาน ( โมทนาสาธุ ! )
ตุลาคม 2549 ผมเห็นแกร้องไห้อยากกลับบ้าน ถามไปถามมาเพราะอยากกลับไปทำบุญกฐินที่บ้าน แผลยังขนาดใหญ่ แต่ตอนนี้เรา off antibiotic แล้ว แผลก็ดีขึ้น มี granulation tissue แดง ๆ ฝีมือพยาบาล ward ชาย ของ รพ.วารินชำราบ นั่นเอง สังเกตว่า พยาบาลที่ ward ก็เริ่มคุ้นเคย กับแผลแบบนี้ รู้สึกเชื่อมั่นในการทำแผลขนาดใหญ่ ซึ่งปรกติเราจะ refer เกิดการเรียนรู้ที่ดี ตอน round ward ผมก็ค่อย ๆ เล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราให้ พี่อุดร พยาบาลประจำ PCU มาฝึกทำแผลใน ward ชาย เพื่อเตรียม ตัวดูแลต่อ

รูปนี้ พี่ดร พยาบาล PCU กำลังหัดทำแผล
ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพราะเราทำแผลง่าย ๆ wet dressing ด้วย NSS ให้พี่เขาเบิกชุดทำแผล สำรองไว้ ที่ PCU ผมสังเกตว่าความคุ้นเคยระหว่าง PCU กับ โรงพยาบาล มีช่องว่างน้อยลงมาก ซึ่งเมื่อก่อน เจ้าหน้าที่ PCU กับ โรงพยาบาล มีความเกรงกันอยู่ในที แสดงว่า 4 – 5 ปี ที่เราพยายามมาไม่เสียเปล่า
พี่ดร กลับไป ทำแผลต่อที่บ้าน ผมตามไปเยี่ยมบ้านด้วย ซึ่งปรกติผมก็ ทำงานที่หนองกินเพล บ่อย ๆ อยู่แล้ว ไม่รู้สึกแปลกอะไร รอบบ้านตาเหงี่ยม มีคนไข้ เบาหวานของผม ทั้งนั้น เดินไปก็ทักทายไป

<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตอนพี่ดรไปทำแผล
มียายหลายคน มาดู ผมถามกลัวไหม แกบอกไม่กลัว เมื่อก่อนแผลแย่กว่านี้
มั๊กมาก
หัวเราะเอิ๊กอาก
ผมนึกในใจ พวกนี้แหละที่บอกตาเหงี่ยมว่า อย่ามา
โรงพยาบาลเลย โดนตัดขา
คักคัก (
แปลว่า จริงแท้แน่นอน
) </p>
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมให้น้องพยาบาล
ward ชาย ไปคุย กับยายทองดำ ข้างบ้านตาเหงี่ยม
รู้สึกจะสนุกเป็นพิเศษ ยายแกน่ารัก น้อง ๆ
ก็ไม่เคยมาแบบนี้เลย อยู่แต่ใน ward</p>
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมเห็นตู้ขายบุหรี่
อยู่ที่บ้าน ยังมีบุหรี่เหลืออีก 2
ลัง
แกติดบุหรี่มาก ติดมา 40 ปีแล้ว ไม่เคยถอย จนลูกเมียอ่อนใจ
ไม่มีใครห้ามแกได้
มาที่คลินิกสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
ของโรงพยาบาล Nurse
practitioner และ Nurse
educator cigarette nurse ( คือ ทีมของ รพ. เรา มี
nurse practitioner, nurse educator, foot care
nurse ในคลินิกสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
ล้วนแต่ชำนาญ ๆ ทั้งนั้น ส่วน cigarette
nurse ผมตั้งให้
พี่หน่อย เทวี พยาบาลที่ช่ำชองในการดูแลผู้ติดยา
และบุหรี่ เอง
) ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
ในการแนะนำ ผมดูแล้วก็คงยาก เขาติดมา
40 ปี คนนอนด้วยกันทุกวัน
( เมีย )
ยังห้ามไม่ได้
แถมที่บ้านยังขายเองด้วย เจอกัน
15 นาที เดือน สองเดือนครั้ง
จะเปลี่ยนอะไรได้ ลูกสาวแกบอกว่า
ตอนยังไม่ได้มาเจอเรา ตอนที่เท้าเน่า ๆ ไม่มีใครหยิบบุหรี่ให้แก
แกจะค่อย ๆ กระดึบ กระดึบ จากแคร่ มาที่ตู้เอง ( ความพยายามสูงมาก )</p>
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตอนอยู่ใน
ward ชาย แกไม่สูบบุหรี่อีกเลย
เป็นเวลา 1 เดือน
เดาเอาเองว่าคงเพราะไม่มีโอกาสได้สูบมากกว่า ผมถามแก ว่าทำไมไม่สูบ
แกบอกว่าไม่อยากสูบเอง กำลังนึกว่าเราทำอะไรกับแก
บ้าง ความคิดผมตอนนั้นไม่ได้คิดถึงว่า
จะให้เลิกบุหรี่ เพราะดูแล้วคงใช้เวลานานนน ( ตั้งใจให้ น
หลายตัว ) สมาธิอยู่กับแผลแกมากกว่า
ทุกครั้งที่ผมทำแผล ผมจะคุย แล้วก็ลูบขาแก บอกว่า นี่นะเส้นเลือด
มันดำ ๆ คงจากสูบบุหรี่นะ เลือดไม่เลยไปเลี้ยงเท้าไม่พอ
แผลเลยหายช้าไป หน่อย พูดไป
ลูบขาแกไป (
ปรกติ ไม่ชอบใช้วิธี
ขู่ให้กลัวประเภทเอารูป น่ากลัวน่ากลัว มาให้ดู
เพราะไม่เคยเชื่อมั่นในวิธีนี้เลย ) บางวันก็ให้ cigarette nurse ของเรา มาคุย เรามีเวลาเหลือเฟือที่จะคุย
มีเวลามากกว่าที่ opd มาก
ก็ไม่รู้ว่าเกิดจากการทำแบบนี้หรือเปล่า
ที่ทำให้แกไม่สูบบุหรี่ได้ </p>
ผมถามว่าแล้วจะสูบอีกไหม แกบอกว่าไม่นึกอยากอีกเลย ในใจผมคิดว่าโอกาสกลับมาสูบสูง เพราะกลับ มาเข้าบรรยากาศ มาคุ ( แปลว่า บรรยากาศที่เรียกร้องให้ความอยากกลับมาสูบอีก ) ก็ตู้บุหรี่ตั้งล่อตาล่อใจออกอย่างนั้น ผมบอก ภรรยาแกว่าถ้าขาย lot นี้หมดแล้วน่าจะเก็บไปซะ ขายอย่างอื่นก็ได้เงินแล้ว 2-3 อาทิตย์ถัดมา ผมมาเยี่ยมบ้านอีก สภาพตู้เป็นอย่างนี้แหละครับ ( ถึงวันนี้ มกราคม 2550 เดือนที่ 5 แล้ว แกไม่เคยสูบบุหรี่อีกเลย )
ผมเลยได้ บทเรียนว่า การสร้างเสริมสุขภาพ ต้องใช้เวลา ต้องให้เวลา เพื่อนผม หมอวรวุฒิ เคยบอกไว้เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ว่า อาจารย์ทางเวชศาสตร์ป้องกัน บอกว่า No concern no problem ( แปลว่า ไม่ตระหนัก ไม่มีปัญหา ) มาวันนี้ คงต้องท่องคำนี้บ่อย ๆ เวลาจะทำกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ โจทย์ของเรา คือ ทำอย่างไรให้คนเราตระหนัก No concern no problem จริง ๆ ประเภท จุดพลุ สร้างกระแส คงอาจไม่ใช่วิธีที่ดีนัก