ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกร้าง... บันทึกลูกผู้ชายหัวใจทระนง อันเป็นถ้อยบันทึกจากการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 34 ก็ถึงคราวปิดตัวลงในคราวนี้...
ผมและนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นเดินทางกลับถึงสถาบันอันทรงเกียรติของตนเองเกือบ 6 ทุ่มของวันที่ 25 มกราคม 2550 ... ไม่มีใครมารอรับเรา (เราไม่ว้าเหว่) แต่เราก็อิ่มเอมใจ, อิ่มเอมในฐานะการทำหน้าที่ของตนเอง อิ่มสุขกับการได้กลับสู่มหาวิทยาลัยอันเป็นที่รัก !
อากาศที่มหาสารคามแตกต่างจากอากาศองครักษ์ค่อนข้างมาก...ลมหนาวที่นี่ยังโบกพัดวู่หวิว..
(สุเมธ แคนหนอง และสุรพันธุ์ ศรีม่วง)
ย้อนกลับไปวันที่ 16 มกราคม 2550 นักมวย 5 คน พร้อมพี่เลี้ยงอีก 2 คน เดินทางไป มศว องครักษ์ ซึ่งผมยังไม่ได้เดินทางร่วมไปกับพวกเขา เพราะมีพันธกิจด้านการงานอีกมากล้น
ผมขอความอนุเคราะห์ให้พวกเขาได้แยกมานั่งรถตู้กับท่าน ผอ. (อ.เกื้อกูล ดวงจันทร์ทิพย์) เนื่องจากรถบัสคันใหญ่ แอร์เย็นฉ่ำคันนั้นบรรจุนักกีฬาที่พร้อม “กิน” ได้ทุกสถานการณ์ และกินอย่างไม่มีขีดจำกัด ขณะที่นักมวยผมต้องคุมน้ำหนัก...ขืนนั่งไปด้วยกันมีหวังกระโดดรถฆ่าตัวตายเป็นแน่ ไม่งั้นก็คงไม่พ้นแพ้ใจตัวเอง หรือไม่ก็แพ้ภัยคนรอบข้าง ไม่วายมีอันต้องกระโจนไป “กิน” กับพวกเขา เป็นแน่ !
(กองเชียร์ตามติดขอบเวที นำโดย ผอ.กองกิจการนิสิต)
ค่อนดึกที่เกือบเป็นวันใหม่ของวันที่ 26 มกราคม 2550 เราเดินทางกลับมาที่ มมส พร้อมรางวัลแห่งชีวิตการเป็นนักมวยมหาวิทยาลัย 1 ทอง 1 ทองแดง...
ที่สำคัญคือ... เหรียญทองที่ได้นั้น คือ เหรียญแรกในกีฬามวยสากลสมัครเล่นของชาว มมส ทั้งเจ้าเอก (สุรพันธุ์ ศรีม่วง) เจ้าของเหรียญทองประวัติศาสตร์ (รุ่นไลท์ฟลายเวท ไม่เกิน 48 กิโลกรัม) และเจ้าเบ้ (สุเมธ แคนหนอง) เจ้าของเหรียญทองแดงในรุ่นฟลายเวท (ไม่เกิน 51 กิโลกรัม) คือ ความภูมิใจของเรา แต่ก็ไม่ใช่วีรบุรุษของเรา
เพราะเราคุยกันแล้วว่า ทีมมวยสากลสมัครเล่นของเรา “เป็นวีรบุรุษของกันและกัน”
ขาดใครสักคน ย่อมไม่ประสบความสำเร็จ !
(เจ้าหน้าที่การเงิน ไปเชียร์ด้วยใจ แต่ไม่อัดฉีด)
(นิสิตช่วยงานติดตามเชียร์ล้นใจ)
หลังการแข่งขันยุติลง สิ่งแรกที่เราต้องการมากที่สุดก็คือ ไปกินข้าว - ไปกินข้าวเหนียวให้หนำใจ ! กินให้อิ่ม ! กินชดเชยกับที่อด ๆ อยาก ๆ มาแรมเดือน
เราเดินเท้าจากที่พัก ณ ศูนย์ประสานไปยังร้านเพิงหมาแหงนริมถนนของคนงานก่อสร้างใกล้ ๆ ที่พักใน มศว องครักษ์ โดยเราใช้เวลาไม่นานนัก เพราะรู้ว่าทุกชนิดกีฬาแข่งเสร็จแล้วและกำลังเตรียมสิ่งของขึ้นรถบัสกลับ มมส
ผมย้ำว่า..เราจะไม่โอ้เอ้ ลอยชาย เราจะไม่ทำตัวอภิสิทธิ์ให้คนอื่นรอ… เราจะมีสปิริตด้วยการกินข้าวและกลับที่พักเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่มหาวิทยาลัย
(ภาพรวมระหว่างนักมวย พี่เลี้ยง และผู้จัดการทีม)
เด็กทั้งสอง คือ แบบอย่างอันดีของนักกีฬาที่ทำงานอย่างหนักตั้งแต่ต้นจนจบ…ความตั้งใจ ความมุ่งมั่นได้รับการกำนัลอย่างล้นหลาม ทั้งเหรียญรางวัล และรางวัลแห่งใจ ซึ่งหมายถึงมิตรภาพจากทุก ๆ คน ทั้งจาก มมส และต่างสถาบัน
เด็กทั้งสอง มีความรับผิดชอบเป็นเลิศ เป็นคนที่ผมไม่จำเป็นต้องพร่ำบ่น พร่ำสอน หรือแม่แต่เคี่ยวเข็ญทั้งการฝึกซ้อมและการใช้ชีวิต
ว่าไปแล้ว, พวกเขาอาภัพด้วยซ้ำไปที่มีผู้จัดการทีมที่มีภาระอันหลากล้น มิหนำซ้ำยังต้องไปเป็นผู้จัดการทีมชนิดกีฬาอื่นด้วยเช่นกัน…
แต่ทุกครั้งที่มีเวลาและโอกาสผมก็จะไปใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขา…
เราซ้อมโดยไม่มีเวทีให้ซ้อม..เราซ้อมโดยไม่มีโอกาสได้ลงนวมอย่างที่ควรจะเป็นแต่ทุกคนก็ “เป็น” ในสิ่งที่เขาควรจะ “เป็น” อย่างภาคภูมิ…
ครับ เราซ้อมโดยใช้งบประมาณอันน้อยนิดของผมที่จัดเป็นสวัสดิการเพียงไม่กี่ตังค์ แต่เราก็อยู่กันได้ด้วย “ใจ”
ใจ ที่มีต่อกีฬาที่ชอบ
ใจ ที่มีต่อสถาบัน
และใจ ที่มีต่อพี่พ้องน้องพี่ในชะตากรรมเดียวกัน
ผมรักพวกเขา ! รักหัวใจอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาทุกคน.. รักพอ ๆ กับรักทุกคนใน g2k ที่ติดตามข่าวคราวชะตาชีวิตและให้กำลังใจเราอย่างไม่ขาดห้วง
1 ทอง 1 ทองแดง เหรียญรางวัลจากมวยสากลสมัครเล่นในเกมส์กีฬาปัญญาชน คือความภูมิใจของเราชาว มมส และมอบกำนัลแก่ชาว g2k ทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งในกำลังใจมาอย่างต่อเนื่อง
ไม่มีถ้อยคำใดอีกแล้วครับ, และขอปิดบันทึกลุกผู้ชายหัวใจทระนง ด้วยความรู้สึกที่ว่า “เราต่างเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน และเป็นวีรบุรุษของกันและกัน” (เสมอไป)
กองเชียร์ข้างสนามน่ารักมากกก กองเชียร์ก็เป็นสิ่งสำคัญนะคะ
แต่ถ้าจะให้ดีกับวงการกีฬา ระดับใดๆ ก็แล้วแต่ การอัดฉีดก่อนซ้อม ทั้งเรื่องอาหารการกิน การซ้อม ที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า หน้า ผม (อันนี้เกี่ยวกันหรือเปล่า .. เริ่มมั่วแล้ว) น่าจะดีกว่า มาอัดฉีดตอนได้เหรียญแล้ว นะคะ เพราะถ้าหากเค้าไม่ได้เหรัยญ ก็เหมือนเค้าหายสาบสูญไปเลย
อันนี้แค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ อยากให้กีฬาพัฒนาคนจริงๆ
(เร่มรู้สึกว่าความคิดเห็นชักรุนแรงแล้ว เลิกดีกว่า)
ยินดีด้วย กับ มมส. นะคะ แล้ว มข เราได้อะไรมาบ้างเนี้ย ต้องไปตามข่าวซะแล้ว
ขอแสดงความยินดียิ่งค่ะ.....ในความสำเร็จของกีฬาที่เกิด...ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะค่ะ...รวมถึงกองเชียร์ด้วยค่ะ
ในนามศิษย์ มมส . ของแสดงความชื่นชมด้วยครับ
สู้แบบใจเกินร้อย...
อย่างนี้น่าชื่นชมครับผม
|
สวัสดีครับคุณเอก
สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน