ณ ดินแดนอันไกลโพ้น มีกลุ่มชาววัง
(ตกยาก) ได้ออกเดินทางเพื่อที่จะไปสืบหา ประวัติความเป็นมา รวมถึงวิถีชีวิตของคน ”วังลำพังชู”
<div style="text-align: center"></div>
และคำพูดที่เป็นปริศนาที่ว่า “ปลาโตเดียว กินบ่มีเมิ่ด”
<div style="text-align: center"></div> เด็กตัวน้อย กับพี่ๆ วัยแรกรุ่น ขี่จักรยานสะพายเป้ มือหิ้วสัมภาระ เสียงหัวเราะ หยอกล้อเป็นที่สนุกสนาน ทุกคนตื่นเต้นกันใหญ่ การเดินทางของพวกเด็กกลุ่มนี้ เป็นที่สนใจของชาวบ้าน เสียงร้องทักทายไม่ขาดสาย “ไปไหนกัน” (เหน่อๆ นิดหนึ่ง ตามสำเนียงของภาษาถิ่น) เสียงเด็กๆ ร้องตอบ “ครูซิพาไปเบิ่งวัง” การเดินทางผ่านหมู่บ้านใช้เวลาไม่นาน ทุกคนจอดรถ จากนั้นเดินทางต่อไป บ้างวิ่ง บ้างเดิน แต่ยังคงสะพายเป้และหิ้วสัมภาระ เด็กๆเดินเลียบธารน้ำ ที่ทุกคนรู้จักดีคือ “ลำพังชู” สายน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวเม็กดำ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของกิจกรรมวันนี้ ตามคำเรียกร้องของเด็กๆ กลุ่มวรรณกรรม พวกเขาอยากรู้จักกับ “วัง” ที่อยู่ในห้วยลำพังชู นอกจากจะมาศึกษาประวัติความเป็นมาของ “วัง” ต่างๆ แล้ว พวกเขายังต้องมาเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของคนรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งทุกคนได้ไปหาคำตอบจากพ่อ จากแม่ เป็นการบ้านมาก่อนแล้ว
เมื่อเด็กๆ พบกับครูภูมิปัญญา หัวหน้ากลุ่มกล่าวทำความเคารพ “พ่อใหญ่นุ” จากนั้นท่านก็พาเด็กๆ รวมทั้งคุณครูออกเดินทาง ด้วยสองเท้า แต่หัวใจเดียวกัน เดินทางไปศึกษาเริ่มต้นจาก วังที่อยู่ไกลสุด ซึ่งชื่อว่า วังหินลาด แต่เมื่อมาถึงเป็นเวลาสายแล้ว (10.30 น.) คุณครูละมัย "เจ้าแม่วัง" ได้เสนอว่า “กองทัพเดินด้วยท้อง” การเรียนรู้ที่ดีท้องต้องอิ่ม สมองต้องว่าง เราจึงมีความเห็นตรงกันว่า ประกอบอาหารกินกันก่อน
ณ เวลาแห่งนี้เอง ที่เด็กๆกลุ่มนี้ ได้ส่งการบ้านให้ครูตรวจ เมื่อเขาเริ่มลงมือประกอบอาหาร บางคนก่อกองไฟ สับมะละกอ เจียวไข่ ต้มปลาใส่มดแดง (หาที่ข้างลำห้วยสดๆ) อร่อยที่สุด (ฝีมือ ป.4) เผาปลาสดๆ ของ ป.3 ตำป่า ตำดง ตำซั่ว ของพี่มัธยม
<div style="text-align: center"></div>
โอ๊ย มากมายเหลือเกิน อร่อยทั้งนั้น อาหารที่ครูเตรียมไปเป็นหมันเลย ฟาสฟูดฝรั่งยังอาย เมื่อมาเจอฟาสฟูดชาววัง (ลำพังชู) ก่อนที่เขาจะรับประทานอาหาร ก็ส่งการบ้านข้อที่ 2 เมื่อเขานำเอาข้าวปั้นใส่อาหารไปวางที่ตอไม้ เพื่อสักการะเจ้าที่ตามประเพณีอีสาน ก่อนรับประทานอาหาร และเพื่อให้การเดินทางมาวันนี้แคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆ และตามด้วยข้อที่ 3 แก้โจทย์ "ปลาโตเดียว กินบ่มีเมิ่ด" ทุกกลุ่มเดินแลกเปลี่ยนอาหาร รู้จักคำว่าแบ่งปัน นี้คือวิถีชีวิตของคนอีสาน ที่พวกเขาได้เรียนรู้จริงๆ ไม่ได้เรียนจากทฤษฎี อิ่มใจที่ได้ให้ พอใจที่ได้รับ อาหารฟาสฟูด มื้อนี้จึงอร่อยที่สุด
เมื่อท้องอิ่ม จิตใจก็เบิกบาน เด็กๆ ขับขานเพลงบนเวทีกลางทุ่ง มีหางเครื่องตัวจ้อย เรียงร้อยเสียงดนตรีจากหัวใจ นี้คือความสุขคนอีสาน โดยแท้จริง จากนั้นเมื่อทุกอย่างพร้อม พ่อใหญ่นุ เริ่มเล่าและพาเดิน ชี้ให้ดู และเล่าตำนานวัง ให้เด็กๆ ฟัง ซึ่งสรุปได้ว่ามีทั้งหมด 19 วัง เมื่อครบทั้งหมด เราพักหายเหนื่อย จากนั้นได้เวลา จึงเดินทางกลับเข้ารั้วโรงเรียนอย่างปลอดภัย และอิ่มใจกับรอยยิ้มของเด็กๆ
จากกิจกรรมวันนี้ เด็กๆ ได้รอยยิ้ม ได้รู้จักคำว่าแบ่งปัน ช่วยเหลือ มีน้ำใจ และร่วมสืบสานตำนาน “ของวัง”
ส่วนรายละเอียดทั้ง 19 วัง และวัง คืออะไร ติดตามได้ที่ http://learners.in.th/dashboard ซึ่งเด็กๆ จะนำเสนอบทเรียนที่ได้เรียนมา แต่ต้องอดใจรอหน่อยเพราะ”บ้านหนูไม่มีเน็ต” ต้องรอวันจันทร์
ก้าวหน้า
ก้าวไกล
น่าสนใจ
มุมเสนอใหม่ๆ
ชอบใจมากกับทัวร์จักรยาน มีเสน่ห์กว่ามอร์เตอร์ไซทำหล่น ขอให้ขยายผลด้านจักรยานไว้ คนเมืองเห็นแล้วอิจฉา เพราะหาโอกาสขี่จักรยานได้ยาก ตรงนี้เป็นจุดเด่น ที่เด่นมากๆ ทั้งรูปแบบและกระบวนการ
รายการอาหารริมท่าชายทุ่ง ตำบักหุ่งซูดซาด!!
ขอบคุณท่านครูบา สำหรับข้อเสนอแนะ แล้วจะนำ "การสืบสานตำนานวัง" มาฝากค่ะ
อาหารมื้อเที่ยงวันนี้อร่อยที่สุดค่ะ