จาก ตอนที่1ได้เกริ่นให้ฟัง ถึง ที่มา ที่ไป ก่อนจะได้มีโอกาสเข้าร่วม (สังเกตุการณ์) โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ "ชวนคิด ชวนดู เรียนรู้ KM" ไปแล้ว สำหรับในตอนนี้ จะเริ่มนำท่านเข้าสู่พิธีการ เอ๊ย ไม่ใช่ จะเริ่มนำท่านเข้าสู่เนื้อหาซะที
ความมุ่งหมาย/วัตถุประสงค์ ในการเข้าร่วมกิจกรรม
ก่อนอื่น ขอสารภาพด้วยใจจริงว่า การตั้งใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการจะได้ความรู้ที่เกิดจากการเข้าร่วมกิจกรรม เพราะดูจากหัวข้อที่ตั้งแล้วจุดมุ่งหมายของโครงการนี้ ต้องการให้ผู้เข้าร่วมได้เข้าใจ KM ได้ด้วยบริบทของตนเอง มิใช่ได้จากการบรรยายจากวิทยากร ซึ่งแน่นอนว่า การเข้าใจกระบวนการ KM ดิฉันเข้าใจในระดับหนึ่ง ดังนั้น ในประเด็นวัตถุประสงค์ของนี้จึงตัดทิ้งไปได้ แต่สิ่งที่ต้องการเรียนรู้ในกิจกรรมนี้ นั่นคือ
1. อยากมาเรียนรู้ว่า ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด ท่านจะมีกระบวนการอย่างไรที่จะทำให้คนระดับ CKO ของคณะ/หน่วยงาน ได้เข้าใจ KM โดยมิได้มีการบรรยายเนื้อหาเลยสักนิดเดียว ที่สำคัญ ใช้เวลาแค่ 1 วัน
2. ในฐานะที่จะต้องทำหน้าที่เป็นผู้ประสานกิจกรรม KM ของคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งแน่นอนว่า กิจกรรม KM นั้น จะต้องเป็นการทำให้เกิดกระบวนการ Learning ซึ่งจะแตกต่างไปจากการจัดกิจกรรมพัฒนาบุคลากร ซึ่งเน้นกระบวนการ Training ซึ่งแน่นอนว่า การดำเนินงานต่าง ๆ ในห้อง ของทั้งสองกระบวนการนี้ย่อมแตกต่างกันด้วย โดยสิ้นเชิง ซึ่งดิฉันถือว่า ตัวเองอ่อนหัดมาก ๆ ในส่วนของการทำให้เกิดกระบวนการ Learning จึงได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อจะได้มีโอกาสมาเรียนรู้กระบวนการทำให้เกิดกิจกรรม Learning
ดังนั้น เมื่อคุณเมตตา ได้กรุณาให้เกียรติดิฉัน เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม เสมือนเป็นผู้เข้าร่วมกิจกรรมท่านหนึ่ง ดิฉัน จึงรีบปฏิเสธ แล้วบอกเธอไปว่า ดิฉัน ขอดูเรียนรู้นอกกลุ่ม เสมือนเป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งดีกว่า จะเรียกหา เรียกใช้ อะไร ได้ตามสะดวกนะจ๊ะ
บรรลุผลเกินความคาดหมาย เพราะเหตุใด
อยากบอกเหลือเกินว่า การที่ตัดสินใจขอเรียนรู้นอกกลุ่ม ในครั้งนี้ ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก ถึง มากที่สุด เพราะสิ่งที่ดิฉันได้ในครั้งนี้ มีหลายข้อมาก นั่นคือ
1. วีดีโอ แค่เพียงม้วนเดียว ทำให้เข้าใจกระบวนการ KM ได้จริง ๆ
2. ได้ทดลองทำบทบาทเสมือนเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ ที่ร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพราะ ดิฉัน ได้ทำหน้าที่มากมาย อาทิ เช่น ร่วมเป็นหนึ่งในคนที่วิ่งวุ่น เพื่อให้ปัญหาเครื่องเสียงหมดไป, ทำหน้าที่เป็นตากล้อง, ทำหน้าที่เป็นคุณลิขิต สรุปเนื้อหาสาระที่ได้จากกลุ่ม, ทำหน้าที่เป็นคนแจกอุปกรณ์กลุ่ม, ทำหน้าที่เปิด-ปิด ไฟ เป็นต้น
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ไม่มีใครใช้นะคะ แต่เป็นการทำด้วยความเต็มใจ
3. ทำให้ทราบว่า สิ่งไหน ที่วิทยากรเน้นย้ำ เราต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ
4. ทำให้เห็นกระบวนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของคุณเมตตา ซึ่งอันนี้ ถ้าไม่ได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์จริง คงจะไม่สามารถเกิดการเรียนรู้ได้
5. ในช่วงพักกลางวัน ได้ร่วมสนทนาธรรม กับ คุณบุญสิทธิ์ หนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ดิฉันนับถือท่านหนึ่ง ซึ่งท่านเพิ่งสึกกลับมา ท่านได้ให้ข้อคิดดี ๆ ที่เป็นประโยชน์นำไปประยุกต์ใช้ในการครองเรือน ครองตน และครองงาน ได้เป็นอย่างดียิ่ง
6. ได้เจอคุณหมอปารมี ซึ่งวันนี้ดิฉันสังเกตุเห็นว่าคุณหมอยิ้มสดใส และมีความสุข เป็นพิเศษ เพิ่งมารับทราบในภายหลังจากบันทึกของหลาย ๆ ท่านว่า วันนั้น เป็นวันที่ ภาควิชาของท่าน ประกาศว่า พร้อมที่จะเข้าสู่ระบบ ISO
7. ได้มีโอกาสพูดคุยกับท่านคุณหมอพิเชฐ อุดมรัตน์ หนึ่งในผู้บริหารของคณะแพทย์ ที่ดิฉันแอบชื่นชมวิธีการบริหารงานของท่าน ซึ่งในวันนั้น ท่านทักดิฉันว่า "เขียนบันทึกด้วยเหรอ ดีจัง เรามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความรู้ ใน ม.อ. กันเถอะนะ" ซึ่งคำชมเพียงเล็กน้อยของท่าน เป็นเสมือนเป็นแรงกระตุ้นให้ดิฉันให้สัญญาในใจกับตัวเองว่า เมื่อมีโอกาส ก็จะเล่าสิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้มา ให้คนอื่นฟัง แน่นอน
8. ตอนกระบวนการ AAR ที่ท่านวิทยากรให้ผู้เข้าร่วมทุกท่าน ได้พูดคุยในสิ่งที่ตัวเองได้รับ และสิ่งที่จะกลับไปทำต่อ เมื่อถึงคิวที่ CKO ของคณะวิทยาศาสตร์ พูดถึงสิ่งที่ท่านจะไปทำต่อ นั้น ตรงกับใจที่ดิฉันคิดไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ ทำให้ดิฉันรู้สึกว่า เมื่อสิ่งที่ท่านคาดหวัง ตรงกับสิ่งที่ดิฉันอยากทำ ย่อมทำให้การผลักดันงาน KM ของดิฉัน คงไม่ยากอย่างที่กลัวค่ะ
เกือบลืมข้อสำคัญ ข้อ 9 ได้รูปใหม่ขึ้นบล๊อกค่ะ ดีใจม้าก มาก ขอบคุณคุณเมตตา มากนะคะ สำหรับความพยายาม เธอเป็นตากล้องที่ใจเย็นมาก กด 150 รูป ได้รูปดี เพียงรูปเดียว ฮาๆๆๆๆๆๆ อันนี้ เป็นปัญหาของตากล้องนะคะ ไม่ใช่ปัญหาของนางแบบ อิ อิ
• บรรลุผลน้อยเพราะเหตุใด
ขอบอกว่า ไม่มีเลยค่ะ
• ทำอะไรต่อ
1. จากการที่ได้มาเห็นกระบวนการทำงานของท่านวิทยากร ในการทำให้ CKO ซึ่งถือเป็นผู้มีบทบาทที่สำคัญที่สุดของหน่วยงาน ในการผลักดันให้เกิดการจัดการความรู้ในคณะ ทำให้ดิฉันต้องนำสิ่งที่พบเห็นในวันนี้ ไปปรับแผนที่คณะฯ จะจัดกิจกรรมให้ผู้ที่จะผลักดันให้เกิดการจัดการความรู้ในหน่วยงานย่อย ของคณะฯ โดยอาจปรับกระบวนการให้คล้าย ๆ กับกิจกรรมในวันนี้
2. นำ วีซีดี ที่ได้ในวันนี้ ให้ได้ชมกัน ในที่ประชุมกรรมการประจำคณะ และในที่ประชุมหัวหน้าหน่วยงาน
ข้อเสนอแนะ
คุณเมตตา ได้กรุณาให้ข้อเสนอแนะที่ดีกว่า ไว้แล้ว ในบันทึกของเธอคะ
• อะไรคือสิ่งที่เราเรียนรู้ครั้งนี้
1. ถึงแม้จะเกิดความต่างของผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งในด้านคุณวุฒิ วัยวุฒิ แต่ถ้าเขาเหล่านั้น เปิดใจยอมรับสิ่งที่เรามอบให้ ก็จะเกิดการเรียนรู้ได้เท่า ๆ กัน ความต่างของผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้มิได้เป็นอุปสรรคใด ๆ เลย
2. การทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ นั้น แตกต่าง โดยสิ้นเชิง กับ กระบวนการฝึกอบรม ถึงแม้จะใช้เวลาน้อยกว่า แต่เมื่อเรียนรู้แล้ว จะส่งผลในการนำไปถ่ายทอดต่อได้ในวงกว้างกว่า
3. ในการทำกิจกรรมใด ๆ ก็ตาม ถึงแม้ว่า เราคิดว่าเราได้เตรียมทุกอย่างไว้อย่างดี และพร้อมแล้วก่อนที่จะมีกิจกรรมนั้น ๆ แต่ก็อย่าเพิ่งวางใจ ให้พึงระลึกอยู่เสมอว่า ถ้ามันไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้หละ เราจะทำอย่างไร
เห็นไหมค่ะ ว่าวันนี้ สิ่งที่ดิฉันได้ ถือว่า เป็น Happy Learning จริง ๆ
คุณรัตติยาเก็บประเด็นความรู้ได้เก่งจริงๆ ค่ะ และ การเป็นอีกคนหนึ่งที่เขียนแล้ว ผู้อ่านสัมผัสได้ถึงใจของผู้เขียน
เปิดใจที่จะเรียนรู้ ใช้ใจในปฏิบัติ และ บันทึกด้วยใจ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราว คำจำกัดความของคุณรัตติยาในยามนี้
เห็นด้วยกับอ.ปารมีเป็นอย่างยิ่งค่ะว่า คุณรัตติยาเป็นคนที่สื่อออกมาทางบันทึกได้ดีมาก รู้สึกเลยว่าเขียนด้วยใจจริงๆค่ะ อ่านแล้วทำให้เราอิ่มอกอิ่มใจไปด้วย ขอบคุณนะคะ
คุณครูขจิต
คุณหมอปารมี ค่ะ
คุณโอ๋
คุณเมตตา