บทความใน The 101 เรื่อง การตายดีต้องมีนโยบายด้วยหรือ โดย นพ. สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ น่าอ่านมาก อ่านได้ที่ (๑) จะเห็นว่าการตายเป็นเรื่องซับซ้อน ยิ่งเอาเข้าไปคิดร่วมกับการพัฒนาระบบสุขภาพอย่างที่คุณหมอสมศักดิ์เขียน ยิ่งซับซ้อน
ผมติดใจเรื่องสำคัญที่สุดคือ นิยามของคำว่า “ตายดี” ที่ผมเคยไปเข้าหลักสูตร Living and Dying with Dignity ของคุณ Victoria Subirana ที่ผมสรุปว่าคนเราต้องรู้จักเอาความตายมาเตือนสติให้ดำรงชีวิตในปัจจุบันอย่างสง่างาม คือไม่มองเฉพาะจุดที่ความตายหรือใกล้ตาย แต่มองความงดงามของชีวิตทั้งชีวิต
ดังนั้นหากรู้จักใช้ “ตายดี” จะเป็นตัวช่วยให้เรามี “ชีวิตดี”
เมื่อถึงตอนตายจริงๆ “ตายดี” มีนิยามอย่างไร
ผมคิดว่า ต้องตั้งคำถามว่า “ดีต่อใคร” และตอบเองว่า ต้องไม่แค่ดีต่อผู้ตายเท่านั้น ต้องดีต่อผู้ดูแลรอบข้างด้วย และดีต่อสังคมด้วย คือไม่สร้างภาระค่าใช้จ่ายต่อสังคมมากโดยไม่จำเป็น
จะ “ตายดี” ได้ ต้องเข้าใจธรรมชาติของชีวิต ว่าเป็นการเดินทางสู่จุดสุดท้ายคือความตาย แต่ผมเชื่อว่า ความตายยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิตมนุษย์ เพราะคนเรามีชีวิตหลังความตายอยู่ในความทรงจำของผู้คนและสังคมหลากหลายแบบ รวมทั้งคนจำนวนมากยังเชื่อในชีวิตของตนเองหลังความตาย เป็นเรื่องวิญญาณไปขึ้นสวรรค์ลงนรก ตามความเชื่อโบราณ ความเชื่อแบบนี้แหละที่ทำให้ “ตายดี” เป็นเรื่องซับซ้อนในชีวิตจริง
สำหรับผม “ตายดี” หมายถึง ตายอย่างสงบไม่ทุกข์ทรมานเกินไป ไม่ก่อความเดือดร้อนให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือช่วยให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้มีชีวิตต่อไปอย่างมั่นคงและมีความสุข หากเป็นไปได้ก็ทิ้งมรดกบางอย่างไว้ให้สังคมได้ใช้ประโยชน์
ตายดี ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้าตลอดชีวิต
วิจารณ์ พานิช
๑ ก.ย. ๖๗
ไม่มีความเห็น